Android Review: แกะกล่อง & รีวิว i mobile IQ BIG 2 พี่บิ๊กแบตเบิ้มสุดคุ้ม Gen 2 ของค่ายไอโมบาย !!!

Android Review: แกะกล่อง & รีวิว i mobile IQ BIG 2 พี่บิ๊กแบตเบิ้มสุดคุ้ม Gen 2 ของค่ายไอโมบาย !!!

 i-mobile IQ BIG 2 เพิ่งจะเปิดตัวกันไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยเป็นซีรีย์ Big ที่ชูจุดขายในเรื่องความจุของแบตเตอรี่อันมหาศาลเหมือนตัวรุ่นพี่ IQ BIG 1 ถึงแม้ว่าเจ้าตัว i-mobile IQ BIG 2 จะไม่ได้เดินตามรอยเท่ารุ่นพี่แบบเป๊ะ ๆ เพราะให้แบตมาเพียง 4000mHz ก็ตาม แต่ด้วยความจุขนาดนี้ ก็ต้องบอกว่าน้อยแบรนด์ที่จะกล้ามาท้าชนครับ วันนี้ IQ BIG 2 เดินทางมาถึงมือผมเป็นที่เรียบร้อย จึงขอพามาชมการแกะกล่อง & ฟูลรีวิวให้ได้รับชมกันเหมือนเช่นเคยครับผม

ขอขอบคุณ i-mobile สำหรับเครื่องทดสอบและใช้ในการเขียนบทความนี้ครับ
……

 

ข้อมูลทั่วไป

* ซีพียู (หน่วยประมวลผลกลาง) MTK6582M, 1.2 GHz Quad Core
* ROM/RAM: 16GB/2GB, รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ Micro SD (สูงสุด 32 GB)
* หน้าจอ 5.5 นิ้ว IPS และมาพร้อมเทคโนโลยี OGS
* ระบบปฏิบัติการตัวเครื่อง Andriod 5 (Lollipop)
* รองรับการใช้งานแบบ 2 SIM
* 2G: 900/1800 MHz
* 3G: 850/2100 MHz
* แบตเตอรี่ 4000  mAh
* ขนาดของตัวเครื่อง 150.5×76.5×8 mm.
* น้ำหนัก 156 กรัม

ราคาวางจำหน่าย 4,990 บาท

Full Specification ผมขอยกมาจาก Official เพจ ของ i-mobile โดยตรงเลยนะครับ >>> i-mobile IQ BIG2 Specification

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามาเริ่มแกะกล่องกันเลย


ตัวแพกเกจของ i-mobile IQ BIG 2 มาในโทนขาวสว่าง เน้นจุดเด่นในเรื่องของความจุแบตเตอรี่และฟีเจอร์ Float Task มาให้เห็นอย่างเด่นชัดที่ด้านหน้ากล่อง


ด้านหลังพิมพ์บอกบอกจุดเด่น และสเปคเบื้องต้นของตัวเครื่อง IQ BIG 2


แง้มกล่องออกมา ลำดับแรกเลยก็จะพบกับตัวเครื่องที่ถูกห่อหุ้มมาเป็นอย่างดี


เมื่อยกตัวเครื่องออกมาจากกล่อง จะเห็นว่าที่ตัวถาดรองมี Caution! แจ้งเตือนเอาไว้ ทั้งเรื่องของตัวแบตและการใช้สายชาร์จ (จะมีใครเชื่อไหมเนี้ย ฮ่า)


อุปกรณ์ภายในกล่องของค่ายนี้เขาจัดเต็มมาโดยตลอด มีอะไรบ้างมาดูกันครับ


1. คู่มือการใช้งานอย่างย่อ(แต่ละเอียดกว่าค่ายอื่น ๆ) + เข็มจิ้มถาดซิม และใบรับประกันสินค้า


2. อแดปเตอร์ชาร์จไฟ ชนิดขาแบน ให้ Output มาที่ 1.5A
3. สายไมโครยูเอสบี ซิงค์และชาร์จไฟ เป็นชนิดสายแบน ช่วยให้สายไม่พันกัน และการจัดเก็บพกพามีความสะดวกคล่องตัวมากขึ้น
4. ชุดหูฟังสมอลทอร์ค แบบเอียร์บัด



5. ฟิลม์กันรอยและซิลิโคนเคส ตัวเคสเป็นสีขาวขุ่น น่าเสียดายตรงที่ไม่แถมฮาร์ดเคสมาให้ เพราะซิลิโคนเคสส่วนมากมีอายุการใช้งานที่สั้นและดูแลยาก


มาดูที่ตัวเครื่องกันต่อเลยครับ



i-mobile IQ BIG 2 ใช้พาเนลจอแสดงผลชนิด IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD 720P และยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี OGS ที่นอกจะให้สีสันสดใสสมจริงแล้ว ยังส่งผลให้หน้าจอมีความบางลงอีกด้วย



สำรวจกันต่อในส่วนหน้าด้านบน มุมซ้ายจะมีกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มีจุดเด่นตรงที่มีแฟลชมาให้ใช้งานด้วย  ถัดจากช่องลำโพงก็คือไฟแจ้งเตือน LED Notification และตามด้วยเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ส่วนแฟลชจะอยู่ด้านขวามือสุดครับ


ด้านล่างของส่วนหน้า ปุ่มสัมผัสแบบ Capacitive Button ตามมาตรฐานของแอนดรอยด์ และมีไฟแบคไลท์มาให้ใช้งานในที่มืดหรือแสงน้อย โดยเราสามารถตั้งค่าเปิด-ปิดไฟได้ตามลักษณะที่ต้องการใช้งานครับ

สิ่งที่ผมชอบอีกอย่างก็คือ การออกแบบและจัดการ พื้นที่ด้านล่างองตัวเครื่องทำได้ดีและลงตัวมาก คือดีกว่าบางรุ่นบางแบรนด์ ที่แม้ว่าจะให้ปุ่มแบบ On screen มาก็ตาม แต่กลับมีพื้นที่ด้านล่างเหลือเยอะจนเกินไป แต่สำหรับ i-mobile IQ BIG 2 จัดการพื้นที่ตรงนี้ได้ดีมากครับ


ดูกันต่อ ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีไมค์สนทนา อยู่มุมซ้าย และ i-mobile IQ BIG 2 จะมีการตัดขอบของตัวเครื่องในด้านบนด้วยวัสดุที่เป็นโลหะ แต่จะเป็นขอบมนขนาดเล็กที่ขั้นอยู่ระหว่างขอบจอ ไม่ได้ตัดที่ขอบข้างโดยตรง รวม ๆ แล้วก็ถือว่าออกแบบได้สวยงามดีครับ


ด้านบนของตัวเครื่อง มีพอร์ต Micro USB และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.


ด้านขวามือของตัวเครื่อง ไล่จากบนลงล่าง ช่องใส่ซิมการ์ด ถัดลงมาปุ่มปรับระดับเสียง และสุดท้ายคือปุ่ม Power เปิด-ปิดเครื่อง พวกปุ่มต่าง ๆ แน่นหนาแข็งแรงดีมาก ไม่โยกคลอนหรือรู้สึกว่างานประกอบไม่เรียบร้อยแต่อย่างใด

 


รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และใช้ Micro SIM ทั้ง 2 ซิม ข้อดีอีกอย่างคือรองรับคลื่น 850MHz ด้วยครับ



ด้านซ้ายมือจะมีเพียงช่องใส่ MicroSD-Card‎ เท่านั้น

 


และยังเป็นช่องที่ใช้ในการรีเซ็ทตัวเครื่องได้อีกด้วย

 


ด้านหลังของตัวเครื่อง ดูผ่าน ๆ จะเหมือนโลหะ แต่ตัววัสดุฝาหลังเป็นโพลีคาร์บอเนตนะครับ การเคลือบสีทำได้ดี ไม่เก็บรอยนิ้วมือรวมไปถึงทำความสะอาดได้โดยง่าย โดยสีหลักที่มีวางจำหน่ายก็คือ สีทองและสีเงินครับ


มุมซ้ายบนจะเป็นที่อยู่ของกล้องหลักด้านหลัง ที่ให้ความละเอียดมา 12 ล้านพิกเซล มีค่า f/2.0 ช่วยให้การถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น และมีไฟแฟลชมาให้ใช้งาน 1 ดวง ถัดลงมาใต้แฟลชคือไมค์ตัดเสียงรบกวนและเป็นไมค์ที่ใช้ในการบันทึกเสียง


ลำโพงมีเดียหรือลำโพงหลักเจาะเป็นช่องแนวยาว จะอยู่ที่ด้านล่างของตัวเครื่อง คุณภาพของเสียงอยู่ในระดับปานกลาง ไม่ดีเลิศแต่ก็ไม่ถึงกับแย่ครับ


ว่ากันด้วยเรื่องดีไซน์และงานประกอบ

สำหรับจุดขายแรกเลยก็คือ ดีไซน์ที่เน้นการลดขอบตัวเครื่องให้เล็กลงครับ ทำให้ภาพรวมแล้ว ขนาดตัวเครื่องที่ถึงแม้ว่าจะมีหน้าจอ 5.5 นิ้ว ก็ไม่ได้ดูใหญ่ไปกว่าเครื่องขนาด 5 นิ้วเท่าไหร่ ตรงนี้ส่งผลให้ การจับถือพกพาเป็นเรื่องที่สะดวกและคลองตัวดีครับ สำหรับงานประกอบนั้น ทำได้ดีจนน่าแปลกใจ เรียกได้ว่าเป็นรุ่นราคาครึ่งหมื่นที่มีงานประกอบเรียบร้อยแข็งแรงดีมาก ๆ เลยครับ

สรุปในส่วนของ handle และตัว Hardware ภายนอกของ i-mobile IQ BIG 2 นั้นสอบผ่านครับผม


ลองจับมาประกบเปรียบเทียบขนาดกับ vivo Xshot ที่มีหน้าจอ 5.2 นิ้วดูสักหน่อยครับ


ตัว i-mobile IQ BIG 2 จะมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า แต่การออกแบบในส่วนของขอบจอทั้ง บน-ล่าง และซ้าย-ขวา ทำได้ดีมาก เมื่อมองผ่าน ๆ แล้ว จะเห็นว่าขนาดไม่ได้แตกต่างกันมากนัก


ดูกันไปในหลาย ๆ มุม


เรื่องความบางนั้นสูสีกันครับ โดย Xshot บาง 7.99 มม. ส่วน i-mobile IQ BIG 2 จะบางอยู่ที่ 8.0 มม.

 

มาดูกันต่อในส่วนของ Software ครับ

i-mobile IQ BIG 2 เปิดตัวมาพร้อมกับ Android  5.0 (Lollipop) ซึ่งน่าจะสร้างความอุ่นใจให้ผู้ใช้งานได้ในระดับหนึ่ง ตรงที่ตัว Software นั้นสดใหม่ ไฉไล อัพเดตมาเลยตั้งแต่โรงงาน ไม่ต้องลุ้นไปเที่ยวเมืองกาญจน์ (ล่องแพ) กันเหมือนบางแบรนด์นะเออ

 
สำหรับ ROM 16 GB จะเหลือพื้นที่ให้ใช้จริงประมาณ 11 GB กว่า ๆ และยังรองรับหน่วยความจำภายนอกได้อีก 32GB


 
หน้า App Drawer จัดเรียงไอคอนในแบบ 4×5 แถว

 
มีแอพพลิเคชั่นที่บันเดิลมาให้เยอะพอสมควร ทำให้ดูรก ๆ ไปหน่อย แต่มีข้อดีที่เราสามารถถอนการติดตั้งในภายหลังได้ เพราะตัวแอพไม่ได้ built in มาใน System ครับ

 
ตัว launcher ค่อนข้างเรียบง่าย จึงแต่งปรับอะไรไม่ได้มาก

 
ดูกันต่อในส่วนของ Setting
 
ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจก็จะมี Hotknot, Float Task, Super Power Mode, Gesture Switch

 
Super Power Mode โหมดประหยัดพลังงาน เป็นเทรนด์ที่ทุก ๆ แบรนด์มุ่งไปทางเดียวกัน

 
เพียงต่างในรายละเอียดยิบย่อย แต่หลัก ๆ มันคือการตัดฟังก์ชั่นที่ไม่จำเป็นออกไป แล้วเข้าสู่โหมดขาวดำ เน้นโทรและรับสาย อะไรที่เชื่อมต่อออนไลน์ก็หยุด ๆ ไว้ก่อน ประมาณนั่นละฮ่ะทั่นผู้ชม

 
Float Task เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเรียกใช้งานแอพ ซึ่งมีการแยกย่อยเป็นหมวดหมู่ เพื่อความสะดวกและง่ายกับการเรียกใช้งาน ฟีเจอร์นี้ จริง ๆ แล้วมีในหลาย ๆ แบรนด์ ผมคงไม่ลงลึกในรายละเอียดละกันนะครับ

 
Gesture Switch นี่ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ค่อนข้างฮิต คือการวาดบนหน้าจอ เพื่อเรียกใช้หรือเข้าสู่โหมดและแอพพลิเคชั่นนั่นเองครับ ซึ่งบน i-mobile IQ BIG 2 สามารถตั้งค่าการกำหนดได้ยืดหยุ่นพอประมาณครับ

 
MaxTool แอพฯ ที่รวบรวมสารพัดเครื่องมือมาให้ใช้งาน แอพนี้ขอบอกว่ามีประโยชน์อย่างแท้จริง

 
ปิดท้ายกันไปด้วยแอพ i-mobile ตรงนี้เป็นคอนเทนต์แอพจากทางค่าย ช่วยอำนวยความสะดวกรวมถึงเป็นแอพที่ผู้ใช้งานควรจะให้ความสำคัญครับ เพราะเป็นแอพที่ช่วยให้เราติดตามข้อมูลของแบรนด์รวมถึงรับสิทธิพิเศษอื่น ๆ ได้โดยตรงจากทางค่าย i-mobile

Hardware Test & Performance 

 
จากนี้มาดูกันต่อในส่วนของผลการทดสอบประสิทธิภาพของตัวเครื่อง i-mobile IQ BIG2

 
ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย AnTuTu Benchmark ได้ 19159 คะแนน
ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย Quadrant Standard ได้ 5583 คะแนน

 
ผลทดสอบจาก PCMark ได้คะแนน 2538

 

 
ส่วน 3DMark ได้คะแนนที่ 1846

 
Geekbench 3 ทำคะแนนในส่วนของ Single Core ที่ 344 และ Multi Core ได้ 1118
 
FXBench GL Benchmark ได้คะแนน Best Score 384


 
ผลทดสอบความเร็ว ด้วย Velamo (Metal) ได้ 821 คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย Velamo (Multicore) ได้ 1032 คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย Velamo (Browser) ได้ 1592คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย Velamo (Chrome Browser) ได้ 1577 คะแนน


ผลทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย NenaMark 2 ได้ 50.2 เฟรม/วินาที

 
ภาครับสัญญาณของ GPS เท่าที่ผมทดสอบ เหมือนจะมีปัญหาอยู่บ้าง การรับสัญญาณบางทีก็ช้า บางทีก็ไว ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ตัว Hardware หรือ Software ครับ

 
ผลทดสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch ได้สูงสุด 5 จุด

เซ็นเซอร์บน i-mobile IQ BIG2 เมื่อใช้โปรแกรม Android Sensor Box ตรวจสอบก็จะมีดังนี้

Accelerometer Sensor
Light Sensor
Orientation Sensor
Proximity Sensor
Sound Sensor
Magnetic Sensor

มาดูกันต่อในส่วนของ Sample Camera  ครับ
i-mobile IQ BIG 2 มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้องหลักด้านหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล

เมนู Interface กล้องของ i-mobile IQ BIG 2


มีโหมดสำเร็จรูปมาให้ใช้งาน โดยมีไอค่อนแสดงตัวอย่างขนาดใหญ่ ดูแล้วเข้าใจง่ายดีครับ


ส่วนการปรับตั้งค่าก็ทำได้อย่างยืดหยุ่นครับ ทั้งการปรับ iso, ชดเชยแสง, ปรับไวท์บาลานท์ , Contrast,  ความสว่าง, ความอิ่มตัวของสีอะไรพวกนี้ มีมาให้ปรับแต่งได้อย่างครอบคลุมครับ

จากนี้มาดูตัวอย่างรูปถ่ายจากกล้องของ i-mobile IQ BIG 2 กันครับ




Normal Mode


HDR Mode


Normal Mode


HDR Mode


Normal Mode


HDR Mode

 
ทดสอบกล้องหน้าของ i-mobile IQ BIG 2
 
แน่นอนว่าโหมดบิวตี้ต้องมีมาให้ใช้งานกันอยู่แล้ว โดยหลัก ๆ จะแบ่งการตั้งค่าเป็น 3 ระดับ ไล่โทนจากต่ำไปกลางไปสูง เลือกปรับตั้งค่าตามที่ชอบหรือต้องการใช้งานได้เลยครับ

มาสรุปในส่วนของกล้อง i-mobile IQ BIG 2 กันนะครับ

การโฟกัสและความไวในการถ่าย+บันทึกภาพอยู่ในระดับดีพอประมาณครับ แต่ยังไม่สุด ๆ ในบางอารมณ์และสภาพแสง มีวืดวาดและแอบช้าบ้างเป็นบางครั้ง สำหรับโหมดการใช้งานต่าง ๆ นั้นก็มีมาให้ใช้งานอย่างครบถ้วน   ส่วนคุณภาพไฟล์ อยู่ในเกณฑ์ดีครับ ภาพมีความคม สดใสและให้สีสันที่เป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับที่ตาเห็น และโหมด HDR ก็ให้คุณภาพที่ดีมากครับ

 

สรุป i-mobile IQ BIG 2


ข้อดี

1. ให้แบตขนาดใหญ่ความจุถึง 4000mAh
2. ดีไซน์สวยงาม งานประกอบแข็งแรง
3. สเปคต่อราคาถือว่าคุ้มค่า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของค่ายไอโมบายอยู่แล้ว
4. รอบรับ 3G ทุกคลื่นความถี่ในไทย
5. มาพร้อมกับ Android 5.0 Lolllipop ตั้งแต่โรงงาน

สิ่งที่ต้องพิจารณา

1. แบต 4000mAh ก็จริง แต่ใช้งานหนัก ๆ อย่างต่อเนื่อง ก็ยังไม่อึดเท่าไหร่
2. GPS จับสัญญาณได้ช้า
3. บันเดิลแอพและเกมที่มากับรอม บางส่วนทำให้รู้สึกว่าเป็น Bloatware
4. การใช้งานในภาพรวม ๆ บางที่มีอาการหน่วง ๆ อยู่บ้าง คงต้องรอดูการอัพเดต Software ในอนาคต

ก็คงจะฝากไว้แต่เพียงเท่านี้ สำหรับรีวิว i-mobile IQ BIG 2 แล้วพบกันใหม่ในรีวิวทดสอบด้านเอนเตอร์เทนครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ ^^



ถูกใจบทความนี้  3