รีวิว Plantronics Backbeat Sense หูฟัง Semi Full Size สไตล์ชิคๆ

Plantronics ได้เปิดตัว Bluetooth Headset ตัวใหม่นามว่า “Plantronics Backbeat Sense” ซึ่งเป็นหูฟังขนาด Semi Full Size หรือก็คือหูฟังแบบครอบหัวที่พกพาได้นั่นเองครับ โดยมีจุดเด่นตรงที่สามารถเล่นเพลงได้ยาวนานสูงสุดถึง 18 ชั่วโมงและมี Smart Gesture ที่จะเล่น/หยุดเพลงทันทีที่ใส่หูฟัง ฯลฯ ทั้งยังมีดีไซน์สวยงามเหมาะกับทุกคนด้วยครับ จะจริงมั้ยมาดูกัน

Plantronics Backbeat Sense Feature:
– รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์พร้อมกัน 2 เครื่อง
– ระบบเสียงแบบสเตอริโอ
– มาพร้อมกับระบบบลูทูธ Class 1 ซึ่งทำให้คุณสามารถสื่อสารได้ในรัศมีทำการ 100 เมตร
– เพลง/หยุดเพลงอัตโนมัติ ทันทีที่ถอด/ใส่หูฟัง ด้วย Smart Sensor
– สามารถฟังเพลงได้ยาวนานถึง 18 ชม. และหากแบตเตอรี่หมดก็สามารถเปลี่ยนมาใช้สายเคเบิล ก็สามารถเล่นเพลงต่อได้
– รับ/โอนสายไปยังโทรศัพท์อัตโนมัติ ทันทีที่สวมหรือถอดหูฟัง
– สนทนากับคนรอบข้างโดยไม่ต้องถอดหูฟังออก
– โชว์สถานะแบตเตอรี่ที่หน้าจอมือถือหรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ
– สามารถหาโลเคชั่นล่าสุดที่คุณวางหูฟังไว้ด้วยแอพพลิเคชั่น Plantronics Find MyHeadset
– มี 2 สี คือ Black/Espresso และ White/Tan
– น้ำหนัก 140 กรัม
– ราคา 6,950 บาท

แกะกล่อง

เริ่มต้นที่การแกะกล่องกันก่อนครับ ตัวหูฟังที่ได้มารีวิวเป็นสีขาว กล่องเเลยขาวตามรึเปล่าก็ไม่รู้นะ ฮ่าๆ แต่เอาเป็นว่ากล่องที่ได้มารีวิวเป็นสีขาวครับ และหน้ากล่องก็โชว์ภาพผลิตภัณฑ์อย่าง Backbeat Sense ให้เห็นกันชัดๆ เลย

ด้านหลังกล่องบอกฟีเจอร์ สเปค ดีไซน์ต่างๆ

ด้านล่างกล่อง

ด้านบนกล่องครับ เอาไว้แขวนตามชั้นขายน่ะล่ะ

ด้านข้างกล่องครับ จริงๆ เป็นแค่กล่องสวมอีกชั้นนึง กล่องจริงๆ คือกล่องสีดำครับ

ได้เวลาดึงมันออกมากันละล่ะ

เปิดไส้ในออกมาเรียบร้อยจะพบกับกล่องที่เขียนว่า Plantronics กลางกล่องครับ

เปิดกล่องกันดีกว่า มีอะไรอยู่ในซองไม่รู้ แต่ด้านใต้ฝากล่องบอกเราชัดเจนว่า เจ้านี่ถูกออกแบบที่ SANTA CRUZ, CALIFORNIA ครับ

ในกล่องก็จะมีหูฟังหลับไหลอยู่ในซอง (แน่ล่ะ ถ้าไม่มีล่ะงานงอกแล้ว), ใบรับประกันวางให้เห็นชัดเจน จะได้ไม่ลืมลงทะเบียนกัน

แกะซองสีดำออกมาจะพบกับถุงผ้าสีครีมสะอาดตา ที่ไม่เคยถูกสิ่งใดทำให้เปื้อนมาก่อน เห็นแล้วไม่อยากจะเอาใบนี้พกไปไหนเลยจริงๆ

เปิดซิปช่องล่างดูกันหน่อย อ๊ะ เจออะไรดำๆ

หยิบออกมาดู นี่มันคู่มือแทบทุกภาษาที่ใช้กันทั่วโลกเลย เรียกว่าขายประเทศไหนก็ต้องอ่านกันออกล่ะ

ในซิปช่องแรกยังมีอุปกรณ์อื่นๆ อีกประกอบด้วย
– สาย Micro USB
– สายเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. เอาไว้ใช้ยามแบตหมด

เอาล่ะ เปิดมันทุกสิ่งละเหลือแค่ซิปช่องบนนี่ล่ะ หูฟังต้องอยู่ในนี้แน่ๆ และก็เจอจนได้

หูฟัง Backbeat Sense ที่ได้มารีวิวนั้นมีสีขาวครับ โดยจะทำหนังตรงที่คาดหัวและตรงหูฟังเป็นสีน้ำตาลเพื่อให้ดุชิค หรู มีสไตล์

พลิกตัวหูฟังมาดูกันหน่อยมีบอกด้วยนะว่าข้างซ้ายข้างขวา (ไม่บอกสิแปลก ฮ่าๆ)

ด้านบนหูฟังบอกแบรนด์ชัดเจนว่า Plantronics บนก้านอลูมิเนียมเล็กๆ ซ้อนด้วยที่หนังนุ่มๆ เอาไว้รับศีรษะขณะสวมใส่ ทำให้รู้สึกนุ่มสบายๆ ไม่เจ็บครับ

ทั้งนี้ตรงก้านเหล็กสามารถยืดได้อีก 10 ระดับนะครับ แต่ส่วนตัวผมใช้งานก็ไม่ต้องยืดออกนะ (หัวเล็ก ฮ่าๆๆ)

ต่อไปมาดูตรงตัวลำโพงหูฟังกันบ้าง เริ่มจากด้านขวากันก่อน อ๊ะๆ หนังสีน้ำตาล นุ่มๆ แค่เห็นก็ฟินแล้วนะ

พลิกมาก็ไม่เจออะไรนอกจากลำโพงด้านนอก ซึ่งเจ้าลำโพงด้านนอกนี้มีไว้ตอนที่เราเปิดโหมด รับรู้เสียงภายนอก ที่แม้สวมหูฟังอยู่เราก็ได้ยินเสียงรอบๆ ครับ ไม่ต้องถอดหูฟังออกเลย

ตรงก้านหูฟังทางขวามีปุ่มเปิดปิดเครื่อง และหากเลื่อนไปถึงบนสุดจะเป็นปุ่มให้สามารถค้นหาตัว Backbeat Sense ได้

ด้านล่างลำโพงหูฟังทางขวามีช่องเสียบชาร์จไฟและช่องเสียบสายขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. ไว้ใช้กรณีแบตหมดแล้วใช้งานผ่าน Bluetooth ไม่ได้ครับ

จากนั้นมาดูลำโพงหูฟังทางซ้ายกันบ้างครับ แหม หนังสีน้ำตาลตัดกับขาวนี่มันเข้ากันจริงๆ

พลิกมาดูอีกด้าน มีลำโพงด้านนอกเช่นเดียวกับข้างขวา แต่ข้างซ้ายจะมีปุ่มควบคุมการเล่นเพลงด้วยประกอบไปด้วยปุ่ม ย้อนกลับ, เล่น/หยุดเล่นเพลง และปุ่มถัดไป

ด้านล่างของลำโพงหูฟังทางซ้ายจะมีเม็ดแดงๆ อยู่ ปุ่มนี้เอาไว้เปิดโหมดรับรู้เสียงภายนอกครับ

เอาล่ะ ลองตั้งหูฟังดู ผมมองว่าเจ้าตัวนี้ขนาดมันอยู่ที่ Semi Full Size ครับเนื่องจากสามารถพกพาได้สะดวกอยู่ ไม่ใหญ่เทอะทะเลย

ถือดูในมือก็ประมาณนี้ล่ะ

วิธีเชื่อมต่อหูฟังก็ไม่ยากครับ เพียงเปิดเครื่องและดันปุ่มไปจนสุดเพื่อให้สามารถค้นหาและเชื่อมต่อได้ เป็นอันเรียบร้อย

ทั้งนี้หากใครใช้หูฟังชองค่าย Plantronics ล่ะก็อย่าลืมโหลดแอพพลิเคชั่น Plantronics Hub นะครับ แอพนี้ดูได้หลายอย่างเลย เช่น แบตเตอรี่เหลืออีกแค่ไหน ใช้ได้อีกนานเท่าไหร่, หรือการใช้งานหูฟังรุ่นนี้ๆ สามารถทำอะไรได้บ้าง ซึ่งรายละเอียดนี่เยอะมากครับ เรียกว่าเป็นคู่มือติดตัวไปทุกที่เลยก็ว่าได้

แล้วเสียงที่ได้จากหูฟังล่ะเป็นอย่างไร ?
– ในการทดสอบเสียงที่ได้จาก Plantronics Backbeat Sense ผมใช้กับ LG G4 และใช้แอพฯ Poweramp เล่นเพลงครับ ซึ่งเสียงที่ได้ก็จะออกทุ้มนิดๆ ครับ จะไม่ออกแนวใสปิ๊งเท่าไหร่ แน่นอนว่ารายละเอียดของเครื่องดนตรีทุกชิ้นมาครบครัน แยกซ้ายขวาได้ดี ว่าเครื่องดนตรีใดอยู่ด้านไหน เช่นเพลงนั้นมีกีต้าร์สองตัว ตัวนึงที่ตีคอร์ดให้จังหวะก็จะอยู่ฝั่งนึง อีกตัวที่เป็นตัวรีดก็จะอยู่อีกด้านครับ แม้แต่กลองหากมีการตีหลายๆ ตัวเวลารัวๆ นี่ได้ยินชัดแบบไล่เสียงตามกลองที่วางเลยล่ะครับ

ทั้งนี้ผมเองก็ทดสอบฟังเพลงหลายๆ แนวทั้งเพลงที่มีแต่กีตาร์อย่างเดียว, หรือจะเปนแนว Pop, Rock ก็ให้รายละเอียดที่ดีทุกแนวเพลงไม่ว่าจะเป็นแนวไหนก็ตามครับ

หมายเหตุ:
1.ผมทดสอบกับไฟล์เพลง 320kbps ครับ หากใช้ไฟล์ 128kbps มันจะแยกรายละเอียดของเครื่องดนตรีไม่ค่อยออกเท่าไหร่ครับ ไฟล์มันเล็กเกิน
2.จากที่ทดสอบเรื่องแบตเตอรี่ไปด้วย พบว่าแบตเตอรี่อยู่ได้ยาวนานจริงๆ ครับ หากแบตเต็มนี่มีฟังเพลงได้ยาวๆ 15 ชั่วโมงแน่