อยาก เขียนถึงมาตั้งนานแล้ว แต่แบบว่า ติดโน่นนี่นั่น จะว่าไปก็ผ่านไปจะปีแล้ว แต่ก็เอาสักหน่อย รับกับอีกไม่ถึงเดือนจะมีงาน #SCBKKMarathon2015 ในปีนี้ อย่างที่รู้ล่ะครับ ว่าช่วงนี้ ผมติดเทรนด์ออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ซึ่งผมสนุกกับการออกกำลังกาย ให้ร่างกายแข็งแรง และแน่นอนว่า ได้พวก Gadget ใหม่ๆ มาทดสอบด้วยล่ะก็ ยิ่งสนุกไปกันใหญ่ จนงานที่ผ่านมา Standard Charter งานมาราธอนประจำปี ที่หลายคนให้ความสนใจ เค้าใช้แทกว่า #SCBKKMarathon2014 อาจจะลองติดตามย้อนหลังกันได้ ซึ่งวันนี้ผมก็เอาประสบการณ์การใช้งาน Smartphone และ Gadget มาแชร์กันเหมือนเคย ครั้งที่ผ่านมาติดอะไรไปบ้าง มาติดตามกันครับ
นาน เลยใช่ไหมล่ะครับ ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วกันเลยทีเดียว แต่ว่ากว่าจะมีอารมณ์ เวลา และโอกาสที่จะเขียนให้เสร็จ ก็นานจนว่า ไม่เขียนดีกว่า แต่อยากแชร์ เอาน่า คนอ่านสักร้อยคนก็ถือว่าสำเร็จละ คือว่าก็อยากจะบอกว่าการออกกำลังกาย ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ใจสู้ ลุกขึ้นมาเริ่มออกกำลังกาย ปริมาณและความถี่ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะตามธรรมชาติ เมื่อถึงระดับนึง ร่างกายจะหลั่งสารแห่งความสุขออกมาให้เราอยากออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง นั่นเป็นเหตุทำให้ผม วิ่งจนถึงทุกวันนี้ จริงๆ ก็ต้องบอกว่าวิ่งเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก หลังจากเริ่มอินเทรนด์กับเขาบ้าง ก็เอาคอนเซ็ปท์ วิ่งเรื่อยๆ จนกว่าจะครบเป้าหมาย ค่อยพัก จนทำให้ได้มาลงที่งาน Standard Charter นี่เอง งานนี้เรียกว่าเป็นครั้งที่ 3 ของผม ก็ไม่นึกว่าเมื่อปีที่แล้ว จะได้มาวิ่งหลายๆ งาน จากที่คิดว่าไม่น่าจะได้วิ่งในงานต่างๆ กะว่าจะวิ่งชิลๆ ออกกำลังกายตามสวนสาธารณะ ก็กลายเป็นวิ่งในงานต่างๆ ซะงั้น และจะว่าไป งานครั้งที่ผ่านมาเค้าว่าไม่จำเป็นต้องสมัครก็เข้าร่วมได้ เรียกว่าเพื่อสุขภาพกันจริงๆ แต่สำหรับในปีนี้ก็คงต้องดูกันล่ะครับว่า คอนเซ็ปท์เดิมได้หรือเปล่า
ถ้า ดูจากหน้าตาจะรู้เลยว่านอนตื่นเช้ามาก จริงๆ นอนก็เรียกว่าดึกพอได้อยู่ ห้าทุ่มกว่าๆ ขอบตำคล้ำกันเลยทีเดียวเชียว งานนี้ที่ติดตัวไปด้วย มีอะไรบ้างล่ะ
ถ่ายคู่กับผู้ที่เข้าเส้นชัยอันดับหนึ่งซะหน่อย
เมื่อปีที่แล้วผมพก gadget หรือ smartphone อะไรไปวิ่งด้วย?
– Jabra Sport Pulse Wireless (ออกมาได้ปีละ แต่มันยังเป็น gadget ในการวิ่งที่ยังแจ่มอยู่นะ) เป็น bluetooth headset ที่สามารถแทรคเรื่องการเต้นของหัวใจได้ อันนี้แจ่มมาก นอกจากฟังเพลงขณะวิ่งแล้ว ยังโค้ชชิ่งเราได้อีกด้วย
– iPhone 6 งานเมื่อปีที่แล้ว เรียกว่ายังใหม่ แต่มาถึงตอนนี้ก็ iPhone 6 ผมใกล้ปลดระวางแล้วล่ะ อาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่ซะแล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ซื้อใหม่นะ ถึงแม้ว่า iPhone 6s จะมาแล้วก็ตามที
– จริงๆ ครั้งนี้มี Sony Xperia Z3 ติดตัวมาด้วยนะ เรียกว่าใส่ 2 ตัวแล้วก็วิ่ง เปิดแอพสลับๆ กันไป
– แอพที่ใช้มี Nike+ Running, Endomodo, Run Keeper และ Jabra Sport
มาดูบรรยากาศในงานวิ่งกันหน่อย พร้อมภาพถ่ายที่เห็นคือจาก iPhone 6 ล่ะครับ เมื่อปีที่แล้วยังแจ่มอยู่
ใน งานนี้เรียกว่าเป็นงานใหญ่ที่สุดในปีที่แล้วที่ผมเคยไปร่วมงานวิ่ง ก็แอบตื่นเต้นเหมือนกันนะ จุดสตาร์ทอยู่ที่สนามหลวงครับ บริเวณด้านข้างวันพระแก้ว
ตอนปล่อยตัวนี่ คนเยอะช่วงแรกก็เดินๆ วิ่งๆ ล่ะครับ ตามเรื่อง
เมื่อปีที่แล้วคือ Run for a reason ทุกคนมีเหตุผลที่ต้องวิ่ง
คนเยอะจนเต็มสะพานพระปิ่นเกล้าเลย ผมก็วิ่งไปถ่ายรูปไปเหมือนคนข้างหน้านั่นแหล่ะ :-P
ที่เหลือก็เก็บบรรยากาศระหว่างวิ่งล่ะครับ
มาเว้ากันเรื่องอุปกรณ์สักหน่อยก็แล้วกัน
Jabra Sport Pulse ในปีที่แล้ว เป็นตัวที่แจ่มมาก และแน่นอนครับว่ามันสามารถวัด Heart Rate ได้ โดยที่ปกติที่วิ่งๆ นี่ผมไม่รู้เลยว่า ระหว่างที่วิ่งนี่หัวใจเราเต้นอยู่ที่เท่าใด? นับเป็นเรื่องที่ใหม่ และน่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับตัวผมเลยล่ะและ ในปีนี้ผมจะพาเจ้า Jabra Sport Coach ซึ่งแน่นอนครับว่า มันวัด cadance ได้ จะติดตัวไปด้วยนะครับ
ตัวอย่างของแอพ Jabra Sport ที่บอกระยะทางและอัตราการเต้นของหัวใจ จากการวิ่งที่ไม่รู้เลยว่าเต้นอยู่ที่เท่าไหร่ อัตรายแค่ไหน หลังจากเริ่มวิ่งและศึกษามากขึ้น จึงรู้ว่าการเต้นของหัวใจของผมในงาน SC BKK Marathon ในปีที่แล้วนี่ ไม่ใช่ว่าจะดีนะ เรียกว่าสูงใช้ได้ ซึ่งก็น่าเป็นห่วงอยู่เพราะตอนนี้ก็รู้แล้วว่าหัวใจอาจจะไม่ปกติเหมือนคนทั่วๆ ไป ปีนี้ไม่ได้มี Jabra Sport Pluse Wireless แล้วด้วยสิ
และ Sony Smartband ที่มาพร้อมกับ Lifelog
ซึ่งอุปกรณ์ชุดนี้จะบอกแค่รายละเอียดจำนวนก้าว เวลาในการวิ่ง ระยะทางและ pace ซึ่งไม่ได้ลงลึก ถามว่าพอใช้ได้ไหม ก็ต้องบอกว่าพอตัวเลยทีเดียว ที่ชอบแอพนี้ก็เพราะมันแทรคเรื่องแอคทิวิตี้อย่างอื่นด้วย จริงๆ ใช้งานคู่กับ Smartphone มีรายงานเรื่องแผนที่ด้วยนะครับ โดยใช้ GPS จาก Smartphone นั่นล่ะ แต่ก็แค่ระบุเส้นทาง โดยภาพรวม ไม่ได้มีระบุว่าวิ่งไปกิโลที่ 1 ตรงไหน กิโลที่ 10 ตรงไหน สรุปมันคือแอพที่เอาไว้แทรคการวิ่งได้ในระดับนึงเท่านั้น
ยังมีแอพอีกหลายตัวที่ผมใช้ในการแทรคขณะที่วิ่งในงานนี้ด้วย คือก็อยากทดสอบว่ามันแตกต่างกันแค่ไหนอย่างไรแค่นั้นครับ
Run Keeper
แอพนี้ ก็เป็นอีกแอพที่น่าสนใจ น่าใช้งานเหมือนกัน มีระบุรายละเอียดต่างๆ ของการวิ่งได้ครบถ้วน ยิ่งถ้ามีสายคาดหน้าอกสำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ก็จะมีผลแสดงในแอพด้วย แต่ทว่าเมื่อปีที่แล้วยังไม่มีสายคาดหน้าอก มีเพียงเจ้า Jabra Sport Pulse เท่านั้น จึงไม่สามารถเชื่อมต่อกับแอพตัวนี้ได้
Endomodo
แอพที่หลายคนนิยมใช้งานกันทั้งปั่นทั้งวิ่ง มีรายละเอียดครบถ้วน ผมว่ารายงานสรุปนี่ดีกว่า Run Keeper ซะด้วยซ้ำ
Nike+ Running
นับเป็นแอพตัวแรกที่ผมใช้แทรคการวิ่งตั้งแต่เริ่มออกกำลังกายแบบไม่จริงจังในปี 2013 มาปีที่แล้ว 2014 นี่เริ่มวิ่งออกกำลังกาย และเริ่มลงงานวิ่ง เรียกผมว่ามือใหม่หัดวิ่งก็ไม่ผิดนัก ส่วนเจ้า Nike+ ผมว่าก็เป็นแอพที่มีคนใช้มากในอันดับต้นๆ นะครับ ผมมีเพื่อนใน Nike+ พอประมาณมีการท้าแข่งและมีคนเข้าร่วมตลอดทุกเดือนเลย
ในแต่ละแอพในขณะที่ทดสอบ จะเห็นว่าระยะทางที่ได้ต่างกัน ก็แน่นอนครับเพราะว่าช่วงเริ่มวิ่ง ก็ทยอยเปิดแอพทีละตัว ก็ทำให้ช้าเร็วอาจจะไม่เท่ากัน รวมถึงตอนที่วิ่งเสร็จด้วย ซึ่งต้องบอกว่าก็เป็นข้อเสียก็ว่าได้ ที่ใช้แอพ+Smartphone ในการแทรค ถ้าเราเริ่มและจบโดยที่ไม่ได้กดเริ่มหรือยุดทันทีในขณะวิ่ง ความเที่ยงตรงก็จะน้อยลง แต่สำหรับผมก็ไม่ได้ซีเรียสถึงขั้นนั้น
ในงาน SCBKKMarathon 2015 ผมจะติดอะไรไปบ้าง
งานนี้ผมยังใช้แอพต่างๆ เหมือนเดิม มีเพิ่ม Runtastics ขึ้นมาอีกแอพนึง คือต้องบอกว่าหลังจากทดสอบเปรียบเทียบกัน ในระหว่างที่ซ้อมวิ่งปกติ ก็เปิดหมดเพราะมันเก็บแทรคเอาไว้แต่ละแอพอยู่แล้ว ไหนๆ ก็ทดสอบมาเป็นปีก็เลยเก็บเป็นฐานข้อมูลไว้ซะทุกแอพเลย ฮ่ะๆ แต่ไม่แค่นั้น ยังมี gadget ไปวิ่งในงานนี้ด้วย ต้องบอกว่าเพียบ ออกตัวเลยว่าเป็นมือใหม่ และวิ่งไม่ได้ทำสถิติอะไร แค่วิ่งเอามันส์ สนุก และสุขภาพ ส่วนใหญ่ก็หา Gadget เป็นแรงจูงใจในการวิ่งอยู่แล้ว ดังนั้นปีนี้ผมจะพา
- Sony Smartband Talk อัพเกรดจาก Sony Smart Band เดิม เพราะว่าหายครับ เลยไปถอย Smartband Talk มาแทนและก็ยาวๆ
- xiaomi Mi band ตัวนี้ก็ใช้งานมากได้สักพัก ไม่ได้รีวิว เพราะตอนที่ได้มาเค้ารีวิวกันไปหมดแล้ว และตอนนี้ก็สั่ง Mi band 1S ไปเรียบร้อยเมื่อวันที่ 11 พย. ที่ผ่านมา แน่นอนว่ามาไม่ทันงานนี้ น่าเสียดาย
- Li-ning Smart Shoes LN คือเริ่มวิ่งๆ ไป ก็เริ่มหาอะไรใส่ตัว พอดีรองเท้าวิ่งเริ่มเปิด ประจวบเหมาะกับ Smart shoes ราคาโดนๆ มาพอดี อ่านรีวิวได้ที่นี่ รีวิว Li-Ning รุ่น LN Furious Raider Smart รองเท้าวิ่งสุดฉลาด Smart Shoes หนึ่งเดียวของ Xiaomi
- Fitbit Surge ตัวนี้มี GPS และวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ มีความสามารถแทรคเรื่องวิ่งได้ชัดเจนมากๆ ไม่มีรีวิวให้อ่านนะ แบบว่ายังไม่ได้เขียนเลย ฮ่ะๆ
- Garmin Forerunner 225 ตัวล่าสุดที่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ อันนี้ก็เฉพาะทาง จะเห็นว่าผมหันมาสายวิ่งเต็มตัวแล้ว
- Jabra Sport Coach ตัวต่อยอดจากปีที่แล้วครับ ปีนี้เอาไปวิ่งด้วยแน่นอน แล้วจะมารายงานว่า cadance เป็นไงบ้างนะ
- Smartphone Sony Xperia Z5, iPhone 6 คือแอพก็ลงได้ทุกแพลตฟอร์มอยู่แล้ว งานนี้ก็พกไปสองตัวเช่นเดิม ตัวนึงเอาไว้เก็บแทรค ตัวนึงเอาไว้ถ่ายรูป พอดีเจ้า iPhone 6 ผมเริ่มจะไปบ้านแล้วด้วย
- สายคาดหน้าอก Coospo เอาไว้วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
ก็พกไปวิ่งแค่นี้ล่ะครับ คงไม่เอา Powerbank ไป เพราะ Smartphone แต่ละตัวคงพอไหวอยู่แล้วล่ะ ปีนี้เน้น Gadget และ Wearable device เพียบเลย ฮ่ะๆ ไว้มารายงานผลพร้อมภาพบรรยากาศให้รับทราบกันนะครับ
จุด Start และ Finish นับเป็นก้าวแรกในการวิ่ง 10 กิโลเมตรของผม ซึ่งปีนี้ก็ยังคงจะลงที่ 10 กิโลเมตรเช่นเดิม
แล้วพบกันใน SCBKK Marathon 2015 ในวันที่ 15 พย. นี้นะครับ
You must be logged in to post a comment.