หลังจากดูรีวิวแกะกล่องและเคสทั้ง 2 รุ่นของ Wiko Rainbow กันไปแล้ว วันนี้ไปข้อมูลในฝั่ง Software ของตัวเครื่องกันบ้างขอขอบคุณ Wiko Thailand สำหรับเครื่องทดสอบและใช้ในการเขียนบทความนี้ค่ะ
เริ่มกันเลย
เริ่มที่ luancher กันเลย Launcher ของ Wiko Rainbow เป็นรูปแบบเดียวกันกับ Wiko Wax 4G ที่เป็นา pure google แต่มีหน้าโฮมหรือหน้าหลักมาให้ใช้งาน 2 หน้า ไม่สามารถตั้งค่าต่างๆ ของ Launcher ได้ สามารถเปลี่ยนได้เพียงภาพพื้นหลังเท่านั้น
แตะที่พื้นที่ว่างบนหน้าจอค้างไว้ จะเป็นการดึงเมนู วอลเปเปอร์ , วิตเจ็ต และการตั้งค่า
ตามภาพด้านล่างจะพบว่า Wiko rainbow จัดเรียง AppDrawer ไอคอนในแบบ 4×5 แถว มีแอปพลิเคชั่นที่จำเป็นสำหรับการใช้งานมาให้ ค่อนข้างครอบคลุม ทั้ง แอปเกี่ยวกับข่าวสารและพยากรณ์อากาศ , เครื่องคิดเลข , ตัวจัดการไฟล์ , browser สำหรับการใช้งาน Internet ที่มีทั้ง browser กับ Chrome , แอปพลิเคชั่น social media ยอดนิยมอย่าง facebook และ instagram รวมไปถึงแอปพบิเคชันที่คอหนังคงจะถูกใจไม่น้อยอย่าง Movie studio ก็ถูก bundle มาให้เรียบร้อย
รวมทั้ง ระบบสแกนไวรัสบนสมาร์ทโฟนที่มี Norton Mobile Security ที่มีความสามารถต่างๆ ดังนี้
1) สแกนมัลแวร์ (Malware) ที่มาจาก App ที่ดาวน์โหลดมาใช้งาน , การอัพเดทต่างๆ รวมไปถึงไฟล์จาก microSD Card ซึ่งจะใช้เวลาในการสแกนสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ หน่วยความจำ 8GB ประมาณ 30 วินาที
2) สามารถบล็อคเบอร์โทรกับ SMS ที่ไม่ต้องการ
3) สามารถให้ผู้ใช้งานสามารถหาตำแหน่งของโทรศัพท์ หรือจัดการลบข้อมูลสำคัญจากโทรศัพท์ได้จากระยะไกล มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะกรณีที่ Wiko rainbow โดนขโมย ซึ่งเจ้าของเครื่องสามารถเพิ่มผู้ติดต่อที่ไว้ใจได้ เช่น สมาชิกในครอบครัว เพื่อนสนิท และเพิ่ม Permission ในการปลดล็อคโทรศัพท์ในกรณีที่ทำโทรศัพท์หายหรือโดนขโมย ก็พิมพ์คำว่า locate หรือ lock หรือ wipe (ลบข้อมูล) จากเครื่องที่เราได้เพิ่ม Permission ไป เพียงแค่นี้ก็สามารถจัดการกับข้อมูลสำคัญๆ รหัสลับ ที่อยู่ภายในโทรศัพท์ของเราได้
4) เพิ่มความปลอดภัยในกรณีที่เข้าเว็บไซต์ที่คาดว่าจะเป็นเว็บไซต์ที่อันตราย
สำหรับการเข้าถึงหน้าจอ ระบบตั้งค่าในการปลดล็อคหน้าจอ ค่า default จะเป็นการลากเลื่อน ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนได้ในภายหลัง ( ไปที่ setting >> security >> screen lock จากนั้นเลือกรูปแบบการล้อคหน้าจอตามที่ต้องการ ซึ่งสามารถตั้งค่าการล็อคแบบ Slide , face unlock , Voice unlock , Pattern, pin และ Password)
เมื่อกดปุ่ม Home ค้างไว้จะเป็นการเรียกใช้งาน recent apps และสำหรับการจับภาพหน้าจอทำได้โดยกดปุ่ม Power + ปุ่มลดระดับเสียง พร้อมกัน
Wiko Wax 4G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 ( Kitkat) พื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายในที่ให้มา 8GB จะเหลือให้ใช้จริงอยู่ที่ประมาณ 6GB โดยแบ่งเป็นพื้นที่ติดตั้งแอพ 2.05GB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลทั่วไป 3.99GB
UI ของหน้า Setting เหมือนสมาร์ทโฟนแอนดรอย์ทั่วไป มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ Smart Gasture โดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ เพียงแค่ใช้มือลากผ่านเซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหวที่หน้าหน้าเครื่อง ก็สามารถปลดล็อคตัวเครื่อง , รับสาย , ถ่ายภาพ และโทรออกได้ เป็นต้น
แป้นพิมพ์มาตรฐานจาก Android Keyboard (AOSP) ถ้าไม่ถูกใจสามารถหาโหลดแบบอื่นๆ ได้จาก Play store
ไปดูหน้าตา UI สำหรับการใช้งานโทรศัพท์กันบ้าง
การแสดงผลหน้าจอสำหรับสายเรียกเข้า (แสดงผลครึ่งจอ) และการโทรออก (แสดงผลเต็มหน้าจอ)
เข้าใช้งาน internet ผ่าน Browser ที่มากับตัวเครื่องและ Chrome
ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของ Wiko Rainbow
ผลทดสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch ของ Wiko Rainbow สามารถสัมผัสได้สูงสุด 10 จุด
เซ็นเซอร์บน Wiko Rainbow เมื่อใช้โปรแกรม Android Sensor Box ได้ผลการทดสอบดังนี้
Accelerometer Sensor
Light Sensor
Orientation Sensor
Proximity Sensor
Sound Sensor
ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย AnTuTu Benchmark ได้ 17633 คะแนน
ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย Quadrant Standard ได้ 8653 คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย Velamo (Browser) ได้ 1840 คะแนน (Chrome Browser ได้ 1648 คะแนน)
ผลทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย NenaMark 2 ได้ 52.3 เฟรม/วินาที
ผลการทดสอบข้างต้นพบกว่า ประสิทธิภาพการทำงานของ Wiko Rainbow อยู่ในระดับกลาง
คำแนะนำสำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนสเปคกลางๆ ราคาไม่แรง สามารถใช้งาน 2 ซิม รับสายและโทรออกได้ เช็คเมลล์ คุยแชท โซเชียลได้ เล่นเกมไม่หนักมาก สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม
facebook.com/WikoMobileThailand
Instagram : WikoMobileThailand
Line ID : JmallThai / 678shell
ถูกใจบทความนี้ 0
You must be logged in to post a comment.