27 พฤศจิกายน 2558 – บริษัท เกรทไชน่า มิลเลนเนียม (ไทยแลนด์) จำกัด ในเครือบริษัท พรหมมหาราช พัฒนาที่ดิน จำกัด ผู้บริหารจัดการศูนย์การค้า เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง และโรงแรม เดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ ศูนย์การค้าและโรงแรมหรูระดับห้าดาวที่ใหญ่ที่สุดย่านประตูน้ำ ทุ่มงบ 100 กว่าล้านบาท ปรับโฉมศูนย์การค้าเดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ชั้น 4 5 และ 6 เปิดโซน “พาลาเดียม ไอที” ศูนย์รวมสินค้าที่ทันสมัยที่สุดและศูนย์บริการครบวงจรแห่งใหม่ใจ กลางกรุงเทพฯ จับกลุ่มคนไอทีทุกเพศ ทุกวัย นักท่องเที่ยว พร้อมผสานจุดแข็งด้านธุรกิจเพื่อรองรับงานธุรกิจงานแสดงสินค้า ประชุมและ สัมมนา (MICE) ด้านไอที
งานจัดขึ้น ณ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ชั้น 5 โดยมีคุณหนุ่ย พงศ์สุข เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ช่วงสัมภาษณ์พูดคุยกับ นายวัลลภ กมลวิศิษฎ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พรหมมหาราช พัฒนาที่ดิน จำกัด
ซึ่งเนื้อหาใจความหลัก ขอยกจาก Press ข่าวมาให้อ่านกันนะครับ
บริษัทฯ ได้เข้าซื้อกิจการศูนย์การค้าฯ แห่งนี้ และเปลี่ยนชื่อเป็นเดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ในปี 2553 เพื่อทำเป็นศูนย์ การค้าแฟชั่นทั้งค้าปลีกและค้าส่งที่ทันสมัย ล่าสุดบริษัทฯ ได้จับมือกับพันธมิตรกลุ่มผู้ประกอบการด้านไอทีย่าน ประตูน้ำและผู้ประกอบการหลายแบรนด์ เพื่อเปิดโซน “พาลาเดียม ไอที ประตูน้ำ” โดยบริษัทฯ ได้ใช้งบประมาณ มากกว่า 100 ล้านบาท ในการปรับโฉมพื้นที่รวมขนาด 25,000 ตารางเมตรของบริเวณชั้น 4 5 และ 6 ใหม่ทั้งหมด ให้เป็นแหล่งรวมสินค้าและบริการแบบครบวงจรด้านไอทีแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันมีผู้เช่าพื้นที่แล้ว กว่า 90% คิดเป็นจำนวนร้านค้าแล้ว 250 ร้าน จำหน่ายสินค้าไอทีทุกประเภทมากกว่า 50 แบรนด์ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์โชว์รูมและศูนย์บริการแบรนด์ดังมากมาย เช่น Fuji Xerox, Ascenti, STREK ทั้งยังมีเมกาสโตร์อย่างแบรนด์ เจ.ไอ.บี. (J.I.B.) แอดไวซ์ (ADVICE) เอ.อาร์.ซี. (ARC) เทนด้า (Tenda) และสแกนเนอร์ (Scanner) เป็นต้น หรืออย่างโชว์รูมที่ไม่เคยเปิดที่ไหนมาก่อนอย่าง GIGABYTE, Thermaltake ก็มาเปิดที่นี่ด้วย
พาลาเดียม ไอที ประตูน้ำ แบ่งเป็นโซนต่างๆ กระจายอยู่บนชั้น 4 5 และ 6 ของศูนย์การค้าฯ โดยชั้น 4 เป็นร้านค้า รายย่อย มีประมาณ 150 ร้านค้า ชั้น 5 เป็นตัวแทนผู้จัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ชั้นนำ 43 ร้านค้า และร้านจำหน่าย มือถืออีก 40 ร้าน ส่วนชั้น 6 เป็นแบรนด์ใหญ่พวกฟู้ดสโตร์ คอนวีเนียนสโตร์ และธนาคารที่อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งจะเปิดให้บริการเป็นโซนสุดท้าย
นายวัลลภ กล่าวถึงจุดเด่นของพาลาเดียม ไอที ประตูน้ำ ว่า “ประการแรก เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์สี่แยกประตูน้ำ บริเวณหัวมุมระหว่างถนนเพชรบุรีตัดใหม่กับถนนราชปรารภ เดินทาง เข้าถึงได้อย่างสะดวก ทั้งทางรถยนต์ รถประจำทาง เรือโดยสารที่ท่าเรือประตูน้ำ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์สถานี ราชปรารภ และอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีชิดลม ประการต่อมา ศูนย์การค้าฯ มีลักษณะเป็น คอมเพล็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดในย่านประตูน้ำ ติดกับโรงแรมเดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ (The Berkeley Hotel Pratunam) โรงแรมหรูระดับห้าดาว ที่มีห้องพักถึง 788 ห้อง มีห้องบอลรูมและฮอลล์สำหรับจัดงานอีเว้นท์ต่างๆ ที่สามารถ รองรับแขกได้ถึง 3,000 คน มีอาคารเดอะ พาลาเดียม ออฟฟิศ (The Palladium Office) ซึ่งเป็นอาคาร สำนักงานสูง 38 ชั้น และมีที่จอดรถที่ สามารถรองรับรถยนต์ได้มากถึง 2,500 คัน ทั้งยังอยู่ในแหล่งช้อปปิ้งที่มี ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก”
“เมื่อรวมจุดเด่นทั้งสองด้านเข้าด้วยกัน จะพบว่าพาลาเดียม ไอที ประตูน้ำ ไม่ได้มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าเพียงผู้สนใจ สินค้าไอทีชาวไทยและชาวต่างชาติเท่านั้น แต่ยังมุ่งจับลูกค้านักธุรกิจและนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ (MICE) อีกด้วย ทั้งที่มาเพื่อเข้าร่วมงานประชุมธุรกิจ งานอบรมสัมมนา งานนิทรรศการ งานแสดงสินค้า เป็นต้น ในทำนองเดียวกัน กลุ่มบริษัทผู้ผลิตสินค้าไอทีก็สามารถใช้ห้องจัดเลี้ยงหรือพาลาเดียมฮอล์ เป็นที่จัดงานอีเว้นท์ต่างๆ ทั้งงานเปิดตัว สินค้า งานแถลงข่าว งานประชุมสัมมนา งานเลี้ยงสังสรรค์พนักงาน งานเลี้ยงขอบคุณลูกค้า เป็นต้น”
ทางด้านแผนการตลาด นายวัลลภ กล่าวว่า “บริษัทฯ ได้วางงบประมาณไว้ปีละ 20 ล้านบาท สำหรับการทำสื่อ โฆษณาประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ รวมถึงสื่อจอแอลอีดีที่ใหญ่ที่สุดในย่านประตูน้ำ แยกรัชดาภิเษก และย่าน ใจกลางธุรกิจอีกหลายแห่ง ขณะเดียวกันก็ยังเน้นการจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างทราฟฟิกคนเดิน และกระตุ้นยอดขาย โดยแบ่งสัดส่วนเป็นงานไอที 70% และสินค้าไลฟ์สไตล์ 30%”
สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่จัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ประกอบด้วย Vmodtech’s Asia LAN Party 2015 และมินิคอนเสิร์ต AB Normal ในวันที่ 14 ต่อด้วยงาน AMD OMG Party! 2015 ในวันที่ 28 และงานพาลาเดียม ไอที ประมูลนี้เพื่อน้อง พร้อมการประกวด Cosplay ในวันที่ 29 พ.ย.
“ถึงแม้ตลาดไอทีในปัจจุบันจะไม่ได้คึกคักมากนัก แต่ก็ยังคงเดินหน้าต่อไปได้ เพราะสินค้าไอทีกลายเป็นส่วนหนึ่ง ของชีวิตประจำวันและกลายเป็นสินค้าแฟชั่นไปแล้ว ไลฟ์ไทม์ของสินค้าสั้นลง ผู้บริโภคเปลี่ยนสินค้าในมือบ่อย และเร็วขึ้น อีกทั้งปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวจากหลายชาติ ไม่ว่าจะเป็นจีน ยุโรป หรือจากประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม อาเซียนนิยมมาช้อปสินค้าไอทีในย่านประตูน้ำมากขึ้นเรื่อยๆ บวกกับกลุ่มทัวร์นักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักที่โรงแรม เดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ ที่มีมาตลอดทั้งปี ทางบริษัทฯ จึงมั่นใจว่าพาลาเดียม ไอที ประตูน้ำ จะค่อยๆ เติบโตขึ้น เรื่อยๆ และภายใน 2-3 ปี จะกลายเป็นศูนย์รวมสินค้าและบริการด้านไอทีที่ได้รับการตอบรับมากที่สุดแห่ง หนึ่ง ของประเทศไทย” นายวัลลภ กล่าวสรุป
งานแถลงข่าวจัดที่ชั้น 5 ผมจึงพาพาทัวร์เดินชมที่ชั้น 5 เป็นลำดับแรกก่อนเลยละกัน
สำหรับ ชั้น 5 จะมีโซนที่เป็นประเภทบูธ และรวมไปถึงที่เป็นร้านอย่างทางการ จากทั้งแบรนด์ชั้นนำและ Distribution รายใหญ่ของเมืองไทย ยกตัวอย่างเช่น Advice , JIB , IT City เป็นต้น
แน่นอนว่าต้องมีร้านค้าปลีกรายย่อยเหมือนทุก ๆ IT Mall อยู่แล้ว
เพียง แต่ช่วงแรกร้านค้าบางร้านยังมากันไม่ครบ ตรงนี้มีเหตุจากหลาย ๆ ปัจจัย แต่ผมขออธิบายสั้น ๆ พื้นที่นั้นถูกจับจองไปแล้ว 90% คาดว่าภายในสิ้นปีร้านค้าต่าง ๆ จะทยอยเข้ามาเปิดร้านกันอย่างเต็มรูปแบบ
หลายๆ ร้านกำลังปรับปรุงพื้นที่ครับ
ร้านชื่อดังที่แม้ว่าจะไม่ใช่แบรนด์ใหญ่ แต่หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
ช่วงแรก ๆ ดูโล่งหน่อย แต่ภายในสิ้นปีเมื่อร้านค้าต่าง ๆ เข้ามากันเต็มพื้นที่ เราคงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดขึ้น
ร้านซ่อม-ร้านรับซื้อ ที่นี่ก็มีให้บริการแบบครบวงจรเลยครับ
พวกสินค้าไอทีต่าง ๆ ก็มีความหลากหลายเชื่อว่ามีแรงดึงดูดใจพอที่จะทำให้คนเข้ามาเยี่ยมชมได้ไม่ยาก
ร้านซ่อมคอมพ์ชื่อดังก็ย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วนะครับ
แบรนด์ต่าง ๆ จะเริ่มทยอยมาเปิดร้านสาขาในพาลาเดียมกันเร็ว ๆ นี้
พื้นที่จอดรถ รองรับได้ถึง 3000 คัน
มาดูกันต่อกับพื้นที่ของชั้น 6
ตอน นี้ยังไม่มีร้านค้าใด ๆ นะครับ แต่ผมสืบทราบมาว่า ชั้นนี้จะเป็นที่ตั้งของ IT CITY เรียกว่าน่าจะเป็นสโตร์และเหมายกชั้นกันไปเลย อารมณ์เหมือนที่เราเห็นในพันธุ์ทิพย์พลาซ่านั้นแหล่ะ
สุดท้ายวกกลับมาดูกันที่ชั้น 4 ครับ
ตอนนี้กำลังปรับปรุงพื้นที่บางส่วนอยู่
เลยทำให้ดูโล่ง ๆ เงียบเหงาไปสักนิด เมื่อเทียบกับชั้น 5
แต่ก็เริ่มมีร้านค้ามากันบ้างแล้ว ตามความเข้าใจของผม โซนนี้ น่าจะเน้นเป็นส่วนของร้านค้าปลีกรายย่อยนะ
เพื่อ ให้ได้ข้อมูลในเชิงลึก ผมจึงขอสัมภาษณ์ร้านค้าที่มาเปิดกิจการในพาลาเดียมเป็นการส่วนตัว และได้ขออนุญาตทางร้านค้าเพื่อมาเผยแพร่ต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ
ผมขอสรุปสั้น ๆ ตามนี้
1. ร้านค้าส่วนใหญ่คือร้านที่ย้ายมาจาก พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ
2. พื้นที่ทั้งหมดน่าจะเต็ม หรือเกือบ ๆ เต็มแล้ว รอแค่การปรับปรุงบางส่วน และร้านค้าต่าง ๆ จะทยอยเข้ามาจนเต็มพื้นที่ภายในสิ้นปีนี้
3. ค่าเช่าที่นี่ถูกมาก โดยในสัญญาปีแรกจะมีราคาค่าเช่าเพียง ตารางเมตรละ 200 บาท และปีต่อ ๆ ไป จะขยับขึ้นในอัตราที่ไม่สูงมาก ตรงนี้เอื้อให้กับร้านค้ารายย่อย ส่งผลให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ในอนาคต
4. ความมั่นใจในการดำเนินกิจการในอนาคต ทางร้าน (มุมมองส่วนตัวของทางร้าน) เชื่อว่าจะดีขึ้น ด้วยองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง เช่นค่าเช่าถูก สถานที่สะอาด กว้างข้างและน่าเดิน มีห้องมีพื้นที่ในการจัดงานแถลงข่าว, ลอนช์ โปรดักส์ใหม่ ๆ หรืองานสัมนา โดยมีโรงแรมที่พัก มีศูนย์อาหาร ทุกอย่างเป็นคอมเพล็กซ์ ที่สามารถลิงก์ถึงกันได้อย่างลงตัว
5. ปิดท้ายกันไปด้วยด้วยเรื่องของปัญหาลิขสิทธิ์ เช่นร้านขายแผ่นผีซีดีเถื่อน รวมไปถึงสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ต่าง ๆ ตรงนี้ผมได้สอบถามในมุมของร้านค้า และนโยบายของเจ้าของพื้นที่ ซึ่งได้ข้อมูลมาคร่าวๆ ว่า ที่นี่จะพยายามเข้มงวด กวดขัน และคาดว่าจะมีปัญหาน้อยกว่าที่อื่น ๆ
สรุป ส่งท้ายกันไปในมุมมองของผมนะครับ นี่คือการย้ายถิ่นฐานของผู้ประกอบการที่เคยเปิดร้านใน พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ นั่นเอง
การเดินทางและความสะดวกสบาย ผมมองว่าอาจจะยังมีปัญหานิดหน่อย ตรงที่มีสะพานข้ามแยกอยู่ตรงหน้าห้าง แต่ในเรื่องของสถานที่ ผมมองว่าที่นี่สะอาด ดูเรียบร้อย และน่าเดินกว่า พันธุ์ทิพย์ประตูน้ำ
สิ่งที่ควรจะเพิ่มเติม ผมมองและคิดว่า พาร์ทเนอร์ที่เป็นแบรนด์ดังในส่วนของ Food ก็จำเป็นเช่นกัน ถ้าดึงมาเป็นพาร์ทเนอร์ได้เยอะ ๆ น่าจะมีส่วนช่วยให้การเติบโตเป็นไปอย่างรวดเร็วและยั่งยืน
ก็คงส่งท้ายกันไปแต่เพียงเท่านี้ และในช่วงต้นปีหน้า ผมจะกลับไปสำรวจและทำข่าวการอัพเดตให้ได้รับชมความเคลื่อนไหวของศูนย์ไอที แห่งใหม่กันอีกครั้งนะครับ
สามารถพูดคุยเกี่ยวกับบทความนี้ได้ที่หน้าเว็บบอร์ดเดิมครับ pdamobiz.com