Mini Review : Xiaomi Note 3 Pro แรงได้ราคาเบาๆ
บทความนี้เป็นบทความรีวิวแรกของผมที่ลองทำลงให้กับ PDAMobiz นะครับ ถ้าขาดเกินอะไรก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
เนื่องด้วยว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนมือถือคู่กายของผมเสียชีวิตในหน้าที่ไปแล้ว เลยต้องหามือถือใหม่มาใช้แทน จะหารุ่นเรือธงก็ยังไม่มีรุ่นไหน โดนใจจริงๆ
เลยกะว่าจะหามือถือมาใช้ก่อน คุ้ยๆไป เจอรุ่นนี้ครับ มือถือที่น่าจะโอเคกับ Spec และราคา “Xiaomi Note 3 Pro” ครับ
จริงๆแล้วรุ่นนี้ที่ออกมา มี 2 ตัว 2ความจุนะครับ
โดยแบ่งเป็นรุ่นที่ใช้ CPU Mediatek MT6795 Helio X10 และ รุ่นที่ใช้ CPU Qualcomm Snapdragon 650 ครับ
โดยรุ่นที่ใช้ CPU Mediatek MT6795 Helio X10 จะเรียกว่ารุ่น Note 3 มีวางจำหน่ายดังนี้
- Xiaomi Note 3 , Mediatek MT6795 Helio X10 , RAM 2G , ROM 16G ราคาเปิดตัวที่จีน 899 หยวน
- Xiaomi Note 3 , Mediatek MT6795 Helio X10 , RAM 3G , ROM 32G ราคาเปิดตัวที่จีน 1,099 หยวน
รุ่นที่ใช้ CPU Qualcomm Snapdragon 650 จะเรียกว่ารุ่น Note 3 Pro มีวางจำหน่ายดังนี้
- Xiaomi Note 3 , Qualcomm Snapdragon 650 , RAM 2G , ROM 16G ราคาเปิดตัวที่จีน 999 หยวน
- Xiaomi Note 3 , Qualcomm Snapdragon 650 , RAM 3G , ROM 32G ราคาเปิดตัวที่จีน 1,199 หยวน
ราคาดังกล่าวเป็นราคาเปิดตัวที่จีน ถ้าไม่ได้บินไปหิ้วเองราคาคงไม่ใช่ราคานี้นะครับ
แต่สามารถหาได้จากร้านดังๆทั่วๆไป ซึ่งคงมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมามากพอควรนะครับ
เป็นยังไงไปดูกันดีกว่า Spec เครื่องที่นำมารีวิวคร่าวๆนะครับ
CPU : Qualcomm Snapdragon 650
RAM : 3 G
ROM : 32 G
Display : 5.5″ Full HD IPS LCD capacitive touchscreen, 16M colors
Main Camera : 13 MP, f/2.2, phase detection autofocus, dual-LED (dual tone) flash
Secondary Camera : 5 MP, f/2.0
Battery : 4,000 mAh
Charging : Quickcharge *
*ส่วนนี้ผมลองเทสแล้วมันมีปัญหาหน่อย มีลองเทสให้ดูท้ายๆครับ*
ตัวบอดี้นะครับ หน้าหลังสวยงามดี โดยที่ ตรงกลางที่เห็นจะเป็นโลหะครับ ส่วนขอบบนล่าง จะเป็นพลาสติกครับ
ดีไซน์์ปุ่มกดจะเป็นแบบสัมผัสอยู่ใต้เครื่องครับ ปุ่มกดมีไฟส่องสว่างครับ
ด้านบนมีกล้องหลัก 13 ล้าน F2.2 พร้อมไฟแฟลช 2 สี และ Sensor อ่านลายนิ้วมือครับ
ด้านล่างมีลำโพงที่เสียงดังพอควร ดูหนังได้สบายๆ เลย
ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่มลดเสียง กับ Power ครับ
ส่วนด้านซ้าย มีถาดซิม แบบ Hybrid (พอดีตอนที่ผมทำรีวิวอยู่ที่ออฟฟิศไม่มีเข็มจิ้มซิมครับ)
สามารถใส่ซิมได้ โดย ช่่องที่ 1 จะเป็น Micro SIM
ส่วนช่องที่ 2 จะต้องเลือกใส่ระหว่าง Nano Sim หรือ Micro SD ครับ
ด้านล่างไม่มีอะไรนอกจากช่องเสียบ Micro USB กับไมค์ตัวที่ 1 ครับ
ด้านบนมีช่องไมค์ตัวที่สองตัดเสียง ช่องเสียบหูฟัง และช่องที่หาไม่ค่อยมีในมือถือสมัยนี้ ช่อง อินฟราเรดครับ
ส่วนตัวที่ชอบมากๆคือในมือถือระดับนี้ ได้ Fingerprint ที่ค่อนข้างแม่นยำเลย
โดยถ้าเราบันทึกลายนิ้วมือไว้แค่เอานิ้วแตะหลังเครื่องปุ้บ มันเปิดเลยครับ
การปลดล็อคอีกแบบที่ทำได้คือ พอดีผมใส่ Mi Band อยู่ ถ้ามันอยู่ในระยะเครื่อง
กดเปิดเครื่องมันจะ ปลดล็อคให้เลยครับ
ลองเข้ามาดูหน้าเมนูกันบ้าง โดย Xiaomi จะใช้ MIUI ครอบทับอยู่ โดยเมนูจะเป็นแบบคล้ายๆ iPhone คือมีเมนูชั้นเดียวครับ
เริมต้นก่อนเลยถึงดึงหน้าจอจากด้านบนลงมา จะพบกับ ปุ่มเปิดปิดต่างๆ ของเครื่อง
และถ้าปัดไปทางขวาจะเจอหน้า Notification ครับ หน้าตาสวยแบบเรียบๆครับ
โดยหน้าเมนูหลัก เราสามารถเอาไอคอนมาจัด Folder ได้เหมือนเครื่องทั่วๆไปครับ ตรงนี้ไม่มีอะไรเท่าไหร่
ส่วนที่ผมชอบคือส่วนนี้ครับ การเปลี่ยน Theme ของ MIUI มันเปลี่ยนแบบหมดจดคือ เปลี่ยนไอคอน พิ้นหลัง หน้าจอพวกตั้งค่าต่างๆ
จะคล้ายๆกับ Nokia Symbian เมื่อก่อนครับ คือกดเปลี่ยน เปลี่ยนยกแผง ไม่ใช่แค่เปลี่ยน Wallpaper กับ Lock Screen แล้วก็สี
โดยส่วนนี้มีให้ Download อยู่ครับ
ส่วนเมนูทั่วไปก็จะดูแบบ Flat เรียบง่าย สบายตาดีครับ สะอาดๆ
ลองมาดูเมนูการตั้งค่าต่างๆของตัวเครื่องนะครับ
รองรับ 2 SIM และ VoLTE ด้วยครับ
ส่วนนี้ก็เป็นอีกอันที่ชอบคือการบันทึกการสนสนา มันติดมากับเครื่องเลย
เหมาะกับคนที่ทำงานมากๆ คุยไปคุยมาลืม กลับมาฟังที่คุยไปได้สบายๆครับ
สามารถตั้งการบล็อคสายที่ไม่ต้องการได้ เช่น ขายตรง ประกัน
ถ้าขี้เกียจรับแล้วปฎิเสธจับโยนลงไปเลย 555
รองรับ WiFi แบบ Dual Band ครับ
ตอนนี้ ROM ของรุ่นนี้ จะมี Global Stable Edition ออกมาแล้วคือไม่มีโปรแกรมจีน
มี Google Play แต่กำเนิด นะครับ จะลงยังไง ลองหาตาม Internet หรือ ร้านที่ซื้อเลยครับ
การตั้งคาความปลอดภัยต่างๆในเครื่องทำได้ดีมากครับ
เช่นล้างขยะ Cache ต่างๆ ในเครื่อง
การจำกัดการใช้งาน Internet
การให้อนุญาตโปรแกรมต่างๆในเครื่อง โดยถ้าไม่อนุญาต โปรแกรมต่างๆจะไม่เปิด Auto เองตอนเปิดเครื่องครับ (เหมือนกับ Startup เครื่องคอม)
อีกอันที่เด็ดคือ โปรแกรมบางโปรแกรมชอบเน็ตรั่วนักใช่ไหม เราสามารถตั้งบังคับเลยว่า
โปรแกรมไหนออกเน็ตทางไหนได้มั่ง
ส่วนนี้น่าจะเป็นปัญหาที่ผมบอก ตอนแรกผมนึกว่าผมได้เครื่องพัง 555
แต่ไปคนในเว็บนอก เหมือนเจอกันหมดคือลองดูนะครับ
ผมเริ่ม Charge ตอน 22:00 มี แบต 42% ลองทิ้งไว้ 40 นาที ขึ้นมา 18% เป็น 60%
ผมลองจาก Aukey Quickcharge 2.0 นะครับ แต่เท่าที่ลองๆ ไม่ว่าจะใช้อะไรมันก็ไม่เห็นจะ Quick ครับ
ทางเมืองนอกก็เจอกันหมดสรุปคือตอนนี้ ไม่ว่าจะเอาไรมาชาร์จมันก็ไม่รองรับ Quick แบบ Quick จริงๆ ครับ
เท่าที่อ่านดูเมืองเหมือนทาง Official จะบอกว่ามันรองรับ Quickcharge แบบใช้ไฟ 2.1A
สามารถชาร์จจาก 0% ถึง 50% ภายใน 1 ชั่วโมง ซึ่งถ้าเป็น Quickcharge ของ Qualcomm ที่เคยใช้จริงๆแล้ว
มันเร็วกว่านี้มากครับ ทั้งๆที่หน้าเว็บ Qualcomm เองบอกว่า ชิพรุ่นนี้รองรับ Quickcharge 3.0 ด้วยซ้ำำไป
และรายชื่อรุ่นนี้ก็มีอยู่ใน List รองรับด้วย ส่วนนี้คนเขียนเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ (และอีกหลายๆคนทั่วโลก 555)
อันนี้ธรรมเนีบมทั่วไปต้องเอามาลง คะแนนเทส Antutu
ผมได้ที่ 74,368 นะครับ
ต่อมาก็ CPU-Z นะครับ
Android Sensor Box มีขาด Temp Sensor ไปตัวนึง
รองรับ Multi Touch 10 จุดครับ
สรุปในมุมมองผมนะครับ
ข้อดี
- เครื่องมีความคุ้มค่าสมกับราคาดีครับ (ยิ่งถ้าได้ราคาไม่โดน+นะ 555)
- ตัวเครื่องมีความเร็วในการทำงาน
- โปรแกรมต่างๆที่ให้มาพื้นฐานถือว่ามีประโยชน์มา
ข้อสังเกตุ
- เครื่องไม่มีศูนย์นำเข้าในไทย
- งานประกอบเครื่องผมว่ายังดูไม่ดีมากนัก คือดีแล้ว แต่ยังดูด้อยกว่าเมื่อเทียบกับหลายๆ แบรนด์ดัง
- กล้องหลังไม่ดีเหมือนตัวแพงๆ แค่ใช้งานได้ทั่วไป คุณภาพๆอาจไม่ดีนัก
You must be logged in to post a comment.