Acer หนึ่งในผู้ผลิตสินค้าไอทีชื่อดังยังคงลุยตลาดสมาร์ทโฟนต่อไป ขนทัพออกมาไม่หยุดยั้ง โดยล่าสุดนำทัพ Liquid Series มาบุกประเทศไทยถึง 6 รุ่นซึ่งวันนี้ผมก็ได้หนึ่งในเครื่องทั้ง 6 นั้นมาได้แก่ Acer Liquid X2 ซึ่งเป็นตัวท็อปของ Liquid Series เลยล่ะครับ โดยเจ้านี่มีจุดเด่นที่ได้หน้าจอขนาดใหญ่และแบตที่อึดมาก อึดระดับว่าน่าจะหาตัวเปรียบเทียบได้ยากครับ และการใช้งานทั่วไปก็ถือว่าทำได้ดีมากเช่นกันด้วย ส่วนเรื่องอื่นๆ จะเป็นเช่นไร มีฟีเจอร์อะไรบ้างมาดูกันต่อนะครับ……
Acer Liquid X2 Specifications:
Operation System: Android 5.1 Lollipop
Display: 5.5” HD 1280 x 720 IPS, Zero Air Gap
Processor: CPU MTK MT6753 Octa Core® 1.3GHz processors (64 bits)
Memory: RAM 3 GB
Storage: ROM 32 GB รองรับ Micro SD card max to 32 GB
Audio: DTS HD Premium Sound, 24bit, 192 KHz high resolution audio
Wireless – 4G LTE: 800/1800/2100/2600 MHz (speed up to 150 Mbps.)
& Networking
– GSM 850/900/1800/1900 MHz
– 3G 900/1900/2100 MHz
– 3G Speed: HSDPA 42.2 Mbps, HSUPA 11.5 Mbps
– 802.11ac b/g/n
– Bluetooth 4.0 with LE, GPS
SIM: Tri-SIM
Battery 4000 mAh
Camera: 13MP front/rear camera LED Flash with dual shot
Color: Charcoal Black / Luxury Gold
ราคา: 9,990 Baht (VAT Inc.)
1.แกะกล่อง
เริ่มต้นกันที่การแกะกล่องเช่นเคย กล่องของ Acer Liquid X2 จะเป็นลายขวางๆ ทะแยงๆ สีดำผสมฟ้าครับ ด้านหน้าเผยให้เห็นหน้าตาตัวเครื่องว่าเป็นเช่นไร
ด้านหลังกล่องบอกสเปคคร่าวๆ ว่าใช้ Android เวอร์ชั่นอะไร หน้าจอเท่าไหร่ กล้องความละเอียดขนาดไหนครับ รวมถึงบอกด้วยนะว่ามี Fast Charge ด้วย
ด้านข่างกล่องทั้ง 4 ด้าน
และแน่นอนว่าเปิดกล่องมาต้องเจอตัวเครื่องนอนรออยู่นะ
อุปกรณ์ทั้งหมดในกล่องครับ
1.Acer Liquid X2
2.Adapter (รองรับ Fast Charge)
3.สาย Micro USB
4.Small Talk
5.คู่มือ
6.ใบรับประกัน
หูฟังที่แถมมานั้นเป็นแบบ in-ear ครับ มีปุ่มไว้ให้กดรับสายวางสายด้วย
Adapter ที่แถมมาจ่ายไฟแรง 5.2V 1.35A
ต่อไปมาดูตัวเครื่องกันครับ ได้เครื่องสีดำมารีวิวซึ่งก็เหมาะกะผมดีนะ ฮ่าๆ ถ้าได้สีชมพูมาหยิบมาใช้คงเด่นแปลกๆ ด้านหน้าตัวเครื่องไม่มีปุ่มบนตัวเครื่องใดๆ เพราะปุ่มย้ายไปบนหน้าจอหมดตามสไตล์ที่ Google กำหนด
เหนือหน้าจอจะมีลำโพงสำหรับสนทนาอยู่ตรงกลาง และกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซลทางซ้าย พร้อมไฟแฟลช LED ทางขวา และหากมองดีๆ จะเห็นลายของตัวเครื่องว่าเป็นเหมือนสี่เหลี่ยมเล็กๆๆ เต็มไปหมด ซึ่งดูแปลกตาดี แต่ก็สวยงามอยู่เช่นกัน
ด้านล่างหน้าจอไม่มีอะไรทั้งสิ้นนอกจากโลโก้ Acer
ด้านหลังตัวเครื่องสีดำเงาๆ แต่ไม่ค่อยเป็นรอยนิ้วมือเท่าไหร่
ด้านบนของฝาหลังมีกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED อยู่ทางซ้าย และพอดูฝาหลังใกล้ๆ เราจะเห็นลายฝาหลังเหมือนกับใช้อลูมิเนียมทำเลยล่ะ แต่จริงๆ เป็นลายเท่านั้นนะครับ เพราะฝาทำจากพลาสติกจ้า
ด้านล่างฝาหลังมีลำโพงอยู่ พร้อมคำบอกว่าใช้ระบบเสียงของ dts ซึ่งจะให้เสียงที่ดีนั่นล่ะ
ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา และช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5มม.
ด้านซ้ายของตัวเครื่องไร้ปุ่ม
ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม Power อยู่ตรงกลาง และมีปุ่ม เพิ่มลดเสียงอยู่เหนือขึ้นไป
ด้านล่างมีช่องเสียบชาร์จ/ซิงค์แบบ Micro USB พร้อมไมโครโฟนสำหรับสนทนา
ถอดฝาหลังมาดูกันบ้างจะพบกับแบตเตอรี่ก้อนโคตรใหญ่ 4,000mAh
ส่วนจำนวนซิมที่รองรับก็ 3 ซิมครับ ไล่ไปเลยจากขวาไปซ้าย 1 2 3 ปลาฉลามขึ้นบก
ขนาดตัวเครื่อง Acer Liquid X2 เมื่อถืออยู่ในมือ ถือว่าพอใช้งานมือเดียวได้อยู่ครับ
ในการรีวิวครั้งนี้ทางแบรนด์ได้ให้เคส Flip Cover มาด้วยเพื่อทดสอบ ซึ่งเป็นเคสแบบใช้งานแทนฝาหลังเลย
หน้าตาของ Flip Cover
อย่างที่บอกว่าเป็นเคสใช้งานแทนฝาหลัง ฉะนั้นมันจึงบางมาก เรียกง่ายๆ ว่าเหมือนเอาแผ่นปิดหน้าจอมาแปะเพิ่ม
ลายก็เหมือนฝาหลังเป๊ะ
พอใส่เคสเข้าไปแล้วจะเห็นได้ชัดว่าตัวเครื่องไม่ได้หนาขึ้นจากเดิมเท่าไหร่เลย
ส่วนตัวเคสทำอะไรได้บ้างนั้น แน่นอนเรื่องแรกเลยคือป้องกันหน้าจอตัวเครื่องของเราครับ ฮ่าๆๆ ส่วนอีกเรื่องก็เป็นลูกเล่นตามรอยที่ถูกเว้นว่างเอาไว้ยาวๆ นั่นซึ่งก็จะมีหน้าจอ 6 หน้าจอ ใช้วิธ๊การปาดขึ้นลงเอาเพื่อเปลี่ยน โดยหน้าจอแรกจะเป็นการแจ้งเตือนว่ามีสายไหนพลาดมั่ง ข้อความเข้ารึเปล่า มีปฏิทินอะไรมั้ย ต่อมาเป็นไฟฉาย และต่อมาเป็นเปอร์เซ็นแบตที่เหลือพร้อมวันเวลา ถัดมาอีกหน้าเป็นเครื่องมือเล็กๆ น้อยๆ รวมกันประกอบด้วย Airplane Mode, ไฟฉาย, เปิดเสียง, ระบบสั่น, ปาดอีกที เจอเครื่องอัดเสียง ไว้แอบอัดไง เผื่อเวลาปิดเคสอยู่คนจะได้ไม่รู้,
ปาดเล่นอีกทีเป็นกล้องถ่ายรูป ซึ่งพอใช้งานถ่ายรูปออกมาก็ได้รูปปกติแหละ แต่เวลาเล็งนี่ใช้จินตนาการเอานิดนึงนะเพราะมันเห็นนิดเดียว และหน้าสุดท้ายบอกเวลาและอุณหภูมิ
2.User Interface & Feature
User Interface ของ Liquid X2 มาเสมือน Android ทั่วๆ ไป โดยทำ Launcher มาครอบของเดิม แต่การใช้งานยังคงเดิมคือแยกหน้า Home และหน้า App Drawer ออกจากกัน หน้า Homeสามารถสร้าง Folder, Add Widget ได้ปกติ ส่วนหน้า App Drawer เป็นแบบปัดข้างๆ คือหน้านึงมี 16 แอพพลิเคชั่น
Status Bar เป็นแบบลากครั้งนึงจะเจอการแจ้งเตือนและ Toggle บางส่วน แต่หากลากอีกครั้งนึงจะเจอกับ Toggle ทั้งหมด
Float App: Liquid X2 สามารถเปิด Float App ได้ด้วย ซึ่งก็เหมือนเป็นหน้าต่าง Pop-Up ขึ้นมา โดยใช้ได้ไม่กี่แอพหรอกครับ ใช้ได้เพียง Calendar, Calculator และ Phone
Quick Touch: เป็นการสัมผัสอย่างรวดเร็วคือขณะหน้าจอดับอยู่จะมากดปุ่มแล้วปาดเพื่อปลดล็อคก็ดูจะไม่ทันใจ เลยจัดให้มี Quick Touch มาด้วย ซึ่งวิธีการใช้ก็ขณะหน้าจอดับนี่แหละ ยกตัวอย่างเช่น ปาดเป็นรูปตัว I ก็ปลดล็อคหน้าจอได้เลย
Liquid X2 มี Multi Windows ด้วยนะ ใช้ได้บางแอพเช่นกัน หลักๆ ก็ตามภาพครับ
File Manager: แอพสำหรับจัดการไฟล์ต่างๆ ในตัวเครื่องหน้าตาการใช้งานเรียบง่ายทั่วไป แบ่งแยกหน่วยความจำตัวเครื่องและ SD Card ชัดเจน
Kids Center: แอพที่ทำมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ซึ่งจะมี Content ต่างๆ สำหรับเด็กในนี้เต็มไปหมด คือถ้าจะเอาให้เด็กเล่นก็เปิดหน้านี้ค้างไว้ก็ได้ครับ จากนั้นให้น้องๆ เข้าไปตามหน้าจอต่างๆ เอง ถ้าไม่กดปุ่ม X ด้านบนก็ไม่ออกจากแอพหรอก เพราะมันได้ทำการซ่อนปุ่มด้านล่างเอาไว้ด้วย
Benchmark: ทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องจากแอพต่างๆ ได้ผลดังนี้
– Antutu: 33222 คะแนน
Geekbench: Single Core 632, Multi-Core 2917
– Quadrant Standard: 3624 คะแนน
– Multitouch: สูงสุด 5 จุด
3.กล้องถ่ายรูป
Acer Liquid X2 มาพร้อมกล้องหน้าและหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลและไฟแฟลช LED ทั้งด้านหน้าด้านหลังเช่นกัน มีโหมดถ่ายรูปให้ใช้งานเยอะพอตัว อาทิเช่น HDR, Panorama, Beauty, Bright Magic, ฯลฯ
ส่วนเรื่องการถ่ายวิดีโอรองรับที่ความละเอียดสูงสุด 1080p หรือ Full HD ที่ 60fps
กล้องหน้ามีโหมดหน้าสวยให้พร้อมกดถ่ายรูปได้เลย แต่จะใช้หน้าสดถ่ายก็ได้เช่นกัน
ต่อไปมาดูตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Acer Liquid X2 กันครับ ภาพทุกภาพมิได้่ผ่านการตกแต่งใดๆ นอกจากย่อขนาดและใส่ลายน้ำเท่านั้น
ปิดท้ายด้วยตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าครับ ซึ่งใช้พริตตี้สาวสวยในงานนี่ล่ะถ่ายรูปให้ ฮ่าๆๆ
สรุป:
จุดเด่น
1.แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ทำให้อึดมาก ใช้งานทั้งวันสบายๆเลยล่ะ
2.ตัวเครื่องออกแบบได้ดูแข็งแรงทนทานดี ตัวเครื่องไม่หนาเท่าไหร่เมื่อเทียบกับขนาดแบตเตอรี่ที่ได้
3.การทำงานตัวเครื่องลื่น Ram เยอะ Rom เยอะ ลงแอพเกมส์ได้สบายใจ
4.รองรับการใช้งาน 3 ซิม และรองรับการใช้งาน 3G/4G ได้ทุกซิมด้วย
จุดด้อย
1.กล้องถ่ายรูปอยู่ในระดับพอใช้งานได้ สำหรับกลางวันไม่น่าเป็นห่วง กลางคืนนี่อย่าหวังอะไรมาก หรือบางทีเจอแสงแปลกหน่อย WB ก็เพี้ยนไปเลย
2.รองรับการใช้งาน 3G/4G ได้ทีละซิมเท่านั้น (ในเรื่องของการจับสัญญาณ) ที่เหลือจะเข้าสู่โหมด 2G
ถูกใจบทความนี้ 1
You must be logged in to post a comment.