รีวิว Jabra Elite Sport หูฟังบลูทูธไร้สาย True Wireless และวัด Heart Rate สำหรับออกกำลังกาย

พูดถึง Jabra ก็คงไม่พ้นหูฟังบลูทูธใช่ไหมครับ ล่าสุด Jabra Elite Sport เป็นรุ่นที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี True Wireless และวัด Heart Rate ที่เจ๋งที่สุดแล้ว ณ ตอนนี้ ใช้งานร่วมกับ Jabra Sport Life app จะครบถ้วนสมบูรณ์และน่าใช้งานแบบสุดๆ ไปเลย รองรับการออกกำลังกายทั้ง วิ่ง ปั่น และบรรดาฟิทเนสทั้งหลาย ครบถ้วน วัดความอึด ความทน มีโค้ชส่วนตัว แนะนำการพักผ่อน และการออกกำลังกายได้ครบสุดๆ รวมถึงเสียงที่จัดเต็มทุ้มนุ่มลึก และรับสายได้ในตัว

Join PDAMobiz on Telegram

Jabra Elite Sport เป็นหูฟังบลูทูธที่มาในสายออกกำลังกายอย่างเต็มที่ คือฟีเจอร์มีเยอะมากจริงๆ คุ้มค่าตัวกับราคา 9,700 บาท ซึ่งรองรับการใช้งานแอพ Jabra sport Life บน Smartphone ทั้ง Android และ iOS ครบ สามารถดูเรื่อง V02Max วัดความฟิตได้ มีโค้ชในตัวขณะออกกำลังกาย แจ้งรายละเอียดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนก้าว ความเร็ว อัตราการเต้นของหัวใจ ครบเครื่อง แถมยังเป็นหูฟังบลูทูธแบบไร้สายที่ใช้เทคโนโลยี True Wireless คือเป็นไร้สายจริงๆ ใส่กับหูทั้งสองด้านโดยไม่มีสายมาเกี่ยวข้องสักนิดนึง และยังใส่ได้แน่น ไม่หลุดในขณะออกกำลังกายอีกต่างหาก เกริ่นเรียบร้อยแล้ว มาชมรีวิวกันครับ โดยทางผมได้พรีวิวให้ชมไปก่อนหน้านี้แล้วในงานเปิดตัว พรีวิว Jabra Elite Sport สำหรับนักออกกำลังกายตัวจริง RTB Technology เปิดตัวไปหมาดๆ

ก่อนอื่นมาดูรูปร่างหน้าตาและแกะกล่องกันก่อน

Jabra Elite Sport มาพร้อมกับการรับประกัน สามปี เลยทีเดียว นับว่าเป็นแบรนด์ที่จัดเต็มมาก

กล่องเปิดมาทางด้านข้าง และมีเจ้า Jabra Elite Sport เรียงอยู่พร้อมใช้งาน พร้อมกับตัวแท่นชาร์จ ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานแบตเตอรี่ได้ทั้งวัน

อุปกรณืที่ให้มา มีทั้ง ear wingและ ear tip ครบ มีให้เลือกหลายขนาดแล้วแต่ขนาดหูของเราด้วย อันนี้เข้าใจถึงรูปร่างและขนาดของผู้ใช้ได้ดีจริงๆ

มาดูน้ำจิ้มก่อนครับ เจ้า Jabra Elite Sport มาพร้อมกับเคสที่ชาร์จได้ ทำให้รองรับการใช้งานทั่วๆ ไปได้ทั้งวัน ปกติใช้งานได้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ส่วน charger case นี้ได้อีก 2 รอบ รวมๆ กันแล้วอย่างต่ำก็ประมาณ 9 ชั่วโมง

ซึ่งก็ชาร์จเคสตัวนี้ได้ผ่านพอร์ท micro USB นี่ล่ะครับ ซึ่งจะชาร์จ Jabra Elite Sport เต็มภายใน 2 ชั่วโมง

ฝาปิดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง คือแน่นหนาไม่ตกหล่นแน่นอน

ด้านในออกแบบมาได้พอดีกับ Jabra Elite Sport

ซึ่งจะชาร์จผ่านขั้วสัมผัสทั้งสองด้านเลย ทั้งสองข้างของ Jabra Elite Sport มีแบตในตัวดังนั้นอย่าลืมชาร์จทั้งสองข้างพร้อมๆ กันนะ

มีไฟแสดงสถานะด้วยนะครับ ไฟสีเขียวแสดงว่าแบตเต็มอยู่ ถ้าเป็นสีแดงก็เตรียมชาร์จเจ้าเคสนี้ได้เลย

รวมถึงด้านในก็เช่นกันบนตัว Jabra Elite Sport ก็มีไฟแสดงสถานะด้วยเช่นเดียวกัน สีเขียวแสดงว่าแบตเต็ม สีเหลืองหรือสีแดงก็แสดงว่าแบตอ่อน

มาดูเจ้า Jabra Elite Sport กันบ้างครับ ว่าแจ่มแค่ไหน ดีไซน์ดี ใส่สบาย

หน้าตจาดูน่าใช้งานมาก โดย Jabra Elite Sport ออกแบบมาให้เป็น True Wireless อย่างแท้จริง

ทางด้านซ้ายจะมีปุ่ม เร่ง และ ลดเสียง ในขณะวิ่งก็กดปุ่มนี้ได้เลย สะดวกดี สามารถใช้เป็นการเลื่อนเพลงไปเพลงถัดไป หรือถอยไปเพลงก่อนหน้า ก็ได้โดยกดค้างไว้แป๊ปนึง ประมาณ 2 วินาที

และปุ่มทางหูด้านขวามือ คือปุ่ม Sport (ด้านบน) หรือปุ่มที่ใช้เรียกการออกกำลังาย กดครั้งแรกเพื่อเรียกแอพ Jabra sport Life app ขึ้นมา และกดค้างไว้ 1 วินาที ก็จะเริ่มทำการออกกำลังายในโหมดที่เราตั้งค่าเอาไว้ แต่หากกดในขณะกำลังออกกำลังกายจะเป็นการเรียกโค้ชขึ้นมาบอกรายละเอียดต่างๆ เช่นอัตราการเต้นของหัวใจ หรือความเร็ว การก้าวเท้า ซึ่งสามารถตั้งได้ว่าจะให้บอกอะไรบ้าง แต่ถ้าหากกดค้างไว้ 1 วินาที จะเป็นการหยุดชั่วคราวหรือกลับมาออกกำลังกายต่อ เช่นเราแวะพักเข้าห้องน้ำ หรือดื่มน้ำ และยังสามารถปิดการอัพเดทของโค้ชได้ โดยการกดสองครั้งติดกัน หรือที่เรียกว่า double tap นั่นล่ะครับ

และอีกปุ่มนึงคือ MFB (ด้านล่าง) หรือ multi function button สำหรับใส่คำสั่งได้เพียบ จะเป็นการเล่นหรือหยุดการเล่นเพลงก็ได้ ใช้รับสายก็ได้ หรือใช้ในการโทรศัพท์กดสองครั้งติดกันเพื่อแคนเซิลสายเที่เข้ามาก็ได้ กดค้างเอาไว้ประมาณ 2 วินาทีเพื่อสลับสาย ในกรณีที่เรามีสายเข้าสองสายพร้อมกัน อย่างที่บอกครับว่าฟีเจอร์การใช้งานรองรับทั้งการทำงานและการออกกำลังกาย ลงตัวทั้งวัน

การออกแบบ จะมีสีดำทั้งชิ้น ส่วนตรงกลางจะเป็นสีดำแต่ออกโทนบางนิดนึง ซึ่งจะได้ไม่กลืนไปทั้งหมด คือการดีไซน์เรื่องสีเทรนด์ตอนนี้ก็คือสีดำ บน Smartphone และเจ้า Jabra Elite Sport ก็ออกแบบมาได้เข้ากันพอดีเลย

ส่วนด้านในจะเห็นว่าเป็นหน้าสัมผัสที่ตรงส่วนนี้เองอาจจะมีเหงื่อที่เป็นเกลือ ติดอยู่ได้ อาจจะทำให้ชาร์จไม่เข้า อาจจะต้องทำความสะอาดบ้างนะครับ ซึ่งใช้ผ้าผิวอ่อนชุบน้ำหมาดๆ มาเช็ดก็ได้ เพราะเจ้า Jabra Elite Sport กันเปียกได้ในระดับนึงอยู่แล้ว

ลองเปลือดูครับ ด้านในเป็นแบบนี้เลย สามารถถอดและสวมบรรดา ear tip และ ear wing ได้ง่ายๆ

ส่วนของเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจผ่านหูของเรา อยู่ตรงด้านล่าง

คือต้องบอกว่าเล็กมาก และน้ำหนักเบาอีกด้วย

ตรงส่วนของ ear wing ที่เป็นลักษณะของซิลิโคน นุ่มรับกับใบหู

และ ear tip ที่มีหลายขนาดเข้ากับรูหูของแต่ละคน เลือกได้เลย

เมื่อสวมทั้งคู่ลงไปแล้วก็ประมาณนี้เลยครับ ด้านดีไซน์และรูปร่างหน้าตาก็ถือว่าออกแบบมาได้โดนใจคนออกกำลังกายโดยเฉพาะเรื่องที่ไร้สายแบบจริงๆ จังๆ นี่ล่ะ แต่จะไม่สมบูรณ์ หากไม่ได้ใช้ร่วมกับ Jabra Sport Life app ดังนั้นมาดูเรื่องแอพกันและการใช้งานจริงกันหน่อย

การใช้งานร่ามกับ Jabra Sport Life app

ผมเอาการใช้งานจริงมาให้ชมกันเลยครับ ซึ่งแอพ Jabra Sport Life ผมเคยใช้งานมาตั้งแต่สมัยที่ Jabra Sport Pulse โน่นล่ะครับ ซึ่งการใช้งานมีการปรับปรุงมาให้รองรับกับการใช้งาน Jabra Elite Sport เรียบร้อย สายมารถวัด V02Max ความฟิตของเราได้ด้วย และคำนวณให้เลยว่าเราจะวิ่งระยะใกล้ ระยะกลาง ระยะไกลอย่างมาราธอนได้จบที่กี่ชั่วโมง คืออันนี้ก็เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ต้องการรู้ว่าตัวเองฟิตแค่ไหน

นอกจากความฟิตแล้ว ยังสามารถบอกเราได้อีกว่า เราควรจะพักกี่ชั่วโมง หรือว่าสามารถออกกำลังต่อได้ หากฝืนมากไปอาจจะเกิดการบาดเจ็บ

ในเรื่องของการใช้งาน อย่าลืมลงทะเบียน และตั้งค่าโปรไฟล์ของเราให้ตรงกับความจริงนะครับ เพื่อความถูกต้องแม่นยำในการใช้งาน และตัวแอพ Jabra Sport Life เอง ยังมีฟีเจอร์ค้นหา Jabra Elite Sport ได้ด้วย เผื่อลืมเอาไว้ตรงไหน ก็จะแทรคดูได้ว่าตำแหน่งสุดท้ายอยู่ ณ จุดใด

อีกหนึ่งการตั้งค่าครับ เราสามารถให้โค้ชอัพเดทเรายังไงบ้าง จะมีค่าต่างๆ อัพเดท ระหว่างการวิ่ง ให้อัพเดททุกๆ 1 กิโลเมตรหรือไม่ ซึ่งตรงนี้จะเป็นค่า default และค่าอื่นๆ เช่นพวก cadence speed ค่าไหนที่เราโฟกัสว่าจะต้องมีก็จัดได้เลยตามที่เราต้องการ

แอคทิวิตี้ต่างๆ ที่รองรับ คือเพียบครับ ใครไม่ได้วิ่ง ก็แทรคการก้าวเดินได้ สำหรับคนที่อาจจะมีปัญหาเรื่องหัวเข่าหรือกระดูก ก็ใช้วิธีเดิน สามารถแทรคได้เช่นกัน รวมถึงวิ่งบนสายพาน และปั่นบนเครื่องปั่นด้วยนะครับ รองรับทั้งกีฬาในร่ม และกลางแจ้งครบๆ

และยังสามารถ เลือกแอคทิวิตี้อื่นๆ เช่น Cross-training แบบต่างๆ ได้อีกเพียบ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ติดมากับ Jabra Sport Life อยู่แล้ว แถมยังมีแผนการเทรน เปรียบเสมือนมีเทรนเนอร์ติดตัวเราตลอดเวลา และเราสามารถเลือกการตั้งค่าจุดมุ่งหมายได้ด้วย มา set goal ไปพร้อมๆ กันดีกว่า

ตัวอย่างของบรรดา Cross-training และสามารถทดสอบสมรรถภาพร่างกายตัวเองได้หลากหลายด้วยนะ

มาลองใช้งานจริงกันดีกว่าครับ ผมเองก็ทั้งวิ่งและปั่น จริงๆ เพิ่งมาปั่นตอนช่วงหลังนี่ล่ะครับ

ซึ่งตัวแอพสามารถเก็บประวัติการออกกำลังกายเราได้ครบ และยังสามารถส่งต่อไปยังแอพ 3rd party อย่าง Strava ได้ด้วย ซึ่งเมื่อออกกำลังกายไปสักระยะนึง ซึ่งผมเองก็เทสตัวนี้แบบจริงๆ จังๆ ได้ประมาณสักเดือนกว่าๆ จึงเพิ่งมารีวิวให้ชมกันนะวันนี้ จะเห็นว่าระหว่างที่ออกกำลังายกาย ตัว VO2Max จะมีการคำนวณอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นประโยชน์กับคนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เราจะรู้เลยว่าเราฟิตไหมแค่ไหน ช่วงไหน ช่วงนั้นเราทำอะไรยังไงบ้าง มาวิเคราะห์กันแบบละเอียดในภายหลังได้ด้วย และการฟื้นฟูของเรา จะอยู่ที่เท่าไหร่ ตัวอย่างของผมก็คือ 67 ชั่วโมงหรือประมาณสักสามวันได้ ซึ่งถ้าเราฝืนออกกำลังต่อเพราะคิดว่าไหว ก็อาจจะมีผลข้างเคียงหรือบาดเจ็บได้ครับ ดังนั้นเราไม่ควรฝืน และเชี่อโค้ช Jabra Sport Life จะดีกว่า

สามารถดูว่าเราสถิติที่ดีที่สุด อะไรไว้บ้าง รวมถึงดูเรื่องของโซนในการออกกำลังกายแบบต่างๆ ได้ด้วย ว่าเราอยู่ในโซนไหน ควรปรับหรือไม่ ระยะทาง เท่าไหร่ อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ที่เท่าไหร่ (เฉลี่ย) มีรายละเอียดเพียบครับ

ในขณะใช้งาน บอกเลยครับว่า อาจจะมีบางจังหวะที่ต้องปรับหูฟังใหม่ เพราะบางครั้งเหงื่อเยอะๆ ก็มีปัญหาด้านการแทรคการเต้นของหัวใจได้เช่นกัน ซึ่งอาจจะเช็ดเหงื่อบริเวิณใบหู และปรับการใส่ใหม่ สักพักก็จะดีเทค และทำงานได้ทันที แต่ระหว่างที่ใส่นี่ไม่หลุด แน่นมาก และหากใส่แล้วฟังเพลงไปด้วย อันนี้ล่ะครับ ที่ได้มิติการฟังเพลงที่มีทั้งเบสที่จัดว่าโดนใจคนออกกำลังกายเลยล่ะ คือหากไม่ได้วิ่ง จะ cross training ก็ฟังเพลงไปด้วยได้เลย ซึ่งจังหวะที่มีโค้ชแนะนำ เสียงเพลงก็จะเบาลงโดยอัตโนมัติ ไม่ตีกันนะฮ่ะๆ

มาดูรายงานการวิ่งกันก่อน มีรายละเอียดบอกอย่างครบเลย รวมถึงพอวิ่งจบแล้วในแผนที่ ก็มาดูย้อนหลังได้ด้วยว่าจังหวะไหน หัวใจเต้นเท่าไหร่ ค่า TE อยู่ที่เท่าไหร่

และมีกราฟแสดงรายละเอียดต่างๆ โชว์ครบๆ

แน่นอนเลยครับว่าสามารถดูเรื่องโซน และสามารถแชร์ไปยัง social ได้ด้วย คือครบล่ะครับ

ว่าแล้วก็มาโชว์เรื่องปั่นหน่อยดีกว่า คือปั่นสนุกๆ

รายละเอียดก็จะเหมือนกับวิ่งนั่นล่ะครับ ต่างกันนิดหน่อย

หากเราทำสถิติใหม่ ก็จะมีเตือนตอนสุดท้ายด้วยนะ

มาดูเรื่องของการใส่ทิ้งท้ายหน่อย

นอกจากการวิ่งและปั่นซึ่งเป็นกีฬาที่นิยมในปัจจุบันน่าจะทั้งหมด ต้องแนะนำว่าการปั่นในที่โล่งแจ้ง ห้ามเปิดเพลง หรือเปิดเพลงเบาๆ พอ เพราะหากเปิดเต็มที่ก็คงจะอันตรายมาก โดยเฉพาะเส้นที่มีรถวิ่งเร็วๆ หรือมีทางแยก จริงๆ ต่เจ้า Jabra Eilte Sport ข้อดีก็คือใส่แล้วไม่หลุดอย่างแน่นอน ผมใส่เปิดเพลงเบาๆ ก็ไหวอยู่ครับ ได้ยินเสียงรอบข้าง เวลาจะแซงหรือถึงจุดที่ต้องมองซ้ายขวา ก็หันไปมองและกลับมาอย่างเร็ว ตัวหูฟังก็ยังติดแน่นสนิท การใช้งานหากเราใส่แล้วไม่สบายหูนั่นคืออาจจะใส่ผิดขนาด แนะนำให้เปลี่ยนขนาดให้เข้ากับใบหูและรูหูของเราครับ

ตัวอย่างตอนใส่ปั่นและวิ่ง

update อีกนิดกับเทคนิคการิ่งและปั่นอย่างปลอดภัย

แหม่อัพเดทกันนิดนึง ขณะใส่ปั่นและวิ่ง รู้ไหมว่า Jabra Elite Sport นั้นมีฟีเจอร์ Noise canncelation ด้วย คือตัดเสียงรบกวนจากภายนอกขณะฟังเพลง แต่ว่าหากเรากดปุ่ม MFB ขณะออกกำลังกายและเปิดแอพ Jabra Sport Life อยู่ล่ะก็ จะเป็นการเปิดหรือปิด Noise Cancelation ซึ่งจะช่วยให้เราได้ยินเสียงรอบข้าง เข้ามาในหูฟังอย่างชัดเจน เช่นตอนปั่นจะได้ยินเสียงบีบแตร หรือเสียงรถยนต์วิ่งอย่างชัดเจนขึ้นมากครับ นี่คือทริกแบบนึงในการใช้งาน แต่ยังไงก็ยังแนะนำว่า ไม่เปิดเสียงเพลงดังจนเกินไป เอาพอฟังได้ปั่นชิลๆ พอครับ

สรุปทิ้งท้ายกันหน่อย

สำหรับ Jabra Eilte Sport เป็นหูฟังบลูทูธที่ไร้สายแบบแท้จริง เทคโนโลยี True Wireless รองรับกับการออกกำลังายแทบจะทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะปั่น วิ่ง และฟิทเนสแบบต่างๆ และยังสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย เรียกว่าครบเครื่อง และเหมือนมีโค้ชติดตัว มีคำแนะนำต่างๆ มากมาย ความฟิต การพักฟื้น การเตือนต่างๆ ซึ่งใช้งานร่วมกับ Jabra Sport Life รองรับทั้ง Android และ iOS นอกจากการออกกำลังายที่ครบถ้วน การใช้งานทั่วๆ ไปทั้งการรับสายในช่วงเวลาปกติ และการฟังเพลงก็ทำได้ดี เสียงแน่น ปุ่มกดที่อาจจะดูไม่คล่องตัวในช่วงแรก เมื่อปรับตัวได้ก็สบายครับ ฟีเจอร์ครบ แบตอยู่ได้ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ ผมลองใช้อยู่ประมาณสัก 3 ชั่วโมงครึ่งได้ ทั้งฟังเพลงและโทรศัพท์ ซึ่งเราต้องพกเคสสำหรับเก็บและชาร์จติดตัวไปด้วย จะทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งวัน และยังมีประกันถึง 3 ปีเลยทีเดียว คือด้วยราคา 9700 บาท แต่ใช้งานทุกวัน ผมว่าก็คุ้มอยู่นะครับ สำหรับคนที่ต้องการใช้งานทั้งออกกำลังกาย ทั้งใช้ในการโทร และฟังเพลงเบาๆ ไปด้วย สบายๆ

ขอบคุณ RTB Technology ที่สนับสนุนอุปกรณ์ทดสอบ