Quick Unboxing แรกแกะ (กล่อง) ประทับใจ Huawei Mate 8 ฉบับภาพนิ่ง !!!

1

   รับชมคลิปแกะกล่องกันไปแล้ว วันนี้พาชมอีกรอบครับ เป็นอีกหนึ่ง Quick Unboxing เพื่อพาชมภาพรวม ๆ ของตัวแพกเกจและสำรวจ Hardware ภาพนอกเรียกน้ำย่อยกันไปก่อน ส่วน Full Review จะรีบปั่นออกมาในเร็ว ๆ นี้ครับ

ขอขอบคุณ Huawei Thailand สำหรับเครื่องทดสอบและใช้ในการเขียนบทความนี้ครับ……

สเปคเบื้องต้นของ Huawei Mate 8

  • หน่วยประมวลผล  Kirin 950 Octa core (Quad-core 2.3 GHz Cortex-A72 + quad-core 1.8 GHz Cortex A53 )
  • หน่วยความจำภายใน 64GB และรองรับหน่วยความจำภายนอก MicroSD card สูงสุด 128GB
  • แรม : 4GB
  • จอแสดงผล : ชนิด IPS ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1080P,
  • การเชื่อมต่อ 2G : 850/900/1800/1900 MHz
  • การเชื่อมต่อ 3G : 850/900/1900/2100 MHz
  • การเชื่อมต่อ 4G TDD LTE Band38/39/40
  • การเชื่อมต่อ 4G TDD LTE Band/1/2/3/4/5/6/7/8/12/17/18/19/20/26
  • รองรับการใช้งานในระบบ 2 ซิมการ์ด
  • การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac , Bluetooth V. 4.2,  NFC
  • กล้องหลักด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 ไฟแฟลชคู่ทูโทน กันสั่น OIS ระบบโฟกัสแบบ PDAF+CAF
  • กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4
  • Android 6.0 Marshmallow
  • ขนาดตัวเครื่อง 157.1 x 80.6 x 7.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 185 กรัม
  • แบตเตอรี่ Li-Po ความจุ 4000 mAhสีที่มีวางจำหน่าย Champagne Gold,  Mocha Brow

    ราคาวางจำหน่าย 23,990 บาท

 

Packaging & Accessories

ตัวกล่องแพกเกจมาในโทนสีดำแบบเรียบ ๆ ดูเคร่งขรึมคลาสสิค ด้านหน้าพิมพ์บอกชื่อแบรนด์และรุ่นด้วยสีทองสะดุดตา

ส่วนด้านหลังดูโล่ง ๆ เช่นกัน สำหรับโมเดลและรายละเอียดเบื้องต้นจะแปะบอกไว้ที่ข้างกล่องครับ

เมื่อแง้มกล่องออกมาจะพบกับตัวเครื่อง Huawei Mate 8 นอนรออยู่ในถาดรอง

และภายในกล่องจะประกอบไปด้วยอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ให้มาในกล่องย่อยอีกสามกล่อง โดยมีการสกรีนสัญลักษณ์บอกว่าในแต่ละกล่องนั้นบรรจุไว้ด้วยอุปกรณ์อะไรบ้าง

มาดูกันว่ามีอะไรให้มาบ้างครับ

1. อแดปเตอร์ชาร์จไฟแบบขาแบน รองรับการจ่ายไฟแบบ Quick Charge มี Output ที่ 5V-2A และ 9V-2A

2. สาย Micro USB ที่สกรีนโลโก้ Huawei ไว้ที่ด้านบน

3. ชุดหูฟังสมอลทอร์ค ที่มาในสไตล์ ” เอียร์พอด ”

ในกล่องสุดท้าย ด้านบนจะมีเข็มจิ้มถาดซิมเหน็บไว้ที่ด้านบน  ภายในกล่องมี Smart case แถมมาให้ด้วยครับ ตรงนี้เป็นข้อดีที่อยากให้ทุก ๆ แบรนด์ ควรจะแถมมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานไปเลย

แต่ดูจากวัสดุแล้วน่าจะเป็นหนังเทียมนะครับ

สุดท้ายท้ายสุดของกล่องนี้ ก็คือซองใส่คู่มือที่ออกแบบในสไตล์ย้อนยุค มีการทำตัวปิดแบบตราประทับครั่ง เข้าใจออกแบบนะครับเพราะดูคลาสสิคดีมากเลยสำหรับซองอันนี้

และของที่อยู่ข้างในซอง ก็คือคู่มือการใช้งานอย่างย่อและใบรับประกันสินค้า สำหรับอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ให้มาในกล่องของ Huawei Mate 8 ก็จะมีเพียงเท่านี้

Design & Hardweare

ดีไซน์ของ Mate 8 ยังคงมีกลิ่นอายจากตัว Mater 7 ติดมาบ้างเล็กน้อย แต่ในภาพรวมแล้วดูดีขึ้นกว่าเดิมพอสมควร งานดีไซน์ของตัวเครื่องเป็น Metal unibody โดยใช้วัสดุอลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน ด้านหลังของตัวเครื่องมีความโค้งมนเล็กน้อย และการ cutting edge ทั้งขอบด้านบน-ล่าง ก็ส่งผลให้ Mate มีความพรีเมี่ยมสมราคาค่าตัวเลยครับ และอีกหนึ่งจุดเด่นของงานออกแบบก็คือขอบจอที่บางเฉียบเพียง 1.7 มม. ทำให้ตัวเครื่องดูมีขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไป แม้จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6 นิ้วก็ตาม

สำหรับ build quality อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยมเช่นกัน พยายามจับผิดและหาข้อบกพร่องแบบละเอียด ๆ ก็ยังไม่พบเจอแต่อย่างใดครับ

สุดท้ายว่ากันด้วย Handle การจับถือพกพา ด้วยความใหญ่ของหน้าจอขนาด 6 นิ้ว ยังไงซะการพกพาย่อมมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ถ้าพูดถึงในแง่การจับถือนั้น ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะส่วนหนึ่งมี Software ที่ช่วยในเรื่องการใช้งานมือเดียวอยู่แล้วครับ สิ่งที่จะติอย่างเดียวก็คือตัววัสดุนั้นเก็บรอยนิ้วมือได้ง่ายไปสักนิด ในการใช้งานจริงควรใส่เคสไว้จะเป็นการดีที่สุดครับ

Huawei Mate 8 มีจอแสดงผลชนิด IPS ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1080P และมาพร้อมกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 4

คุณภาพจอของ Huawei Mate 8 นั้นดีมาก เพราะเป็นจอที่ทางค่าย Huawei โปรโมตว่ามีความสว่างคมชัดและให้สีสันที่ถูกต้องถึง 95% และในส่วนของ responding ของหน้าจอก็ตอบสนองได้อย่างลื่นไหล ยังไม่พบเจอปัญหาแต่อย่างใดครับ

สำรวจ Hardware และการจัดวางเลย์เอาท์ของ Mate 8 กันต่อเลยครับ โดยเริ่มจากด้านหน้า

ไฟแจ้งเตือน LED Notification จะอยู่ฝั่งทางซ้ายมือ ตัวช่องลำโพงสนทนาจะเป้นตะแกรงอะลูมิเนียมปิดทับไว้ และถัดจากช่องลำโพงก็คือกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.4 สุดท้ายคือชุดเซ็นเซอร์ต่าง ๆ

สำหรับ 3 ปุ่มควบคุมของตัวระบบแอนดรอยด์ จะเป็นแบบ On screen button ที่รวมอยู่ในหน้าจอครับ ขอบด้านล่างสุดจึงมีเพียงแค่โลโก้ HUAWEI เท่านั้น อ้อ… และถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าขอบตัวเครื่องทั้งด้านบนและล่างจะมีลวดลาย Texture ในรูปแบบวงกลมซ้อน ๆ ทำให้ดูสวยงามลงตัวดีมาก ๆ เลยครับ

ดูกันต่อครับ ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และไมค์ตัดเสียงรบกวน รวมถึงเป็นไมค์ที่ใช้ในการบันทึกเสียงอีกด้วย

สำหรับด้านล่างจะประกอบไปด้วย ไมค์สนทนาและพอร์ต Micro USB ส่วนช่องลำโพงสองฟากซ้ายขวา จริง ๆ แล้วเป็นลำโพงโมโน ไม่ใช่ระบบเสียงสเตอริโอแต่อย่างใดนะครับ โดยทางฝั่งซ้ายจะเป็นไมค์สนทนา ส่วนลำโพงหลักของตัวเครื่องจะอยู่ทางฝังขวามือครับผม

ด้านขวามือของตัวเครื่อง เริ่มจากด้านบนจะเป็นที่อยู่ของปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง ถัดลงมาจะเป็นปุ่ม Power โดยวัสดุและสีสันจะเป็นเช่นเดียวกันกับตัวบอดี้ครับ

ด้านซ้ายมือของตัวเครื่อง ช่องถาดซิมการ์ดและ Micro SD Card จะอยู่ที่มุมด้านบนของตัวเครื่องครับ

รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด โดยรองรับซิมชนิด nano sim ทั้งซิม 1-2 สำหรับตัวถาดซิมจะเป็นแบบไฮบริดที่ให้เลือกใช้งานระหว่าง 2 ซิม หรือ 1 ซิม + Micro SD Card

ดูกันต่อที่ด้านหลังครับ ตามที่เกริ่นไว้ด้านหลังตัวบอดี้จะมีความโค้งมนเล็กน้อย ส่วนที่เป็นไฮไลท์จริง ๆ ก็คือ cutting edge ทั้งขอบด้านบน-ล่าง ที่ทำให้ตัวเครื่องดูสวยงามและมีความพรีเมี่ยมสมราคาค่าตัว และอีกส่วนหนึ่งที่ผมลืมบอกไปในตอนต้นก็คือ  ระบบระบายความร้อนของ Mate 8 ได้รับการออกแบบให้มีกลไกจัดการกับความร้อนถึง 6 ระดับ ทำให้สามารถกระจายความร้อนระหว่างการใช้งานได้ดีกว่าสมาร์ทโฟนทั่ว ๆ ไป

อีกหนึ่งจุดขายของ Mate 8 ก็คือ Camera ครับ

สำหรับ Mate 8 จะมาพร้อมกล้องหลักด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX298 มีค่ารูรับแสง f /2.0 และเซ็นเซอร์ขนาด 1/2.8 นิ้ว ใหญ่ขึ้นจาก Mate 7 จึงทำให้ได้ Dynamic Range ของภาพดีขึ้นไปอีกถึง 20% นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบกันสั่น OIS แบบ 3 แกน ในส่วนของระบบโฟกัสจะเป็นแบบไฮบริด (Hybrid Auto Focus) ที่ผสานระหว่าง Phase detection Auto Focus และ Contrast Auto Focus เข้าด้วยกัน ซึ่งจะส่งผลให้กล้องสามารถโฟกัสได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น

สำหรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่เปลี่ยนงานดีไซน์มาเป็นแบบวงกลม ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือรุ่นใหม่และระบบปกป้องข้อมูลสำคัญที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม โดยเซ็นเซอร์รุ่นใหม่เพิ่มประสิทธิภาพการระบุลักษณะบนพื้นที่สแกนมากกว่าเดิม 10% นอกจากนี้ การแมตช์แรงเสียดทานจากลายนิ้วมือยังทำงานบนระบบรักษาความปลอดภัยถึง 3 ชั้น ผู้ใช้จึงมั่นใจในการรักษาข้อมูลได้มากกว่า อีกทั้งเซ็นเซอร์ยังสามารถปลดล็อคสำหรับผู้ใช้งานได้เร็วขึ้นถึง 100%

ด้านล่างของส่วนหลัง รวมไปถึงขอบที่ด้านบนจะมีการตัดขอบด้วยสีแบบทูโทน ก็ดูสวยโดดเด่นสะดุดตาดีเช่นกัน ในส่วนของการแกะกล่องสำรวจตัวเครื่องและอุปกรณ์ภายในกล่องของ Huawei Mate 8 ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ครับ


สำหรับบทความนี้ขอเป็นพาชมการแกะกล่องเพียงอย่างเดียวก่อนนะครับ ยังไม่สรุปและลงรายละเอียดในส่วนอื่น ๆ ขอยกยอดไปต่อใน Full Review ที่กำลังจะติดตามมาในเร็ว ๆ นี้ครับ

สุดท้ายนี้ผิดพลาดประการใดต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

สามารถพูดคุยเกี่ยวกับบทความนี้ได้ที่หน้าเว็บบอร์ดเดิมครับ โดยคลิ๊กที่ลิงก์นี้ครับ >>> pdamobiz.com

 

ถูกใจบทความนี้  1