รีวิว CoolerMaster MasterPulse On ear

CoolerMaster MasterPulse 007

CoolerMaster แบรนด์เกมส์เมอร์ ที่มาจับเรื่อง Geamer Gear กับเขานานแล้ว และส่งหูฟังแบบฟูลเซ็ท ครอบหูแบบเต็มๆ มาลุยตลาด รุ่นนี้เค้าชื่อ MasterPulse On ear ตามตัวเลยครับ โดยคอนเซ็ปท์ก็คือ การปรับแต่ Base FX ได้โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยซอฟท์แวร์ช่วยนั่นเอง ว่าแล้วก็มาตามชมกันดีกว่าครับผม

งานนี้มี Base FX ติดตัวมาด้วยเหมือนเจ้า MasterPluse รุ่นเล็กที่เคยรีวิวไปแล้ว ส่วนตัวนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าจัดเต็ม รุ่นใหญ่ ครอบหู ลำโพงใหญ่กว่า แจ่มกว่าที่เคยอย่างแน่นอน

Master Pulse On ear

งานนี้จัดตัวขับมาให้ถึง 44มม. ใหญ่พอดตัวเลยทีเดียวนะครับ เสียงจะขนาดไหนต้องลองฟังกันอีกทีนึง มาแกะกล่องกันต่อเลย

CoolerMaster MasterPulse 000

ตัว MasterPulse เป็นตัวใหญ่สุดแล้วก็ว่าได้ของ CoolerMaster ที่นำมาจำหน่ายในไทย โดยใช้เทคโนโลยี BaseFX กล่องใหญ่พอตัวเลยทีเดียว

CoolerMaster MasterPulse 001

ด้านหลังมีสเปคบอกไว้ละเอียดเป็นแต่ละภาษานะ แน่นอนว่าไม่มีภาษาไทย

CoolerMaster MasterPulse 005
แกะกล่องครับ โดยจุดเด่นอีกจุดนึงก็คือหูฟังที่มีสายยาว 1.2 เมตร อาจจะไม่ได้ยาวมากมาย หรือที่สุดในโลก แต่ก็ยาวใช้ได้เลยล่ะ ในการเล่นเกมส์หรือการใช้งานอื่นๆ ก็สะดวกดี แต่บางทีก็แอบเกะกะเหมือนกันนะ

CoolerMaster MasterPulse 007

ด้วยดีไซน์ เรียกว่าเป็น Gaming Gear ของแท้เลย ไม่ได้เน้นดีไซน์แบบว่าสวยงาม หรือใส่ออกนอกสถานที่นะผมว่า เน้นแบบเล่นอยู่กับบ้านนี่ล่ะ หรือไม่ก็ใส่ตามงานเกมส์ต่างๆ

CoolerMaster MasterPulse 008

วัสดุรอบๆ หูฟังเป็นโลหะอย่างดี คือแข็งแรงมากๆ

CoolerMaster MasterPulse 010

CoolerMaster MasterPulse 060

 

ส่วนของหูฟังมีวัสดุที่เป็นฟองน้ำหุ้มอยู่ด้านใน หนาและนุ่มใส่สบาย

CoolerMaster MasterPulse 011

ตรงด้านบนก็เช่นกัน เป็นฟองน้ำหุ้มตลอดด้านบน เพื่อรองรับกับศรีษะ

CoolerMaster MasterPulse 045

 

สังเกตตรงส่วนของการพับสาย มีตัวยึดและล็อคอย่างแน่นหนา ไม่ต้องกลัวอาการสายขาดด้านใน

CoolerMaster MasterPulse 046

CoolerMaster MasterPulse 048

ด้านบนมีดีไซน์ของ โครงโลหะครอบเอาไว้ ซึ่งคงเอาไว้ยึดตัวหูฟังทั้งสองด้านนั่นล่ะ

CoolerMaster MasterPulse 051
CoolerMaster MasterPulse 052

ด้านในทั้งสองด้าน จะมีสัญลัษณ์บอกว่าเป็นข้างซ้ายหรือข้างขวา ตัวใหญ่มาก

 

 

CoolerMaster MasterPulse 014

ตรงส่วนของสาย จะมีชุดคอนโทรล สามารถปรับเสียงเบาหรือเสียงดังได้ รวมถึงปิดไมค์ก็ได้ด้วย

CoolerMaster MasterPulse 040

 

ตรงนี้เป็นล้อหมุนสำหรับเร่งหรือลดเสียงCoolerMaster MasterPulse 043

 

ตรงนี้คือสวิทช์ปิดไมค์

CoolerMaster MasterPulse 012

ตรงส่วนปลายของสาย ไม่ได้เป็นแจ็คเสียบหรือถอดได้นะ อันนี้ยึดตายตัว

มาลองใส่ดูหน่อยก็แล้วกัน

CoolerMaster MasterPulse 016

ด้านหน้าตรงเป็นแบบนี้ล่ะครับ โดยอย่างที่บอกล่ะว่า ใส่เล่นเกมส์ก็มันส์ แต่อยู่ที่บ้านล่ะนะ จริงๆ ใส่ฟังเพลงก็ยังไหว แต่ว่าโดยส่วนตัวแล้วดีไซน์ผมว่าไม่เหมาะกับการไปใช้งานสารธารณะทั่วๆ ไป เช่นพวกบนรถไฟฟ้า แต่ถ้าเด็กแนว แบบ Gaming Gear ที่จะพกติดตัวไปด้วยก็ไม่ว่ากัน อันนี้แล้วแต่ความชอบ น้ำหนักจากที่เห็นว่ามันใหญ่โต แต่ก็ไม่ได้หนักมาก ใส่นานๆ ก็สบายๆ ด้านบนมีฟองน้ำ ตัวโลหะด้านบนก็เป็นแค่โครงไม่ได้เจ็บอะไร ใส่สบายทั้งหู และหัวเลยว่าง่ายๆ

CoolerMaster MasterPulse 033

ด้านข้างดูแล้วแบบว่า ใหญ่ได้ใจเลยนะ ฮ่ะๆ

CoolerMaster MasterPulse 027

หรือจะดูด้านนี้ก็นะ

สรุปปิดท้ายกันหน่อย

เรื่องความโดดเด่นของดีไซน์ คือออกแบบว่าสำหรับคอเกมส์โดยเฉพาะเป็น Gaming Gear อีกอันนึงที่ต้องมีติดเอาไว้ ซึ่ง CoolerMaster เราจะคุ้นกันดีในอุปกรณ์ประกอบต่างๆ เช่น Case หรือ Powersupply แต่ว่าส่วนของ หูฟังก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่เค้ามาทำตลาดด้วย ซึ่งอันนี้คอ Gaming Gear หรือแฟนๆ CoolerMaster น่าจะชอบล่ะนะ MasterPluse On Ear เป็นที่สุดในบรรดาหูฟังของ CoolerMaster แล้ว ซึ่งมีเทคโนโลยี BaseFX ติดตัวมาด้วย ซึ่งที่อยากรู้ก็คือเรื่องเสียง ผมว่าเรื่องเสียง ถึงแม้ว่าลำโพงจะมีตัวขับถึง 44 มม. แล้วก็ตาม อันนี้ยังตึ๊บไม่พอ เสียงยังอยู่เร้นท์แบบธรรมดา กลางๆ ไม่เน้นไปด้านไหนด้านนึงชัดเจน ถ้าเล่นเกมส์ ควรจะจัดเบสได้เยอะกว่านี้อีกหน่อยน่ะครับ

ขอบคุณ CoolerMaster ที่ให้ยืมอุปกรณ์ทดสอบ

 



ถูกใจบทความนี้  0