รีวิว OPPO Mirror 5 Lite รุ่นสานต่อความงาม ในราคาที่ประหยัดขึ้น

 ย้อนกลับไปพูดถึง OPPO Mirror 5 ก่อนนะครับ ซึ่งผมเคยรีวิวไปก่อนหน้านั้นแล้ว ตัว OPPO Mirror 5 เป็นสมาร์ทโฟนที่เข้ามาทำตลาด Mid-range มีจุดเด่นที่ดีไซน์และวัสดุงานประกอบ แต่สำหรับ OPPO Mirror 5 Lite ชื่อก็บ่งบอกเป็นนัย ๆ อยู่แล้ว ต้องเป็นรุ่นที่มาแบบเบา ๆ ซอฟท์ ๆ ทั้งในเรื่องของราคาวางจำหน่าย รวมไปถึงบางสิ่งบางอย่างที่ต้องถูกตัดออกไป ซึ่งในภาพรวมต้องบอกว่า OPPO Mirror 5 Lite จะเหลือจุดขาย ๆ ที่ไม่มากเท่าไหร่ เพราะเทรนด์และตลาดในวงการนี้แข่งกันดุเดือดเหลือเกิน ทำให้การเปิดตัวของ OPPO Mirror 5 Lite อาจจะไม่เปรี้ยงปร้างเท่ากับตัวรุ่นพี่ครับ

ขอขอบคุณ OPPO Thailand สำหรับเครื่องทดสอบและใช้ในการเขียนบทความนี้ครับ

 

สเปคเบื้องต้นแบบย่อ ๆ ของ OPPO Mirror 5 Lite

~ OS : เปิดตัวมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.1 (Lollipop)
~ ชิปเซ็ต : CPU Mediatek MT6582 (Quad-core) ความเร็ว 1.3GHz
~ หน่วยประมวลผลกราฟฟิก : GPU Mali-400MP2
~ ROM 16GB และรองรับหน่วยความจำภายนอก MicroSD card ได้สูงสุด 128GB
~ RAM 2GB
~ จอแสดงผลชนิด IPS ขนาด 5.0 นิ้ว ความละเอียด qHD (960 by 540 pixels)
~ การเชื่อมต่อ 2G : 850/900/1800/1900MHz
~ การเชื่อมต่อ 3G : WCDMA  850/900/2100MHz
~ รองรับการใช้งานในระบบ 2 ซิมการ์ด Dual-SIM: Micro-SIM Card and Nano-SIM Card
~ การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n , Bluetooth V. 4.0 , GPS/A-GPS/
~ กล้องหลักด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED 1 ดวง
~ กล้องด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
~ ขนาดตัวเครื่อง 142.7 x 71.7 x 7.55 มิลลิเมตร
~ น้ำหนัก 142 กรัม
~ แบตเตอรี่ Li-Po  ความจุ 2420 mAh

ราคาวางจำหน่าย 5,990 บาท

สเปคโดยละเอียดสามารถดูได้จาก official page  OPPO Mirror 5 Lite specification

 

 

 


OPPO Mirror 5 Lite ในด้านดีไซน์งานออกแบบจะยังคงใช้โครงสร้างหลักจากตัว OPPO Mirror 5 ตัวธรรมดาครับ ก็คือตัวเฟรมจะเป็นโครงสร้างที่เสริมด้วยวัสดุกึ่งโลหะสองชั้น โดยวัสดุหลักจะเป็นโพลีคาร์บอเนต + โลหะเหมือนเช่นเคย เพียงแต่จะไม่มีเส้นตัดรอบเครื่องด้วยวัสดุอลูมิเนี่ยมแวววาวเหมือน Mirror 5 ตัวธรรมดานะครับ

ด้านหลังปรับลุคใหม่ กลายเป็นฝาหลังเรียบ ๆ ไม่ใช่พื้นผิวคริสตัล ที่เป็นลวดลายเหลี่ยมเพชร เหมือนตัวรุ่นพี่

 


หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้วเท่าเดิม และความละเอียดก็ยังเท่าเดิมที่ qHD 540 x 960 พิกเซล

 


ด้าน บนของส่วนหน้าจะประกอบไปด้วย กล้องหน้าความละเอียด 5 ด้านพิกเซล, ลำโพง earpiece และชุดเซ็นเซอร์์ ส่วนไฟแจ้งเตือน LED Notification  จะมีขนาดเล็กและอยู่ที่มุมขวาข้าง ๆ ตัวเซ็นเซอร์

ด้าน ล่างของส่วนหน้า ปุ่มสัมผัสแบบ Capacitive Button ตามมาตรฐานของแอนดรอยด์ ประกอบไปด้วย ปุ่มเมนู, ปุ่มโฮม, ปุ่มย้อนกลับ และทั้งสามปุ่มนี้ไม่มีไฟแบคไลท์มาให้ใช้งานนะครับ

 


ด้านบน มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. เพียงอย่างเดียว ตัว Infrared port นั้นถูกตัดออกไป

 


ด้านล่างจะมีพอร์ตไมโครยูเอสบี ซิงค์และชาร์จไฟ ข้าง ๆ ก็คือไมค์สนทนาของตัวเครื่อง

 


ด้านซ้ายมือของตัวเครื่อง จะมีปุ่ม เพิ่ม-ลดระดับเสียง

 


ด้านขวามือของตัวเครื่อง มีปุ่ม Power เปิด – ปิดเครื่อง

 


ดูกันต่อที่ด้านหลังของตัวเครื่อง

 


ตัว กล้องหลักด้านหลัง มาพร้อมกับความละเอียด 8 ล้านพิกเซล จัดวางตำแหน่งอยู่มุมซ้ายบน และมีไฟแฟลชมาให้ใช้งาน 1 ดวง การจัดวางตำแหน่งของแฟลชจะแตกต่างจากตัว OPPO Mirror 5 ที่ไฟแฟลชจะอยู่ด้านล่างของตัวกล้อง

 


ส่วนลำโพงมีเดียหรือลำโพงหลักจะจัดวางตำแหน่งอยู่มุมซ้ายของด้านล่างเหมือนตัวรุ่นพี่

 


OPPO Mirror 5 Lite สามารถถอดฝาหลังได้ครับ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เองนะครับ ตรงนี้เป็นแบตแบบ Built in  ครับ

ช่อง ซิม 1 อยู่มุมซ้าย ใช้ไมโครซิม ส่วนช่องซิม 2 จะอยู่ตรงกลาง ใช้นาโนซิม  ส่วนช่องไมโครเอสดีจะอยู่ที่มุมขวามือ รองรับความจุได้สูงสุดถึง 128GB

 

ดูกันต่อในส่วนของ Software อีกนิดหน่อยครับ
  
OPPO Mirror 5 Lite  มาพร้อมกับ Android 5.1.1 (Lollipop) และครอบทับด้วย user interface ” ColorOS v2.0.1i ”  สำหรับพื้นที่ของ ROM 16GB จะเหลือให้ใช้งานจริงราว ๆ  9GB กว่า ๆ
  
ColorOS  เป็นจุดขายของค่าย  OPPO มาช้านาน และมีรีวิวออกมาเยอะมากแล้ว ผมจึงไม่ขอลงรายละเอียดในเชิงลึก มาดูเฉพาะส่วนที่น่าสนใจเป็นบางส่วนไปก็แล้วกันนะครับ

 

  
ธีมที่มีให้เลือกใช้งานมากมาย สามารถเลือกเปลี่ยนเพื่อเพิ่มความสวยงามได้หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาพพื้นหลัง หรือหน้าจอล็อคสกรีน
  
ฟีเจอร์ เด่นสุดและเป็นจุดขายก็คือ Gesture & Motion แต่รวม ๆ แล้วก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ไปจาก Device ของทางค่าย OPPO ครับ  อย่างเช่นการวาดหน้าจอเพื่อเรียกใช้งานแอพ, การเคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อ wake on, wake off หรือ Smart call ที่จะทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์เป็นต้นครับ

 

  
Securit Center เป็นศูนย์กลางอำนวยความสะดวกในด้านความปลอดภัยและการใช้งานของเรา ทั้งลบไฟล์ขยะ, เคลียร์แรม, ควบคุมปริมาณการใช้อินเตอร์เน็ต, บล็อคเบอร์ที่ไม่พึงประสงค์, การประหยัดพลังงานเป็นต้น, เรียกว่าเป็นแอพ  Manager  ที่รวมการจัดการสิ่งสำคัญ ๆ ไว้ในตัวแอพครับ

 

Hardware Test & Performance 

 
จากนี้มาดูกันต่อในส่วนของผลการทดสอบประสิทธิภาพของตัวเครื่อง OPPO Mirror 5 Lite

 

 
ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย AnTuTu Benchmark ได้ 20791 คะแนน
ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย Quadrant Standard ได้ 8957 คะแนน

 

 
ผลทดสอบจาก PCMark ได้คะแนน 2994

 

 
3DMark ได้คะแนนที่ 1919

 

 
Geekbench 3 ทำคะแนนในส่วนของ Single Core ที่ 358 และ Multi Core ได้ 1196
 
FXBench GL Benchmark ได้คะแนน Best Score 484
 
ผลทดสอบความเร็ว ด้วย Velamo (Metal) ได้ 934 คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย Velamo (Multicore) ได้ 1240 คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย Velamo  Browser ได้ 1628 คะแนน
ผลทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย Velamo (Chrome Browser) ได้ 1768 คะแนน

 


ผลทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย NenaMark 2 ได้ 56.9 เฟรม/วินาที

 

 
ภาครับสัญญาณของ GPS ทำได้รวดเร็วดีครับ ทดสอบการจับสัญญาณโดยที่ไม่เชื่อมต่อ Data ทั้งในอาคารและนอกสถานที่ก็ไม่พบปัญหาแต่อย่างใด

 

 
ผลทดสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch ได้สูงสุด 10 จุด

เซ็นเซอร์หลักบน OPPO Mirror 5 Lite เมื่อใช้โปรแกรม Android Sensor Box ตรวจสอบก็จะมีดังนี้

Accelerometer Sensor
Light Sensor
Orientation Sensor
Proximity Sensor
Sound Sensor
Magnetic Sensor

 

จากนี้มาดูกันต่อในส่วนของ Sample Camera  ครับ 


OPPO Mirror 5 Lite มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้องหลักด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เหมือนกับตัว OPPO Mirror 5 ปรกติเลยครับ

 


โหมดการใช้งานก็ไม่ต่างกันมากนัก

 


ฟีเจอร์ต่าง ๆ ผมไม่ขอเขียนในเชิงลึกนะครับ สามารถอ่านได้จากบทความเก่า ๆ ครับ Android Review: ทดสอบคุณภาพรูปถ่ายจากกล้อง OPPO R5 !!!

 

มาดูภาพตัวอย่างกันเลยดีกว่า โดยในการทดสอบจะเน้นที่โหมด Auto เป็นหลักเหมือนเช่นเคยครับ

Normal mode


HDR mode


Normal mode


HDR mode


Normal mode flash off


Normal mode flash on


Normal mode แต่ถ่ายผ่านกระจกกั้น 1 ชั้นนะครับ

ทดสอบกล้องหน้า


Normal mode


Beauty Mode

กล้องหน้าคือจุดขายของ OPPO เขาเลยครับ ในโหมดธรรมดาเก็บรายละเอียดได้ค่อนข้างดี เรียกว่าถ้ามั่นใจหน้าสด ๆ ก็ไม่ต้องพึ่งโหมดบิวตี้ ส่วนโหมด Beauty Mode ก็ให้คุณภาพที่น่าพอใจเหมือนเช่นเคยครับ 

 

สรุป OPPO Mirror 5 Lite  

ข้อดี

1. ดีไซน์สวยเรียบ ๆ วัสดุและงานประกอบสมราคา
2. คุณภาพกล้องหลังและกล้องหน้าทำได้ดีตามมาตรฐานของทางค่าย

 

สิ่งที่ต้องพิจารณา

1. ไม่มี 4G และถูกตัดฟีเจอร์เด่น ๆ ออกไปเกือบหมด
2. สเปคต่อราคา ณ ปัจจุบัน มีหลาย ๆ แบรนด์ที่ดูแล้วน่าจะสนใจกว่า

ก็คงจะฝากไว้แต่เพียงเท่านี้ สำหรับรีวิว OPPO Mirror 5 Lite  แล้วพบกันใหม่ในรีวิวทดสอบด้านเอนเตอร์เทนครับ


สุดท้ายนี้ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ ^^

สามารถพูดคุยเกี่ยวกับบทความนี้ได้ที่หน้าเว็บบอร์ดเดิมครับ pdamobiz.com



ถูกใจบทความนี้  1