เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2014 ที่ผ่านมา Garmin ได้เชิญเหล่าเว็บไซต์และบล็อกเกอร์เข้าไปพบกะพูดคุยพร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด 4 ตัวประกอบไปด้วย Vivosmart, Forerunner 920XT, Edge 1000 และ Driving Camera GDR 45 ที่ร้าน i-Taste Cafe ซึ่งทางเว็บไซต์ PDAMobiz ก็ได้รับเชิยเข้าร่วมงานครั้งนี้และเก็บตกงานมาฝากสมาชิกเช่นเคยครับ
ขอบคุณ Garmin ที่เชิญ PDAMobiz เข้าร่วมงานครั้งนี้ด้วยครับ
อย่างที่บอกไปข้างต้น วันนี้ Garmin เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ 4 ตัวประกอบด้วย Vivosmart, Forerunner 920XT, Edge 1000 และ Driving Camera GDR 45 ตามที่เห็นเลยครับ
ถึงเวลานำเสนอผลิตภัณฑ์ละ โดยคุณชาญณรงค์ ธีระโรจนารัตน์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ครับ
ผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่นำเสนอคือ Garmin Vivosmart เป็นสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ ที่แสดงได้ทั้งจำนวนก้าวเดิน แคลอรี่ที่เผาผลาญ ระยะทาง และเวลาที่ใช้ออกกำลังกายในแต่ละวัน ทั้งยังมีระบบแจ้งเตือนทีคอยย้ำเตือนให้ผู้ใช้งานเคลื่อนไหว หากไม่ได้มีการขยับตัวมากกว่า 1 ชั่วโมงอีกด้วย แน่นอนว่าใช้เป็นนาฬิกาก็ได้เช่นกัน โดยทาง Garmin บอกว่าแบตตัวนี้อยู่ได้สูงสุด 7 วันครับ
Vivosmart กันน้ำได้ระดับนึงนะครับ โชว์กันให้ดูสดๆ เลย
นอกจากจะคอยนับก้าวเดินและเป็นนาฬิกาได้แล้ว Vivosmart ยังสามารถควบคุมการเล่นเพลงของสมาร์ทโฟนได้ด้วย และยังสามารถจับข้อมูลการนอนของเราได้ด้วยครับ
และแน่นอนว่าใส่ที่ข้อมือทั้งทีจะแค่สุขภาพก็กระไร Vivosmart ยังมีฟังก์ชัน smart notification ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อแจ้งเตือนเมื่อมีสายเรียกเข้า หรือได้รับอีเมล์, ข้อความทางโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับชุมชนออนไลน์ของ Garmin ผ่านคอมพิวเตอร์ส่วนตัวด้วยสาย USB หรือ Garmin Connect Mobile App ใช้งานได้ทั้ง Android และ iOs เพื่อแบ่งปันความสำเร็จเมื่อเคลื่อนไหวได้ตามเป้าหมายเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาตัวเองได้ด้วย และยังใช้ค้นหาสมาร์ทโฟนได้โดยสั่งงานให้สมาร์ทโฟนที่เชื่อมกับ Vivosmart ส่งเสียงออกมา (ในระยะ bluetooth)
Garmin Vivosmart มีให้เลือกทั้งหมด 5 สีประกอบด้วย สีดำ สีเทา สีชมพู สีม่วง และสีฟ้าครับ มีค่าตัว 6,590 บาท จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนธันวาคม
ดูรูป Garmin Vivosmart ตัวจริงกันครับ สายเล็กมากๆ
ใช้หน้าจอ OLED
ถัดมาเป็นการพูดถึง Garmin Forerunner 920XT นาฬิกาข้อมือเพื่อความฟิต พิชิตทุกสถิติครับ
Garmin Forerunner 920XT นาฬิกาข้อมือ GPS ที่รองรับการใช้งานสำหรับกีฬาหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำก็ตาม เหมาะสำหรับนักกีฬาไตรกีฬาที่ต้องการพัฒนาศักยภาพในตนเอง มีฟังก์ชันแผนการฝึกซ้อม และยังมีฟีเจอร์หลากหลายที่ช่วยพัฒนาการวิ่ง เช่น Runnings Dynamics ที่จะคำนวณอัตราการก้าวต่อนาที การขยับตัวขึ้นลงขณะวิ่ง และระยะเวลาที่เท้าสัมผัสพื้น, ฟีเจอร์ VO2 Max สำหรับคำนวณอัตราการใช้ออกซิเจนสูงสุด ทั้งยังมีฟังก์ชัน Metronome ที่ช่วยให้จังหวะการวิ่ง
ส่วนในเรื่องของการว่ายน้ำจะช่วยคำนวณระยะทาง จังหวะการว่าย และคอยแจ้งเตือนเวลาและระยะทางเพื่อให้ถึงจุดหมายตามเวลาที่กำหนด และแน่นอนว่า Forerunner 920XT ยังมีฟังก์ชัน smart notification เช่นเดียวกัน ที่ใช้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อคอยแจ้งเตือนทุกความเคลื่อนไหว ทั้งสายเรียกเข้า, อีเมล์, ข้อความ (ได้ถึงข้อความแชทจากพวกแอพเลย) และยังเชื่อมต่อกับ Garmin Connect เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนออนไลน์ เพื่อบันทึก วางแผนและแบ่งปันผลออกกำลังกายได้ด้วยเช่นกัน
Garmin Forerunner 920XT สามารถกันน้ำได้ระดับ 5ATM มีน้ำหนักเบา (เบาจริงครับ เบาจนตกใจ) มีสองสีให้เลือกคือ ดำ-น้ำเงิน และ ขาว-แดง ส่วนค่าตัวยังไม่สรุปแต่คาดว่าจะอยู่ที่ 15000-16000 บาทสำหรับรุ่นที่ไม่มีสายวัดอัตราการเต้นของหัวใจ และ 17000 – 18000 บาท สำหรับรุ่นที่มีสายวัดอัตราการเต้นของหัวใจ (ในงานไม่มีให้ดู)
ลองสัมผัส Garmin Forerunner 920XT ครับ เบาหวิว
หน้าตาเหมือนนาฬิกาเลย :P
เทียบขนาด Garmin Forerunner 920XT กับ Samsung Gear Fit
สินค้าตัวที่สามในวันนี้ Garmin Edge 1000 GPS สำหรับนักปั่นทั้งหลายครับ
Garmin Edge 1000 GPS สำหรับนักปั่นจักรยาน ขนาดเล็กย่อมเยาว์ กันน้ำได้ มีขนาดหน้าจอ 3 นิ้ว ระบบสัมผัส สามารถใช้งานได้แม้สวมถุงมืออยู่ และตัวเครรื่องจะปรับแสงสว่างอัตโนมัติ ในตัวเครื่องมีคู่มือการฝึกฝนการขี่จักรยาน สามารถการแสดงผลระยะทาง ความเร็ว เวลาที่ใช้ และแคลอรี่ที่เผาผลาญขณะปั่นจักรยานได้ และยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมผ่านเทคโนโลยี ANT+ เพื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วยสายวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ วัดรอบปั่นด้วย Speed and Cadence sensor รวมทั้งยังสามารถนำทางด้วย GPS จากแผนที่ Nostra ได้ (แต่ต้องโหลดแผนที่ไว้ก่อนนะ)
Garmin Edge 1000 รองรับ smart notification เช่นเดียวกับ Vivosmart และ Forerunner 920XT ที่สามารถแสดงสายเรียกเข้า ข้อความ และอีเมล์จากสมาร์ทโฟนได้ โดยเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 4.0
Garmin Edge 1000 มีค่าตัวที่ราคา 23,400 บาท ตัวนี้วางจำหน่ายแล้วครับ
และสินค้าตัวสุดท้ายของวันนี้ Garmin Driving Recorder GDR45 กล้องติดหน้ารถที่มีหน้าจอขนาด 2.3 นิ้ว สามารถบันทึกวิดีโอได้ระดับ Full HD ตัวกล้องมีรูรับแสง F2.0 และมีมุมกล้องกว้างถึง 120 องศา และสามารถบันทึกภาพขณะขับรถได้อย่างคมชัด เก็บครบทุกรายละเอียดแม้จะเป็นยามค่ำคืนก็ตาม และในตัวกล้องยังมี GPS ที่ช่วยให้ข้อมูลระหว่างบันทึกด้วยการบันทึกข้อมูลแผนที่ Tracks พิกัด เวลา และความเร็ว ทั้งยังสามารถนำข้อมูลไปยังโปรแกรม PC Tool บนคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาโดย Garmin เพื่อใช้ในการอ้างอิงสถานที่ๆเกิดอุบัติเหตุ
ไม่ได้เป็นแค่กล้องนะ คอยแจ้งเตือนเวลาเข้าใกล้รถคันหน้าได้ด้วย
สามารถบันทึกวิดีโอขณะที่เราจอดรถไว้ได้ด้วย เผื่อใครถอยมาชนไรงี้ โดยจะทำงานด้วยระบบ Motion Detecting Mode ที่เมื่อมีการตรวจพบแรงสั่นสะเทือนที่อาจจะมาจากการชน กล้องจะบันทึกภาพทันที
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายจากกล้อง Garmin Driving Recorder GDR45 ครับ ชัดมั้ย ?
จริงๆ มีรุ่นพี่อย่าง GDR190 ด้วยแต่เค้าว่าราคามันสูงเลยวางจำหน่ายน้อย (แต่ไม่ได้บอกว่าเท่าไหร่)
และนี่คือ Garmin Driving Recorder GDR45 ตัวเป็นๆ ครับ ค่าตัวอยู่ที่ 8,200 บาท น่าสนใจทีเดียวเชียว
ต่อกล้องตัวที่สองได้ด้วย เผื่อใครจะถ่ายภาพทั้งหน้ารถและหลังรถพร้อมกัน ซึ่งจะแสดงผลบนหน้าจอด้วย
ปิดท้ายการเก็บตกงาน Garmin Product Breifing Day ด้วยภาพผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 ตัวครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ
ถูกใจบทความนี้ 0
You must be logged in to post a comment.