รีวิว MyKronoz ZeClock นาฬิกาลูกผสมแห่งความล้ำและความคลาสสิคอย่างลงตัว

MyKronoz-ZeClock-Review-029

ทุกวันนี้เทรนด์ของนาฬิกาข้อมือสุดล้ำ หรือเราเรียกว่า Smartwatch ผ่านตาผ่านหูเราตลอดเวลาก็ว่าได้ MyKronoz ZeClock เป็นแบรนด์ที่มีดีไซน์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์เลยทีเดียว โดยผสานเอาความลงตัวระหว่างนาฬิกาข้อมือ ที่เราใช้งานกันทุกๆ วันจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งความล้ำสมัยที่มีฟีเจอร์ของ Smartwatch เพิ่มเติมเข้ามาด้วย ทำให้การใช้งานครบครันและยาวนาน

พูดถึงเรื่องนาฬิกาข้อมือหน้าที่หลักก็คือการบอกเวลา พลิกข้อมือขึ้นมาก็เพื่อดูเวลา แต่ทว่าปัจจุบันมีฟีเจอร์ต่างๆ เพิ่มเติมมาเพียบ อย่างที่เราเห็นบน Smartwatch ที่มีมากมายในตลาดปัจจุบัน แต่อย่างนึงที่เป็นจุดอ่อนของ Smartwatch ก็คือเรื่องแบตเตอรี่ เมื่อหมดแล้วก็เป็นอันจบกัน นาฬิกาฉลาดๆ บนข้อมือเราจะกลายเป็นเศษเทคโนโลยีที่ไร้พลังงานในทันที แต่ไม่ใช่กับ MyKronoz ZeClock เรือนนี้ เพราะว่าได้ผสมผสานเอาทั้งความคลาสสิคและเทคโนโลยีได้อย่างลงตัวจริงๆ  ว่าแล้วมาดูเรื่องสเปคกันก่อนเลยดีกว่า

MyKronoz ZeClock-2และความล้ำ หรือฟีเจอร์ที่จะได้สัมผัสใช้งานบน MyKronoz ZeClock

MyKronoz ZeClock
จะเห็นว่าฟีเจอร์เพียบ ช่วยเราใช้งานร่วมกับ Smartphone ที่เป็นอุปกรณ์ที่ทุกคนติดตัวอยู่ตลอดเวลาได้อย่างลงตัว

MyKronoz-ZeClock-Review-003 MyKronoz-ZeClock-Review-004

MyKronoz ZeClock เป็นแบรนด์ที่มีดีไซน์จากสวิตเซอร์แลนด์ รูปร่างหน้าตาสวยงามอย่าบอกใครเลยทีเดียว ส่วนสี จริงๆ มีให้เลือก 5 สีเลยทีเดียว สีดำ สีขาว สีแดง สีฟ้า และสีเขียว แต่ตัวที่ได้มาทดสอบก็คือ สีขาว ซึ่งสวยงาม ด้วยความเป็น Analog watch ใช้การขยับข้อมือแกว่งไปมา เพื่อให้เข็มนาฬิกาเดิน ทำให้เรื่องของการดูเวลานี่ตัดไปได้เลย กลาเป็นนาฬิกาที่ใช้ประโยชน์ได้เหมือนนาฬิกาข้อมือทั่วๆ ไป ไม่ต้องกลัวแบตจะหมด ไม่ต้องชาร์จ อยากดูเวลาเมื่อไหร่ก็ พลิกข้อมือขึ้นมาได้ทุกเมื่อ

MyKronoz-ZeClock-Review-009MyKronoz-ZeClock-Review-043

ส่วนของหน้าปัทม์ด้านล่างเข็มนาฬิกา จะเป็น OLED ที่เอาไว้แสดงผลการเชื่อมต่อ และการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ซึ่งส่วนนี้ต้องมีการชาร์จอย่างสม่ำเสมอ

MyKronoz-ZeClock-Review-005MyKronoz-ZeClock-Review-049

ตัวเรือนสีขาวสวยงาม ด้านข้าง ตรงส่วนนี้ สำหรับต่อกับ dock เพื่อชาร์จนั่นล่ะครับ ถ้าแบตหมดก็เสียบกับ dock ได้เลย ชาร์จผ่านพอร์ฺท USB ปกตินี่ล่ะ
MyKronoz-ZeClock-Review-008ด้านหลังที่เป็นที่ล็อคข้อมือและร่นสายให้เข้ากับข้อมือของเรา
MyKronoz-ZeClock-Review-007MyKronoz-ZeClock-Review-046MyKronoz-ZeClock-Review-047MyKronoz-ZeClock-Review-045
อีกด้านนึงจะเห็นว่านอกจากเม็ดมะยม สำหรับปรับเข็มที่หน้าปัทม์แล้ว ยังมีปุ่มกดทั้งด้านล่างและด้านบน ซึ่งเอาไว้ใส่คำสั่งใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ นั่นเอง  จากภาพปุ่มที่อยู่ทางด้านบน สำหรับปิดหรือเปิด (กดค้างยาวๆ) รวมถึงใช้กดค้าง(สั้นๆ)เพื่อกลับมาสู่เมนูหลักได้ ส่วนอีกปุ่มนึงด้านล่าง ปุ่มนี้เรียกว่าเป็นปุ่ม action หรือ enter ก็คงไม่ผิดนัก สำหรับเข้าเมนูที่ต้องการและใส่คำสั่งเริ่มทำงาน และใช้งานได้อีกหลากหลาย

MyKronoz ZeClock-3

สรุปการใช้งานปุ่มกดทั้งปุ่มด้านบนและปุ่มด้านล่างก็ตามภาพด้านบนเลยครับ

MyKronoz-ZeClock-Review-052 MyKronoz-ZeClock-Review-053

เรื่องของดีไซน์ สวยงามโดนใจ แต่ทว่าอาจจะนำไปเทียบกับบรรดานาฬิกาข้อมือแบรนด์ดังๆ ก็ดูจะแตกต่างกันไปหน่อย อันนี้ต้องบอกว่าอยู่กับความชอบและรสนิยมของแต่ละผู้ใช้งานก็แล้วกัน แต่สำหรับผมเจ้า MyKronoz ZeClock เรือนนี้ ก็สวยโดนใจแล้ว ทั้งการใส่ที่ข้อมือที่มีขนาดเล็กของผมก็ไม่มีปัญหาใดๆ สายที่ดูยาวบวกกับรูที่เตรียมเอาไว้สำหรับข้อมือขนาดต่างๆ นี่พร้อมจริงๆ ไม่ต้องไปตัดข้อ หรือตัดสายแต่อย่างใด

MyKronoz-ZeClock-Review-056 MyKronoz-ZeClock-Review-057

ตัว dock สำหรับชาร์จ

MyKronoz-ZeClock-Review-011 ในเรื่องของการใช้งาน หากจะให้สมบูรณ์แบบ และมีประโยชน์ก็ต้องเชื่อมต่อกับ Smartphone ของเรา ได้ทั้ง Android และ iOS ตามสบายเลยครับ MyKronoz ZeClock จัดให้ได้หมด แต่ต้องเป็น Android 4.3 ขึ้นไป หรือ iOS 7 ขึ้นไป ใครใช้ Windows Phone อด คงข้ามเรื่องวิธีเชื่อมต่อไปก็แล้วกันครับ เข้าเรื่องฟีเจอร์ต่างๆ กันเลย

MyKronoz-ZeClock-Review-010

MyKronoz-ZeClock-Review-013เราจะเห็นว่าเจ้า MyKronoz ZeClock นี่ไม่มีหน้าปัทม์สำหรับบอกวันที่ แต่ทว่าเนื่องจากเป็นลูกผสม ทำให้มีหน้าจอที่ใช้เป็นตัวเลขบอก วันที่และเดือนแทน รวมถึงยังบอกสถานะแบตอีกด้วย
MyKronoz-ZeClock-Review-014MyKronoz-ZeClock-Review-023ฟีเจอร์แรกที่จะแนะนำคือ Voice Control สามารถเรียกใส่คำสั่งใช้งานได้ทั้ง Google Now และ Siri เนื่องจากเจ้า MyKronoz ZeClock มีไมค์ในตัวทำให้เรียกใส่คำสั่งด้วยเสียงได้ทันทีMyKronoz-ZeClock-Review-015 MyKronoz-ZeClock-Review-016 สิ่งที่ตามมาก็คือ ฟีเจอร์อัดเสียง เพราะว่ามีไมค์นี่ล่ะ นอกจากใส่คำสั่งแล้ว ยังสามารถอัดเสียงได้อีกต่างหาก โดยที่งานนี้อยากแอบอัดเสียงใครล่ะก็ จัดไปได้เลย สบายๆ MyKronoz-ZeClock-Review-017MyKronoz-ZeClock-Review-027 ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ Pedometer หรือการวัดจำนวนก้าวเดิน อันนี้ก็แอบอินเทรนด์สุขภาพกันหน่อย ซึ่งฟีเจอร์ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าวัดจำนวนก้าว ไม่สามารถตั้ง Goal หรือ Target ได้MyKronoz-ZeClock-Review-018Notification ข้อความเตือนต่างๆ ที่อยู่บน Smartphone ของเราก็จะขึ้นเตือนที่เจ้า MyKronoz ZeClock เพียงแต่ว่าต้องเชื่อมต่ออยู่และต้องเปิด notification ให้ ZeClock ใน Notification Center ด้วยนะ
MyKronoz-ZeClock-Review-019 สามารถดู Call History ได้ พอเรียกดูแล้วก็สามารถกดโทรกลับได้ทันที แต่พอโทรติดแล้วก็ไปใช้ Smartphone คุยเอานะMyKronoz-ZeClock-Review-020 Find my phone หรือ Anti-lost นั่นเอง กดเพื่อหา Smartphone ที่เชื่อมต่ออยู่ได้ ในขณะเดียวกันเราใช้ Smartphone เพื่อหาเจ้า MyKronoz ZeClock ก็ได้ด้วยMyKronoz-ZeClock-Review-021 อีกฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ อันนี้สะดวก กดที่ MyKronoz ZeClock ได้เลย แต่ต้องเปิดกล้องถ่ายรูปก่อน เจ้า MyKronoz ZeClock นี่ทำหน้าที่แทน shutter เท่านั้น

MyKronoz ZeClock-4สรุปหน้าจอ ฟีเจอร์ต่างๆ ได้ตามนี้เลยครับ
MyKronoz-ZeClock-Review-024

เชื่อมต่อกับ Android สบายๆ
MyKronoz-ZeClock-Review-001-horz คงไม่ได้ลงลึกถึงรายละเอียดนะครับ ลองตั้งค่ากันดู หลักๆ ไม่มีอะรพิเศษ ดูตามเมนูตั้งค่าได้เลย

MyKronoz-ZeClock-Review-028จะมีเรื่อง Pedometer ที่ยังไม่สามารถใช้งานได้ทันที ต้องเข้าไปที่ Setting และไปที่ Pedometer Install จึงจะสามารถซิงค์จำนวนก้าวเข้ามาที่ Smartphone ได้และการอัพเกรดก็ทำได้ง่าย ล่าสุดนี่เพิ่งมีเวอร์ชั่น 3 ออกมา พออัพเกรดเสร็จ ก็ต้องลง Pedometer Install ใหม่นะครับ

ว่าแล้วก็มาใส่ข้อมือกันสักหน่อย

MyKronoz-ZeClock-Review-030MyKronoz-ZeClock-Review-034 MyKronoz-ZeClock-Review-035
MyKronoz-ZeClock-Review-037เหมาะข้อมือดีนะ
MyKronoz-ZeClock-Review-038
MyKronoz-ZeClock-Review-041ลองเทียบกะที่ใช้งานอยู่บ้าง ระหว่าง Smart กับ ลูกผสม อย่างที่บอกล่ะครับ ถ้า Smartwatch หรือ Smartband ที่บอกเวลาได้ แบตหมดก็จบกัน

MyKronoz-ZeClock-Review-001

สรุปปิดท้าย

MyKronoz ZeClock ต้องบอกว่าเป็นลูกผสม ของความคลาสสิค และความล้ำสมัยได้อย่างลงตัว การใช้งานหลักเรื่องการบอกเวลาตอบโจทย์ได้ดีที่สุดแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าแบตจะหมด เรื่องของความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อกับ Smartphone เพื่อใช้งานฟีเจอร์ล้ำๆ อีกเพียบ ก็ไม่ยาก ใช้งานง่าย แต่สิ่งที่ความล้ำสมัยเจอก็คือแบตหมดเร็วนั่นเอง ยิ่งใช้ฟีเจอร์ต่างๆ เยอะ แบตก็หมดเร็ว ต้องชาร์จนั่นล่ะครับ น่าจะเป็นจุดเดียวที่ทำให้ความล้ำสมัยหดหายไป ด้วยราคา 4,990 บาท ก็คงต้องดูล่ะครับว่า เราอยากจะเลือกที่ การใช้งานหลักๆ คือบอกเวลา บวกกับความล้ำสมัย หรือไม่

ถูกใจบทความนี้  2