หลังจากรับชมพรีวิว Hands on Android News: วีโว่ เปิดตัว vivo X5Pro อย่างเป็นทางการ ชูสเปคอัดแน่น กล้องสวยจัดเต็ม ในวันงานเปิดตัว และตามมาติด ๆ ด้วยคลิป Unboxing แบบเพียว ๆ Android Review: Unboxing vivo X5Pro ดีไซน์งาม วัสดุพรีเมี่ยม กล้องสวยจัดเต็ม !!! ของ X5Pro กันไปในบทความก่อนหน้านั้น ในภาพรวมคงได้เห็นความน่าสนใจทางด้าน Hardware ทั้งเรื่องสเปคและดีไซน์ รวมไปถึงจุดเด่นจุดขายแบบคร่าว ๆ ของเจ้า X5Pro กันไปในบางแง่มุมแล้วนะครับ
และหลังจากที่ได้มีโอกาสใช้เวลา คลุกคลีตีโมงกันมาสักพักใหญ่ ๆ ก็ขอจับ vivo X5Pro มาทำการแกะกล่อง & ฟูลรีวิวให้ได้รับชมกันเหมือนเช่นเคยครับผม
ขอขอบคุณ vivo thailand สำหรับเครื่องทดสอบและใช้ในการเขียนบทความนี้ครับ……
ข้อมูลสเปกเบื้องต้นของ vivo X5Pro
~ OS : เปิดตัวมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.0 (Lollipop) และครอบทับด้วย Funtouch OS 2.1
~ ชิปเซ็ต : CPU Qualcomm SnapdragonTM 615 (Octa-Core, 64bit) ความเร็ว 1.5GH
~ หน่วยประมวลผลกราฟฟิก : GPU Adreno 405
~ ROM 16GB และรองรับหน่วยความจำภายนอก MicroSD card ได้สูงสุด 128GB
~ RAM 2GB
~ จอแสดงผลชนิด Super AMOLED ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล (424ppi)
~ การเชื่อมต่อ 2G : GSM 850/ 900/ 1800/ 1900MHz
~ การเชื่อมต่อ 3G : WCDMA 850/ 900/ 2100MHz
~ การเชื่อมต่อ 4G FDD-LTE : 1800/ 2100/ 2600MHz
~ รองรับการใช้งานในระบบ 2 ซิมการ์ด
~ การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth V. 4.0, GPS/A-GPS/Glonass
~ กล้องหลักด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED 1 ดวง (เทคโนโลยีระบบเซนเซอร์ PDAF , รูรับแสง F/2.0)
~ กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.4
~ ชิปเสียง Cirrus Logic DAC AK4375, Maxim MAX97220
~ ขนาดตัวเครื่อง 147.90 × 73.45 × 6.44 มิลลิเมตร
~ น้ำหนัก 174 กรัม
~ แบตเตอรี่ Li-Polymer ความจุ 2450mAh
ราคาวางจำหน่าย 13,990 บาท
สำหรับ Full Specification ผมขอยกมาจาก Official เพจ ของ vivo โดยตรงเลยนะครับ >>>vivo X5Pro Specification
หลังจากดูสเปคเบื้องต้นเรียกน้ำย่อยกันไปแล้ว มาเริ่มแกะกล่องกันเลยครับ
ตัว แพกเกจของ vivo X5Pro มาในโทนเดิม ๆ เหมือนตัวรุ่นพี่ภายในค่ายครับ ตัวกล่องเป็นทรงเหลี่ยมแบน เน้นสีขาวสะอาดตาเพื่อให้เข้ากับสีของตัวเครื่อง และตัวกล่องจะมีลวดลาย Texture บาง ๆ ช่วยขับเน้นความหรูหราเพิ่มขึ้นมาอีกนิด
ด้านหลังเรียบ ๆ มีโลโก้วีโว่ และพิมพ์บอกสเปคเบื้องต้นของตัวเครื่องมาให้อ่านนิดหน่อย
แง้มกล่องออกมา ลำดับแรกเลยก็จะพบกับตัวเครื่องที่นอนรออยู่ในถาดรอง และถูกห่อหุ้มมาเป็นอย่างดี
สำหรับ อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ จะใส่กล่องแยกไว้ให้เป็นหมวดหมู่และดูเรียบร้อยดีมาก ๆ แสดงให้ถึงการใส่ใจในทุกรายละเอียดจริง ๆ ครับ และบนตัวกล่องจะมีไอค่อนเล็ก ๆ พิมพ์บอกไว้ว่าข้างในนั้นคืออุปกรณ์อะไร
เทกระจาดออกมากอง ก็จะได้ประมาณนี้แหละฮ่ะท่านผู้ชม มีอะไรให้มาบ้างมาดูกันเลยครับผม
กล่องใหญ่ใบแรกจะบรรจุอุปกรณ์ไว้ตามนี้
เข็มจิ้มถาดซิม, คู่มือการใช้งานอย่างย่อ, ใบรับประกันสินค้า, ฮาร์ดเคสแบบใส
และตามด้วย อแดปเตอร์ชาร์จไฟ ชนิดขาแบน ให้ Output มาที่ 1.0A
สายไมโครยูเอสบี ซิงค์และชาร์จไฟ แปะโลโก้ที่หัวยูเอสบีไว้ด้วยนะเออ
สุดท้าย ชุดหูฟังสมอลทอร์ค แบบเอียร์บัด ในรุ่น XE600i
แถมจุกยางสำรองมาให้อีกสองขนาด
สำหรับสมอ ลทอร์ค XE600i เป็นหูแถมที่คุณภาพดีมาก ทั้งคุณภาพตัววัสดุงานประกอบ และรวมไปถึงสุ้มเสียงก็ถือว่าโอเคมาก ๆ เรียกว่าสู้กับหูฟังรุ่นประหยัดหรือรุ่นเล็ก ๆ ในระดับช่วงราคา 1,xxx ได้อย่างสบาย ๆ เลยครับ
ได้เวลายลโฉมพระเอกของเรากันแล้ว ที่เห็นเบื้องต้นคือฟิลม์ชั่วคราวที่พิมพ์บอกรายละเอียดการถอด- ใส่และชนิดของซิมการ์ด
เมื่อลอกออก มาแล้ว จะมีฟิลม์กันรอยอีกหนึ่งชั้น ซึ่งเป็นฟิลม์ปรกติที่เรานำไปติดกันนี่แหละ สรุปคือติดฟิลม์มาให้ตั้งแต่โรงงานเลย ถือว่าเป็นข้อดี เพราะช่วยประหยัดงบและเวลาให้กับผู้ใช้งาน เมื่อทำการแกะกล่องออกมาแล้ว พร้อมใช้งานได้ทันที เพราะมีทั้งเคสและติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อยแล้วนั่นเอง
ส่วน ด้านหลังไม่ได้ติดฟิลม์มาให้นะครับ แต่ด้วยความที่เป็นกระจกกันรอย Corning® Gorilla Glass® 2.5D เหมือนด้านหน้า ถ้าเป็นการใช้งานปรกติ ก็คงช่วยปกป้องได้ในระดับหนึ่ง แต่เพื่อความสบายใจจะนำไปติดฟิลม์ป้องกันไว้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ครับ
ว่ากันด้วยเรื่องดีไซน์และงานประกอบ
ดีไซน์ของ vivo X5Pro จะเป็น Unibody และได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ ก็คือความนุ่มนวลและพริ้วไหวของสายน้ำนั่นเอง ส่งผลให้งานออกแบบของ vivo X5Pro จะมีความโค้งมนและสอดรับเข้ากับสรีระศาสตร์ของผู้ใช้ได้อย่างกลมกลืนและเป็น ธรรมชาติ
ในด้านของงานประกอบนั้น ก็มีการใส่ใจในทุกรายละเอียด เริ่มจากวัสดุกระจกและโลหะแบบไร้รอยต่อ ตัววัสดุต้องบอกเลยว่ามีความพรีเมี่ ยมอย่างแท้จริง ด้วยเทคโนโลยีการขึ้นรูปแบบ นาโนและการเชื่อมต่อด้วยเลเซอร์ แบบเดียวกันกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน และสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างตัวเครื่องด้วยกรอบโลหะ ที่ผสมผสานกันระหว่างวัสดุสแตนเลสและอลูมิเนียมอัลลอยด์
และ ตัวเฟรมเครื่อง คือในส่วนที่เป็นวัสดุโลหะ มีการออกแบบให้ผิวตัวเครื่องเป็นแบบรังผึ้ง เมื่อผ่านกระบวนการอโนไดซ์ที่มีโครงสร้างแบบไมโครแบบรังผึ้ง จะส่งผลให้กระบวนการเคลือบสีตัวเครื่องนั้นดูสดใสมากยิ่งขึ้นครับ
Display
vivo X5Pro เลือกใช้พาเนลแสดงผลชนิด Super AMOLED โดยมีขนาดหน้าจอ 5.2 นิ้ว ให้ความละเอียดมาที่ Full HD 1080P และยังมาพร้อมกับกระจกโค้ง 2.5D Corning Gorilla Glass ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตัวพื้นผิวกระจกจะเคลือบด้วยสีฟ้าคริสตัลแซฟไฟร์ในระดับนาโน
คุณภาพโดยรวมของจอนั้นดีมากครับ ทั้งสีสันและมุมมอง ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด สิ่งที่จะติก็คือ ไม่สามารถปรับแต่งโทนสีอย่าง Color temperature หรือ Color Profile ได้เหมือนบางแบรนด์ เลยทำให้รู้สึก fix และยืดหยุ่นน้อยไปนิดครับ
จอโค้ง 2.5D หน้าตาเป็นแบบไหน อย่างไร ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็อารมณ์คล้าย ๆ iPhone 6 นั่นแหละครับ
สำรวจ กันต่อที่ส่วนหน้าของด้านบน ไล่จากขวามาซ้าย เริ่มจากชุดเซ็นเซอร์ต่าง ๆ (Proximity sensor และ Light sensor) และตามด้วยลำโพง earpiece ที่มีตะแกรงปิดทับไว้ ตัวตะแกรงจะไม่นูนไม่ยืนออกมา แต่เป็นช่องที่หลบมุมเข้าไป ตามสไตล์ดีไซน์ที่ผ่านมาของค่ายนี้ ถัดมาคือกล้องหน้าที่ให้ความละเอียดมาถึง 8 ล้านพิกเซล ส่วนไฟแจ้งเตือน LED Notification จะอยู่ทางด้านขวามือสุดครับ
ด้าน ล่างของส่วนหน้า ปุ่มสัมผัสแบบ Capacitive Button ตามมาตรฐานของแอนดรอยด์ แต่ไม่มีไฟแบคไลท์มาให้ใช้งานนะครับ ในที่มืดหรือแสงน้อยก็คลำ ๆ กันไป ใช้บ่อย ๆ เดี๋ยวชินไปเอง (ฮ่า)
ด้านล่าง มีพอร์ตไมโครยูเอสบีอยู่ตรงกลาง ขนาบข้างซ้าย-ขวา ด้วยช่องลำโพงที่สวยงามดีแท้ แต่ดีไซน์ของลำโพงก็ดูคุ้นตากันใช่ไหม อิอิ..
สำหรับช่องลำโพงที่เห็นเป็นโมโนนะครับ ไม่ใช่สเตอริโอลำโพงคู่แต่อย่างใด โดยฝั่งทางซ้ายมือคือลำโพงหลักหรือลำโพงมีเดียนั่นเอง ส่วนทางขวามือจะเป็นไมค์สนทนาครับผม ในด้านคุณภาพของลำโพงอยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ ทั้งเรื่องความดังและคุณภาพ
ด้านบนของตัวเครื่อง มีเพียงช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. เท่านั้น
ด้านขวามือของตัวเครื่อง
ไล่ จากบนลงล่าง ปุ่ม volume rocker เพิ่ม-ลดระดับเสียง ถัดลงมาคือปุ่ม Power โดยตัววัสดุของทั้งสองปุ่ม จะใช้วัสดุเดียวกันกับตัวขอบข้างครับ และงานประกอบดีมาก ๆ แน่นหนาไม่โยกคลอนหลวมคลายแต่อย่างใด
สุดท้ายจะเป็นช่องถาดซิม 1 – 2 และถาดหน่วยความจำภายนอก MicroSD Card
จิ้มออกมาดูกันซะหน่อย ตัวถาดจะมีหน้าตาแบบนี้ครับ
ช่องซิม 1 จะใช้ Micro Sim ส่วนซิม 2 จะใช้ Nano Sim
ทั้ง 2 ซิมรองรับ 3-4G ทั้งคู่ แต่แอคทีฟใช้งานได้ที่ละซิมเท่านั้นนะครับ
การ เพิ่มหน่วยความจำภายนอก MicroSD Card จะใช้พื้นที่ของถาดซิม 2 นั่นหมายความว่า เราจะไม่สามารถใช้งานซิม 2 ได้ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งครับ
สำหรับทางด้านซ้ายมือของตัวเครื่อง จะไม่มีอะไรครับ เป็นดีไซน์ที่ปล่อยไว้เรียบ ๆ โล่ง ๆ
ด้านหลังของตัวเครื่องมาพร้อมกับความโดดเด่นไม่แพ้ด้านหน้าเลยครับ โดยวัสดุของด้านหลังจะเป็นกระจก Corning® Gorilla Glass® 2.5D เหมือนกับด้านหน้าอย่างไงอย่างนั้น ให้อารมณ์และฟิลลิ่งในการสัมผัสที่ หรูหราและมีความพรีเมี่ยมในตัว แต่ด้วยความเป็นกระจก การดูแลรักษาก็คงต้องเพิ่มความระมัดระวังขึ้นมาอีกนิดครับ เรื่องการเกิดร่องรอยจากการใช้งานคงไม่เท่าไหร่ แต่ Drop Test นี่งานเข้ากันอย่างแน่นอนครับ
มุม ซ้ายบนจะเป็นที่อยู่ของกล้องหลักด้านหลัง ที่ให้ความละเอียดมา 13 ล้านพิกเซล มี 6 element (6 ชิ้นเลนส์ ) และค่า f/2.0 ช่วยให้การถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น มีไฟแฟลชมาให้ใช้งาน 1 ดวง นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีระบบเซนเซอร์ PDAF ที่สามารถโฟกัสภาพได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำมากยิ่งขึ้น
สำหรับ ตัวเลนส์จะยื่นออกมาไม่มากเท่าไหร่ครับ ไม่ดูน่าเกลียด และที่สำคัญคือกระจกเลนส์เป็นแซฟไฟร์ ที่แข็งแกร่งรองมาจากเพชร ตรงนี้ก็ช่วยปกป้องได้อีกทางหนึ่งครับ
ส่วนล่างของด้านหลังก็ตามที่เห็น ปรกติแล้วจะเป็นพื้นที่ของลำโพง เพียงแต่ X5Pro ย้ายตำแหน่งลำโพงไปที่สันด้านล่างของตัวเครื่องแทน
ลองประกบกับรุ่นพี่ในค่ายที่มีหน้าจอเท่ากันก็คือ vivo Xshot นี่แหล่ะฮ่ะ
ภาพ รวม X5Pro จะมีขนาดที่เล็กกว่านิดหน่อย ส่วนความสวย ผมเทใจไปให้ทาง vivo X5Pro แบบเต็ม ๆ ไม่ใช่ว่าได้หน้าแล้วลืมหลัง หรือเห็นของใหม่พาลเบื่อของเก่าแต่อย่างใด แต่ดีไซน์และความงามของ X5Pro นี่มันโดนใจผมจริง ๆ ครับ
เทียบกับ Huawei P8 เพื่อนนอกค่ายแต่สัญชาติเดียวกัน และมีขนาดหน้าจอเท่า ๆ กันอีกด้วย
ภาพ รวม Huawei P8 จะมีขนาดที่เล็กกว่านิดหน่อย เป็นเพราะการออกแบบและจัดสรรพื้นที่ของขอบบน-ล่าง และรวมไปถึงขอบด้านข้างของตัวเครื่องนั้นทำได้อย่างลงตัวกว่านั่นเอง
จับทั้งสามหนุ่มสามมุมมาประชันความหล่อ
ดี ไซน์ก็เดินกันไปคนละแนว สวยกันไปคนละแบบ แต่เรื่องความงาม ความสวย ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคลจริง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ชี้นำกันไม่ได้หรอกนะครับ
เรื่อง ความบางนั้นสูสีกันครับระหว่าง Huawei P8 และ vivo X5Pro ตามสเปคแล้วทั้งคู่บาง 6.4mm อาจจะต่างกันแค่เศษเสี้ยวของตัวเลข ซึ่งไม่มีผลในการใช้งานจริงหรือสามารถดูออกด้วยตาเปล่า
ส่วน Xshot จะบางอยู่ที่ 7.99 มม. ตรงนี้ต่างกันแบบพอมองเห็นได้ชัดเจน
มาดูกันต่อในส่วนของ Software แบบคร่าว ๆ นะครับ
vivo X5Pro เปิดตัวมาพร้อมกับ Android 5.0 (Lollipop) สำหรับ ROM 16 GB จะเหลือพื้นที่ให้ใช้จริง โดยแบ่งเป็นพื้นที่เก็บข้อมูลทั่วไป ประมาณ 8.67GB และในส่วนของพื้นที่ติดตั้งแอพฯประมาณ 2.82GB
สำหรับ รายละเอียดเชิงลึกของตัว Software อย่าง Funtouch OS 2.1 ผมขอยกไปเขียนให้อ่านกันแบบละเอียด ๆ ในบทความหน้า ส่วนใครใจร้อน แนะนำให้อ่านจากบทความเก่าของ X5 ไปพลาง ๆ ก่อนก็ได้นะครับ เพราะมีความใกล้เคียงกัน โดยที่แตกต่างกันไม่มากเท่าไหร่ 
Android Review: Software รีวิว vivo X5 ตอนที่ 1 (User Interface & Performance) !!!
Hardware Test & Performance
จากนี้มาดูกันต่อในส่วนของผลการทดสอบประสิทธิภาพบนตัวเครื่อง vivo X5Pro
ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย AnTuTu Benchmark (64bit) ได้ 32052 คะแนน
ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย Quadrant Standard ได้ 10626 คะแนน
ผลทดสอบจาก PCMark ได้คะแนน 3345
ส่วน 3DMark ได้คะแนนที่ 5359
Geekbench 3 ทำคะแนนในส่วนของ Single Core ที่ 415 และ Multi Core ได้ 1684
FXBench GL Benchmark ได้คะแนน Best Score 360
ผลทดสอบความเร็ว ด้วย Velamo (Metal) ได้ 1096 คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย Velamo (Multicore) ได้ 1092 คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย Velamo (Browser Android WebView) ได้ 1076 คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย Velamo (Chrome Browser) ได้ 1500 คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย NenaMark 2 ได้ 56.4 เฟรม/วินาที
ภาครับสัญญาณของ GPS ทำได้รวดเร็วดีครับ ทดสอบการจับสัญญาณโดยที่ไม่เชื่อมต่อดาต้า ทั้งในอาคารและนอกสถานที่ก็ไม่พบปัญหาแต่อย่างใด
ผลทดสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch ได้สูงสุด 10 จุด
เซ็นเซอร์บน vivo X5Pro เมื่อใช้โปรแกรม Android Sensor Box ตรวจสอบก็จะมีดังนี้
Accelerometer Sensor
Light Sensor
Orientation Sensor
Proximity Sensor
Gyroscope Sensor
Sound Sensor
Magnetic Sensor
มาดูกันต่อในส่วนของ Sample Camera ครับ
vivo X5Pro มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องหลักด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
เมนู Interface กล้องของ vivo X5Pro จะเหมือนกับรุ่นพี่ภายในค่ายครับ
โหมด การใช้งานต่าง ๆ ก็เหมือนกัน คือมีซีนโหมดหรือโหมดอัตโนมัติมาให้งานอย่างครบถ้วน และส่วนที่เพิ่มเข้ามาเมื่อเทียบกับ Funtouch 1.0 หรือตัว vivo Xshot ก็คือ โหมด Gender ที่ระบุเพศได้นั่นเอง
และ แน่นอครับ จุดขายของค่ายนี้ คือมีโหมดโปรมาให้ใช้งาน เอาใจและตอบโจทย์มือโปรหรือผู้ที่ชื่นชอบการปรับแต่งตั้งค่าแบบ manual ได้เองอย่างอิสระครับ
จากนี้มารับชมภาพตัวอย่างจากกล้องของ vivo X5Pro กันต่อเลยครับ
แต่ขอบอกกล่าวล่วงหน้าว่าบางภาพนั้นไปถ่ายในวันที่ ฝนตก ท้องฟ้าไม่มีแดด จึงดูครึ้ม ๆ สีตุ่น ๆ ไปบ้าง แต่ก็เป็นการเก็บ Ambiance ของภาพมาได้ถูกต้องสมจริงกับที่ตาเห็นครับ
Normal
HDR On
ทดสอบกล้องหน้าในโหมดบิวตี้ แต่ปรับค่าระดับไว้ที่ 0
ตัวโหมดบิวตี้สามารถปรับได้จาก 0 – 100 ระดับ โดยรูปนี้ปรับไว้ที่ระดับ 50
เมื่อลองปรับสูงสุดที่ระดับ 100 ก็จะให้ผลลัพธ์ประมาณนี้ครับ
มาสรุปในส่วนของกล้อง vivo X5Pro กันนะครับ
การ โฟกัสจากระบบเซนเซอร์ PDAF รวดเร็วแม่นยำสมราคุยเลยครับ และคุณภาพไฟล์ก็ดีมาก ให้ภาพที่มีความคม สดใส และให้สีสันที่เป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับที่ตาเห็น โหมดการใช้งานต่าง ๆ ก็มีมาให้ใช้งานหลากหลายและครบถ้วนในระดับหนึ่ง แถมยังมีโหมดโปรมาให้ใช้งาน เอาใจและตอบโจทย์มือโปรหรือผู้ที่ชื่นชอบการปรับแต่งตั้งค่าแบบ manual ได้เองอย่างอิสระ ส่วนกล้องหน้าก็ให้คุณภาพที่ดีเช่นกัน ออกใส ๆ เคลียร์ ไม่ realism มากนัก น่าจะถูกใจขาเซลฟี่ละครับ
สำหรับสิ่งที่ขาดไปก็ คือกันสั่น OIS และแฟลชคู่ทูโทน และในโหมด HDR ดูเหมือนจะยังไม่เก่งเท่าไหร่ แต่ในภาพรวมแล้ว คุณภาพกล้องของ vivo X5Pro นั้นดีมาก ๆ ใครชื่นชอบถ่ายภาพ รับประกันว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนครับ
สรุป vivo X5Pro
ข้อดี
1. ดีไซน์สวยงาม วัสดุหรูหราพรีเมี่ยม มีงานประกอบที่แข็งแรงเรียบร้อยดีมาก
2. มาพร้อมกับ Android 5.0 Lolllipop ตั้งแต่โรงงาน
3. คุณภาพกล้องดีมากและเทคโนโลยีระบบเซนเซอร์ PDAF ก็เจ๋งสมราคาคุย
4. ราคาเปิดตัวเพียง 13,990 บาท ในภาพรวม ๆ แล้ว จัดว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่โดดเด่นและคุ้มค่าสำหรับตลาด mid-range
สิ่งที่ต้องพิจารณา
1. แบตยังไม่อึดเท่าไหร่
2. วัสดุเป็นกระจกทั้งหน้าและหลัง แม้จะเป็นกระจกกันรอย แต่ถ้า Drop test ก็งานเข้า ต้องดูแลรักษาและระมัดระวังในการใช้งานมากขึ้น
3. ใช้งานหนัก ๆ ตัวเครื่องร้อนไว้
4. ยังไม่ใส่ NFC มาให้เหมือนเช่นเคย
ก็คงจะฝากไว้แต่เพียงเท่านี้ สำหรับรีวิว vivo X5Pro แล้วพบกันใหม่ในรีวิวทดสอบด้านเอนเตอร์เทนครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ ^^ 
ถูกใจบทความนี้ 2
