ทักทาย วันจันทร์ มันส์เดย์ – xiaomi Mi band 1S

mi-band-1s

มาทักทายกันวันแรกของสัปดาห์นะครับ หลังจากบ่นเคสไปเมื่อคราวที่แล้ว คือสรุปก็ทำใจเรื่อง iPhone 6 ไป แต่ไม่เป็นไร วันนี้ผมว่าความมันส์จะบังเกิดในอีกไม่นานนี้ ในระดับที่ทุกคนเข้าถึงได้ ในราคาที่ประหยัดสุดๆ กับ Mi band 1S จาก Xiaomi นั่นเอง จากข่าวนี้ xiaomi จัดเต็ม Mi band 1S Fitness tracker ที่วัด Heart rate ได้ในราคาไม่ถึงพันบาท  เจ้า fitness tracker หรืออาจะจเรียกว่า activity tracker ตัวนี้เป็นรุ่นล่าสุดที่จะออกมาในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้แล้วนะครับ ซึ่งจุดเด่นสุดๆ ของมันก็คือราคานั่นเอง ราคาที่จีนน่าจะเปิดตัวที่ราคาประมาณ 600 บาทเท่านั้น ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรเพราะรุ่นแรกเมื่อปีที่แล้วก็ราคาต่ำกว่านี้นิดหน่อย แต่แค่เมื่อปีที่แล้วออกมาก็มีคนสนใจกันเพียบ ปีนี้ออกมาอีก ก็คาดว่าช่วงแรกจะหายากแน่นอน ต้องรีบจองแบบด่วนๆ และราคาที่ได้ผมเชื่อว่าคงหลักพันอัพ แต่จะไปถึงสองพันหรือเปล่านี่ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน คือฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือ สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ หรือที่เราเรียกติดปากกันว่าวัด Heart rate นั่นล่ะครับ ใครจะว่าอันนี้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ มันก็ใช่ เพราะมีหลายค่ายออกมาวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้เพียบอย่างเช่น Fitbit Chrage HR หรือช่วงนี้ใหม่ๆ หน่อยก็จะเป็น Sony Smartband 2 หรือจะ Samsung Gear 2 ก็ตามที ที่แจ่มสุดใช้งานได้ต่อเนื่องมาที่สุดเห็นจะเป็น Fitbit แต่ถ้าเป็น Sony หรือ Samsung ล่ะก็จะเน้นวัดเป็นครั้งๆ ไป คืออยากรู้เมื่อไหร่ก็ค่อยมากดวัดเอา ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับไม่มากเท่า Fitbit ที่สามารถวัดได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้รู้ว่าหัวใจเราเต้นในช่วงไหนเท่าไหร่ สามารถเก็บเอาไว้ได้ทั้งวัน ซึ่งอย่างที่บอกครับว่า Mi band 1S ก็สามารถทำได้เช่นกัน แถมคาดว่าเวลาที่ใช้วัดอย่างต่อเนื่องได้มากกว่าด้วย ปกติ Fitbit Charge HR ก็คงใช้ได้ประมาณ 1 อาทิตย์ แต่สำหรับ Mi band 1S เองก็ยังไม่ได้บอกหรอกครับว่าใช้ได้เท่าไหร่ แต่เชื่อว่าความอึดจากรุ่นเดิมที่ใช้งานได้มากกว่าค่ายอื่นๆ ก็จะมีอานิสงค์ในรุ่น 1S นี้ด้วยเช่นกัน คาดว่าคงเกิน 1 อาทิตย์ หรือไม่อย่างเลวร้ายสุดก็อาจจะได้ 1 อาทิตย์เท่ากัน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเทียบราคาแล้ว Mi band 1S ชนะขาดลอยแน่นอน ผมแนะนำเลยสำหรับใครคิดว่าอัตราการเต้นของหัวใจไม่สำคัญ ผมว่าช่วงอายุอย่างเราๆ ท่านๆ ในยุคนี้ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บมากขึ้น ด้วยการใช้ชีวิตที่แตกต่างจากอดีตรุ่นพ่อรุ่นแม่เราอย่างสิ้นเชิง จะดีเลยถ้าเรารู้ว่าหัวใจเราเต้นอยู่ที่เท่าไหร่ อยู่ในระยะปกติหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น ผมนี้ไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองมีหัวใจที่เต้นผิดปกติ จริงๆ ก็ไปตรวจสุขภาพประจำปีแหล่ะถึงสงสัยเพราะหมอทัก แต่เราก็ว่ายังวิ่งเป็นสิบโลอยู่เลย ไม่น่าจะเป็นอะไร ซึ่งแน่นอนว่าเกิดความสงสัยอย่างแรง จนกระทั่งไปซื้อเจ้า Fitbit Surge ที่วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้มาแทรคดู ก็พบว่าหัวใจนี่เต้นอยู่ที่ 47-55 เฉลี่ยที่ 50 ต้นๆ ซึ่งจากการหาข้อมูลแล้ว คือหัวใจคนเราเต้นในระดับนี้คือต้องแข็งแรงมาก เป็นพวกนักกีฬาอึดๆ แต่แน่นอนว่าผมคงไม่ใช่ เพราะปิด นอนดึก ออกกำลังกายบ้าง แต่ก็ไม่มากนัก และแน่นอนว่าอีกเหตุนึงที่หัวใจเต้นในระดับนี้คือ ผิดปกติ และแน่นอนว่าไปตรวจละเอียดดูก็พบว่าเป็นลิ้นหัวใจปิดไม่สนิท ซึ่งไม่ใช่เพิ่งเป็น แต่ว่าเป็นตั้งแต่กำเนิด ซึ่งแน่นอนว่าไม่เคยรู้ตัวเลย ตั้งแต่เด็ก ก็ออกกำลังกายมาตลอด วิ่งบ้าง ว่ายน้ำบ้าง เล่นบาส แตะบอล ไม่มีอาการเหนื่อยเลย แต่มีแค่ช่วงหลังๆ ที่นอนดึกแล้วเกิดอาการบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าข้อมูลที่วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ผมเก็บเอาไว้ก็เป็นข้อมูลให้หมอวินิจฉัยอาการได้อย่างถูกต้องมากขึ้น และที่สำคัญพอเรารู้แบบนี้แล้ว ก็อย่าโหมออกกำลังจนหัวใจทำงานหนักเกินไป เพราะเสี่ยงต่อหัวใจล้มเหลว หรือหัวใจวายนั่นเอง คงเคยได้ยินข่าวกันนะครับ ว่าวิ่ง หรือปั่นอยู่ดีๆ ก็สลบ วูบไปดื้อๆ หัวใจหยุดทำงานเฉียบพลัน อาจจะด้วยมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว แต่ผมเชื่อว่าหากเรามีการวัดอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ระหว่างการออกกำลังกายด้วยแล้วล่ะก็ จะทำให้เราระมัดระวังได้มากขึ้น เพราะปกติแล้วเรามักคิดว่ายังไหว ไม่เหนื่อย ขายังก้าวได้ ยังปั่นไหว แต่เอาเข้าจริง หัวใจอาจจะเต้นเกิน 200 ไปแล้วก็ได้นะ

แน่นอนว่าหากยังหนุ่ม หรือเด็กๆ ก็ไม่รู้จะเอามาทำอะไรใช่ไหมล่ะครับ คือถ้าในราคาระดับที่ขายกันอยู่ในตอนนี้คือ ประมาณสามสี่พัน ก็คิดว่าคงไม่คุ้มแน่ๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่าไม่เป็นอะไร จะซื้อมาใส่ทำไม แต่ถ้าเจอเจ้า xiaomi Mi band 1S ล่ะก็ ซื้อมาใส่เล่นๆ สักอาทิตย์นึงแล้วค่อยขายก็ยังไม่เสียหายอะไร ราคาประมาณพันนึง ก็ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการเดิน การนอน การเต้นของหัวใจมากเก็บไว้ว่า ตอนนี้เรายังสุขภาพดีอยู่นะ หรือซื้อมาอันเดียว ก็วนๆ กันใส่ในครอบครัวก็ได้ ผมว่าคุ้มสุดๆ แล้วล่ะ รูปร่างหน้าตาก็เหมือนกับใส่ wrist band สักอันนึงแค่นั้นเองครับ ซึ่งจะมีขายพร้อมกันในวันที่ 11 พย. ศกนี้แล้ว แน่นอนว่าผมคงไม่พลาด จัดชัวร์ๆ เอามาเพิ่มที่ข้อมืออีกสักอัน ฮาาา ไว้พบกันใหม่ครับ บาย



ถูกใจบทความนี้  0