รีวิว แนะนำ Wiko Highway Star4G

สวัสดีครับวันนี้ผมพามาพบกับ Wiko Highway Star4G เป็นรุ่นต่อยอดของ Highway ที่ออกมาเมื่อปีที่แล้วนั่นเอง แต่งานนี้รองรับ 4G แถมยังมาพร้อมกับกล้อง 13 ล้านและการถ่ายภาพที่ผมประทับใจ รุ่นนี้เปิดขายในงาน Thailand Mobile Expo ที่จะถึงนี้เองอย่างว่าเค้าให้มาทดสอบก็จัดไปครับ กับรุ่นที่เรียกว่า top สุดในบรรดา Wiko ณ ตอนนี้

ขอบคุณ Wiko Thailand ที่ให้ยืมเครื่องทดสอบ

ผมคงไม่ต้องเกริ่นถึงเรื่องแบรนด์นี้อีกต่อไป เพราะจากที่ผ่านมาคงจะรู้จักกันอยู่แล้วล่ะเน๊อะ Wiko Highway Star4G ถือว่าเป็นรุ่นที่ราคาแรงที่สุดแล้ว 9,990 บาท แน่นอนว่าสเปคที่ให้มาก็ไม่ธรรมดา มาดูสเปคตามตารางด้านล่างกันก่อนเลยดีกว่าครับผม

จากสเปคมาดูแกะกล่องกันบ้าง

Wiko Game Changer จะมาเปลี่ยนเกมส์ยังไง อันนี้คอนเซ็ปท์น่าสนใจมาก เครื่องที่ได้มาเรียกว่าใหม่แกะกล่องกันเลยทีเดียว

ข้างกล่องจัดสเปคแจ่มๆ บอกเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว งานนี้รองรับ 4G เสียด้วย

จริงๆ มีให้เลือก 3 สีนะครับ สี bleen สีทอง และสีเทา ที่ได้มาอยู่ในมือคือสีบลีน คือไม่ใช่สีเขียวซะทีเดียว เป็นสีประจำแบรนด์ซะด้วย

อุปกรณ์ในกล่องจัดเต็มให้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นฟิล์มกันรอย เคส และหูฟังแบบ in-ear รวมถึง ยังมีถาดใส่ซิมขนาดต่างๆ อีกด้วย อันนี้แอบใส่ใจคนใช้งานโทรศัพท์ในปัจจุบัน

มาถึงเรื่องตัวเครื่องกันบ้างครับ สำหรับ Wiko Highway Star4G เป็นรุ่นที่มีสเปคสูงสุดแล้วในบรรดา Wiko หน้าจอขนาด 5 นิ้ว แต่ยังไม่ไป FullHD ให้ความละเอียดหน้าจอมาที่ HD ปกติ แต่ทว่าเรื่องรายละเอียดจัดเต็มนะครับ อย่างเช่น หน้าจอที่ใช้เป็น AMOLED ให้สีสันสวยงาม กระจกแบบ Gorilla glass 3 กันรอยได้ดียิ่งขึ้น เทียบแล้วก็เหมือนเครื่องเรือธงค่ายดังๆ เลยทีเดียว

แถมยังมีกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลชในตัวอีกต่างหาก แน่นอนว่าความละเอียดระดับนี้ก็ต้องเอาไว้ถ่ายภาพเซลฟี่ ซึ่ง Wiko Highway Star4G ก็มาพร้อมโหมดเซลฟี่ง่ายๆ พร้อมเข้าโหมดปรับแต่งหน้าสวยได้ในพริบตา

ด้านหลังหากสังเกตดูดีๆ ครับ แกะฝาหลังไม่ได้ เพราะว่าเค้าขึ้นรูปมาชิ้นเดียว เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งการดีไซน์ที่ Wiko ใส่ใจ

กล้องหลังขนาด 13 ล้านพิกเซล คือความละเอียดไม่เท่าไหร่ แต่ชัทเตอร์นี่ไวดีนะ และที่ขาดไม่ได้เลยคือซิมที่ใช้งานคือขนาด micro SIM สามารถใส่ได้ 2 ซิม แต่ทว่าซิมที่ 2 ต้องใส่ nano SIM นะครับ หรือจะสลับไปใส่เมมเพิ่มก็ได้ อันนนี้แล้วแต่การใช้งานเลย

มาดูด้านข้างกันบ้าง ด้วยการออกแบบขึ้นรูปชิ้นเดียว ทำให้ไม่สามารถเปิดฝาหลังได้ ดังนั้นช่องใส่ซิมต่างๆ ก็จะเป็นถาดเลื่อนออกมาทางด้านข้าง ความบาง นี่ก็ใช่ย่อย บางแค่ 6.6 มม. แน่นอนว่าจับกระชับมือใช้งานมือเดียวได้สบายๆ

อีกด้านก็มีแค่ปุ่ม เร่ง และลดเสียง

ภาพถ่ายอาจจะมีฝุ่นติดหน่อยนะครับ ต้องขออภัยด้วย ภาพด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่อง จะเห็นว่าตำแหน่งลำโพงอยู่ด้านล่าง เสียงใสซะด้วย

ลองเปิดเครื่องใช้งานกันหน่อย เจ้า Wiko Highway Star4G มาพร้อมกับภาพ Wallpaper สวยๆ เก๋ๆ ซึ่งแบรนด์ Wiko ไม่ได้ทำ UI ครอบตัวเครื่อง ทำให้การใช้งานภาพรวม รวดเร็ว ลื่นอย่าบอกใครเลย

ในการ unlock หน้า lock screen สามารถเข้าใช้งานได้ 3แบบคือ เข้าใช้งานกล้อง เข้าใช้งานโทรศัพท์ หรือปลดล็อคปกติเพื่อเข้าหน้า Home screen

สำหรับ app drawer ไม่ต้องหาเพราะว่า Wiko ไม่ได้จัดมาให้ แอพทั้งหมดจะอยู่ที่หน้า Home screen โดยจะจัดเรียงให้อยู่ในหน้าถัดๆ ไป

สำหรับแอพต่างๆ ที่ให้มาก็ครบถ้วนกับการใช้งาน แน่นอนว่าเรื่องแอพนี่ไม่เกี่ยงอยู่แล้ว

แน่นอนว่ามาพร้อมกับ Android 4.4.4 แต่ทว่าอนาคตได้รับอัพเกรดเป็น 5.0 แน่นอน แต่ต้องรอเวลาหน่อย

มีระบบ Smart awake หรือโมชั่นโหมดที่ช่วยในการควบคุมการใช้งานต่างๆ ได้

มาดูเรื่องกล้องและการถ่ายภาพกันบ้าง

มีฟีเจอร์ให้เลือกไม่น้อยเหมือนกัน ส่วนที่น่าสนใจก็คงเป็นการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ หรือโหมดโปรนั่นเอง สามารถปรับต่าต่างๆ ได้ตามต้องการ

นอกจากนั้นยังสามารถปรับจุดวัดแสงกับจุดที่โฟกัสได้ เป็นอิสระจากกัน อันนี้ก็แจ่มนะ เพราะบางครั้งจุดโฟกัสก็ไม่ใช่เป็นจุดวัดแสงที่ดี

กล้องด้านหน้าสามารถ่ายวีดีโอได้แบบ FullHD เลยทีเดียว

แอพหน้าสวย สำหรับปรับแต่งหน้าให้ขาวขึ้น เนียนขึ้น ใสขึ้น รับรองว่าแจ่ม จริงๆ โหมดถ่ายภาพแบบใบหน้าเสริมงามก็ได้ในระดับนึงอยู่แล้ว แต่ยังสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ เรียกว่าเอาใจคนรักสวยรักงามจริงๆ

ตัวคีย์บอร์ดภาษาไทยและอังกฤษ อันนี้ได้มาจาก Touchpal พิมพ์ได้คล่องดี เว้นเสียแต่ว่าตอนเดาคำศัพท์ บางทีไม่โดนใจ เวลาใช้งานหากไม่ถนัดอาจจะต้องเอาฟีเจอร์เดาคำศัพท์ออก

เชื่อว่าต้องมีคนจำนวนนึงใช้งานพวกตัดต่อวีดีโอ แน่นอน ดังนั้น Wiko Highway Star4G มีแอพตัดต่อคลิปมาให้ในตัว แต่ตัวขนาดของคลิปจะได้ที่ 720p จะยังไม่ถึงขนาด FullHD นะครับ

ลองทดสอบคะแนนกันบ้าง ระดับ Octa-core ก็ไม่ขี้เหร่แล้วล่ะ

ทิ้งท้ายด้วยภาพถ่ายตัวอย่าง ทั้งภาพถ่ายปกติ ปรับแสง และ เซลฟี่ คลิ้กที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ได้เลย

มาสรุปกันสักนิด

สำหรับ Wiko Highway Star4G เป็นรุ่นที่มีสเปคแรงที่สุดแล้วในบรรดาพี่น้อง Wiko ซึ่งราคาค่าตัวที่ 9,990 บาท ถือว่าแรงไหม สำหรับผมคิดว่าแรงไปนิดนึง แลกกับสเปค หน้าจอและบอดี้ที่ขึ้นรูปชิ้นเดียวที่จับถนัดมือ ใช้งานมือเดียวสะดวก โดยการใช้งาน ภาพรวมแล้วลื่นดี อาจจะด้วยไม่ได้มี UI ครอบ แต่ทว่ามีแค่ Theme หรือ Launcher ปกติติดตัวมาแค่นั้น ทำให้การทำงานรวดเร็ว ตัวเครื่องจับกระชับมือ จริงๆ เท่าที่ใช้งานที่ประทับใจสุดก็คงเป็นเรื่องชัทเตอร์ และภาพที่ได้ ซึ่งประสบการณ์กับ RidgeFAB 4G นี่ไม่ค่อยดี แต่มาเจอ Wiko Highway Star4G นี่โอเคมาก เรื่องความอึดของแบต อาจจะด้วยรองรับ 4G ใช้งานได้ประมาณวันนึงชั่วโมงทำงานคงพอไหวอยู่ เพราะที่ผมใช้จริงๆ คือ data อย่างเดียว ไม่ได้ใช้โทร ซึ่งก็ถึงบ้านชาร์จพอดี จริงๆ ปัจจุบันผมลองใช้งานกล้องเป็นหลัก เพราะสเปคและอื่นๆ ไม่ค่อยต่างกันมาก แต่ Wiko Highway Star4G ก็มาพร้อมกับ Octa-core อาจจะไม่ได้ให้ความเร็วมามากนัก แต่ก็ใช้งานได้ดี ที่ระดับความเร็ว 1.5 GHz ก็ถือว่าพอแล้วกับการใช้งานทั่วไปและมัลติมีเดียต่างๆ พื้นที่ใช้สอย 16 GB ก็อาจจะยังไม่พอ แต่ยังไงก็ยังเพิ่มเมมได้ ซิมที่ใช้งาน ผมลองใส่ซิมขนาด nano ที่ซิม 2 ปรากฎว่าใช้งาน 4G ได้ด้วย ก็สะดวกดีจะเลือกเมมหรือซิมในช่องใส่ซิมช่องที่ 2 ก็ทำได้ สุดท้าย Wiko ยืนยันว่ารุ่นนี้จะได้รับอัพเกรดเป็น Android 5.0 อีกด้วย ก็เป็นอีกรุ่นที่น่าลองนะ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับผม