Asus ขนทัพ Laptop ที่บางที่สุดในโลกมาเปิดตัวหลายรุ่นพร้อมวางจำหน่ายในไทย

Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-001

Asus ขนทัพ Laptop มาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการด้วยกันทีเดียวถึง 6 Series ซึ่งหนึ่งในนั้นมีรุ่นที่บางที่สุดในโลกอีกด้วย แน่นอนว่านอกจากความบางที่มีแล้วสเปคตัวเครื่องนั้นก็มีประสิทธิภาพที่ทรงพลังเช่นกัน จะมีรุ่นอะไรบ้างและหน้าตาตัวเครื่องเป็นเช่นไรลองมาดูกันต่อดีกว่า

Laptop ที่เอซุสนำมาเปิดตัวในประเทศไทยรอบนี้มีสโลแกนว่า “Define the New Edge” บ่งบอกถึงความบางและประสิทธิภาพที่ลงตัวกับรูปลักษณ์ที่สวยงามโดดเด่น ประกอบด้วยรุ่นดังนี้
– ZenBook 3 Deluxe (UX490 – ราคา 69,990บาท) แล็ปท็อปขนาด 14 นิ้ว ที่บางที่สุดในโลก
– ZenBook Flip S (UX370 – ราคา 63,990 บาท) แล็ปท็อปแบบพลิกจอได้ที่บางที่สุดในโลก
– ZenBook UX430 (ราคา 41,990 บาท) แล็ปท็อปพร้อมการ์ดจอแยกที่บางที่สุดในโลก
– ASUSPRO B9440 (ราคา 49,990 บาท) แล็ปท็อปเพื่อธุรกิจ หน้าจอขนาด 14 นิ้ว ในเครื่องขนาด 13 นิ้วที่เบาที่สุดในโลก
– VivoBook S15 (S510 – ราคา 22,990 บาท) ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ภายในตัวเครื่องขนาด 14 นิ้ว
– VivoBook Pro 15 (N580 – ราคา 31,990 บาท) ซึ่งเป็น VivoBook ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา

Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-002

Zenbook 3 Deluxe (UX490): เป็นพระเอกของงานนี้เลยก็ว่าได้ ด้วยตัวเครื่องที่ทำจากอลูมิเนียมอัลลอย มีความหนาเพียง 12.9 มิลลิเมตร และน้ำหนักแค่ 1.1 กิโลกรัม หน้าจอตัวเครื่องมีขนาด 14 นิ้ว แต่ขนาดตัวเครื่องเท่ากับขนาด 13 นิ้วเท่านั้น ที่ทำได้เล็กลงมากก็เพราะเทคโนโลยี NanoEdge ที่ทำให้ขอบจอบางเหลือเพียง 7.46 มิลลิเมตร ซึ่งเจ้าตัวนี้จะตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องพกพาไปไหนมาไหน แต่ต้องการประสิทธิภาพแรงๆ เพราะตัวเครื่องนั้นมาพร้อมหน่วยประมวลผล 7th Generation Intel Core หน่วยความจำ (RAM) LPDDR3 2133 MHz ความเร็วสูง 16GB และ SSD Hard Disk ความจุ 1 TB ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหน่วยความจำที่มีความจุมากที่สุด

Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-003

แน่นอนว่าเมื่อ Zenbook 3 Deluxe นั้นเป็นพระเอกจะขาดเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง USB-C ไม่ได้เลย ซึ่งก็มีพอร์ทดังกล่าวที่รองรับ Thunderbolt 3 ทำให้สามารถโอนถ่ายข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุด 40Gbps และรองรับการเชื่อมต่อกับหน้าจอแสดงผล dual 4K UHD นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์กราฟิกภายนอกเช่น ROG’s XG Station 2 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการเล่นเกมหรือกราฟฟิกระดับเวิร์คสเตชั่น รวมถึงรองรับ VR ได้อย่างลงตัว

Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-004

จากภาพจะเห็นได้ชัดอยู่ละว่าเครื่องดูเล็กจริงๆ ไม่เหมือนเครื่อง 14 นิ้วเลยแต่เหมือนเครื่อง 13 นิ้วมากกว่า นอกเหนือจากนี้อีกตัวเครื่องยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่บน Touchpad มาด้วย เพื่อจะได้เข้าตัวเครื่องได้ง่ายๆ ไม่ต้องมานั่งปลดล็อคด้วย Password
Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-005 Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-006
Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-007

Zenbook UX430: ตัวนี้เป็นแล็ปท็อปซึ่งให้ความบางที่สุดในโลกอีกรุ่น ที่มาพร้อมกับการ์ดจอแยกประสิทธิภาพสูง โดย ZenBook UX430 มีหน้าจอขนาด 14 นิ้ว และมีขนาดตัวเครื่องเท่ากับเครื่องที่มีหน้าจอ 13 นิ้ว กระทัดรัดเหมาะต่อการพกพา ด้วยดีไซน์ของขอบจอที่บางเพียง 7.18 มิลลิเมตร และสีของตัวเครื่องมีความงดงามดั่งคริสตัล และตัวเครื่องก็มีประสิทธิภาพอันน่าทึ่ง ด้วยหน่วยประมวลผล 7th Generation Intel Core i7 หน่วยความจำ (RAM) 16GB DDR4 และ SSD ขนาด 512GB รวมไปถึง การ์ดจอแยก NVIDIA® GeForce® 940MX

Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-008

เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือยังคงมีเหมือน Zenbook 3 Deluxe แต่พอร์ทการชาร์จยังเป็นแบบปกติไม่ใช่ USB-C ซึ่งสายชาร์จจะใช้กับคนอื่นไม่ได้ ทั้งนี้ตัวเครื่องยังคงมีพอร์ท USB-A ให้ใช้อยู่ด้วย แน่นอนว่าพอร์ท USB-C ก็มีให้ช่องนึงเช่นกัน

Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-009
Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-010
Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-011
Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-012

Zenbook Flip S: แล็ปท็อปแบบพลิกจอได้ที่บางที่สุดในโลก ที่มาพร้อมกับความสง่างามด้วยตัวเครื่องยูนิบอดี้แบบบางอะลูมิเนียมอัลลอย บางเพียง 10.9 มิลลิเมตร และหนักเพียงแค่ 1.1 กิโลกรัม ZenBook Flip S เป็นแล็ปท็อปที่ผสมผสานความสง่างามน่าค้นหา สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกด้วยการปรับพับหน้าจอได้มากถึง 360 องศา ด้วยหน้าจอความละเอียด 4K UHD (ขึ้นอยู่กับรุ่น) ทำให้แล็ปท็อปรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ทรงพลัง สามารถแปลงเป็น Tablet ได้ และยังสามารถพกพาได้สะดวกไปในตัว

นอกเหนือจากดีไซน์ล้ำ ความสามารถในการพลิกจอได้สุดๆ แล้วตัวเครื่องยังมาพร้อมหน่วยประมวลผล 7th Generation Intel Core i7 หน่วยความจำ (RAM) LPDDR3 2133 MHz 16GB ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกันแบบไม่ติดขัด และยังมีหน่วยความจำความเร็วสูง (SSD) พร้อมด้วยอินเทอร์เฟซเป็น PCIe 3.0 x4 ทำให้ ZenBook Flip S มีหน่วยความจำที่เร็วที่สุดในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมี USB Type Cสองพอร์ท รองรับการเชื่อมต่อเพื่อแสดงผลระดับ 4K การชาร์จแบตเตอรี่ การถ่ายโอนข้อมูล และการเชื่อมต่ออื่นๆ เพื่อทำให้การพกพาสะดวกยิ่งขึ้นรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับ Mini Dock ที่สามารถเชื่อมต่อกับ HDMI USB3.1พอร์ต และ USB Type C ที่ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วยิ่งขึ้น ZenBook Flip Sรองรับนวัตกรรมและฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดใน Window 10 รวมไปถึง Cortana, Windows Hello, Windows Ink และ Modern Standby

Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-013 Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-014 Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-015 Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-016

Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-017

ASUSPRO B9440: ตัวนี้เหมาะสำหรับนักธุรกิจด้วยวัสดุที่แข็งแรงทนทานและผ่านการทดสอบเดียวกันกับอุปกรณ์ที่ใช้ในทางทหาร (Military Grade) โดยตัวเครื่องมีหน้าจอแสดงผล Full HD ขนาด 14 นิ้ว ในขนาดเครื่อง 13 นิ้ว ขอบจอบางเพียง 5,4 มิลลิเมตร (บางไปไหน) และมีน้ำหนักเพียง 1.05 กิโลกรัม

มีหน่วยประมวลผลIntel® Core™ i5 และ i7 U-series CPUs และรองรับอุปกรณ์เพิ่มเติม Intel vPro® นอกจากนี้ยังมีชุดซอฟท์แวร์ ASUS Business Manager อันประกอบด้วยเครื่องมือที่ง่ายต่อการใช้งาน ระบบการจัดการส่วนกลาง และระบบรีโมท เพื่อทำงานจากระยะไกล

Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-018 Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-019

ตัวนี้มีแต่พอร์ท USB-C 2 พอร์ท ก็คงต้องพกตัวแปลงกันหน่อย

Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-020 Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-021 Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-022

Vivobook Pro 15 (N580): เป็นรุ่นใหม่จากซีรีส์ Vivobook Pro ที่เป็น Laptop สำหรับการใช้งานทั่วไปที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาสบายกระเป๋า ซึ่ง VivoBook Pro 15 ได้ออกแบบรูปลักษณ์แบบใหม่ให้ความทะมัดทะแมงแต่เรียบง่าย โดยได้รับแรงบันดาลใจจากซีรีส์ ZenBook ของเอซุสซึ่งนับเป็นรุ่นแรกในซีรี่ย์ที่มีหน้าจอสวยงาม FHD ในขนาด 15.6 นิ้ว

Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-023

Vivobook Pro 15 ใช้หน่วยประมวลผล 7th Generation Intel Core i5 หรือ i7 “HQ” ซึ่งให้ความเร็วกว่า “U” series Core i5 และ i7 ถึง40% โดยมาควบคู่กับ RAM ความเร็วสูง 2400MHz DDR4 ขนาด 16GB และให้ตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีฮาร์ดดิสก์ 2TB พร้อมกับ SSD ขนาด 512GB เพื่อให้ประสิทธิภาพการบู๊ตอย่างรวดเร็ว โดยทั้งหมดจะถูกรักษาเอาไว้ด้วยระบบพัดลมระบายความร้อนอัจฉริยะแบบคู่ ที่จะช่วยควบคุมอุณหภูมิของแล็ปท็อปได้โดยอัตโนมัติ

Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-024

นอกจากนี้ยังมีการ์ดจอแยก NVidia GeForce GTX และลำโพงคู่ที่ได้รับการรับรองจาก Harman Kardon ทำให้ VivoBook Pro 15 เป็นแล็ปท็อปที่สามารถทดแทนเกมมิ่งเดสก์ท็อปแบบปกติได้ เพราะสามารถเปิดได้แม้กระทั่งเกมที่มีความต้องการในการตั้งค่าสูงสุด

Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-025 Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-026

Vivobook S15 (S510): Vivobook S15 รุ่นใหม่ที่บางและเบากว่ารุ่นเดิม ด้วยหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว แต่มีน้ำหนักเพียง 1.5 กิโลกรัม มีความหนาตัวเครื่องเพียง 17.9 มิลลิเมตร แต่ตัวเครื่องเนี่ยขนาดเท่ากับ Laptop ขนาด 14 นิ้วทั่วไปเลยล่ะ เนื่องจากขอบจอ NanoEdge ที่บางเฉียบเพียง 7.8 มม. ทำให้หน้าจอมีสัดส่วนสูงถึง 80% ของตัวเครื่อง

Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-027

หน่วยประมวลผลก็เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Intel® Core i7 และการ์ดจอแยก NVIDIA 940MX พร้อม DDR5 VRAM ซึ่งเร็วกว่า DDR3 ของแล็ปท็อปทั่วไป มีตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ถึง 2TB HDD และ SSD ความเร็วสูงขนาด 512GB ทำให้การจัดเก็บข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยสามารถอัพเกรด M.2 ได้และสามารถอัพเกรดหน่วยความจำได้สูงสุดถึง 16GB

Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-028

นอกจากนี้ VivoBook S15 ยังไม่ได้ใช้ ODD จึงช่วยให้เพิ่มความคล่องตัวในการพกพา อาจจะสังเกตได้ว่าส่วนประกอบทรงพลังเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลยเมื่อพิจารณาจากโครงสร้างของเครื่องที่เพรียวบาง แต่สิ่งเหล่านี้คือส่วนสำคัญที่ทำให้แล็ปท็อปเครื่องนี้ของเอซุสโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่ง

Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-029 Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-030 Asus-Zenbook-Vivobook-2017-official-thailand-031

 

Asus รอบนี้เรียกว่าจัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียว มาทีเดียว 6 รุ่นซึ่งทั้งหมดที่เขียนข่าวนี้จะวางจำหน่ายที่ร้านค้าไอที ตัวแทนจำหน่ายของเอซุสทั่วประเทศในช่วงเดือนกรกฎาคม 2560 นี้ แต่คาดว่าในงาน Commart Joy 2017 ในวันที่ 22 – 25 มิถุนายน 2560 นี้น่าจะพอมีเครื่องให้จับและมีโปรโมชั่นเด็ดๆ ให้จับจองกันแน่นอนครับ



ถูกใจบทความนี้  2