ทักทายวันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน 2017: Drama Huawei

Huawei-Mate-9-preview-011

สวัสดีวันอาทิตย์ครับ สัปดาห์ที่ผ่่านมามีดราม่าของ Huawei หนักมากกับรุ่น Huawei Mate 9 และ Huawei P10 ซึ่งต้นเหตุของดราม่าก้มาจากเว็บข่าวแดนมังกร ที่ได้มีการเผยผลทดสอบความเร็วในการอ่านเขียน Storage ด้วยแอปพลิเคชั่น Androbench ทำเอาปั่นป่วนไปหมดเลยล่ะ ซึ่งดราม่ามันจะไม่แรงไปมากเลยหากว่าไม่มีการยอมรับจาก CEO (ซึ่งไม่รู้ว่าใช่ตัวจริงหรือไม่) และการลบข้อความ UFS2.1 ออกจากหน้าเว็บของ Huawei เอง

เรื่องนี้จะว่าใครผิด ผมเองก็บอกไม่่ได้หรอกครับ แต่คิดว่ามันเป็นบทเรียนครั้งใหญ่กับหลายฝ่ายเลยดังนี้
หนึ่ง: จุดเริ่มที่ว่าแอปพลิเคชั่นทดสอบความเร็วในการอ่านเขียน Storage ดังกล่าวที่ผ่านมาไม่เคยมีใครใช้งานทดสอบกันมาก่อน มาวันนึงก็มาใข้แล้วหลายคนก็เชื่อทั้งที่การทดสอบดังกล่าวเป็นการทดสอบระดับ Software ซึ่งแน่นอนว่าการทดสอบนี้จะให้ผลที่ไม่นิ่งเท่าไหร่นัก แต่ก็ทำให้หลายคนเชื่อกันว่าเครื่องตัวเองห่วยเพราะทดสอบแล้วได้ผลอย่างที่แหล่งข่าวว่าจริง แต่กลับไม่หาข้อมูลเพิ่มเลยว่า UFS2.0 และ 2.1 มันไม่ได้ต่างกันที่ความเร็วแต่ต่างกันที่ Security
สอง: CEO ของ Huawei ออกมาประกาศยอมรับเรื่องวัตถุดิบที่ใช้ผลิตไม่ทันทำให้ต้องใช้ Supplier รายอื่น ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้เปิดเผยว่าจ้างใครผลิตบ้าง และไม่อธิบายให้ละเอียดว่าสาเหตุที่ความเร็วต่างกันมันมาจากไหนซึ่งถ้ามีการหาข้อมูลมาก่อนอธิบายว่าแต่ละแบรนด์ไม่ได้ให้ผลในการทำงานเครื่องต่างกัน แต่ที่ทดสอบออกมาความเร็วต่างกันนั้นก็ยังอยู่ในมาตรฐาน UFS2.0 2.1 ยังจะดูดีกว่านี้มาก
สาม: การปลดข้อความ UFS2.1 ออก อันนี้ไม่รู้ว่ารีบร้อนอะไรยังไงทำไม แต่การไปทำแบบนั้นทำให่ผุ้บริโภคมองว่าแบรนด์ไม่ซื่อสัตย์ ซึ่งอันที่จริงควรจะหาแนวทางแก้ไขอืนที่ดีกว่านี้เช่นให้นำเครื่องมาแกะเพื่อตรวจสอบเลยว่าใช้ของอย่างที่โฆษณาไปมั้ย ถ้าไม่ใช่ก็เปลี่ยนให้ก็จบ
สี่: Fanpage Huawei Thailand ประกาศอธิบายเหตุผลที่ใช้ Storage ต่างกัน แต่ไม่มีแหล่งอ้างอิงแปะให้คนเข้าไปศึกษาและขาดวิธีพิสูจน์ว่าเวลาใช้งานจริงว่าเครื่องทำงานได้ไม่ต่างกันทำให้โดนจวกยับหนักกว่าเดิม
ห้า: การทดสอบ Ram ว่าเป็นชนิดอะไรผ่านแอปพลิเคชั่น Terminal Emulator ซึ่งหลายคนทดสอบออกมาแล้วได้ผลเป็น LPDDR3 ทำให้วิ่งวุ่นกันใหญ่ แต่คำถามคือแอปดังกล่าวไม่ได้อัพเดทมาสองปีแล้ว ละหากไม่มีข้อมูลในฐานข้อมูลมันจะแสดงเป้น LPDDR3 หมดด้วย ซึ่งหลายคนไม่รู้ไปทำตามก็ตีตนไปก่อนไข้อีก
หก: AIDA64 ที่เอาไว้ใช้ดูสเปคตัวเครื่องว่าเป็นเช่นไร อันนี้จากที่ทดสอบดูมันตรงกับหน้าเว็บพอดีทำให้เข้าใจว่ามันอ่านแค่ระดับรหัสรุ่นตัวเครื่องมากกว่า และใช้ Database บนเว็บไซต์

สำหรับเรื่องดราม่าใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นครั้งนี้น่าจะเป็นบทเรียนให้ทั้งฝ่ายผู้ขายและผู้ซื้อได้เป็นอย่างดีว่าก่อนจะลงมือตัดสินใจทำอะไร ควรจะศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนจะตีตนไปก่นไข้นะครับ ทั้งนี้จากที่ผ่านมาที่บ่นเรื่องว่าจะได้ EMMC ก็ยังไม่เห็นมีใครได้ไปนี่หว่า อ้อ แล้วก็แถมบทเรียนสุดท้ายให้ละกันว่า “อย่าไปหวังอะไรกับของดีราคาถูก” ไม่งั้นหลายแบรนด์คงไม่เลือกที่จะขายของแพงหรอก

<IFRAME target=”_blank” frameboder=”0″ height=”100″ marginHeight=”0″ src=”//www.facebook.com/plugins/likebox.php?href=https://www.facebook.com/PDAMobizWebsite&amp;width=292&amp;height=62&amp;colorscheme=light&amp;show_faces=false&amp;border_color&amp;stream=false&amp;header=true’ scrolling=’no’ frameborder=’0′ style=’border:none; overflow:hidden;’allowTransparency=’true'” width=”180″ marginWidth=”0″>Loading…

ติดตามข้อมูลข่าวสารของ PDAMobiz.com จากช่องทางต่างๆ ได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลยครับ

 

 zaint
(@zaintttt)

  30 April 2017



ถูกใจบทความนี้  1