เอไอเอส แถลงข่าวหลังจบประมูลคลื่น 900 MHz ยืนยันสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า ด้วยบริการคุณภาพที่ดีที่สุด จากทีมงานมืออาชีพ

   วันจันทร์ผู้ชนะการประมูลคลื่น 900MHz พร้อมใจกันเปิดบ้านแถลงข่าวทั้ง 2 ราย วันต่อมาคือวันอังคารจึงเป็นคิวของผู้ที่พลาดสัมปทานออกมาเปิดใจกันบ้าง โดยจัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ถึงเหตุผลและทิศทางการดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคต ซึ่งผมเขียนข่าวของค่ายดีแทคไปแล้ว วันนี้มาฟังกันต่อกับ ais ค่ายเบอร์หนึ่งขวัญใจมหาชนที่จะมาเปิดใจถึงเหตุผลที่ไม่สู้และจะแก้เกมอย่าง ไรเมื่อพลาดสัมปทานคลื่น 900 MHz ในครั้งนี้

R

CEO AIS คุณสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ขึ้นมากล่าวทักทายและเปิดใจเล่าถึงเหตุผลที่ทางเอไอเอสหยุดเคาะราคาและปล่อย ให้ค่ายเบอร์สามและน้องใหม่คว้าสัมปทานคลื่น 900 MHz ไปครอง

ผมขอสรุปเนื้อหาย่อ ๆ จากที่คุณสมชัย กล่าวในวันงานนะครับ

1. พิจารณาแล้วว่า มูลค่าดังกล่าวเป็นราคาที่ไม่เหมาะสมทางธุรกิจและไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม แก่บริษัทและผู้ถือหุ้น  พูดง่าย ๆ ว่ามันราคาสูงจนเกินไป ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบทางลบมากกว่าเชิงบวก

2.  ประโยชน์จากการได้มาซึ่งคลื่นความถี่เพิ่มเติม เทียบกับความคุ้มค่าเชิงการเงิน ที่พิจารณาทั้งความเป็นไปได้ในเชิงเทคนิคและในเชิงธุรกิจ รวมถึงการพิจารณาความเพียงพอของคลื่นความถี่ในการให้บริการต่อเนื่อง การตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ยังคงใช้มือถือ 2G   อีกทั้งการให้ความสำคัญกับการคงความแข็งแรงด้านการเงิน  เพื่อสนับสนุนโอกาสในการลงทุนอื่นๆ ในอนาคต

3. ทางเอไอเอส ยังมีทรัพยากรความถี่ ที่เพียงพอในการให้พัฒนาเครือข่ายให้มีคุณภาพ ประกอบด้วย ความถี่ย่าน 2100MHz จำนวน 15MHz ซึ่งปัจจุบันสามารถให้บริการ 3G ได้ทั่วประเทศ มีโครงข่ายครอบคลุมกว่า 98% ของประชากรทั้งหมด โดยยังมีอายุการใช้งานไปอีก 12 ปี รวมถึงการได้มาซึ่งคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz จำนวน 15MHz เมื่อเดือนพฤศจิกายน  ที่ผ่านมา ซึ่งจะเปิดให้บริการ 4G ภายในเดือนมกราคม 2559 และมีอายุการใช้งาน 18 ปี

4. ล่าสุด ยังได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในการนำคลื่น 2100 MHz จำนวน 15 MHz เข้ามาร่วมให้บริการ

5. ข้อนี้เหตุผลจะคล้าย ๆ ค่ายดีแทค เมื่อไม่ต้องแบกภาระหนี้สินจากใบประมูล ทำให้มีเม็ดเงินที่จะนำมาลงทุนขยายโครงข่าย การให้บริการ รวมไปถึงสามารถทำการตลาดที่เข้มข้นได้โดยที่ไม่ต้องแบกภาระมากมายเท่าคู่ แข่งนั่นเอง

สรุปส่งท้าย นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากนั้นการตัดสินใจไม่ประมูลคลื่น 900 MHz ต่อนั้น จะทำให้เรายังคงมีความแข็งแกร่งด้านการเงินและมีกำลังในการพัฒนาคุณภาพพร้อม กับการดูแลลูกค้าอย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนโครงข่าย 4G, การขยายโครงข่าย 3G ต่อเนื่อง, การขยายเอไอเอส  ไฟเบอร์ รวมไปถึงการมอบสิทธิพิเศษต่างๆ การพัฒนางานด้านบริการลูกค้า การสร้างสรรค์บริการด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ และบริการที่สอดคล้องกับยุค ดิจิทัล อันจะเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจด้วยอีกทางหนึ่งอย่างชัดเจน”

 

ในส่วนของลูกค้า 2G นั้นทางเอไอเอสเล็งเห็นความสำคัญและได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้า 2G โดยเฉพาะ

ปัจจุบันยังคงมีลูกค้าเอไอเอสที่ใช้งานระบบ 2G บนคลื่นความถี่ 900 MHz เหลืออยู่ในจำนวนต่ำกว่า 1 ล้านเลขหมาย (และยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง)  ซึ่งบริษัทได้มีแผนดูแลไม่ให้ได้รับผลกระทบจากผลการประมูลในครั้งนี้อย่าง แน่นอน  นอกจากนี้ ในส่วนของลูกค้า AWN ที่ปัจจุบันยังคงใช้มือถือ 2G และใช้บริการโรมมิ่งมายังโครงข่าย 900MHz ซึ่งขณะนี้ยังคงมีอีกประมาณ 11 ล้านเลขหมาย บริษัทจึงเดินหน้าแผนงานที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้นเพื่อกระตุ้น  ให้ลูกค้ากลุ่มนี้ย้ายไปใช้บริการบนระบบ 3G หรือ 4G ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้แผนการตลาดดังกล่าวจะพิจารณาแบ่งตามพฤติกรรมและค่าใช้จ่ายในการใช้ โทรศัพท์ โดยผ่านช่องทางที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละกลุ่ม และจะมีการนำเสนอโปรโมชั่นค่าโทรและการแลกเครื่องเก่าจาก 2G เป็นเครื่องใหม่ 3G/4G ทั้งนี้ บริษัทจะมีการพิจารณาการใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด เพื่อบรรลุตามเป้าหมายนี้ ปัจจัยสำคัญคือการทำการตลาดแลกเครื่องโทรศัพท์เก่ามาเป็น เอไอเอส ลาวา ซึ่งเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงและได้รับ ความนิยมจากลูกค้ามาแล้วตั้งแต่ในปี 2557

ทางเอไอเอสจึงได้จัดโปรโมชั่นอัพเกรดสำหรับลูกค้า 2G มายัง 3-4G

เมื่อ เติมเงินในระบบตามจำนวนโปรโมชั่นจะได้รับเครื่องสมาร์ทโฟนไปใช้งานฟรี ๆ ไม่ติดสัญญาใด ๆ ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าอยากจะได้ฟีเจอร์โฟนธรรมดา ๆ ก็เติมเงินเพียง 100 บาท รับมือถือปุ่มกดฟีเจอร์โฟนไปใช้งานเหมือนเดิม ไม่ต้องคิดอะไรมาก ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่อาจจะเป็นผู้สูงวัย หรือกลุ่มคนที่เน้นโทรเข้ารับสายเป็นหลัก  ส่วนลูกค้าที่ต้องการใช้งาน data ก็อาจจะเลือกสมาร์ทโฟนในรุ่นที่รองรับและเพิ่มจำนวนการเติมเงินเข้าไป ซึ่งแม้ว่าจะดูแล้วมีค่าใช้จ่ายที่สูงอยู่บ้าง แต่เงินจำนวนนี้ก็คือเงินของเราที่อยู่ในซิมการ์ด คือไม่ใช้เงินที่ถูกกิน เปล่าไปจากทางค่ายและไม่ติดสัญญาใด ๆ นะครับ  โดยโปรโมชั่นนี้เริ่มต้นตั้งแต่ 25 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป

สุดท้านี้ขอขอบคุณ เอไอเอส ที่เชิญไปร่วมงานครับ

 

สามารถพูดคุยเกี่ยวกับบทความนี้ได้ที่หน้าเว็บบอร์ดเดิมครับ โดยคลิ๊กที่ลิงก์นี้ครับ >>> pdamobiz.com

ถูกใจบทความนี้  0