Huawei P8 Lite เป็นน้องนุชตัวสุดท้องของหัวเหว่ยซีรีย์ P8 ครับ และสำหรับ P8 Lite จะเป็นรุ่นที่เข้ามาทำตลาด Mid Range หรือตลาดระดับกลาง โดยพกความน่าสนใจมาเยอะเหมือนกัน เช่นรองรับ 4G LTE มีงานประกอบและดีไซน์ที่ดูสวยงาม รวมไปถึง ฟีเจอร์ และตัว Software ที่ใช้ในการขับเคลื่อนเป็นต้น ที่สำคัญมีราคาที่ไม่แรงจนเกินเอื้อม จัดว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นของตลาดระดับกลางที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยครับ
ขอขอบคุณ HUAWEI Thailand สำหรับเครื่องทดสอบและใช้ในการเขียนบทความนี้ครับ
สเปคเบื้องต้นแบบย่อ ๆ ของ Huawei P8 Lite
~ OS : เปิดตัวมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.0 (Lollipop) ครอบทับด้วย Emotion 3.1 UI
~ ชิปเซ็ต : CPU HiSilicon Kirin 620 (Octa-core ) ความเร็ว 1.2GHz
~ หน่วยประมวลผลกราฟฟิก : GPU Mali-450MP4
~ ROM 16GB และรองรับหน่วยความจำภายนอก MicroSD card ได้สูงสุด 128GB
~ RAM 2GB
~ จอแสดงผลชนิด IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด HD 720 x 1280 pixels (~294 ppi pixel density)
~ การเชื่อมต่อ 2G : 850 / 900 / 1800 / 1900 MHz
~ การเชื่อมต่อ 3G : WCDMA 850 / 900 / 1900 / 2100 MHz
~ การเชื่อมต่อ 4G LTE: LTE Cat4/
~ รองรับการใช้งานในระบบ 2 ซิมการ์ด
~ การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n , Bluetooth V. 4.0 , GPS/A-GPS/ FM Radio
~ กล้องหลักด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED 1 ดวง
~ กล้องด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
~ ขนาดตัวเครื่อง 143 x 70.6 x 7.7 มิลลิเมตร
~ น้ำหนัก 131 กรัม
~ แบตเตอรี่ Li-polymer ความจุ 2200mAh
ราคาวางจำหน่าย 7,990 บาท
สเปคโดยละเอียดสามารถดูได้จาก official page Huawei P8 Lite specification
ดีไซน์และงานประกอบ
ดีไซน์ของ Huawei P8 Lite จะไม่แตกต่างไปจาก P8 มากนัก ที่ต่างก็คือในส่วนของวัสดุหลักของตัวเครื่องที่จะเป็นโพลีคาร์บอเนต ในขณะที่ P8 วัสดุหลักจะเป็นโลหะ
ด้าน หลังมองผ่าน ๆ ก็ยังคงเหมือน P8 เช่นกันครับ ยกตัวอย่างเช่น การออกแบบด้านหลังให้ราบเรียบเสมอกัน ไม่มีส่วนที่ยื่นนูนออกมา ไม่ว่าจะเป็นตัวเลนส์กล้องหรือส่วนประกอบอื่น ๆ และมีการตัดขอบด้านบนด้วยวัสดุกระจก ในส่วนของตัวฝาหลัง ก็ตามที่เกริ่นไว้คือเป็นพลาสติกนั่นเอง เพียงแต่มีการสร้าง Texture ลงไปในสไตล์ brushed metal ซึ่งมองผ่าน ๆ จะให้อารมณ์ประหนึ่งโลหะครับ
Huawei P8 Lite มาพร้อมกับหน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด HD 720P เรื่องความคม ความสว่าง และมุมมองอยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ เพียงแต่เรื่องความสว่างอาจจะยังไม่ค่อยโดดเด่นมากนัก
ส่วน หน้าของด้านบน ไล่จากซ้ายไปขวา เริ่มจากไฟแจ้งเตือน LED Notification ที่อยู่ข้าง ๆ ชุดเซ็นเซอร์ต่าง ๆ (Proximity sensor และ Light sensor) และตามด้วยลำโพง earpiece ที่มีตะแกรงปิดทับไว้ ถัดมาคือกล้องหน้าที่ให้ความละเอียดมาถึง 5 ล้านพิกเซล
ด้านล่างของส่วนหน้า ปุ่มสัมผัสแบบ On screen buttons ตามมาตรฐานของแอนดรอยด์ และสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของ Navigation ในภายหลังได้ตามสไตล์การใช้งานของเรา
ขอบข้างของตัวเครื่องจะตัดขอบด้วยวัสดุโลหะที่ดูแวววาวสวยงามครับ ด้านบนของตัวครื่อง จะมีไมค์ตัดเสียงรบกวนและ ช่องเสียบหูฟัง 3.5มม.
ด้าน ล่าง งานออกแบบจะมีความคล้ายคลึง P8 เลยครับ โดยมีพอร์ตไมโครยูเอสบีอยู่ตรงกลาง ช่องลำโพงที่เห็นเป็นโมโนนะครับ ไม่ใช่สเตอริโอลำโพงคู่แต่อย่างใด โดยฝั่งทางซ้ายมือคือลำโพงหลักหรือลำโพงมีเดียนั่นเอง ส่วนทางขวามือจะเป็นไมค์สนทนาครับผม สำหรับคุณภาพของลำโพงอยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ ทั้งเรื่องความดังและคุณภาพ
ด้าน ขวามือของตัวเครื่อง ไล่จากบนลงล่าง ปุ่ม volume rocker เพิ่ม-ลดระดับเสียง ถัดลงมาคือปุ่ม Power โดยตัวปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ที่มีลวดลาย Texture อยู่บนตัวปุ่มด้วย ทำให้ดูหรูหราขึ้นไปอีกนิด
ถัดลงมาคือช่องซิม 2 ที่ใช้ซิมชนิด Nano Sim และเป็นถาดที่ใช้งานร่วมกันทั้งตัวซิมและ MicroSD Card สุดท้ายคือช่องถาดซิม 1 ครับ โดยใช้ซิมชนิด Micro Sim
ทางด้านซ้ายมือจะเรียบ ๆ โล่ง ๆ ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ
ยลโฉมด้านหลังกันต่อ ตามที่เกริ่นไว้ในตอนต้น คือตัวฝาหลังจะเป็นพลาสติก ที่มี Texture ในสไตล์ brushed metal และตัดขอบด้านบนด้วยวัสดุกระจกครับ
สำหรับกล้องหลักด้านหลัง จะมาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และมี LED Flash มาให้ใช้งาน 1 ดวง
ภาพรวม ๆ ในส่วนของ Hardware ภายนอกก็จะมีประมาณนี้ครับ
มาดูกันต่อในส่วนของ Software แบบคร่าว ๆ กันนะครับ
Huawei P8 Lite เปิดตัวมาพร้อมกับ Android 5.0 (Lollipop) ตั้งแต่โรงงาน และครอบทับด้วย Emotion UI เวอร์ชั่น 3.1 สำหรับพื้นที่ของ ROM 16GB จะเหลือให้ใช้งานจริงราว ๆ 9GB กว่า ๆ ครับ
Emotion UI เวอร์ชั่น 3.1 เป็น Launcher ที่มาในสไตล์ iOS คือไม่มีหน้า App Drawer นั่นเอง
สำหรับการปรับแต่งและการตั้งค่าต่าง ๆ ของ Emotion UI ทำได้อย่างยืดหยุ่น ตามสไตล์ Launcher ทั่ว ๆไปบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์
ขอ พูดถึงแอพฯ แบบย่อ ๆ ละกันนะครับ แอพพื้นฐานมีมาให้ครบถ้วน ทั้ง Google Apps และ Tools เครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น Phone Manager ที่ช่วยบริหารและจัดการมือถือของเราให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ส่วน third party apps จะไม่มีการยัดเยียดใส่มาให้รกเครื่องเหมือนบางแบรนด์ ซึ่งตรงนี้โดยส่วนตัวผมชื่นชอบมาก
หน้า Setting การตั้งค่าของ Huawei P8 Lite
สำหรับ ฟีเจอร์หลักของ P8 Lite จะน้อยกว่าตัว P8 นะครับ จึงขอสรุปย่อ ๆ คือ ในส่วนของฟีเจอร์ที่มีมาให้ใช้งานจะเป็นแบบเบสิคทั่วๆไป เช่น Motion control, โหมดประหยัดพลังงาน, การปรับตั้งค่าในส่วนของการแสดงผลเป็นต้น
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่อาจจะไม่ได้โปรโมต แต่ก็เป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ไม่น้อยเลยครับ คือในโหมด Privacy rotection ในเมนู Security ที่จะช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวของเราให้ปลอดภัย ในกรณีที่มีการใช้งานมากกว่า 1 ยูสเซอร์
Hardware Test & Performance
จากนี้มาดูกันต่อในส่วนของผลการทดสอบประสิทธิภาพของตัวเครื่อง Huawei P8 Lite กันต่อเลยครับ
ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย AnTuTu Benchmark ได้ 35228 คะแนน
ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย Quadrant Standard ได้ 9894 คะแนน
ผลทดสอบจาก PCMark ได้คะแนน 3512
ส่วน 3DMark ได้คะแนนที่ 2277
Geekbench 3 ทำคะแนนในส่วนของ Single Core ที่ 590 และ Multi Core ได้ 2618
FXBench GL Benchmark ได้คะแนน Best Score – None
ผลทดสอบความเร็ว ด้วย Velamo (Metal) ได้ 1085 คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย Velamo (Multicore) ได้ 1486 คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย Velamo (Browser) ได้ 1289 คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย Velamo (Chrome Browser) ได้ 1592 คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย NenaMark 2 ได้ 60.3 เฟรม/วินาที
ภาครับ สัญญาณของ GPS ทำได้รวดเร็วพอประมาณครับ ทดสอบการจับสัญญาณโดยที่ไม่เชื่อมต่อดาต้า ทั้งในอาคารและนอกสถานที่ก็ไม่พบปัญหาแต่อย่างใด
ผลทดสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch ได้สูงสุด 10 จุด
เซ็นเซอร์บน Huawei P8 Lite เมื่อใช้โปรแกรม Android Sensor Box ตรวจสอบก็จะมีดังนี้
Accelerometer Sensor
Light Sensor
Orientation Sensor
Proximity Sensor
Sound Sensor
Magnetic Sensor
มาดูกันต่อในส่วนของคุณภาพรูปถ่ายจากกล้อง Huawei P8 Lite
Huawei P8 Lite มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
ส่วนกล้องหลักด้านหลังให้ความละเอียดมา 13 ล้านพิกเซล และมีไฟแฟลชมาให้ใช้งาน 1 ดวง
ในส่วนของอินเทอร์เฟซ หรือเมนูกล้องบน P8 Lite ก็ยังมาในสไตล์ซีรีย์ P8 ครับ คือพูดง่าย ๆ ว่าภาพรวมไม่ต่างไปจาก P8 สักเท่าไหร่
ไม่ ว่าจะเป็น ซีนโหมด, เอฟเฟกต์, หรือฟิลเตอร์ต่าง ๆ ส่วนที่จะขาดหายไปก็คือ โหมดถ่ายไฟครับ ซึ่งตรงนี้เป็นข้อจำกัดทางด้านตัว Hardware ที่แตกต่างกันระหว่าง P8 กับ P8 Lite
จุด ขายในด้านฟีเจอร์ก็คือโหมด Perfect selfie ครับ โดยเราสามารถ Register ใบหน้าของเราไว้ และทำการปรับแต่งให้เหมาะหรือให้เป็นไปตามสไตล์ที่เราชื่นชอบได้ จากนั้นก็ทำการบันทึกเก็บไว้เป็นโปรไฟล์ หลังจากนั้นในการใช้งานกล้องหน้า ไมว่าเราจะถ่ายมุมไหน หรือถ่ายในรูปแบบใด ตัว Software ก็จะทำการประมวลจากโปรไฟล์ของเรา ทำให้การถ่ายรูปด้วยกล้องหน้าเป็นอะไรที่สะดวกสบายและตอบโจทย์ในการใช้งาน ได้อย่างน่าประทับใจเลยครับ
จากนี้ก็มาดูรูปภาพตัวอย่างจากกล้องกันเลยนะครับ
กล้อง หน้าให้ความละเอียดมา 5 ล้านพิกเซล โดยมีโหมด Perfect selfie เป็นจุดขาย โดยความสามารถทางด้าน Software ไม่แตกต่างจากตัวรุ่นพี่ภายในค่าย แต่คุณภาพโดยรวม ๆ อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ยังไม่โดดเด่นเท่าไหร่ครับ
สรุปในส่วนของกล้อง บน Huawei P8 Lite
พูดถึงข้อด้อยกันก่อน การโฟกัสและการบันทึกของ Huawei P8 Lite ยังหน่วง ๆ ช้า ๆ ไปนิด เมื่อเทียบกับรุ่นพี่ P8 และไม่มีโหมดถ่ายไฟมาให้ใช้งาน ส่วนกล้องหน้า คุณภาพยังไม่โดดเด่น สำหรับจุดเด่นของกล้อง Huawei P8 Lite อยู่ที่ความแม่นยำในเรื่องของไวท์บาลานซ์ สำหรับความคมและสีสันของตัวกล้องหลัง อยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้เลยครับ
สรุป Huawei P8 Lite
ข้อดี
1. ตัวเครื่องดีไซน์สวย และเบา บาง กำลังดี มีงานประกอบที่แข็งแรง
2. สเปคต่อราคา ถือว่าเหมาะสม และคุ้มค่า
3. โหมด Perfect selfie ช่วยจดจำใบหน้า ทำให้ใช้งานได้สะดวกทุกสถานการณ์
4. กล้องหลังคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดีหวังพึงพาได้
สิ่งที่ต้องพิจารณา
1. ให้แบตมาน้อยไปนิด
2. ยังต้องเลือกระหว่างการใช้งาน 2 ซิม กับ การใช้ Micro SD Card
3. กล้องหน้าคุณภาพยังไม่โดดเด่นเท่าไหร่
ก็คงจะฝากไว้แต่เพียงเท่านี้ สำหรับรีวิว Huawei P8 Lite แล้วพบกันใหม่ในรีวิวทดสอบด้านเอนเตอร์เทนครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ ^^
สามารถพูดคุยเกี่ยวกับบทความนี้ได้ที่หน้าเว็บบอร์ดเดิมครับ pdamobiz.com
You must be logged in to post a comment.