เปิดตัวกันไปเมื่องาน TME ที่ผ่านมา และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการมาได้สักพักใหญ่ ๆ แล้วครับ ซึ่ง G7 Plus มีกระแสตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะเรื่องกล้อง ที่ผู้ใช้หลาย ๆ คน ออกมาการันตีว่าใช้งานง่ายและให้ประสิทธิภาพที่ดีมาก เมื่อวานทางหัวเหว่ยจึงได้จัดงาน Huawei G7 Plus รอบ Blogger day เพื่อให้เหล่าบล็อกเกอร์ทั้งสายไอทีและสาย Food & Beauty ได้มีโอกาสสัมผัสและทดสอบการถ่ายภาพด้วย G7 Plus กันแบบสบาย ๆ ในบรรยากาศเป็นกันเอง ณ ร้าน BlackBeer’D
งานจัดขึ้น ณ ร้าน BlackBeer’D ทองหล่อ
คุณมะเหมี่ยวมาเป็นพิธีกรในงาน
ก่อนเริ่มทดสอบการถ่ายรูป ทางทีมงานของหัวเหว่ย ขอบอกเล่าจุดเด่นและความน่าสนใจในแง่มุมต่าง ๆ ของ G7 Plus กันสักเล็กน้อย
จุด เด่นแรกก็คือกล้องนี่แหละ โดย G7 Plus มาพร้อมกล้องหลักด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ชิ้นเลนส์ จับกลุ่มแบบ 6 element ซึ่งส่งผลในแง่ของประสิทธิภาพที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบกันสั่นที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย โดยเมื่อเทียบกับ iPhone แล้ว กันสั่นของ G7 Plus จะมีองศาที่มาก ซึ่งหมายความว่ากันสั่นทำงานได้ดีกว่านั่นเองครับ
เทคโนโลยี RGBW ที่เพิ่มส่วนของ White pixels เข้าไปในเซ็นเซอร์ ช่วยให้ภาพมีความส่วางสดใส และส่งผลการถ่ายถาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น
ฟีเจอร์ และโหมดการถ่ายภาพที่น่าสนใจขของ G7 Plus ขอพูดในส่วนที่เป็นไฮไลท์จริง ๆ ก็คือโหมด Good Food หรือโหมดถ่ายอาหาร โดยความสามารถของโหมดนี้จะปรับปรุงคุณภาพของรูปถ่ายให้ดูสดใสและจัดจ้านขึ้น มาอีกนิด ช่วยให้ภาพถ่ายอาหารของเรามีฟิลลิ่งหรือดูน่ากินมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ
ตามด้วยโหมดบิวตี้ ที่บัจจุบันทุก ๆ ค่ายเขาก็มีกันอยู่แล้ว แต่ความเจ๋งของ VOGUE BEAUTY ของ G7 Plus นั้นไม่ธรรมดา
โดยสามารถเติมแป้ง เพิ่มขนตา ปัดมาสคาร่า ได้อย่างเรียลไทม์ และคุณภาพของโหมดนี้ขอบอกว่าตอบทุกโจทย์ของคอเซลฟี่อย่างแท้จริงครับ
มาดูภาพรวมในส่วนอื่น ๆ นอกเหนือไปจากกล้องกันบ้าง
รองรับ 4G ทั้งสองซิม และตัวรับสัญญาณแบบ Dual Antenna ที่เพิ่มประสิทธิภาพและความเสถียรในภาครับสัญญาณได้ดีขึ้นเป็นอีกเท่าตัว
ไม่ได้เด่นเฉพาะกล้องนะ แต่ด้านเสียงหัวเหว่ยก็ใส่ใจเช่นกัน
หลาย คนยังเข้าใจผิด รวมไปถึงผมด้วย สรุป G7 Plus ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 616 นะครับ ไม่ใช่ตัว 615 ตามที่หลาย ๆ เว็บลงข้อมูลอยู่ในขณะนี้
กระจก กล้องหลังเป็น Sapphire ที่มีความแข็งแกร่งรองมาจากเพชร์เท่านั้น ช่วยปกป้องหน้าเลนส์กล้องได้เป็นอย่างดี ส่วนตัวบอดี้ของ G7 Plus เลือกใช้วัสดุ Aluminium Aircraft เป็นโลหะเกรดเดียวกับที่ทำเครื่องบิน
สุดท้ายระบบสแกนลายนิ้วมือ ที่ฉลาด ใช้งานง่าย และตอบสนองการใช้งานได้มากกว่าแค่การปลดล็อคหน้าจอครับ
จากนี้เข้าสู่ช่วงทดสอบถ่ายรูปด้วย G7 Plus ครับ
มาร้านอาหารต้องถ่ายอาหารกันอยู่แล้ว และ G7 Plus ก็มีโหมด Good Food ซึ่งเป็นจุดขาย จึงไม่รอช้าขอทดสอบกันด้วยโหมดนี้เป็นลำดับแรก
ภาพจากกล้อง G7 Plus ในโหมด Good Food
ลองเทียบกับโหมด Normal หรือ โหมด auto ดูนะครับ จะเห็นความแตกต่างที่ชัดเจน
ในงานลองจับประกบกับไฮเอนด์อย่าง iPhone 6S และ 6S Plus
ราคาต่างกันเป็นเท่าตัว แต่บอกเลยว่าคุณภาพกล้อง G7 Plus ทำได้ดีไม่แพ้ iPhone เลย เผลอ ๆ บางอย่างจะดีกว่าด้วยซ้ำ
ดูกันต่อกับโหมด Good food
จ่อใกล้ ๆ เพื่อให้เห็นดีเทลของภาพ
ภาพรวม ต้องบอกว่าประทับใจกล้องของ G7 Plus มาก ๆ ครับ โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบทำพิธีกรรม เอ้ย! ไม่ใช่ซิ คนที่ชอบถ่ายรูปอาหารและแชร์ไปยังโซเชียลต่าง ๆ น่าจะถูกใจกับโหมด Good Food ที่สามารถถ่ายทอดฟิลลิ่งและทำให้อาหารดูน่ากินขึ้นโดยไม่ต้องผ่านแอพตกแต่ง ตัวอื่น ๆ อีกต่อไป เรียกว่าถ่ายปุ๊บแชร์ปั๊บก็ได้ใจเพื่อน ๆ อย่างแน่นอน นอกจากนี้ในโหมดบิวตี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของตัว G7 Plus เมื่อมองภาพรวม ๆ ทั้งสเปค วัสดุ งานประกอบ ฟีเจอร์ และราคาวางจำหน่าย ขอฟันธงเลยว่า G7 Plus นั้นน่าสนใจมาก ๆ จัดว่าเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ ในงบประมาณที่ไม่เกิน 13,000 บาท
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Huawei thailand ที่เชิญไปร่วมงานนะครับ
สามารถพูดคุยเกี่ยวกับบทความนี้ได้ที่หน้าเว็บบอร์ดเดิมครับ โดยคลิ๊กที่ลิงก์นี้ครับ >>> pdamobiz.com