เวที ETDA ชูประเด็น ความคิดสร้างสรรค์สำคัญ ต้องร่วมมือกันคุ้มครอง

IMG_6293

  สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงไอซีที ร่วมกับ สมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา (MPA) เปิดเวที Open Forum ในหัวข้อ “Creative Operation for Thailand ร่วมด้วยช่วยกัน…เว็บไซต์ปลอดภัย” โดยได้รับเกียรติจาก Dr. Michael Kwan อดีตผู้บัญชาการ Digital Forensics Lab ของศุลกากรฮ่องกง และอดีตผู้บัญชาการการสอบสวนด้านทรัพย์สินทางปัญญาของกรมศุลกากรฮ่องกง   

IMG_6204

IMG_6214   

เครือข่ายรัฐ-เอกชน ร่วมเปิดใจ หาทางแก้ไขปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ พร้อมแชร์แนวคิด Operation Creative เพื่อรัฐ-เอกชนร่วมมือกันคุ้มครองอุตสาหกรรมกลุ่มที่เป็นเจ้าของความคิดสร้างสรรค์อย่างดิจิทัลคอนเทนต์
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงไอซีที ร่วมกับ สมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา (MPA) เปิดเวที Open Forum ในหัวข้อ “Creative Operation for Thailand ร่วมด้วยช่วยกัน…เว็บไซต์ปลอดภัย” โดยได้รับเกียรติจาก Dr. Michael Kwan อดีตผู้บัญชาการ Digital Forensics Lab ของศุลกากรฮ่องกง และอดีตผู้บัญชาการการสอบสวนด้านทรัพย์สินทางปัญญาของกรมศุลกากรฮ่องกง

บรรยายสรุปเรื่อง ผลกระทบของการโฆษณาความเสี่ยงสูงที่มีผลต่อสังคมไทย สถานการณ์ปัจจุบันเกี่ยวกับเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ และตัวอย่างแนวทาง Operation Creative ในต่างประเทศ และช่วงสนทนา ได้รับเกียรติจาก วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พ.ต.อ.เถลิง พิษณุวงษ์ ผู้กำกับการสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ดร.ขจิต สุขุม ผู้อำนวยการสำนักลิขสิทธิ์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา และ พิเศษ จียาศักดิ์ ผู้ชำนาญการ สำนักกฎหมาย ETDA โดยมี อุมาศิริ ทาร่อน รองผู้อำนวยการ MPA ดำเนินรายการ

IMG_6275
Dr. Michael กล่าวว่า ทุกวันนี้ โฆษณาออนไลน์ปรากฏหลายรูปแบบและซับซ้อนขึ้น โดยแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ โฆษณาสินค้าถูกกฎหมาย (Mainstream ads) และโฆษณาสิ่งที่ผิดกฎหมาย (High-risk ads) เช่น สิ่งลามกอนาจร การพนันออนไลน์ แอนติไวรัสปลอม ฯลฯ ซึ่ง High-risk ads มักแฝงมากับเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมาย เช่น เว็บไซต์ดูหนังออนไลน์ (Movie Streaming) หรือเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งหากเด็กและเยาวชนไปคลิกดูโฆษณาที่แฝงมาก็อาจส่งผลกระทบร้ายแรงได้ โดยจากการสังเกตโฆษณาบนเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย  พบว่ามีโฆษณาแบบ Mainstream เพียง 6% ที่เหลือเป็นพวก High-risk โดยกว่า 60% มีเนื้อหาลามก และกว่า 10% เป็นการพนันออนไลน์ ในต่างประเทศ แนวทางหนึ่งในการแก้ไขคือ ใช้ความร่วมมือ อย่างในสหรัฐอเมริกา เรียกว่า ‘TAG’ เป็นความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนด้วยกันเอง มีการรวมเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ประกอบการสามารถเข้าไปดูรายชื่อได้ ส่วนในสหราชอาณาจักร เรียกว่า ‘Operation Creative’ และ ‘IWL’ (Infringing Website List) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ได้แก่ ผู้บังคับใช้กฎหมาย กับผู้ประกอบการ โดยใช้การตัดรายได้ของเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมาย

IMG_6234
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย การทำงานของ ปอท. จะเน้นไปตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ฯ เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เรื่องลามกอนาจารต่าง ๆ ทาง ปอท. จะถือปฏิบัติตามหลักกฎหมาย มาตรา 20 เป็นผู้แจ้งให้กับกระทรวงไอซีที ปิดเว็บไซต์นั้น ๆ ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์เป็น พ.ร.บ.อีกฉบับ ซึ่งอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของ ปอศ. ซึ่งมีอยู่หลายเคสที่ทาง ปอท. เป็นผู้สนับสนุนข้อมูลเพื่อการเข้าจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด

IMG_6285
พ.ต.อ.เถลิง จาก ปอศ. เสริมว่า การจับกุมผู้กระทำผิดการละเมิดลิขสิทธิ์ทางเว็บไซต์ มีปัญหาตั้งแต่เริ่มแรกคือ แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความรู้ด้านกฎหมาย แต่ก็ขาดความชำนาญด้านเทคโนโลยีที่จะใช้ในการแกะร่องรอยผู้กระทำผิด จึงทำให้ไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้กระทำผิดอยู่ที่ใด หรือบางครั้งพบแล้วว่าผู้กระทำผิดมีเซิร์ฟเวอร์ติดตั้งอยู่ต่างประเทศ กรณีเช่นนี้ถือว่าเป็นการกระทำผิดนอกราชอาณาจักรหรือไม่ และต้องมีพนักงานอัยการเข้ามามีส่วนร่วมในการสอบสวนหรือไม่ ต่อมาคือ ปัญหาของการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นต่อศาล เดิมเป็นการสรุปสำนวนและส่งต่อศาลในรูปแบบกระดาษ แต่ปัจจุบันการสรุปสำนวนในรูปแบบกระดาษถือว่ายังไม่เพียงพอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือปัญหาที่ทาง ปอศ. ยังต้องพบอยู่เสมอ
ดร.ขจิต กล่าวในมุมของผู้ถือกฎหมายแต่ไม่ใช่ผู้บังคับใช้ ว่าล่าสุดในปี 2558 กฎหมายเพิ่มเติมในส่วนของ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ ก็ดูแลในเรื่องการคุ้มครองผลงานลิขสิทธิ์ที่อยู่บนสื่อออนไลน์ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ผลงานลิขสิทธิ์ไม่ว่าจะอยู่บนสื่อไหนก็ได้รับความคุ้มครองจากฎหมายนี้อยู่แล้ว เพราะได้มีการระบุไว้ว่า ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ ต่อสาธารณชน ไม่ว่าจะเป็นช่องทางใดก็ตาม แต่ปัญหาคือ การเผยแพร่ทางสื่อนี้ยากต่อการแกะรอยไปยังต้นตอของผู้กระทำผิด ไม่รู้ว่าเป็นคนใดและอยู่ในประเทศใด โดยเฉพาะในเรื่องของการตามจับข้ามเขตราชอาณาจักร เช่น การนำภาพยนต์ต่างประเทศมาฉายหรือใช้โดยละเมิดลิขสิทธิ์ในไทย ซึ่งหากจะมีการจับกุมไปดำเนินคดีในต่างประเทศต้องมีการประสานงานหลายขั้นตอนและกระบวนการ เจ้าหน้าที่ของกรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงต้องไล่ตามเทคโนโลยีให้ทัน และเข้าไปประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในเรื่องของการตรวจจับและรับฟังความเห็นว่าต้องมีการไปตามจับตรงไหน หากเกิดกรณีการละเมิดลิขสิทธิ์ในบางครั้ง ทางกรมฯ ก็ยังมีช่องทางกฎหมายให้ดำเนินการกับผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ได้โดยเร่งด่วนเป็นการชั่วคราว เช่น ใครพบเว็บไซต์ที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ของตนเอง ก็สามารถส่งข้อมูลกับทางศาลเพื่อขอให้ศาลสั่งระงับการเผยแพร่เว็บไซต์นั้น ๆ เป็นระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะดำเนินการฟ้องดำเนินคดีตามกระบวนการกฎหมายต่อไป
พิเศษ กล่าวถึงบทบาทของ ETDA ในการส่งเสริมสภาพตลาดที่เอื้ออำนวยต่อการทำธุรกรรมออนไลน์ รวมถึง การทำอีคอมเมิร์ซ ซึ่งไม่ใช่แค่การซื้อของที่จับต้องได้ หมายรวมถึงดิจิทัลคอนเทนต์ด้วย โดย ETDA ยังต้องการให้การแข่งขันเป็นไปอย่างเสมอภาค จึงต้องมีกรอบในการปกป้องคุ้มครอง ซึ่งยังมีบางเรื่องที่กฎหมายยังตามไม่ทัน  ETDA จึงได้เข้ามามีบทบาทเป็นคนกลางในการระดมผู้เกี่ยวข้องจากภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมกันหาแนวทางที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย อย่างเวทีพูดคุยวันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในการหาทางออกร่วมกัน เพื่อคุ้มครองผลงานที่เป็นความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย และสามารถเสริมสร้างให้สินค้าในกลุ่มที่เป็นดิจิทัลคอนเทนต์เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 
ด้าน วีระศักดิ์ ได้แชร์ประสบการณ์ว่า สมาพันธ์ฯ ได้ระดมทุนจัดตั้งกองทุนปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ภาคเอกชนดูแลกันเอง โดยหาทีมที่มีประสบการณ์แกะรอยผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนต์ต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ แต่สุดท้ายกฎหมายไทยก็ไม่สามารถเอื้อมออกไปนอกราชอาณาจักรไทยได้โดยตรง ซึ่งจะทำได้เพียงแค่ส่งจดหมายเตือนไปยังผู้ปล่อยที่อยู่ในต่างประเทศ ซึ่งได้รับการตอบสนองยินยอมนำภาพยนต์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์นั้น ๆ ลงจากเว็บไซต์ในระดับหนึ่ง แต่หากมีจดหมายตักเตือนแล้วยังไม่ยอมหยุดการเผยแพร่ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะมีผลประโยชน์เรื่องรายได้จากการเก็บค่าโฆษณา ทางสมาพันธ์ฯ จะเป็นผู้ไปดำเนินการแจ้งความพร้อมหารือแนวทางการจัดการกับตัวผู้ละเมิดลิขสิทธิ์นั้น ๆ กับทาง ปอศ. อีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งพอมาศึกษาในทางคดีจะพบว่ายังไม่เคยมีการพิจารณาในชั้นศาลในคดีละเมิดลิขสิทธิ์ทางออนไลน์ว่าควรจะมีขั้นตอนและรูปแบบเป็นอย่างไร ดังนั้นเพื่อให้คดีไปต่อได้ ทางสมาพันธ์ฯ จะมีการตกลงกับผู้ประกอบการในสมาพันธ์ว่าจะไม่มีการยอมความ ต้องเดินหน้าให้เกิดคดีตัวอย่างของการละเมิดลิขสิทธิ์ทางออนไลน์ให้ได้


ข้อเสนอแนะในการป้องกันการถูกล่วงละเมิดทางลิขสิทธิ์ ที่ วีระศักดิ์ ได้สรุปทิ้งท้ายไว้มีอยู่ 5 ข้อ คือ (1) ระดมทุนจ้างกลุ่มผู้เชี่ยวชาญมาแกะรอยผู้ละเมิดลิขสิทธ์จากทางสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ที่มีการเผยแพร่แบบผิดกฎหมาย (2) หน่วยงานของรัฐ ควรมีการสร้างเครื่องมือหรือเว็บไซต์กลางในการแชร์ข้อมูลของการละเมิดลิขสิทธิ์ทางออนไลน์เพื่อเผยแพร่ให้กับประชาชนได้รับทราบว่าเว็บไซต์หรือแหล่งข้อมูลใดกำลังมีการทำผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์ (3) ควรมีการพัฒนาร่างกฎหมายให้รองรับกับการละเมิดลิขสิทธิ์ทางออนไลน์ (4) มีการจัดการ Site Blocking หรือการปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ (5) การสร้างและรักษาชุมชนให้เกิดการตื่นรู้ในเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์ทางออนไลน์ โดยมีคนกลางในการระดมผู้เกี่ยวข้องมาหาแนวทางร่วมกันและสร้างความเข้าใจต่อข้อจำกัดของการดำเนินงานในแต่ละหน่วยงาน เพื่อให้การทำงานระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนให้เป็นไปทิศทางเดียวกันบนข้อตกลงร่วมกัน



ถูกใจบทความนี้  0