วันนี้คงเป็นวันพุธสุดท้ายของปี อย่างไรก็เดินทางไปเที่ยวกันอย่างระมัดระวังนะครับ ช่วงเทศกาลคนเยอะ แต่หากใจเย็นๆ หน่อยอะไรๆ ก็จะดีขึ้น ส่งท้ายกันด้วย Samsung ถึงแม้ว่าในช่วงหลังๆ เราจะเห็นว่า Samsung รุ่นต่างๆ มาร่วมโปรโมชั่นกับโอเปอเรเตอร์ต่างๆ โดยเฉพาะ Samsung Galaxy Note 5 ซึ่งมีราคาที่น่าสนใจอย่างมาก โดยลดจากราคาปกติถึง 4000 บาทเลยทีเดียว นับว่าน่าสนใจมาก กับเครื่องที่เรียกว่าเป็น flagship ในปีนี้ และแค่ติดสัญญากับเครือข่ายที่เราใช้อยู่แค่นั้นเอง เพราะยังไงเราก็ใช้งานกันอยู่แล้ว หากใครคิดจะซื้อเครื่องล่ะก็อย่าลืมดูตรงจุดนี้ด้วยละกันนะ และแน่นอนว่า Samsung Galaxy Note 5 pink gold ก็เตรียมออกสู่ตลาดในต้นปีหน้า โดยเป็นสูตรเดิมของ Samsung ที่มักจะมีเวอร์ชั่นสีชมพูออกมาตามหลัง และอีกอันก็คงมาตามกระแสของ Apple ที่ออกมาในปีนี้อีกด้วย เชื่อว่าสีนี้จะเข้ามาทำตลาดในไทย แต่ต้องดูว่าจะ limited แค่ไหน และราคาก็จะเป็นประเด็น? เพราะเข้ามาใหม่จะร่วมโปรโมชั่นกับโอเปอเรเตอร์หรือไม่ก็ต้องติดตามกัน ช่วงนี้ตลาดเป็นของผู้บริโภคอย่างเราจริงๆ เพราะเครื่องดีๆ ราคาโดนๆ มีให้เลือกเพียบ ในปีนี้จะเห็นว่าใครที่ออกเครื่องมาในราคา 25,000 บาทขึ้นไป ถือว่าแพงไปแล้ว สำหรับตัว flagship บน Android อันนี้รวมถึง Apple ด้วยนะ ราคาที่เพิ่มขึ้นผมว่ามีผลต่อการเลือกซื้ออย่างมาก อย่างเช่น Apple นี่ iPhone 6s ไม่ต่างอะไรจาก iPhone 6 (รูปร่าง) ความจำเป็นที่จะต้่องเปลี่ยนก็แทบจะไม่มีเลย
การเลือกซื้อ Smartphone ในปัจจุบันผมว่าเปลี่ยนไปจากเมื่อหลายปีก่อนอย่างสิ้นเชิง เพราะสเปคเดี๋ยวนี้ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ทั้งหมดแล้ว การพิจารณาเรื่องสเปคสำหรับผม ดูแบบผ่านๆ ไม่ได้จริงจังอะไรมาก เพราะแทบไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ อาจจะมีเรื่องชิบเซ็ทอยู่บ้าง แต่โดยรวมๆ ตอบสนองการทำงานทั่วๆ ไปได้อยู่แล้ว ไม่ต้องกังวล ทั้งเรื่องกราฟิคต่างๆ ด้วย ด้วยชิบกราฟิคที่พัฒนาขึ้นมาในระดับที่เรียกว่าน่าพอใจ เครื่องในราคาต่ำกว่าหมื่นนึงเป็นทางเลือกที่่น่าสนใจมาก และหากจะเปลี่ยนใหม่ก็คงไม่ควรหมื่นกลางๆ ก็น่าจะคุ้มค่ามากที่สุด สำหรับชีวิตของ Smartphone ทุกวันนี้ เอาจริงๆ ผมว่า 2 ปี ก็เก่งแล้ว จะลดลงเหลือ 1 ปี เสียด้วยซ้ำ เพราะออกมาเยอะเหลือเกิน บางคนอาจจะบอกว่าเปลี่ยนทุกครึ่งปี หรือทุกสามเดือนเสียด้วยซ้ำ ด้วยตัวเลือกที่มีมากขึ้น โปรโมชั่น ความคุ้มค่าอื่นๆ ทำให้เราตัดสินใจเปลี่ยนรุ่นหรือแบรนด์ไม่ยากนัก นอกจากงบประมาณที่น่าจะเป็นอันดับต้นๆ แล้ว ฟังก์ชั่นของกล้อง และคุณภาพ ผมว่าอยู่ในอันดับต้นๆ อีกเช่นกัน เดี่ยวนี้ มีฟังก์ชั่นแจ่มๆ เพียบ แต่เรื่องคุณภาพของกล้อง ต้องบอกเลยว่าจะยังไม่รู้ชัด จนกว่าจะนำไฟล์ที่ถ่ายออกมาเปิดดูในคอมพิวเตอร์ ถึงจะรู้ว่าดีไม่ดีแค่ไหน ซึ่งหากจะให้แนะนำ ยังแนะนำเครื่องที่มีราคาระดับหมื่นกลางๆ ขึ้นไป ส่วนเครื่องต่ำกว่าหมื่นนึง ถึงแม้ว่าจะมีฟังก์ชั่นที่ดี ความละเอียดกล้องที่มากมาย แต่ทว่าคุณภาพที่ออกมาโดยเฉลี่ย ยังไม่น่าพอใจ เช่นพวก HDR ที่มีแทบทุกรุ่น บางรุ่นต้องบอกว่าอย่าเรียกว่า HDR เลยดีกว่า แต่ถ้าเราไม่ได้ซีเรียสมาก ต่ำกว่าหมื่นก็พอได้อยู่นะ ที่เหลือเชื่อว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์ และแบรนด์ อันนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละบุคคล และอีกอันที่สำคัญก็คืออย่าลืมหาข้อมูลก่อนเลือกซื้อ พยายามอย่าเป็นหนูลองยา ควรซื้อหลังวางจำหน่ายแล้วสักเดือนนึง (ยกเว้นมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจเพียงพอ) เพราะช่วงแรกๆ มักจะมีฟีดแบ็คเรื่องซอฟท์แวร์ ว่าดีหรือไม่ ถ้าช่วงเดือนแรกพ้นไป ก็ถือว่าใช้งานในชีวิตประจำวันได้ เพราะไม่งั้น คนเราปกติจะมีแค่เครื่องหลักๆ 1 เครื่อง หากมีปัญหา จะทำให้ไม่สามารถติดต่อกับใครได้ จะเสียอารมณ์และเสียเวลา ซึ่งการใช้งานไปได้สักระยะ เครื่องมักจะตอบสนองช้าลงโดยอัตโนมัติ แต่ก็คงใช้เวลาสักสามเดือนหรือหกเดือนนั่นล่ะครับ ซึ่งถึงช่วงนั้นคงมีเฟิร์มแวร์ออกใหม่ เราก็รีเซ็ทเครื่องพร้อมกับอัพเดทซะทีเดียวเลย แนะนำว่าอย่าเอาไฟล์หรือระบบที่แบ็คอัพกลับมานะครับ ไม่งั้นมันจะช้าเหมือมนเดิม พวกแอพฟรีที่โปรโมทหรือเด้งขึ้นมาบนโฆษณา social ต่างๆ ที่ช่วยล้างเครื่อง หรือเกมส์อะไรก็แล้วแต่ จะลงระวังจะแฝงพวกโทรจันติดมาด้วยนะครับ เดี๋ยวนี้ความปลอดภัยในการใช้เครื่องเป็นเรื่องสำคัญ อ้อ ผมจะไม่ได้ดูเรื่องแบตเพราะแบตนี่ดูได้แต่สเปค แต่มาใช้งานจริงก็อีกเรื่อง และตอนที่ทดสอบก็ไม่สามารถรู้ได้ ดังนั้นแบตหากหมดระหว่างวันก็ไปใช้ powerbank คงมีกันอยู่แล้ว วันนี้ก็ฝากเอาไว้เท่านี้ล่ะครับ ไว้เจอกันปีหน้า
You must be logged in to post a comment.