ก่อนอื่นคงต้องพูดคำว่าสิ้นสุดการรอคอยกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ หลังจากสมาร์ทโฟนขวัญใจมหาชนที่ทั่วโลกเฝ้ารอคอยอย่าง iPhone รุ่นล่าสุดจากทาง Apple ได้ถูกเผยโฉมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วภายในงาน Special Event ที่จัดขึ้นที่ Flint Center มาค่ำคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย สำหรับเพื่อนๆสมาชิกที่อาจจะงงกับชื่อกระทู้ละก็ ไม่มีอะไรมากครับ ก็เปิดตัวไอโฟนหก หกแล้วก็ต้องรีบหยิบผ้ามาเช็ด (กล้าเล่น) ออกทะเลไปไกล กลับมาเข้าเรื่องกันต่อสำหรับเพื่อนๆสมาชิกที่อยู่ติดตามการรายงานสดผ่านทั้งหน้าเว็บและโซเชียลช่องทางต่างๆของทางเว็บคงพอจะทราบรายละเอียดคร่าวๆกันไปบ้างแล้ว แต่สำหรับเพื่อนๆสมาชิกที่ต้องรีบเข้านอน ไม่ได้อยู่ติดตามอีเวนท์ในครั้งนี้ก็ไม่เป็นไรนะครับ เพราะผมได้สรุปรายละเอียดที่น่าสนใจ ประเด็นสำคัญต่างๆ รวบรวมมาให้ไว้ในกระทู้นี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ว่าแล้วก็ไปติดตามกันได้เลย
อย่างที่เพื่อนๆสมาชิกทราบกันดีว่าก่อนหน้านี้มีทั้งข่าวลือและข่าวหลุดออกมามากมายก่ายกอง เรียกได้ว่าแทบไม่มีอะไรเหลือให้ได้ลุ้นกันก็ว่าได้ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนาดหน้าจอที่ปรับให้ใหญ่ขึ้น ดีไซน์มีการปรับให้มีส่วนเว้าส่วนโค้ง ดูหรูหรา มีเสน่ห์ น่าหลงใหล หรือชื่อเรียกที่สุดท้ายแล้วสำหรับรุ่นหน้าจอ 4.7 นิ้ว จะเรียกว่า iPhone 6 (เฉยๆ) ส่วนรายละเอียดทั้งหมดของสเปค iPhone 6 (เฉยๆ) มีดังนี้
-
ขนาดของตัวเครื่องมีความหนาเพียง 6.9 มิลลิเมตร (เป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา)
-
หน้าจอ 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1,334×750 พิกเซล (326 ppi)
-
ปุ่ม Power ย้ายไปอยู่ด้านข้างขวาของตัวเครื่อง เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานมือเดียว
-
ชิปเซ็ทประมวลผล Apple A8 ซึ่งสามารถประมวลผลได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 25% และสามารถประมวลผลด้านกราฟฟิกได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 50% (การประมวลผลเทียบกับ Apple A7)
-
มีชิปเซ็ทประมวลผล M8 สำหรับจับการเคลื่อนไหว ทั้งในระนาบแนวนอนและแนวตั้ง ไม่ว่าจะวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือปีนเขา สามารถคำนวณระยะทาง หรือแม้แต่ความสูงได้ด้วย
-
รองรับการใช้งาน 4G LTE และ Voice Over LTE
-
รองรับระบบ Wi-Fi ที่เร็วกว่าเดิม และการใช้งาน Wi-Fi Calling
-
กล้องด้านหลังความละเอียด 8 MP f/2.2 ซึ่งเท่ากับใน iPhone 5s แต่มีการปรับปรุงชิ้นเลนส์ให้สามารถรับแสงได้ดีขึ้น
-
ปรับปรุงความสามารถในการบันทึกวิดีโอแบบ Slo-Mo ที่ความเร็ว 240 FPS จากเดิม 120 FPS
-
แบตเตอรีใช้ได้นานพอๆ กับ iPhone 5s โดยสามารถ Standby อยู่ได้นานถึง 10 วัน
-
มี 3 สีให้เลือก ได้แก่ Space Grey , Silver และ Gold (สีเดียวกับกับ iPhone 5s)
เห็นรายละเอียดต่างๆของสเปคกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าอย่างนั้นมาดูกันที่ราคาค่าตัวของ iPhone 6 กันต่อเลยนะครับ
-
สำหรับ iPhone 6 ความจุ 16 GB ราคา $199
-
สำหรับ iPhone 6 ความจุ 64 GB ราคา $299
-
สำหรับ iPhone 6 ความจุ 128 GB ราคา $399
(หมายเหตุ : ราคาข้างต้นนี้เป็นราคาติดสัญญา 2 ปีนะครับ)
ทิ้งท้ายกันด้วยกลุ่มประเทศแรก (tier 1) ที่จะวางจำหน่าย iPhone 6 ในวันที่ 19 กันยายนนี้ น่าเสียดายที่ไม่มีประเทศไทยนะครับ และเปิดให้พรีออเดอร์ได้ในวันที่ 12 กันยายนนี้ โดย Apple ตั้งเป้าจะวางจำหน่าย iPhone 6 ในอีก 115 ประเทศภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน
จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับกับรายละเอียดที่น่าสนใจของ iPhone 6 แล้วเพื่อนๆสมาชิกมีความเห็นกันว่าอย่างไรบ้างครับ คอมเมนต์กันได้เลยนะครับ
You must be logged in to post a comment.