ทักทาย วันพุธ สุดทีน – Sandisk USB Type-C, Service Center

Sandisk-USB-Type-C

สวัสดีวันพุธ ครับ เรื่องสุดทีนวันนี้มาอัพเดทกันกับ flashdrive จากค่าย Sandisk ซึ่งปัจจุบันเราจะเห็นรองรับการใช้งาน OTG มากขึ้นในตลาด แต่อีกเทรนด์นึงที่ขาดไม่ได้ แม้จะยังไม่แพร่หลายมากนัก แต่ก็เริ่มมีใช้งานกันแล้ว ในเครื่อง notebook ที่มีราคาสูงขึ้นมา นั่นก็คือ Sandisk USB Type-C นั่นเอง ซึ่งรองรับทั้งการใช้งานบน USB 3.0 ด้วย เรียกว่าครบถ้วนและลงตัว เชื่อว่าอีกไม่นาน USB Type-C จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่ลงมาอยู่บน Smartphone แทน micro USB ในปัจจุบัน ในเบื้องต้นตอนนี้ยังคงโอนถ่ายข้อมูลระหว่างเครื่องที่มี USB เดิมๆ อยู่กับเครื่องที่มี USB Type-C ซึ่งหากต้องการใช้งานร่วมกับ Smartphone ในปัจจุบันก็ต้องหา USB OTG Adapter มาเชื่อมต่ออีกชั้นนึง จึงจะครบสูตร ใช้งานได้ทุกรูปแบบ โดยความจุที่ Sandisk ออกมากับรุ่นนี้อยู่ที่ 32 GB ก็ถือว่าไม่มากและไม่น้อยเกินไป  จริงๆ หากใช้งานกับ Android Smartphone อย่างเดียว จริงๆ Sandisk ก็มีให้เลือกใช้งานเป็น Sandisk Ultra dual-use USB 3.0 อันนี้ก็รองรับ OTG ใช้งานกับ Android ได้ทันที แต่ต้องละในฐานที่เข้าใจว่า เครื่องรุ่นนั้นต้องรองรับมาตรฐาน OTG ด้วยนะ ไม่ได้ใช้งานได้กับทุกตัว ทุกรุ่น เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกัน และเดี๋ยวนี้ขนาดก็เล็กลง ใส่เป็นพวงกุญแจ ติดตัวเอาไว้ใช้งานได้ทุกที่สบายๆ ไม่เพียงแค่นั้น เผื่อใครอยากได้ microSD Card ที่มีความจุเยอะๆ อีกไม่นานนี้คงจะมีวางขายทั่วๆ ไป คือ micro SD แบบความจุดสูงขนาด 200GB แต่ราคาคงโหดเอาเรื่อง อันนี้ก็เอาไว้เก็บข้อมูลแทน External HDD ได้เลย แต่ปัญหาเดิมคือ เครื่องที่รองรับการอ่านข้อมูลขนาดนี้ ก็ต้องดูว่าได้หรือไม่นะครับ ที่รู้ๆ ก็คงจะมี HTC แบรนด์นึงล่ะที่รองรับ micro SD ได้ถึง 2TB อันนี้ก็แค่ 200 GB รับได้สบายๆ ส่วนแบรนด์อื่นๆ ส่วนใหญ่สเปคก็ระบุที่ 32/64/128GB แล้วแต่รุ่นนะครับ ดังนั้นเทคโนโลยีที่มาเร็วๆ นี่เราก็แค่รู้ไว้ว่ามี แต่อาจจะไม่จำเป็นต้องหาซื้อมาใช้งานก่อนใคร เนื่องจากยังมีราคาสูง และอีกประการนึงก็คือ การใช้งานที่อาจจะยังไม่รองรับกับคนส่วนใหญ่ หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์ที่อยู่ในมือก็ตามที

มีเรื่องเตือนนิดนึง คือประสบการณ์เกี่ยวกับการเข้าใช้งานบริการ ไม่ว่าจะเรื่องใดๆ ก็ตาม ผมเจอมาหลายครั้งแต่ก็ยังไม่เข็ด ไม่จำ ก็ได้แต่คิดว่าไว้ใจเรื่องบริการ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ใหญ่ เล็ก ก็ตามที ความไว้ใจ มันเอามาเป็นหลักฐานไม่ได้เลย เพราะว่า ล่าสุด ได้เข้าเคลมเครื่อง smartphone นี่ล่ะครับ กับศูนย์ใหญ่ แต่ขอยังไม่เอ่ยชื่อก็แล้วกัน เพราะเรื่องก็ยังไม่ถึงที่สุด เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเคลมถาดซิม คือมันเกิดหัก จากการใช้งานตามธรรมชาติ ผมเองก็งง ว่ามันเปราะได้ถึงขนาดนี้เลย? แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว ทำให้ต้องเข้าศูนย์ วันที่เข้าศูนย์ ก็เช็คเครื่องทุกอย่างปกติ รอยอะไรก็ไม่มีแน่นอน เพราะว่าใหม่ๆ ซื้อมาก็ไม่นาน พอผ่านไปสัก 2 อาทิตย์ ก็มีโทรเข้ามาให้ไปรับเครื่อง แต่เนื่องจากไม่ค่อยว่าง จึงไปรับมาเมื่อวานนี้สดๆ ปรากฎว่า เครื่องมีรอยแครก หรือรอยแตกบริเวณด้านข้าง ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ซึ่งจำได้แน่นอนว่าไม่เคยมี มันน่าแปลกใจ ซึ่งแน่นอนว่าก็แจ้งเจ้าหน้าที่ไปว่าก่อนส่งไปไม่เป็นแน่ๆ เพราะต้องการแค่เคลมถาดซิมอย่างเดียว ก็ทำเรื่องส่งกลับไปใหม่ งานนี้คงเคลมเรื่อง รอยแตก ซึ่งไม่ได้เกิดจากการใช้งานของเราแน่นอน ก็ต้องรอต่อไป แต่เรื่องที่จะเตือนนี่ก็คือ เราก็ได้แต่พูด ไม่มีหลักฐานอะไร ดังนั้นแนะนำก่อน ส่งเคลม เรื่องเครื่องหรือจริงๆ อุปกรณ์ทุกชิ้น นั่นล่ะครับ ควรถ่ายรูปภาพ ชัดๆ แบบละเอียด ทุกซอก ทุกมุม เท่าที่จะทำได้ เก็บเอาไว้ เผื่อมีโอกาสเกิดขึ้น จะเอาได้หลักฐานมายืนยันได้ เพราะเคสแบบนี้ ยังไงเราก็ไม่มีหลักฐานมายืนยัน ทั้งในใบสัญญาส่งเครื่องเคลมเองก็มีแค่ ระบุว่าอาการอะไร มีอุปกรณ์อะไรอยู่ที่ไหนบ้าง อาจจะมีบางศูนย์ให้ใส่รายละเอียดอื่นๆ ถ้ามีก็ให้เขียนไปเลยว่า เครื่องอยู่ในสภาพไร้ร่องรอย หรือมีรอยกี่ที่ก็ว่าไป ให้ชัวร์ ไม่อย่างนั้นพอเกิดเหตุการณ์ขึ้น เราจะเสียเปรียบ และอาจจะถึงขั้นเคลมไม่ได้ ซึ่งเคสนี้ก็อยู่ระหว่างการส่งกลับไป ซึ่งแน่นอนว่าประกันก็เดิน เครื่องก็ไม่ได้ใช้ และเสียเวลา อ้อ แต่สรุปว่า เครื่องนี่ไม่ได้เกิดจากการใช้งานแน่นอน ตอนไปนี่ก็สภาพดี แต่ที่มั่นใจว่าเกิดรอยจากการซ่อม เพราะว่า ในระบบมีการแจ้ง เปลี่ยนเมนบอร์ด เปลี่ยนอุปกรณ์ด้านใน (ทั้งที่ถาดซิมหัก) มีการแกะเครื่อง ผมเลยถึงบางอ้อว่า อืม ไม่ได้เกิดจากการใช้งานของเราจริงๆ เพราะบางทีเราก็อาจจะลืมได้ แต่เคสแบบนี้มีการแกะเครื่องแสดงว่า การซ่อมไม่ระมัดระวัง และถ้าเคสนี้ไม่เคลมให้ ผมก็คงไม่ยอมแน่นอน ก็ฝากเอาไว้กับประสบการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ทั้งที่เราก็ไม่ต้องการให้เกิดนะครับ ไว้พบกันใหม่โอกาสต่อๆ ไป



ถูกใจบทความนี้  1