ไมโครซอฟท์ แนะนำ Office 365 Enterprise E5 ที่มาพร้อม Office 2016 สำหรับลูกค้าองค์กร เพื่อการปกป้องข้อมูลสำคัญจากการโจมตีทุกรูปแบบ

  กรุงเทพฯ  4 มีนาคม 2559 – สถานการณ์ภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยยังคงทวีความรุนแรงและก่อให้เกิดความเสียหายทั้งในแง่ทรัพย์สินและชื่อเสียงขององค์กรต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากรายงานล่าสุดของศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ต) ได้ระบุประเทศไทยติดอันดับ 3 ของโลก[1] ในแง่ภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยในฝั่งของ  Microsoft Digital Crimes Unit (DCU) หรือ หน่วยอาชญากรรมดิจิทัลของไมโครซอฟท์ DCU ได้ประกาศ Malware Infection Index ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2558 จาก Top 25 ประเทศ ประเทศไทยติดมัลแวร์ เป็นอันดับที่ 5 ของเอเชีย รองจาก อินเดีย อินโดนีเซีย จีน เวียดนาม ตามลำดับ โดยมัลแวร์ส่วนใหญ่ติดมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2557  

 


นายจอห์น เคส รองประธานฝ่ายแอพพลิเคชั่นและบริการของไมโครซอฟท์ สำนักงานใหญ่ เผยว่า “ไมโครซอฟท์ ในฐานะองค์กรด้านไอทีชั้นนำของโลก ได้มีการลงทุนมหาศาล มากกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐในทุกปี เพื่อการค้นคว้าและพัฒนาด้านความปลอดภัยในทุกๆ ผลิตภัณฑ์และบริการคลาวด์ของเรา เพื่อที่จะให้ลูกค้าของเรามั่นใจในการเข้าสู่ยุคโมบายและคลาวด์ ปัจจุบันไมโครซอฟท์ให้บริการเทคโนโลยีที่มีพื้นฐานการใช้งานบนคลาวด์กับลูกค้ามากกว่า 1 พันล้านราย (ทั้งลูกค้าองค์กรและลูกค้าทั่วไป) ใน 140 ประเทศ โดยกว่า 85% ของบริษัทในฟอร์จูน 500 ต่างไว้วางใจใช้คลาวด์ของไมโครซอฟท์”

 

“Office 365 Enterprise E5 ที่มาพร้อม Office 2016 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ได้รับการพัฒนาเพื่อมารองรับกับความท้าทายที่องค์กรต่างๆ ต้องเผชิญในยุคโมบายและคลาวด์  นับเป็นโปรแกรมออฟฟิศที่ปลอดภัยที่สุด และมีประสิทธิภาพเยี่ยมยอดที่สุดตั้งแต่เคยมีมา โดยมาพร้อมความปลอดภัยสูงสุด ทันสมัย และครอบคลุมการใช้งานในหลายรูปแบบ ตอบโจทย์การทำงานร่วมกัน เสริมด้วยการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มีความปลอดภัยและโปร่งใสมากที่สุดในการทำงานบนคลาวด์ จากทุกเวอร์ชั่นที่เคยมีมา นับเป็นครั้งแรกที่การเข้าสู่ข้อมูลกำหนดได้จากมือลูกค้าเท่านั้น ไม่มีใครสามารถเข้าถึงข้อมูลแม้แต่ผู้ดูแลระบบ หากไม่ได้รับอนุญาตจากลูกค้าก่อน จึงสามารถเพิ่มความมั่นใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าองค์กรในยุคโมบายและคลาวด์ได้อย่างปลอดภัย” มร. เคส กล่าวเสริม

 

Office 365 นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดในประวัติศาสตร์ของไมโครซอฟท์ ปัจจุบัน มีผู้ใช้งาน Office ถึง 1,200 ล้านคนทั่วโลก สำหรับภาคองค์กรธุรกิจ มีผู้ใช้งาน Office 365 ถึง 60 ล้านราย[2] และมีแนวโน้มที่จะเติบโตเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งเท่าตัวในแต่ละปี

 

สำหรับภาพรวมในระดับโลก ภาคธุรกิจที่หันมาใช้งานบริการคลาวด์เป็นอันดับแรกๆ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจบริการและที่ปรึกษา การท่องเที่ยว สายการบิน โรงแรม สื่อ ธุรกิจค้าปลีก และอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีลูกค้ารายใหญ่มากมาย รวมถึงองค์กรระดับโลกอย่างบริติช แอร์เวย์ส และแอคเซนเจอร์ ส่วนในประเทศไทย ภาคธุรกิจการเงินเป็นกลุ่มที่เลือกใช้งานบริการคลาวด์สูงสุด ตามมาด้วยกลุ่มสายการบิน ค้าปลีกและอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีทั้งธนาคารทหารไทย โนมูระ พัฒนสิน นกแอร์ ไทยสมายล์  ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล  เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป, ดีทแฮล์ม แทรเวิล, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. และองค์กรอื่น ๆ อีกมากมายที่ให้ความไว้วางใจใน Office 365

 

“เมื่อครั้งที่เราเปิดตัว Office 365 ในประเทศไทยราวสามปีก่อน ลูกค้าองค์กรส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจในการเปลี่ยนมาใช้ระบบคลาวด์ โดยเฉพาะในประเด็นด้านความปลอดภัย” นางสาวปัญจพร วิทยเลิศพันธุ์ ผู้จัดการอาวุโสผลิตภัณฑ์ออฟฟิศ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “แต่ทุกวันนี้ คำถามที่เราได้รับจากลูกค้าคือจะทำอย่างไรที่องค์กรจะเปลี่ยนมาใช้ระบบคลาวด์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มความต้องการการใช้คลาวด์ที่เพิ่มสูงขึ้นในภาคธุรกิจได้เป็นอย่างดี โดยข้อมูลของเราระบุว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่มีการเติบโตในกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการ Office 365 สูงสุดเป็นอันดับสองในแถบเอเชียแปซิฟิก”

 

ด้วย Office 365 Enterprise E5 ไมโครซอฟท์จะจัดการดูแลความปลอดภัยให้องค์กร  พร้อมมอบการควบคุมความเป็นส่วนตัวโดยลูกค้าเอง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของการให้บริการ ถือเป็น Office ที่มีความปลอดภัยมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น

·      Customer Lockbox ให้ความชัดเจนและโปร่งใสแก่ลูกค้าว่าไม่มีใครสามารถเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลก่อน ไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลระบบก็ตาม

·      ป้องกันการคุกคามจากมัลแวร์ ไวรัส และ URLs ที่มุ่งร้ายแบบเรียลไทม์ด้วย Advanced Threat Protection

·      การรั่วไหลของข้อมูลในองค์กรจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดด้วย Data Loss Prevention ที่ใช้งานได้ทั้งบน Word, PowerPoint, Excel และ Outlook

·      สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างปลอดภัยทุกที่ด้วย Multi-factor Authentication เมื่อคุณไม่ได้ทำงานผ่านเน็ตเวิร์คขององค์กร

·      เพิ่มประสิทธิภาพฝ่ายตรวจสอบในการคาดการณ์และค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย สำหรับการตรวจสอบข้อมูลที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบขององค์กร ด้วย Advanced eDiscovery

โดยลูกค้าองค์กรสามารถสมัครใช้งาน Office 365 Enterprise E5 ได้ในราคาเริ่มต้น 33 เหรียญสหรัฐฯ ต่อผู้ใช้ต่อเดือน ซึ่งเป็นบริการคลาวด์ระดับองค์กรในรูปแบบใหม่ที่ให้ความปลอดภัยในระดับสูงที่มาพร้อมแอปพลิเคชัน Office 2016 นอกจากนั้นไมโครซอฟท์ยังมี Office 365 สำหรับองค์กรให้เลือกใช้ได้อีกหลายแผน โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่https://products.office.com/th-th/business/compare-more-office-365-for-business-plans หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-263-6888

###

 

ข้อมูลเกี่ยวกับไมโครซอฟท์                                                                                                       

บริษัท ไมโครซอฟท์ (NASDAQ “MSFT”) ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2518 เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการ ซอฟต์แวร์ ดีไวซ์ และโซลูชั่นที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของผู้ใช้และองค์กรธุรกิจ

 

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2536  มีความมุ่งมั่นในการช่วยให้คุณภาพชีวิตคนไทย 70 ล้านคน ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์   ไมโครซอฟท์ ส่งเสริมให้คนไทยและภาคธุรกิจได้ตระหนักถึงศักยภาพที่มีอย่างเต็มเปี่ยมผ่านการใช้เทคโนยี  เทคโนโลยีที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง ในการทำงาน การใช้ชีวิต และการสื่อสาร  ไมโครซอฟท์ให้บริการซอฟต์แวร์ บริการ และดีไวซ์ ที่สามารถก่อให้เกิดโอกาสใหม่ๆ มีความสะดวกทันสมัย  และช่วยให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  ไมโครซอฟท์ ไม่หยุดนิ่งในการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตร อย่างต่อเนื่องในการนำพลังของเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย



ถูกใจบทความนี้  0