ในยุคปัจจุบันนี้ทุกคนหันมาใช้สมาร์ทโฟนกันหมด และแน่นอนว่าสมาร์ทโฟน 1 เครื่องก็ต้องให้อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่มา 1 ชุดซึ่งจะประกอบด้วยสาย Micro USB เส้นนึงแน่นอน ส่วนอีกอันจะเป็น Charger หรือ Adapter นั้นก็แล้วแต่รุ่นไป แต่ที่แน่ๆ ปัจจุบันชีวิตเราไม่ได้อยู่แต่ในบ้าน ฉะนั้นสายเส้นเดียวอาจจะไม่พอสำหรับหลายๆ คน แน่นอนว่าจะให้พกอันเดียวไปไหนมาไหนก็กระไร อยากจะมีทิ้งไว้ที่ออฟฟิศบ้างไรบ้าง ก็เลยต้องหาซื้อสาย Micro USB อีกเส้นก็ว่าไป แต่จะซื้อของอะไรดีล่ะ ในเมื่อของถูกก็ไม่ทน เครื่องจะช็อตรึเปล่าก็ไม่รู้ วันนี้เลยจะมาแกะกล่องสาย Micro USB ของ Belkin ให้ชมกันครับ
ตามธรรมเนียมการแกะกล่องครับ ต้องดูกล่องกันก่อน ฮ่าๆ สายที่ได้มารีวิวนี้มีความยาว 1.2 เมตร ตามหน้ากล่องครับ ซึ่งจะยาวกว่าสายปกติที่ให้มากับเครื่องโดยทั่วไปอยู่ 20 เซนติเมตร ด้านหน้ากล่องยังบอกว่ารองรับการชาร์จ/ซิงค์ข้อมูลด้วย ซึ่งจากที่ทดสอบการชาร์จ/ซิงค์ข้อมูลกับสมาร์ทโฟน Android ที่มีไม่ว่าจะเป็น LG, Samsung, i-mobile, Nokia พบว่าสามารถซิงค์ข้อมูลเข้าคอมได้ตามปกติครับ ไม่มีปัญหาอะไร
ด้านหลังกล่องก็บอกรายละเอียดอีกทีครับว่าใช้ชาร์จได้ซิงค์ได้ และกลางๆ ด้านหลังกล่องจะมีแถบสีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ซึ่งสีที่ได้มารีวิวนั้นเป็นสีดำครับ
มาดูด้านข้างกล่องกันต่อ เริ่มจากด้านซ้ายไม่มีอะไร คำเดิมอยู่แทบทุกมุมกล่อง MIXIT CHARGE/SYNC ABLE ชาร์จได้ซิงค์ได้นั่นล่ะ ด้านขวากล่องบอกว่าสามารถใช้งานได้กะอะไรบ้ง แน่นอนสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตนานาชนิด ที่เขียนไว้ก็มี Samsung, Kindle, HTC, Nokia, LG, Nexus, Motorola
ด้านบนกล่องไม่มีอันใด มีที่ห้อยแล้บออกมา และด้านล่างกล่องมีหลายภาษาอยู่ครับ อ่านไม่ออก ที่อ่านออกก็คือโปรแกรมการรีไซเคิลแพ็คเกจสินค้านี้อาจไม่ได้อยู่ในบริเวณที่คุณอยู่ ก็อาจจะต้องเป็นประเทศอืนที่ไม่ใช่บ้านเรามั้ง ฮ่าๆ ยังไงหว่า
ทั้งนี้ทั้งนั้นจะเห็นว่าทุกด้านของกล่องจะมีวงกลมสีดำล้อมด้วยสีขาวเพื่อบ่งบอกว่าสาย Micro USB เส้นนี้เป็นสายสีดำครับ
เอาล่ะ ได้เวลาดูของในกล่องกันละ เปิดมาก็เจอสาย Micro USB Belkin นอนรออยู่ในถาดสีขาวแบบนี้ครับ คงไม่มีใครเปิดมาแล้วเจอแต่ถาดนะ
ตัวสายดูไม่ค่อยแตกต่างจากสาย Micro USB ที่ได้กันมาตามกล่องสมาร์ทโฟนที่ซื้อครับ แต่ตรงหัวเสียบเข้าสมาร์ทโฟนและเข้าคอมจะมีคำว่า Belkin สลักอยู่ชัดเจนตามภาพเลย
ลองเอาสาย Micro USB ที่ได้มากับกล่องสมาร์ทโฟนมาเทียบกับสายของ Belkin ดูครับ ตอนแรกก็คิดว่าไม่แตกต่างจากสายปกติเท่าไหร่ แต่พอลองจับดูรู้สึกว่าสายของ Belkin จะมีความแข็งมากกว่าครับ และหัวฝั่งที่เสียบเข้ากับสมาร์ทโฟนดูจะหนากว่าสายที่ได้มาพร้อมกล่องอยู่เล็กน้อยครับ
ทีนี้หลายคนคงมีคำถามว่าทำไมต้องซื้อสาย Micro USB ของ Belkin ครับ และราคามันเท่าไหร่กันล่ะ เดี๋ยวขอไล่กันทีละข้อนะครับ
– สาย Micro USB Belkin มีความยาวให้เลือกหลายขนาดครับ เท่าที่ผมเคยเห็นตอนนี้ก็มีความยาว 15 เซนติเมตร, 1.2 เมตร, 2 เมตร ละ 3 เมตรครับ เอาล่ะทีนี้อาจจะงงว่าจะเอาสั้นยาวอะไรกันไปทำไม แต่ละขนาดก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปครับ เช่น สายยาว 15 เซนติเมตร นี่เอาไว้สำหรับคนที่ต้องใช้ Power Bank บ่อยๆ ละเสียบไปเล่นไปก็ต้องถือ Power Bank พร้อมกับสมาร์ทโฟนในมือใช่มั้ยครับ ซึ่งถ้าสายยาวมันก็เกะกะ ก็เลยมีสาย 15 เซนติเมตรออกมานี่ล่ะ
ส่วนสายที่ยาวแบบ 2 เมตร 3 เมตรนีสำหรับคนที่ชาร์จไฟบ้านไปอยากจะเล่นไป แต่ไม่อยากนั่งใกล้ปลั๊กไรงี้ครับ (แต่จริงๆ ไม่แนะนำให้ชาร์จไปเล่นไปนะ อันตราย ฮ่าๆ) หรือบางทีผมเคยไปรีสอร์ทบางที่ ปลั๊กไว้ซะสูงเลย เสียบ Adapter ไปเสร็จสายยาวไม่พออะ ต้องหาอะไรมารองเพื่อให้ชาร์จได้อีก ซึ่งตรงนี้หากเป็นสายยาวๆ ก็จะไม่มีปัญหาครับ
– ราคาล่ะ? สายตัวที่ได้มารีวิวความยาว 1.2 เมตร ราคา 350 บาทครับ อาจเจอแพงกว่านี้ถ้าจำไม่ผิดเคยเห็น 390 บาท สายความยาวอื่นๆ ราคาอาจแตกต่างกันไปครับ
– แล้วดีกว่าสายทั่วๆไป 100-200 บาทยังไง? ข้อนี้คงต้องบอกว่าไม่ต้องกลัวเครื่องช็อต ไม่ต้องกลัวไฟเข้าไม่ปกติครับ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าการจ่ายไฟเข้าสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตไม่ได้มาตรฐานนี่อาจส่งผลให้แบตเสื่อมเร็วขึ้นหรือถ้ากรณีเลวร้ายหนักก็คงเครื่องระเบิดอย่างที่ออกข่าวกันครับ และสาย Belkin ยังมีประกัน 2 ปีด้วยนะครับ
– มีแต่สาย Micro USB หรอ Lightning ล่ะมีมั้ย ? ตอบเลยว่าสาย Lightning ก็มีครับ เคยเห็นที่ iStudio ความยาว 1.2 เมตรเท่ากันราคา 690 บาท
– สาย Belkin ทนกว่าจริงหรือ ? อันนี้ยังตอบไม่ได้ครับ ต้องดูกันไปยาวๆ เลย
ขอจบการรีวิวสาย Micro USB Belkin แต่เพียงเท่านี้ หวังว่าจะเป็นข้อมูลให้กับเพื่อนๆ ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ
You must be logged in to post a comment.