พรีวิว Samsung Galaxy Note8 เวอร์ชั่นแฟนพันธุ์แท้

galaxy-note8 4

Samaung Galaxy Note8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดจาก Samsung เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อลังการที่สหรัฐอเมริกา และในไทยก็มีการชมการถ่ายทอดสดตรงมายังประเทศไทย และหลังจากงานแถลงข่าวจบลง ทีมงานก็มีโอกาสได้สัมผัสกับ Note8 ตัวเป็นๆ สำหรับผมที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ อดตื่นเต้นไม่ได้ เลยขอถ่ายทอดความรู้สึกเมื่อแรกเห็นและสัมผัสครับ

……

อย่างที่ทุกท่านพอจะทราบกันบ้าง หรือถ้าใครยังไม่ทราบผมก็ขอประกาศตรงนี้เลยนะครับ ว่าผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ซัมซุงครับ ฮ่าฮ่าฮ่า ผมใช้ Samsung รุ่นแรกตั้งแต่ตอนที่ยังพิมพ์ภาษาไทยไม่ได้ครับ หลังจากนั้นก็มีโทรศัพท์ซัมซุงอยู่ข้างกายมาตลอดทุกช่วงชีวิตจวบจนถึงปัจจุบันครับ เรียกว่าเป็นแฟนมาตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำตลาดไทยใหม่ๆ เลยครับ โดยเฉพาะตระกูล S และ Note ที่ผมใช้มาตลอดเลยครับ จะมีก็เพียง S6 เท่านั้นที่ไม่ได้ใช้ครับ ที่เหลือใช้มาหมดทุกตัวเลยครับ ก็ต้องบอกว่าได้เห็นพัฒนาการของซัมซุงมาตลอดครับ จนกระทั่งมาถึง Galaxy Note 8 นี่ล่ะครับ แล้วสมาร์โฟนตระกูล Note ที่รอคอยมาอย่างยาวนาน ก็เปิดตัวสักที งานนี้คงต้องได้เสียเงินเปลี่ยนจาก S8+ แน่นอนครับ ฮ่าา ถึงใครจะมองว่าสเปคไม่ต่างจาก S8+ มากก็ตามนะครับ แต่สำหรับผม มันต่างกันมากๆ เลยทีเดียวล่ะครับ

เริ่มตั้งแต่พรีเซนเทรชั่นบนเวทีที่อลังการงานสร้างล้านแปดมากๆ จนมีคนแซวว่าที่อลังการกว่า Note8 ก็คือเวทีกับพรีเซนเทรชั่นนี่ล่ะครับ ผมก็เห็นด้วยนะครับ เวทีอลังการมากๆ ตื่นตาตื่นใจไปตลอดทุกช่วงเวลาตั้งแต่ต้นจนจบเลยทีเดียวครับ เรียกได้ว่านอกจากฟีเจอร์ของ Note8 ที่ถูกนำเสนอแล้ว ก็พรีเซนเทรชั่นนี่ล่ะที่ตรึงผมไว้ได้ตลอดช่วงเวลาเลยล่ะครับ อ้อ… เวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่นที่พรีวิวและบอกเล่าความรู้สึกโดยแฟนพันธุ์แท้ของ Samsung ล่ะครับ ส่วนพรีวิวเวอร์ชั่นแฟนพันธุ์ทางตามไปอ่านได้ที่นี่ครับ >> พรีวิว Samsung Galaxy Note 8 สุดยอด! แต่……. เวอร์ชั่น แฟนพันธุ์ทาง

ด้านการออกแบบและสเปคเครื่อง

การออกแบบตัวเครื่องอย่างที่เราทราบกันดีแล้วว่า ซีรีส์ Note นั้นจะออกแนวเหลี่ยมกว่าซีรีส์ S ซึ่งจะออกแนวโค้งมน ถ้าถามผมนะผมชอบดีไซน์ของซีรีส์ Note มากกว่าซีรีส์ S ออกแนวเป็นบิสเนสโฟน เหมาะกับบิสเนสแมนอย่างผมล่ะครับ ฮ่าฮ่า แต่อย่างว่าล่ะครับ เรื่องดีไซน์หรือแบบนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละคน ไม่มีผิดมีถูกไม่มีสวยหรือไม่สวยครับ ในด้านการจับถือนั้นขนาดก็ใกล้เคียงกับ S8+ เรียกได้ว่าถ้าใครเคยถือ S8+ อยู่แล้วก็ไม่แตกต่างครับไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย แต่อาจจะมีในเรื่องของกระจกจอที่ทำมุมชันกว่า S8+ เล็กน้อยซึ่งตรงนี้ก็ไม่ได้มีผลอะไรครับ แถมส่งผลให้จับถนัดขึ้น และยังมีโอกาสสัมผัสด้านข้างจอโดยไม่ตั้งใจน้อยลงอีก ซึ่งต้องบอกว่าใครเคยจับ S7edge แล้วอุ้งมือมักไปสัมผัสหน้าจอโดยไม่ตั้งใจ อาการนี้หายเป็นปลิดทิ้งใน S8+ ทีมีมุมชันของหน้าจอที่เพิ่มขึ้น ยิ่งเป็น Note8 ล่ะก็หายห่วงเลยครับ หมดปัญหาแน่นอนครับ สำหรับผมบอกตรงๆ เลยว่า ตั้งแต่มีซีรีส์โน้ตมา Note8 นี่สวยเป็นบ้าเลยครับ ส่วนด้านสเปคก็หายห่วงเลยครับ แม้โดยรวมจะเหมือนกับ S8+ แต่คราวนี้ Note8 เพิ่มแรมมาให้เป็น 6 GB และยังมีกล้องคู่ที่ถ่ายภาพออกมาได้กรี๊ดมากครับ นับเป็นกล้องคู่ที่มาพร้อมกับสมาร์ทโฟนเป็นรุ่นแรกของ Samsung กันเลยล่ะครับ ส่วนภาพตัวอย่างถ้าแอดได้เครื่องมาแล้วจะรีวิวให้ชมกันนะครับ แต่รับรองว่ากรี๊ดแน่นอนครับ

ด้านซอฟท์แวร์

ทางด้านซอฟท์แวร์ ต้องบอกว่า Android ในปัจจุบันนี้ ต่างไปจาก Android ในสมัยก่อนมากมายแล้วครับ เรียกว่าแฟนพันธุ์แท้ iOS หลายคนที่ผมรู้จัก พอได้มาลองเล่น Android ที่ครอบทับด้วย Touchwiz ของ Samsung แล้วเรียกว่าติดใจไปตามๆ กันล่ะครับ ไหลลื่น และโดยเฉพาะกับ Note 8 มีฟีเจอร์ใหม่ๆ มาเพียบครับ เรียกว่าใครที่เคยใช้ S8 นั้นว่าสุดๆ แล้ว Note 8 นั้นสุดยิ่งกว่าครับ โดยเฉพาะเมื่อมีปากกา S Pen เข้ามาเพิ่มด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เพิ่มความสามารถและศักยภาพขึ้นไปอีก คือต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้ซัมซุงจะไม่ใช้วิธีอัดแอปมาในรอมเยอะๆ หรือที่เรียกว่าพรีอินสตอลเหมือนสมัยก่อนแล้ว เรียกได้ว่ารอมที่มานั้นมีแอปมาให้เท่าที่จำเป็นมาให้เท่านั้นเอง ทำให้เราไม่จำเป็นต้องมีแอปที่เราไม่ได้ใช้ แต่ถ้าหากต้องการแอปต่างๆ ของซัมซุงเพิ่มเติมก็สามารถโหลดเพิ่มได้จาก Galaxy App ครับ สำหรับผมรู้สึกว่าดีขึ้น เพราะโดยส่วนตัวผมใช้แอปน้อยมากๆ ครับ เลยรู้สึกว่าการที่เครื่องเบาๆ นั้นเป็นเรื่องที่ดีครับ และอย่างที่ทราบกันว่าถ้าแอปที่ถูกพรีอินสตอลมาในรอมเราจะไม่สามารถลบออกได้ ทำได้เพียงหยุดการใช้งานเท่านั้น สำหรับผมการทำรอมในยุคใหม่ๆ ของซัมซุงนี้ผมชอบมากครับ และอีกอย่างคือ icon ที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์สำหรับผมแล้วสวยกว่าแอนดรอยด์ทุกแบรนด์เลยครับ

ด้านปากกา S Pen

ปากกา S Pen มารอบนี้เรียกว่าพัฒนาไปจาก Note 5 เยอะมากๆ เลยล่ะครับทั้งการรองรับแรงกดที่มากขึ้นถึง 4,096 ระดับเพิ่มจากเดิมอีกเท่าตัวเลยทีเดียวล่ะครับ S Pen รอบนี้มาพร้อมกับหัวปากกาที่เล็กลงเพียง 0.7 mm. เท่านั้น เรียกว่าแทบจะเท่ากับปากกาธรรมดาที่มักใช้เป้นมาตรฐานที่ 0.5 mm. กันแล้วและเปลี่ยนวัสดุเป็นยางช่วยให้ได้สัมผัสการเขียนที่นุ่มนวลเหมือนกับการเขียนลงบนกระดาษจริงๆ และยังช่วยถนอมจอภาพไม่ให้เป็นรอยง่ายอีกด้วย แถมมาพร้อมกับการกันน้ำอีกต่างหาก ทำให้เราสามารถใช้ปากกาสั่งงานโทรศัพท์ได้ แม้ในขณะจอเปียกครับ โดยปกติเวลาจอหรือนิ้วเปียก จะทำให้เราไม่สามารถใช้งานได้ แต่ปัญหานี้หมดไปแล้วครับ สำหรับ Note 8 และยังมีการขยับปุ่มกดให้สูงขึ้นกว่าตัวก่อนทำให้แก้ไขปัญหานิ้วมักจะเผลอไปกดโดนตอนเขียน ปากกา S Pen รุ่นนี้ยังเป็นแบบมีปุ่มกดตรงด้านบนเหมือนเดิม ทำให้เวลาเก็บในตัวเครื่องก็เนียนไปกับขอบเครื่องเหมือน Note 5 ครับ และป้องกันปัญหาการเก็บปากกากลับด้านใน Note 5 ด้วย ฟีเจอร์เด่นๆ ของ S Pen ใน Note 8 ได้แก่ Live Message, Smart Select, Samsung Note และ Screen off memo + pin to AOD และยังมีฟีเจอร์ย่อยที่ใช้ได้จริงอย่างการขยายจอภาพ แปลภาษาแบบทั้งประโยค แปลงค่าสกุลเงินและหน่วยวัดต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

Live Memo คือการวาดหรือเขียนด้วยปากกา S Pen หลังจาดนั้น Note 8 จะแปลงลายมือหรือภาพวาดสุดฮิปของคุณเป็นไฟล์ GIF ที่สามารถส่งต่อให้เพื่อๆ ได้ทันที จะเป็นการเขียนภาพขึ้นใหม่ หรือเขียนลงบนภาพถ่ายก็ทำได้สบายๆ

Smart Select เพียงใช้ S Pen ลากบางส่วนของภาพ หรือหน้าจอก็สามารถครอปแล้วแชร์ภาพต่อได้ทันที สนุกยิ่งขึ้นด้วยการครอปภาพวิดีโอเป็นไฟล์ GIF แล้วแชร์ต่อให้เพื่อนๆ ได้ด้วย คราวนี้รับรองว่าไฟล์ GIF เต็มโซเชียลมีเดียแน่ๆ ครับ ฮ่าาา บอกตรงๆ ว่าอันนี้เป้นอีกฟีเจอร์ที่ผมชอบมากๆ เพราะนอกจากจะสะดวกในการใช้ในการทำงานแล้ว เวลาเราจะเล่นสนุกกับเพื่อนด้วยการแคปภาพนั่นโน่นนี่มาเมาส์กันก็ทำได้ง่ายๆ จากเดิมที่ต้องแคปภาพหน้าจอก่อน แล้วค่อยมาครอปเอาเฉพาะส่วนที่ต้องการกดเซฟ แล้วถึงจะแชร์ออกไปได้ เรียกว่าหลายขั้นตอนมากครับ แต่ถ้าใช้ ปากกาอัจฉริยะ S Pen นี่ไม่ต้องอะไรเลยครับ แค่ดึงปากกาออกมา เลือกฟีเจอร์สมาร์ทซีเล็ค ลากครอปส่วนที่ต้องการ แล้วกดส่งต่อได้ทันที ใช้งานได้สะดวกและสนุกมากๆ ครับ

Samsung Note เก็บบันทึกทุกความทรงจำไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึกเรื่องงาน ภาพวาดเล่นกับเพื่อนๆ หรือจะสเก็ตงานจริงจังก็ยังไหว ด้วย S Pen ปากกาอัจฉริยะที่รองรับแรงกดได้มากถึง 4,096 ระดับช่วยให้ภาพวาดที่เราสร้างสรรค์ได้สมจริงเหนือจินตนาการ

Screen off Memo จดบันทึกเร่งด่วนอย่างง่ายดาย เพียงแค่ดึงปากกาออกมาโดยไม่จำเป็นต้องปลดล็อกและยังสามารถบันทึกได้สูงสุดถึง 100 โน้ตกันเลยทีเดียว และนอกจากนี้ในโน้ตที่สำคัญและไม่อยากให้ลืม เราสามารถ pin note ที่จดบันทึกไว้บน AOD หรือ All way on Dlisplay ได้อีกด้วย เพื่อจะไม่พลาดทุกบันทึกสำคัญ เพราะเราจะเห็นโน้ตนี้แสดงอยู่บนหน้าจอของเจ้า Note 8 ตลอดเวลานั่นเองครับ บอกตรงๆ ว่าเหมาะกับคนขี้ลืมอย่างผมมากๆ ครับ

ด้านกล้อง

Galaxy Note 8 มาพร้อมกับกล้องคู่ ขนาด 12 ล้านพิกเซลและเป็นเซ็นเซอร์แบบ Dual Pixel ช่วยให้โฟกัสได้อย่างรวดเร็วและแม่ยำ นอกจากนี้ตัวกล้องยังมีระบบกันสั่นทั้ง 2 ตัวเป็น Dual OIS ตัวแรกของโลก และยังสามารถซูมแบบ Optical ที่ถึง 2 เท่า และซูมดิจิตอลได้อีก 8 เท่า และด้วยค่า F เพียง 1.7 เท่านั้นทำให้สามารถเก็บภาพในที่แสงน้อยได้ดีมากๆ ซึ่งอันนี้ผมเชื่อว่าหลายคนยอมรับตรงกันล่ะครับ ว่าซัมซุงทำเรื่องนี้ได้ดีมากตั้งแต่ S7 มาแล้ว และความสามารถที่โดดเด่นสุดๆ ที่มาพร้อมกับกล้องคู่ นั่นคือการถ่ายภาพแบบ Live Focus คือการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอนั่นเองครับ โดยใน S8 ก็มีโหมดที่ทำหน้าที่คล้ายๆ กันนี้คือ Selective Focus แต่นั่นเป็นการใช้ซอฟท์แวร์ในการช่วยปรับระยะโฟกัสให้ และตัวแบบที่ต้องการให้ชัดนั้น จะมีระยะห่างที่ค่อนข้างกำหนด คือเรียกง่ายๆ ว่าถ่ายสิ่งของพอได้ ถ่ายคนก็พอได้แต่ระยะจะไม่ได้ แต่สำหรับไลฟ์โฟกัสนี่ ถ่ายถาพคนแล้วปรับให้หน้าเบลอหลังชัดได้แบบเนียนๆ เลยครับ สามารถปรับก่อนถ่ายก็ได้ หรือถ่ายเสร็จแล้วก็ยังสามารถปรับเพิ่มได้อีก และสามารถเลือกเซฟได้ในทุกช่วงความเบลอของฉากหลังครับ บอกได้คำเดียวว่าคราวนี้สุดจริงๆ ครับ

สรุป

สรุปว่า ซื้อครับฮ่าาาาา Note 8 มาคราวนี้เรียกได้ว่าจัดเต็มจัดหนักไม่มีกั๊กกันแล้วครับ และสำหรับแฟนๆ ที่รอคอยการมาของซีรีส์โน้ตถึง 2 ปีนั้นรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับ เพราะนอกจากจะได้ครอบครองดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของซีรีส์โน้ต ฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลัง กล้องคู่ที่ให้เราเก็บภาพประทับใจได้อย่างไร้ขีดจำกัด เพราะนอกจากความจุตัวเครื่องที่มากถึง 64 GB แล้วเรายังสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุดอีกถึง 256 GB ยังไงก็เหลือๆ ครับ แถมฟีเจอร์ที่มาพร้อมกับปากกา S Pen ที่เป็นฟีเจอร์ที่ใช้งานได้จริงจัง ทั้งการจดบันทึก แคปเจอร์ แปลภาษา กล้องคู่ที่ทำให้ถ่ายภาพได้สนุกขึ้น เรียกได้ว่า Note 8 ช่วยให้ทำงานได้ง่ายขึ้น และยังสนุกกับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย ตอนนี้ก็รอลุ้นราคาอย่างเดียวครับ ซึ่งผมเชื่อว่าราคาน่าจะเปิดมาแถวๆ 32,900.- ครับ ถ้าเปิดมาแรงกว่านี้ก็อาจจะเหนื่อยหน่อยครับ ยิ่งภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ด้วยแล้ว ยังไงก็ขอให้เคาะราคาออกมาน่ารัก ยังไงเชื่อว่าแฟนๆ ก็พร้อมจะอุดหนุนกันล่ะครับ อย่างน้อยผมก็เตรียมหยอดกระปุกแล้ว



ถูกใจบทความนี้  3