สวัสดีครับ วันนี้มาคุยกันเรื่อง heart rate หรืออัตราการเต้นของหัวใจนั่นเอง เรื่องนี้ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่อาจจะยังไม่รู้ว่า อุปกรณ์ที่สามารถวัด heart rate ด้วยตัวเองได้ โดยก่อนหน้านี้ก็คงเป็นสายคาดหน้าอก ที่ใช้ร่วมกันอุปกรณ์ต่างๆ หรือง่ายๆ ก็คือ Smartphone เรานี่ล่ะ สามารถต่อเชื่อมกับแอพออกกำลังกายบางตัวได้เ่ช่น Endomodo และสามารถนำไปใช้ในการวิ่งหรือออกกำลังกายต่างๆ และสามารถรู้ได้ว่าในขณะที่ออกกำลังกาย หัวใจเราเต้นเท่าไหร่? มากน้อยแค่ไหน อัตรรายหรือไม่ ซึ่งอย่างที่เคยบอกล่ะครับว่า มันมีประโยชน์นะ เดี๋ยวนี้อัตราเสี่ยงจากโรคภัยไข้เจ็บเยอะขึ้นกว่าแต่ก่อน ทั้งเรื่องอาหารการกินต่างๆ ที่เห็นมีล่าสุดพวกสารตกค้างต่างๆ ในอาหารที่เราทานๆ กันนี่มีจำนวนไม่น้อยเลย ทั้งเนื้อสัตว์และผัก ผลไม้ต่างๆ ใครจะบอกว่าอายุ 25 เอง ไม่จำเป็นหรอก แต่มันก็ไม่แน่ อย่างน้อยถ้าหากเรารู้ heart rate เก็บเอาไว้ กรณีที่เกิดไม่สบาย ข้อมูลตรงนี้อาจจะช่วยให้แพทย์วิเคราะห์หาสาเหตุได้อย่างแม่นยำ หรือถูกต้องมากขึ้นนะครับ และยิ่งมี่ประโยชน์กับคนที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพโดยเฉพาะหัวใจเลยล่ะ ซึ่งประเด็นเหล่านี้ผมเน้นย้ำทุกครั้งที่ได้เขียนถึง
อุปกรณ์ที่สามารถวัด heart rate ได้ไม่ได้มีแต่สายคาดหน้าอกเท่านั้น แต่ยังมีเทรนด์ที่นิยมใช้งานกันมากก็คือบนข้อมือของเราเองนี่ล่ะ ช่วงหลังออกมากันเพียบ มีให้เลือกไม่น้อย ส่วนผมเองใช้ Fitbit Surge และ Forerunner 235 ล่าสุดที่เพิ่งออกมา และอีกอันนึงก็คงเป็นการวัดจากหูของเรานี่ล่ะ เช่น Jabra Sport Pulse หลักๆ แล้วในตลาดที่ผมเห็นใช้งานกันก็มีประมาณนี้ล่ะครับ ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านอุปกรณ์สวมใส่และการวัดอัตราการเต้นของหัวใจมายืนยันว่า ความเพี้ยนในการวัด heart rate ที่ข้อมือนี่มากที่สุด โดยบนหน้าอกได้ 91% +- 5BPM ส่วน วัดที่หูและแขน ก็ได้เท่ากันคือ 91% +-5BPM ส่วนการวัดที่ข้อมือได้ที่ 85% +-5BPM เช่นกัน จะเห็นว่าการวัดที่ข้อมือจะมีโอกาสเพี้ยน มากที่สุด คือต้องบอกว่า การที่ยอมรับได้คืออยู่ที่ 1-2 วินาที ซึ่งที่ 85% นี่ก็อยู่ในสภาพที่ยอมรับได้นะครับ ผู้เชี่ยวชาญอีกท่านนึงก็ยืนยันมาในแนวทางเดียวกัน ถ้าเป็นไปได้ก็ใส่สายคาดหน้าอก หรือไม่ก็ใส่หูฟังที่วัด heart rate ได้ ก็จะดีมาก แต่ถ้าไม่ได้ ก็วัดบนข้อมือ ผมว่าก็ใช้ได้เหมือนกัน เพราะอะไร? ก็เพราะว่ายิ่งเป็นคนที่มีสุขภาพดีอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความเพี้ยนมากนัก คือไม่อันตราย ด้วยการวัดระหว่างวัน หรืออาจจะตอนออกกำลังกาย ก็ไม่ได้เป็นอันตรายอะไรมากนัก แต่ถ้าหากมีปัญหาเรื่องสุขภาพอยู่แล้ว ก็ควรจะใช้สายคาดหน้าอกก็จะดีกว่า เพราะบางครั้ง การเต้นของหัวใจผิดพลาดไป ไม่ว่จะเกิน 2 วินาที หรือคลาดเคลื่อนหลัก 10 BPM นี่ก็มีผลแล้ว หรือถ้าเป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ต้องทำสถิติใหม่ๆ ก็เช่นกัน เพราะความเร็วระดับวินาทีก็ทำให้ชี้แพ้ ชนะได้ ซึ่งหากเรารู้ว่าการเต้นของหัวใจอยู่ที่เท่าใด อย่างถูกต้องแล้วก็จะสามารถซ้อมให้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ได้ ส่วน heart rate ที่เหมาะสม คือนำเอา 220-อายุ นะครับ จะได้ maximum heart rate หรืออัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดที่ยอมรับได้ เกินกว่านี้หัวใจจะทำงานหนักและไม่เป็นผลดี ซึ่งจริงๆ เรื่อง heart rate นี่หากพูดถึงเรื่องฝึกซ้อม ก็จะมีเรื่อง zone ต่างๆ และรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ อีก เอาไว้โอกาสถัดๆ ไป ค่อยหยิบยกมาคุยกันใหม่ก็แล้วกันครับ วันนี้ลาไป่ก่อน
ดาวโหลดหรือรับฟังแบบฉบับเสียง====> หรืออีกหนึ่งช่องทางโหลดแอพ soundcloud แล้วกดติดตาม https://soundcloud.com/pdamobiz-dotcom
You must be logged in to post a comment.