รีวิว หูฟังบลูทูธ JBL Synchros Reflect BT สำหรับนักออกกำลังกาย
ช่วงนี้บ้าเรื่องสุขภาพการวิ่งตามเทรนด์กะเขาบ้าง แน่นอนครับว่าพอดีกับเจ้าหูฟังบลูทูธจาก JBLที่ส่งมาให้ทดสอบ รีวิวกันพอดี เลย ได้ทดสอบวิ่งช่วงนี้พอดี แบบว่ากำลังฟิต (มั้ง) สำหรับ JBL Reflect ชื่อเต็มๆ เค้าคือ JBL Synchros Reflect BT แน่นอนว่าค่าย JBL รับประกันเรื่องคุณภาพเสียง แต่มาใช้งานเรื่องการออกกำลังกายล่ะ จะเวิร์คแค่ไหน มาดูกันครับ
วันนี้ก็อย่างที่เรียนให้ทราบทั่วกัน มาแนะนำ JBL Synchros Reflect ซึ่งเป็น Bluetooth Headset Stereo รุ่นล่าสุดจาก JBL ที่รับประกันเรื่องพลังเสียง ให้ครบทุกอรรถรสการฟังเพลง ทำให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องน่าสนุกมากยิ่งขึ้น ผมเชื่อว่า หลายคนคงเป็นเจ้าของ JBL หรือไม่ก็ต้องเคยลองฟังเสียงของอุปกรณ์อื่นๆ ของ JBL กันบ้าง คงจะเห็นด้วยกับผมอย่างแน่นอน เรื่องพลังเสียงนะครับ วันนี้ผมมาแกะกล่อง พร้อมแนะนำกันเล็กๆ ก็แล้วกันครับ
ก่อนอื่นคงอยากรู้ราคาค่าตัว สำหรับ JBL Reflect (ขอเรียกสั้นๆ ตามชื่อที่เชื่อมต่อกับ Smartphone) ราคาอยู่ที่ 3,990 บาท และมาดูสเปคกันก่อน
- การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ช่วยให้เกิดความคร่องตัวสูง ใช้งานได้ต่อเนื่องนาน 5 ชั่วโมง ระยะห่างการเชื่อมต่อ Bluetooth กับ Smartphone อยู่ที่ 12 เมตร
- สายเคเบิลมีลักษณะสะท้อนแสง พร้อมตัวพับเก็บสายเคเบิล ที่กำหนดความยาวของสายเคเบิลให้เหมาะได้ ทนต่อเหงือ และน้ำ มองเห็นได้อย่างเด่นชัด แม้อยู่ภายใต้สภาวะที่มีแสงน้อย สมบรูณ์แบบ สำหรับการออกกำลังกายในช่วงค่ำของแต่ละวัน
- สายเคเบิล มีคลิปจัดระเบียบไม่ให้เกะกะ และช่วยให้สายเคเบิลมีความกระชับ รองรับทุกการเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจ
- รองรับ iOS สามารถควบคุม การเปิดใช้งานไมโครโฟนผ่าน Remote ได้ เพื่อความสะดวกสบาย สำหรับการรับสายเรียกเข้าในขณะที่ใช้งานกับปุ่มควบคุมการรับสาย และการปรับระดับของเสียงเพลง พร้อมทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับ Application iOS เพื่อรองรับการใช้งานฟังก์ชั่นอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย
- คุณภาพเสียงคมชัดมาก กับลำโพงขนาด 8.5mm ช่วยให้เสียงเบสมีความโดดเด่น และเสียงร้องที่มีความชัดเจน
- สีสันสดใส ทนทานต่อเหงื่อ และน้ำ
- เชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Bluetooth
- สายเคเบิลแบบสะท้อนแสง พับจัดเก็บได้
- Ear-Tips มีการออกแบบให้องศาของมุนแต่ละอันเข้ากับสรีระของหูได้อย่างพอดี
- มีระบบจัดเก็บสายได้อย่างเป็นระเบียบไม่เกะกะ
- รองรับ Application iOS สำหรับการควบคุมไมโครโฟนผ่าน Remote
- ประสบการณ์ใหม่ กับคุณภาพเสียงจาก JBL
Specifications
- Premium 8.5mm dynamic driver
- Frequency response : 10Hz – 22kHz
- Connection : Bluetooth
สำหรับ JBL Reflect มีให้เลือกหลายสี สีที่ผมได้มาก็ตามหน้ากล่องเลยครับ สีเขียว มีสีดำ สีฟ้า และสีแดง ให้เลือกตามชอบใจด้วยนะ อันนี้ก็คงต้องดูว่า Smartphone ที่ใช้งานเป็นสีอะไร เผื่อให้แมทช์กัน เพราะอีกมุมนึงก็ต้องบอกว่าเจ้า JBL Reflect นี่ก็เป็นอุปกรณ์ประดับตัวได้เหมือนกันนะ
หูฟังที่ใช้งานกัน ต้อง ฺBurn ซึ่ง JBL จัดให้ดาวโหลดแอพแล้วจัดการ Burn ให้เสียงเข้าที่เข้าทางได้เลย มือโปรสบายเลยล่ะงานนี้
ด้านข้างกล่องมีบอกรายละเอียดการใช้งานปุ่มต่างๆ เอาไว้ครบ
พามาดูรอบๆ กล่องแล้ว ยังคงดีไซน์ มีรายละเอียดครบ รวมถึงคุณภาพของกล่อง ก็ไม่ธรรมดาตามสไตล์ JBL ให้ความสำคัญกับทุกๆ
เปิดกล่องกันบ้างครับ ด้านในยังมีรายละเอียดระบุการใช้งานเบื้องต้นไว้ให้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการปรับสาย หรือการใส่ให้ฟิตกับรูหู มี Earbud ให้หลายขนาด S M L เพราะขนาดใบหูและรูหูของเราไม่เท่ากัน หากใครใส่แล้วรู้สึกว่าหลวมหรือแน่นไป อย่าลืมเปลี่ยนนะครับ เพราะการออกกำลังกาย การสวมใส่แบบสบายๆ มีผลนะ
เปิดกล่องออกมา เอาเจ้า JBL Reflect มาทดสอบสักที
ภาพที่เห็นอาจจะสีเขียวอ่อนไปนิด แต่ของจริงๆ สีจะเขียวเข้มนะ
ด้านในมีอุปกรณ์อย่างที่เห็น คู่มือ สายชาร์จ Earbud ขนาดต่างๆ แน่นอนว่าเราไม่เห็น Adapter ดังนั้น ใช้ Adapter ที่มีอยู่ได้เลย แนะนำ output แค่ 500 mA พอนะครับ หรือง่ายๆ ก็ชาร์จผ่านพอร์ท USB หรือจะ 1A ก็พอไหว เท่าที่ผมลองใช้ก็จะชาร์จเต็มเร็วกว่า 500 mA จริงๆ ผมชาร์จทิ้งไว้ตอนก่อนนอน แต่อย่าใช้ถึง 2A เลยครับ อันนี้เสี่ยงที่ JBL Reflect จะรับไม่ไหว
ขนาด Earbud ที่เหลือ มีให้เลือกอีก 2 ขนาด หากใครขนาดใบหูและรูหูไม่ฟิตกับขนาดที่ให้มาก็ต้องบอกว่าเสียใจล่ะ
สำหรับ Earbud เป็นยางนุ่มๆ ถอดเปลี่ยนง่าย รวมถึงถ้าเป็นยางแบบนี้ ล้างน้ำเปล่าทำความสะอาดได้ง่ายด้วย
สำหรับ JBL Reflect ขนาดไม่ใหญ่นัก น้ำหนักเบา จากสเปคก็ไม่ได้ระบุว่ากี่กรัมซะด้วย
สำหรับ JBL Reflect ความยาวสายประมาณ 50 เซนติเมตร ประมาณ 1 ช่วงแขน สามารถปรับให้สั้นหรือยาวได้ มีตัวรัดสำหรับปรับสายแบบแน่นๆ ไม่ขยับไปมาเวลาวิ่งด้วยนะครับ
เรื่องของพลังเสียง ด้วยขนาดของลำโพงขนาด 8.5 mm. ไม่แปลกใจที่ JBL ทำได้ค่อนข้างดี ถึงดีมาก เท่าที่ลองใช้งาน ฟังเพลง ในหลายๆ สไตล์ เครื่องดนตรี พลังเสียงทุ้ม แหลม เร้นท์ของเสียง เก็บได้ครบจริงๆ และกำลังขับสูง ความดังนี่ให้ความดังมากกว่าหูฟังทั่วๆ ไป แนะนำว่าอย่าเปิดดังสุดไม่งั้นหูแตกแน่ๆ
เรื่องของการใช้งาน การใส่กับใบหูอันนี้สำคัญ เวลาออกกำลังกายหากไม่ฟิตพอดีกับใบหู จะทำให้เป็นกังวลระหว่างออกกำลังกาย ดังนั้นอย่างที่บอกล่ะครับว่า แนะนำให้เปลี่ยนให้เหมาะสม อย่างผมช่วงแรก ใส่ขนาดใหญ่ ทำให้เวลาระหว่างออกกำลังกาย รู้สึกเจ็บและเมื่อยหูด้วยนะครับ ขอให้ปรับให้พอเหมาะกับใบหูเรา
ลองถอด Earbud มาถ่ายรูปอีกสักที
ด้านในของตัวหูฟังมีระบุ L หรือ R สำหรับการใส่หูข้างที่ถูกต้อง
ปุุ่มสำหรับควบคุม เล่นเพลง หรือรับสายโทรศัพท์อยู่ตรงนี้หมด รวมถึงปิดหรือเปิด JBL Reflect ด้วยนะ
ที่ได้ชื่อว่า Reflect ตือตรงสายนี่ล่ะครับ เพราะว่าเวลาใส่วิ่งหรือปั่นจักรยานตอนกลางคืน มันจะสะท้อนแสง ให้เห็น เรียกว่าป้องกันอันตรายในการออกกำลังกายได้อีกส่วนนึง นี่คือการออกแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัยด้วย
ไฟ LED อยู่ด้านขวา และบอกสถานะ ตามไฟที่กระพริบ ซึ่งตอนออกกำลังกายเราไม่เห็นแน่ๆ จะเห็นก็ตอนที่หลังออกกำลังกายหรือเตรียมเจ้า JBL Reflect ซึ่งหลักๆ คงเป็นเรื่องแบตเตอรี่ ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 5 ชั่วโมง หากไม่ใช่นักวิ่งมาราธอนที่ระยะทางยาวมากๆ 5 ชั่วโมงนี่เหลือๆ แต่ถ้าออกกำลังกายระหว่างวันตามปกติ ผมว่าเจ้า JBL Reflect นี่สบายๆ ครับ
แต่เมื่อแบตในตัว JBL Reflect หมดจะทำยังไง แน่นอนว่าก็ต้องชาร์จ และพอร์ท micro USB ที่ชาร์จ ซ่อนอยู่ที่ตรง ตัวอักษรแบรนด์ JBL ที่ติดกับหูทางด้านขวา (R) แกะออกมาได้เลยไม่ต้องกลัวว่าจะพัง อันนี้ก็ดีไซน์มาดีนะ
ส่วนตัว JBL Reflect อีกจุดนึงก็คงเป็นเรื่องของการป้องกันความชื้นหรือเหงื่อในการออกกำลังกายได้ด้วย
เรื่องของแอพพลิเคชั่น JBL Reflect ไม่ได้มีแอพเฉพาะตัวติดมาด้วย มีแค่ Burn-in Headphone ใน App Store แต่ทว่าผมตามหาดาวโหลดไม่เจอ เอาไว้ถ้าจะเจอจะมาแจ้ง แต่โดยหลักๆ บน iOS จะมี JBL Onbeat สำหรับฟังเพลง ให้ใช้งานกัน เหมือนบน Android มีแค่ JBL Music สำหรับเล่นเพลงเช่นเดียวกัน สำหรับแอพบน JBL by Harman อาจจะไม่ได้เน้น เพราะ JBL เน้นคุณภาพเสียง
– คุณภาพเสียง ของ JBL Reflect ต้องบอกว่าครบทุกช่วงเสียง เสียงนักร้อง ดนตรี เบส แหลม ทุ้ม ด้วยขนาดลำโพง 8.5 มม. ทำให้ได้ครบทุกอรรถรสจริงๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไปลองฟังกันก่อน
– การสวมใส่ สำหรับการใช้งานสวมใส่ขณะออกกำลังกาย ใส่สบาย แต่ส่วนตัวที่ไม่ชอบคือสายที่ดูเหมือนจะแกะกะ แต่เอาเข้าจริง สามาถเก็บได้กระชับกับคอด้านหลัง ใส่ออกกำลังกายสบาย
– แต่สิ่งที่พบเมื่อใช้งานคือ การเชื่อมต่อบลูทูธ เมื่อขณะวิ่ง กลับมีสัญญาณขาดหายเป็นช่วงๆ โดย Smartphone ที่ใช้เป็น Android แต่หากเป็น iPhone กลับไม่พบปัญหา แต่ว่าพบตรงที่เอา Android ใส่ไว้บน Armband นะครับ ถ้าถือในมือก็ไม่เกิดปัญหาใดๆ ดังนั้นการพกพาอาจจะทำให้เกิดปัญหาได้นะครับ อันนี้ต้องทดสอบกันดูอีกที
– เรื่องการออกแบบ Reflect ช่วยสะท้อนแสงในตอนกลางคืนได้ แต่หากเป็นถนนในประเทศไทยก็ไม่แนะนำ เนื่องจาก หากเป็นการขี่จักรยานคงมีอุปกรณ์ช่วยอยู่แล้ว แต่หากเป็นการวิ่ง สายคล้องคออาจจะไม่เพียงพอกับเรื่องความปลอดภัยในบ้านเรานะครับ
– JBL ควรจะมีแอพที่พัฒนาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพหูฟังให้มากกว่านี้ อาจจะเน้นเรื่องอุปกรณ์ลำโพงบลูทูธซะมากกว่า แต่อนาคตเชื่อว่ามีการพัฒนาต่อยอด
You must be logged in to post a comment.