สวัสดีจ้า วันนี้ก็มาพบกันนะครับ กับการรีวิว แนะนำเครื่องนอกกระแส E Phone E19 แบรนด์ E Phone คาดว่าหลายคนคงไม่เคยได้ยินกันแน่นอน ซึ่งผมเองก็ได้ยินมาเมื่อไม่นานนี้เอง ช่างน่าสงสัยเสียจริงๆ แบรนด์นอกกระแส แต่ว่าหากมาเจอกับสเปคและราคาพร้อมของแถมแล้ว ทำเอาอึ้งเกิด dead air ได้ในทันใด และยิ่งได้ลองสัมผัสและความคุ้มค่าแล้ว อันนี้ก็ต้องยกให้เค้าเลยล่ะครับ ถ้าเริ่มจะสนใจกันแล้วล่ะก็ ตามมาเลย กับ E Phone E 19 เครื่องรุ่น top หรือ flagship ของ แบรนด์นี้ที่ราคา 3,990 บาททททท ไม่ผิดครับ รุ่น flagship ราคาเท่านี้ล่ะ
จะเกริ่นไปก็แนะนำ E Phone ให้รู้จักกันหน่อยก็แล้วกันครับ E Phone จริงๆ ก็ต้องออกตัวแรงๆ เลยว่าเพิ่งรู้จักก็ตอนที่เค้ามาแนะนำกันอย่างเป็นทางการนี่ล่ะ ซึ่ง E Phone เค้าเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2551 ก็เรียกว่านานโขอยู่ แต่ทว่าเราดันไม่ค่อยได้ยินชื่อนี้เน๊อะ ซึ่งปี 2551 ผมคาดว่าคงเป็นปีที่เริ่มต้นอย่างเป็นทางการที่จีนนี่ล่ะ ซึ่งในประเทศไทยเอง ก็ทำตลาดกันไปไม่นานนัก ออฟฟิศอยู่ที่สมุทรปราการ ซึ่งสถานที่จำหน่ายก็อาจจะไม่เห็นทั่วทุกที่ แต่ที่ผมจำได้ก็คือแถวๆ บริเวณ อิมสำโรงนั่นล่ะครับ แต่ทว่าคงมีขยายทำตลาดไปทั่วทุกพื้นที่ แต่อาจจะค่อยเป็นค่อยไป ถ้าหากอ่านๆ ไปแล้วสนใจล่ะก็ แนะนำให้ไปที่ อีโฟน โมบาย แฟนเพจ ก็แล้วกันนะ อ้อ คอนเซ็ปท์เค้าที่จะลืมไม่ได้เลยคือ ” คุ้มค่า กว่าที่คุณคิด” เห้ย มันจะคุ้มกว่าที่คิดได้ไง นั่น มาดูกันเลย
ก่อนอื่นเอาสเปคมาฝากกันก่อนเลยครับ (คลิ้กดูภาพใหญ่ได้นะ) จุดเด่นอย่างนึงคือ E Phone E19 รุ่นนี้มาพร้อมกับความคุ้มบน Operator อย่าง Truemove H ที่ได้ค่าโทรและเน็ทไปอีก 1,600 บาท ไม่ทันได้ดูสเปคหรืออะไรก็จัดความคุ้มมาให้เรียบร้อยแล้ว ราคาเครื่อง 3,990 บาท เจออันนี้เข้าไป รู้สึกว่าความคุ้มเริ่มถาโถมเข้ามาแล้วใช่ไหมล่ะ
ตัวกล่องโทนสีออกเบาๆ นะครับ สีธีมเขาเป็นสีเขียว ที่หน้ากล่องแปะความคุ้มเอาไว้ให้รู้กัน ว่าแบบนี้จะหาที่ไหนได้อีก คุ้มกว่าที่คิด นี่เหมือนซื้อเครื่องราคาสัก 5,000-6,000 กันเลยทีเดียว แกะกล่องกันดีกว่านะ อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องครับ ผมว่าไม่คุ้มก็ไม่รู้ว่าไง อุปกรณ์ปกติมีให้ครบ หูฟัง สายชาร์จ อะแดปเตอร์ และแบบว่ามีฟิล์มกระจกนิรภัยให้อีกต่างหาก ไม่เท่านั้น ยังมีเคส 2 แบบให้ด้วย เป็น flip case และ case แบบใส แม่เจ้า จะให้มาทำไมสองสามอันเนี่ย (ให้เยอะก็บ่นอีก :-P)แบตขนาด 2800 mAh ครับ คือเรื่องแบตให้มาเท่านี้ถือว่าเยอะนะ
มาดูตัวเครื่องด้านหน้ากันห่นอย ด้านหน้ามีตัวสติ้กเกอร์แปะรายละเอียด ฟีเจอร์เอาไว้ครบ แต่ทว่า จริงๆ แล้วน่าจะเน้นเรื่องจุดเด่นมากกว่านี้ เพราะพวกแอพต่างๆ นี่โดยพื้นฐานก็ใช้งานกันได้อยู่แล้ว แต่นี่อาจจะหมายความว่าเค้า pre-install มาให้พร้อมใช้นั่นล่ะครับ แต่ถ้าดูฟีเจอร์ของเจ้า E Phone E19 แล้วน่าจะใส่ฟีเจอร์ล้ำๆ บอกเอาไว้น่าจะดีกว่า
ด้านหน้าเมื่อแกะสติ้กเกอร์ออก หน้าตาออกไปทางลูกผสม ด้านบนเป็นเหลี่ยม ด้านล่างโค้งมน ดูแปลกตาดีหน้าจอขนาด 5 นิ้วความละเอียดแบบ HD อันนี้เรียกว่าเป็นมาตรฐานสากลในรุ่นระดับนี้แล้วล่ะครับ แถมเป็นหน้าจอแบบ OGS อีกต่างหาก แจ่ม ซึ่งจริงๆ รุ่นนี้ออกมาได้สักพักใหญ่แล้วล่ะนะ แต่เพิ่งได้เครื่องมาทดสอบเมื่อไม่นานนี้ล่ะ กล้องด้านหน้าที่เห็นนี่ 5 ล้านพิกเซล นับว่าให้กล้องหน้ามาเยอะมากกกจริงๆ ส่วนของด้านล่างขอบโค้ง ปุ่มกดใช้งานมีให้ครบถ้วน
ด้านหลังเครื่องก็มีแปะรูปแนะนำการเปิดฝาเครื่องออกมาเพื่อใส่แบตด้วย ซึ่งต้องบอกว่าฝาหลังนี่อย่างแน่น หมายถึงมีตัวล็อคอยู่รอบตัวเครื่อง แกะไม่ยากแต่ใส่ใช้งานแน่นหนากล้องด้านหลังขนาด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช 2 ดวง ตัวกล้องนูนออกมาเล็กน้อยฝาด้านหลังจะเห็นเป็นลายเท็กเจอร์ ตารางเล็กๆ อันนี้คือแบบว่าจับแล้วไม่ลื่นมือดี
ลองแกะฝาหลังมาดูครับ รุ่นนี้รองรับ 2 ซิม เป็นซิมขนาดปกติ หรือซิมใหญ่นั่นล่ะ ใส่ microSD ได้สูงสุด 32GB และรองรับคลื่อน 3G 850/2100MHz
ด้านบนที่มีพอร์ท microUSB และช่องเสียบหูฟัง สังเหตุตรงช่องเสียบหูฟัง มีแอบโค้งไปทางด้านหลังของตัวเครื่อง ปกติหลายๆ รุ่นออกแบบให้อยู่ในขอบตัวเครื่องพอดีแต่สำหรับเจ้า E Phone E19 นี่ดีไซน์แปลกดี อาจจะดูให้เหมาะกับกล้องที่นูนขึ้นก็ได้ แต่เรื่องการใช้งานช่องเสียบหูฟังนี่ปกติไม่มีอะไรแปลก
และด้านล่างที่ไม่เหมือนด้านบน เป็นขอบโค้งเป็นพลาสติกมีไมค์ พร้อมกับช่องสำหรับเปิดฝาหลัง อันนี้แอบคล้ายๆ เครื่องจากค่ายนึงเลยนะ
ทั้งสองด้านข้าง จัดว่าตัวเครื่องมีความหนาในระดับนึง ส่วนปุ่มกดเรียงอยู่ทางด้านเดียวกัน ปุ่ม power เป็นวงกลม เหมือนอีกค่ายเลย เพียงแต่ตำแหน่งปุ่มเร่งลดเสียง กับปุ่ม power วางสลับกัน
ลองใส่เคสใสสักหน่อย
ว่าแล้วก็ลองเปิดเครื่องทดสอบกันเลย
หน้า boot screen คำว่า android มีลูกเล่นขยับไปมาน่ารักดีครับ มันสื่อให้เห็นว่า เห้ยไม่ธรรมดานี่หว่า ราคาระดับนี้
ว่าแล้วก็มาดูเรื่องของ software ในเครื่องมั่ง
ตัวระบบไม่ได้มาพร้อมกับ Android 4.4.2 ธรรมดา แต่มี OS ที่เรียกว่า ECOO OS ครอบมาให้ด้วย จะมีอะไรบ้างมาดูกัน
บรรดาแอพใช้งานต่างๆ คงไม่ต้องพูดถึง เพราะมาตรฐานสากล แอพหาใช้งานเพิ่มเติมเองได้ไม่ยาก แต่สำหรับใช้งานกับมือใหม่ หรือกลุ่มผู้ใช้งานราคาระดับนี้ก็ถือว่าครบถ้วน UI อย่างที่เห็นเลยครับ เหมือนกับค่ายใดค่ายนึง
นี่ล่ะครับคือ ECOO OS ที่แฝงเอาบรรดาความฉลาดต่างๆ ใส่เอาไว้ให้เพียบ ไมว่าจะเป็น Smart Motion เป็นจุดที่ทำให้เจ้า E Phone E19 คุ้มค่าเข้าไปอีก เพราะทำอะไรล้ำๆ ได้เพียบ Smart Screen สามารถเคาะปุ่ม home สองครั้ง เพื่อปิดเครื่องได้ หรือ Smart Wake ที่ขณะปิดหน้าจออยู่สามารถวาดที่หน้าจอ ใส่คำสั่งเพื่อเข้าใช้งานแอพต่างๆ ที่ตั้งไว้ได้ทันที หรือจะเป็นการใช้ฝ่ามือปาดที่หน้าเครื่อง ใน Not-Touch Operation ก็ตาม ล้ำหมด และ HOTKNOT ที่สามารถส่งไฟล์ระหว่างกันง่ายๆ เพียงแค่เอาเครื่องหันหน้าเข้าหากัน ใช้งานได้กับทุกรุ่นที่มีฟีเจอร์นี้นะ
เรื่องหน่วยความจำ หากใส่ micro SD Card แล้วสามารถตั้งค่าให้เป็นการเขียนข้อมูลหลักได้ ก็นับว่าแจ่ม ในขณะที่พื้นที่ในตัวเครื่องจริงๆ ที่ลงได้นี่มีแค่ประมาณ 2GB เท่านั้น ถึงแม้ว่าจะมีทั้งหมด 8GB ก็ตาม แต่ถูกแบ่งเป็นส่วนของ Storage อีกส่วนนึง
สเปคและการทดสอบความแรง ไม่ได้แรงมากมาย แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าล่ะ
เรื่องโหมดตัวกล้องต่างๆ ปรับแต่งได้ไม่น้อยเหมือนกัน มีเมนูกล้องบางตัวยังเป็นภาษาจีนตกค้างอยู่อีก เรียกว่าบ่งบอกความเป็นแบรนด์ที่มาจากจีนเลยนะเนี่ย ฮ่ะๆ ส่วนพวกฟีเจอร์ต่างๆ และ HDR ก็มีครบนะ ที่เหลือก็มาดูภาพถ่ายกันครับ คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดจริงได้เลย
ที่ด้านนอกแสงสว่างเยอะอยู่ ที่ร้านอาหารที่แสดงสว่างจากนีออน
ภาพจากสภาวะแสงต่างๆ หน้าชัด หลังเบลอ – หลังเบลอ หน้าชัด ละลายน้อยไปหน่อย
ทดสอบกล้องหน้า ที่มีโหมดบิ้วตี้กับธรรมดา
กล้องด้านหน้าเวลาย้อนแสงจะมีปัญหาเรื่องโทนสีออกไปทางสีแดง
สรุปเรื่องดีไซน์ โดยภาพรวมแล้วต้องให้ผ่านอย่างที่บอกเลยว่าตัว top ของแบรนด์ E Phone แล้วนะครับ เจ้า E 19 รุ่นนี้ ณ ปัจจุบันที่เขียนแนะนำรีวิวอยู่นี่ แต่ถ้าหลังจากนี้ก็ยัไงไม่แน่ว่าจะมีสเปครุ่นใหญ่กว่านี้หรือไม่ แต่คาดว่าจะมีตามเทรนด์ แต่สำหรับ E19 คือก็ต้องบอกเลยว่ามีการผสมผสานการออกแบบรวมมาจากหลายๆ ยี่ห้อ หลายๆ แบรนด์ จนกลายมาเป็น E Phone E19 ความรู้สึกแข็งแรง ทนทาน นี่ก็ให้ผ่านเหมือนกัน คือทั้งหมดเรื่องการออกแบบดีไซน์นี่เกินราคาไปเยอะเหมือนกันนะส่วนเรื่องของ Software ภายในภาพรวมแล้วใช้งานลื่นไหลดี UI อย่างที่เห็นว่ามี OS มาครอบ ซึ่งเหมือนกับค่าย OPPO มากมายนัก แต่เรื่องก็มีจุดต่างอยู่พอประมาณ ส่วนเรื่องกล้องนี่อาจจะเป็นอย่างเดียวที่ไม่สมกับสเปคที่ให้มา กล้องสเปคดีนะความละเอียด 8 ล้านพิกเซล กับ 5 ล้านพิกเซล แต่ทว่าภาพที่ถ่ายออกมาแล้วก็อย่างที่เห็นบนตัวอย่าง สีไม่สด ซีดมาก ทั้งกล้องด้านหน้าเองก็ยังไม่ประทับใจ เมนูบางเมนู ก็ยังแปลได้ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์
ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว เจอเรื่องราคาเข้าไปที่ 3,990 บาท เจอเรื่องโอเปอเรเตอร์ให้ใช้ฟรี 1,600 บาท เจอของแถมเข้าไปอีกดอกนึง พอเปิดมาเจอตัวเครื่อง ดีไซน์ก็ไม่ขี้เหร่ สเปคก็ผ่าน เจอ UI ใช้งานโดยรวมก็แจ่ม มีฟีเจอร์ให้เล่นเยอะเลยทีเดียว เรียกว่าอัดแน่นเกินกว่าที่ราคาแบบนี้จะมีบนแบรนด์อื่นๆ ถึงบอกว่าเป็นม้านอกกระแสที่น่าสนใจ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มใช้งาน Android หรือจะใช้งานมาแล้ว แต่ต้องการเรื่องความคุ้มค่า ที่อาจจะไม่ได้ติดแบรนด์ที่โปรโมตเยอะๆ ซะทีเดียว E Phone E19 ก็นับว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจนะครับ แต่อย่างว่า ของราคาระดับนี้ก็ต้องมีข้อเสียไม่โดนใจกันบ้างล่ะนะ เป็นธรรมดา
ขอบคุณ E Phone Mobile ที่ให้เครื่องทดสอบ
ถูกใจบทความนี้ 2
You must be logged in to post a comment.