ปัจจุบันตลาดสมาร์ทโฟนนั้นมีการแข่งขันกันดุเดือดเหลือเกิน และด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็วทำให้ในทุกวันนี้เราอาจไม่จำเป็นต้องมาซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องราคาหลายหมื่นเพื่อใช้งานอีกต่อไปแล้วก็เป็นได้ เพราะเครื่องระดับราคาหลักพันก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ครบถ้วนเช่นกัน วันนี้จะมารีวิวสมาร์ทโฟนพร้อมกันทีเดียว 2 รุ่นจากค่าย Acer ได้แก่ Acer Liquid Z630S และ Z530S ซึ่งจุดเด่นหลักคือ CPU 8 แกน, Ram 3GB, Storage 32GB และกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แต่ระดับราคาหลักพันเนี่ย จะได้อะไรบ้าง และน่าใช้แค่ไหนมาดูกัน
Acer Liquid Z630S Specifications:
– หน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD (1,280x720p)
– CPU Mediatek MT6753 Octa-core 1.3 GHz Cortex-A53
– GPU Mali-T720MP3
– Ram 3GB
– หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 32GB
– รองรับ Micro SD Card
– กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED
– กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
– รองรับการใช้งาน 2 ซิม (Micro Sim)
– รองรับ 4G LTE
– ขนาดตัวเครื่อง 156.3 x 77.5 x 8.9มม.
– น้ำหนัก 165 กรัม
– แบตเตอรี่ขนาด 4,000mAh
– Android 5.1 Lollipop
– ราคา 8,990 บาท (ปัจจุบันเหลือ 6,990 บาท)
Acer Liquid Z530S Specifications:
– หน้าจอ IPS ขนาด 5.0 นิ้ว ความละเอียด HD (1,280x720p)
– CPU Mediatek MT6753 Octa-core 1.3 GHz Cortex-A53
– GPU Mali-T720MP3
– Ram 3GB
– หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 32GB
– รองรับ Micro SD Card
– กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED
– กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
– รองรับการใช้งาน 2 ซิม (Micro Sim)
– รองรับ 4G LTE
– ขนาดตัวเครื่อง 144 x 70.3 x 8.9มม.
– น้ำหนัก 145 กรัม
– แบตเตอรี่ขนาด 2,420mAh
– Android 5.1 Lollipop
– ราคา 7,990 บาท (ปัจจุบันเหลือ 5,990 บาท)
1.แกะกล่อง
เริ่มต้นที่การแกะกล่องเช่นเคย ด้านหน้ากล่องของ Liquid Z630S และ Z530S จะเผยให้เห็นหน้าตาตัวเครื่องพร้อมบอกรหัสรุ่นเลย แต่กล่องของ Z630S เป็นสีฟ้าๆน้ำเงินๆ ส่วน Z530S นั้นม่วงเลย
ด้านหลังกล่องมีบอกสเปคคร่าวๆ ว่ามาพร้อม Android เวอร์ชั่นอะไร CPU กี่แกน หน้าจอขนาดเท่าไหร่ ความละเอียดเท่าไหร่ แบตเตอรี่กี่มิลลิแอมป์
แต่สำหรับรุ่น Z530S จะได้สิ่งหนึ่งเพิ่มทันทีที่แกะกล่องคือซิม Truemove H แต่เจ้า Z630S ไม่ได้นะอันนี้
ในส่วนของการปกป้องหน้าจอก็ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด เพราะทาง Acer แถมฟิล์มใสกันรอยหน้าจอสำหรับรุ่น Z630S และกระจกของ Acer เองเลยสำหรับรุ่น Z530S ทันทีที่ซื้อเครื่อง
มาดูสิ่งที่จะได้ทั้งหมดของแต่ละรุ่นกัน เริ่มจาก Acer Liquid Z630S จะได้อุปกรณ์ทั้งหมดดังนี้
1.กล่อง :P
2.ตัวเครื่อง Z630S
3.Cover Case
4.แบตเตอรี่ขนาด 4,000mAh
5.Adapter
6.สาย Micro USB
7.Small Talk
8.คู่มือ
9.ใบรับประกัน
10.ฟิล์มกันรอยหน้าจอ Focus แบบใส
แบตเตอรี่ก้อนบางกว่าที่คิดไว้มาก แต่กลับมีความจุถึง 4,000mAh ทีเดียว ซึ่งความจุเยอะขนาดนี้ใช้งานวันนึงคงไม่ต้องกังวลแน่นอน
Adapter ของ Z630S จ่ายไฟแรง 1.35A
ส่วน Small Talk เป็นแบบ in ear ซึ่งส่วนตัวผมชอบแบบนี้มากกว่า ได้ยินเสียงฟินกว่าใครแถมไม่มีเสียงออกมารบกวนคนอื่นด้วย
ส่วน Acer Liquid Z530S จะมีสิ่งที่ได้ดังนี้
1.กล่อง :P (ยังเล่นไม่เลิก)
2.ตัวเครื่อง Z530S
3.Cover Case
4.แบตเตอรี่ขนาด 2,420mAh
5.Adapter
6.สาย Micro USB
7.Small Talk
8.คู่มือ
9.ใบรับประกัน
10.กระจกกันรอยหน้าจอของ Acer เองเลย
11.ซิม Truemove H
แบตเตอรี่รุ่นนี้เล็กลงเยอะเหมือนกันหากเทียบกับอีกหนึ่งรุ่น คือมีความจุ 2,420mAh
Small Talk ก็ไม่เหมือนกันรุ่นนี้เป็นแบบหูฟังธรรมดา
Adapter ของรุ่น Z530S จ่ายไฟแรง 1A
ต่อไปเรามาดูหน้าตาตัวเครื่องของ Liquid Z630S และ Z530S กัน ด้วยสเปคที่ขี่กันมาเสมือนพี่น้องฝาแฝดคลอดตามกันมาแต่ต่างกันที่ขนาดร่างกายคือ Z630S มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว และ Z530S มาพร้อมขนาดหน้าจอ 5.0 นิ้ว
ด้านหน้าตัวเครื่องดูโล่งตา ไม่มีปุ่มใดๆ อยู่เลยแม้กระทั่งปุ่ม Home
ด้านหลังตัวเครื่องจริงๆ ฝาหลังเป็นพลาสติกแต่ใช้การผลิตให้ลายออกมาดูเหมือนอลูมิเนียม เงาพอประมาณซึ่งดูแล้วสวยดี ที่สำคัญคือมันไม่เป็นรอยนิ้วมือเท่าไหร่ด้วย
มาดูตัวเครื่องใกล้ๆ กันบ้าง ด้านบนของหน้าจอทั้งสองรุ่นเนี่ย แน่นอนว่าต้องมีลำโพงสำหรับสนทนา แต่หลายๆ แบรนด์จะทำเป็นขีด มารุ่นนี้ไม่ใข่ กลับเป็นกลมๆ อย่างที่เห็นและมีกล้องหน้าความละเอียดแปดล้านพิกเซลอยู่ทางขวาของลำโพงสนทนา และทางซ้ายมีไฟแจ้งเตือน LED
สาเหตุที่ด้านล่างหน้าจอไม่มีปุ่มใดๆ เลย ก็เพราะปุ่มต่างๆ ได้ย้ายเข้าไปอยู่บนหน้าจอเรียบร้อยแล้ว ตามแบบมาตรฐาน Google Nexus
ส่วนบนของด้านหลังตัวเครื่องทั้งสองรุ่นจะมีกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED และจะมีไมโครโฟนตัวที่สองไว้สำหรับตัดเสียงรบกวน
ด้านล่างฝาหลังจะมีลำโพงอยู่โดยรุ่น Z630S จะเป็นแนวยาว และ Z530S จะเป็นวงกลม ซึ่งเสียงของตัวเครื่องเนี่ยมาพร้อมกับระบบ dts ที่จะช่วยให้คุณฟินกับเสียงดนตรีมากยิ่งขึ้นด้วย
ด้านบนของตัวเครื่องของทั้งสองรุ่นจะมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5มม. แต่สำหรับรุ่น Z530S จะมีปุ่ม Power อยู่ด้านบนนี้ด้วย
ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มใดๆ อยู่ สาเหตุคงเพราะถ้าใส่ cover case ไปมันก็กดไม่ได้อยู่ดี เลยใส่ปุ่มไว้ด้านขวาแทน
ด้านขวาของตัวเครื่อง Z630S จะมีปุ่มเพิ่มลดเสียงและปุ่ม Power ส่วนรุ่น Z530S จะมีเฉพาะปุ่มเพิ่มลดเสียงเท่านั้น
ด้านล่างตัวเครื่องมีช่องเสียบสายชาร์จ/ซิงค์ แบบ Micro USB อยู่ทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง และมีไมโครโฟนสำหรับสนทนา
Case Cover
ทั้ง Liquid Z630S และ Z530S จะมี Case Cover แถมมาให้ในกล่องเลยทันที ซึ่งเจ้าเคสนี่ถือว่าน่าใช้ดีเลยล่ะครับ เพราะมันไม่ได้ทำให้เครื่องหนาขึ้นเท่าไหร่นัก เพราะมันจะเข้าไปทำหน้าที่แทนฝาหลังเลย และยังได้ตัวปิดหน้าจอมากันไม่ให้หน้าจอเราเป็นรอยได้อีกด้วย
โดยเจ้า Case Cover ที่แถมมาในกล่องเนี่ยจะเป็นลายเดียวกันกับฝาหลังแบบปกติเป๊ะๆ ลายเหล็กเงาๆ นี่ล่ะ สวยดีจริงๆ
ฉะนั้นเวลาจะใส่ Case Cover เราก็ต้องเอาฝาหลังออกแบบนี้ล่ะ ซึ่งอันนี้แนะนำให้ใส่นะครับ ข้อดีของมันก็คือกันรอยหน้าจอได้ และเมื่อเปิดฝาเคสขึ้นมาหน้าจอก็ติดทันทีอีกด้วย ไม่ต้องมานั่งกดปุ่ม Power อีก
พอใส่ Case Cover แล้วก็หนาขึ้นแค่นี้ล่ะ นิดเดียวคือมาจากส่วนที่เป็นตัวปิดหน้าจอ
ดูกันอีกสักภาพว่าหนาขึ้นแค่ไหน บอกเลยว่าน้อยมากจริงๆ
ลองถือตัวเครื่อง Liquid Z630S ดู ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว ยังพอใช้งานมือเดียวได้สบายๆ สำหรับคนมือใหญ่ๆ
ส่วน Liquid Z530S เนี่ยยิ่งถือใช้งานมือเดียวได้สบายใหญ่ เพราะหน้าจอขนาดเพียง 5 นิ้วนี่มันกำลังพอดีมือเลยล่ะ
2.User Interface, Feature, Storage & Ram, Benchmark
Launcher
User Interface ของ Acer Liquid Z630S และ Z530S จะถูกปรับแต่งมาไม่ได้เป็นแบบเดิมๆ อย่าง Nexus แต่ก็ไม่ได้แตกต่างมากนัก โดยตัว Launcher ก็เป็นแบบปกติทั่วไปคือมีหน้า Home และหน้า App Drawer และแน่นอนว่าสามารถสร้าง Folder ได้เหมือนปกติ ส่วนความเร็วตัว Launcher ก็ถือว่าดีไม่หน่วง
Status Bar
Status Bar ของทั้งสองรุ่นให้ทางลัดในการเปิดปิดการเชื่อมต่อมาครบครัน และมีแถบปรับความสว่างหน้าจออยู่ด้านล่างด้วย
อีกหนึ่งสิ่งที่ทาง Acer ทำมาได้ดีมากคือ Float App คือการเปิดแอพเป็นหน้าต่างลอยๆ ขึ้นมาแบบนี้ ซึ่งจะใช้ได้แค่เฉพาะบางแอพเท่านั้นคือ ปฏิทิน, สมุดโน้ตและเครื่องคิดเลข ข้อดีของมันก็คือสมมติเราเล่นบราวเซอร์อยู่ละต้องคำนวณเลขก็ไม่ต้องมากดปุ่ม Home ออกแล้วเข้าเครื่องคิดเลขสลับหน้าจอไปมา นี่ดูราคาละจับบวกๆๆ กันได้เลย สะดวกสุด
Storage & Ram
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมหน่วยความจำตัวเครื่องขนาด 32GB และ Ram 3GB ซึ่งต้องบอกว่าหาได้ยากในระดับราคานี้และที่สำคัญไม่ได้มีแอพที่ไม่ต้องการยัดมาเยอะมากมาย ทำให้มีพื้นที่ภายในตัวเครื่องเหลือเฟือที่จะลงแอพพลิเคชั่นหรือเกมส์ต่างๆ ไว้เล่นบนตัวเครื่องได้ โดยก็ไม่ต้องกังวลอีกว่าตัวเครื่องจะหน่วงจะช้าเพราะ Ram ที่ให้มาก็เยอะถึง 3GB และไม่มีแอพฯ กินแรมอีก ทำให้มี Ram เหลือใช้งานเหลือเฟือเลย และสำหรับรุ่น Z630S ยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำผ่านทาง Micro SD Card ได้อีกด้วย
Battery
ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นต้องบอกว่าสำหรับรุ่น Z630S เนี่ยอึดจนไม่ต้องกังวลว่าใช้งานทั้งวันแล้วแบตจะหมดเลยล่ะ ด้วยขนาดแบตเตอรี่ 4,000mAh ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับสมาร์ทโฟนหน้าจอ 5.5 นิ้วนี้ ทำให้เราสามารถเล่นได้ทั้งวันไม่ต้องกังวล อย่างผมปกติก็หยิบมาดู Facebook, Twitter บ้าง ถ่ายรูปเล่นบ้างวันนั้น มีเปิด GPS นำทางอีกหน่อย ตกทั้งวันยังรอดสบายๆ
แต่สำหรับรุ่น Z530S มีแบตเตอรี่ค่อนข้างน้อย จากที่ใช้งานดูจริงก็ได้วันต่อวันพอดี
Power Bank
อ่านหัวข้อแล้วอาจจะงง Power Bank อะไรหรอ แถมมา ? เอ้ยไม่ใช่ คือจะบอกว่าเจ้า Liquid Z630S เนี่ยเค้ามีความสามารถในการแปลงตนเองให้กลายเป็น Power Bank เพื่อจ่ายไฟให้กับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นได้ด้วย ซึ่งวิธ๊การก็ไม่ยาก แค่เอาสาย OTG มาเสียบที่เครื่อง Z630S จากนั้นก็เอาสายมาต่อเพื่อชาร์จให้อีกเครื่องนึงตามภาพเลย อ๊ะๆ เห็นไกลๆ อาจจะไม่เชื่อ ลองไปดูภาพล่างกันครับ จะเห็นว่าเจ้า Z530S นั้นกำลังชาร์จไฟอยู่โดย Z630S นี่ล่ะ
Benchmark
ทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องผ่านแอพฯ Benchmark ต่างๆ สำหรับ Z630S ได้ผลดังนี้
– Antutu: 35916
– Geekbench: Single Core 626, Multi Core: 2905
– Quadrant Standard: 20033
– Multitouch: 5 จุด
ทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องผ่านแอพฯ Benchmark ต่างๆ สำหรับ Z530S ได้ผลดังนี้
– Antutu: 36633
– Geekbench: Single Core 591, Multi Core: 2630
– Quadrant Standard: 18049
– Multitouch: 5 จุด
3.กล้องถ่ายรูป
Acer Liquid Z630S และ Z530S มาพร้อมกล้องถ่ายรูปความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ด้วย ซึ่งหน้าตาการใช้งานกล้องก็เป็นดังภาพด้านบน มีปุ่มลั่นชัตเตอร์ทางขวาตรงกลาง เหนือปุ่มชัตเตอร์เป็นปุ่มถ่ายวิดีโอ และปุ่มล่างสุดไว้ตั้งโหมดที่เราใช้บ่อยๆ แล้วกดลั่นได้เลยไม่ต้องไปนั่งปรับโหมด
ส่วนแถบข้างๆ นั้นเป็นตัวเลื่อนซูมเข้าออก ซึ่งก็ดีตรงไม่ต้องมานั่งใช้นิ้วแหวกเพื่อซูมเข้าซูมออกนี่ล่ะ
โหมดการถ่ายรูปบนตัวเครื่องมีเยอะแยะมากมายตามภาพด้านบน
เดิมแล้วค่าของกล้องจะถูกตั้งความละเอียดไว้ที่ 6 ล้านพิกเซลเพื่อจะได้ถ่ายภาพในอัตราส่วน 16:9 แต่หากใครอยากเต็ม 8 ล้านพิกเซลก็สามารถมาปรับค่ากันได้ แต่จะได้อัตราส่วน 4:3 แทน
ในส่วนของวิดีโอถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD
กล้องหน้าของทั้งสองรุ่นก็มาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเหมือนกล้องหลัง เพียงแต่กล้องหน้าไม่มีไฟแฟลชให้นะ ฮ่าๆ ซึ่งโหมดสำหรับกล้องหน้าที่ต้องมีและหนีไม่พ้นคือ Beautification นี่ล่ะซึ่งของ Acer เนี่ยเค้าเลือกปรับระดับ Smooth, Skin, Sharp ได้ด้วยนะ แต่ตอนผมทดสอบก็ใช้ค่าดั้งเดิมนี่ล่ะ
ว่าแล้วก็ไปดูตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องทั้ง 2 รุ่น Z630S และ Z530S กันดีกว่า ภาพทั้งหมดมิได้ปรับแต่งใดๆ เพิ่มเติมเพียงแต่ย่อขนาดและใส่ลายน้ำเท่านั้นครับ
เริ่มจาก Liquid Z630S ก่อนเลยละกัน
แสงกลางวันนี่เบสิค ต้องมีในการทดสอบ
ลองย้อนแสงดูบ้าง อื้อหือ มืดตึ้บ
ทีนี้ลองเปิด HDR ดู โอ้ รายละเอียดมาเต็ม
แสงน้อยกันบ้างครับ
ถ่ายอาหารกันดู ภาพนี้โหมด Auto
ภาพล่างจะเป็นโหมด Gourmet ลองดูว่าชอบแบบไหนมากกว่า
และภาพสุดท้ายจากกล้องหน้าด้วยโหมดสวย อืม สวยกำลังดี ไม่เวอร์จนเกินไป
จากนั้นเรามาดูตัวอย่างภาพถ่ายจาก Liquid Z530S กันต่อ
ย้อนแสงกันดู
เปิด HDR ซะ สบายเลย
แสงน้อยกันบ้าง
ถ่ายอาหารกันบ้าง ภาพบนโหมด Auto ภาพล่างโหมด Gourmet
กล้องหน้าทั้งสองรุ่นนี่โคตรชัดเลยแฮะ ดีนะมีโหมดหน้าสวยช่วยให้หน้าเนียนขึ้นมา ฮ่าๆ
4.ศูนย์บริการ
สิ่งนี้เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายๆ คนต้องมองเมื่อจะซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่องเพราะว่าหากวันใดวันนึงดันเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาแล้วต้องส่งสมาร์ทโฟนไปซ่อมล่ะ ชั้นจะทำยังไง จะต้องซื้อโทรศัพท์มาสำรองอีกเครื่องหรอ !? ในเมื่อก็มีสมาร์ทโฟนเป็นของตนเองแค่เครื่องเดียวเอง ซึ่งปัญหาเครื่องไม่มีใช้นี้จะไม่เกิดขึ้นหากใช้สมาร์ทโฟนของ Acer ครับเพราะปัจจุบันเค้ามีบริการให้เครื่องสมาร์ทโฟนไปใช้งานระหว่างที่เราส่งตัวเครื่องของเราเข้าศูนย์อีกด้วย !! เฮ้ย อันนี้เจ๋งนะ เห็นด้วยว่ามันคือบริการที่ควรมีเลย เพราะทุกคนไม่ได้จะมีสมาร์ทโฟนหลายๆ เครื่องหรอก ซึ่งเรื่องบริการให้เครื่องไปใช้ระหว่างซ่อมนั้นจะต้องผ่านเงื่อนไขคือ เฉพาะฮาร์ดแวร์ ที่ใช้เวลาในการซ่อมเกิน 3 ชั่วโมง เอเซอร์มีบริการเครื่องใช้ระหว่างซ่อม (เฉพาะศูนย์บริการเอเซอร์ 10 แห่ง)
สรุป: Acer Liquid Z630S และ Z530S เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่น่าจะถูกใจใครหลายคนเนื่องด้วยคุณสมบัติตัวเครื่องที่ค่อนข้างครบครันทั้งสเปคตัวเครื่องที่มีการใช้ CPU แบบ 8 แกน ซึ่งก็ถือว่าแรงพอที่จะใช้งานทั่วไปรวมถึงการเล่นเกมส์ต่างๆ ทั้งตัวเครื่องยังให้หน่วยความจำมาถึง 32GB ซึ่งมีพื้นที่ว่างเหลือเฟือให้ลงแอพ ลงเกมส์ได้สบายใจ ประกอบกับในส่วนของการใช้งานก็มี Ram 3GB ทำให้การใช้งานต่างๆ ไม่สะดุดด้วย และภายในกล่องก็มีการแถม Cover Case มาให้พร้อมกับฟิล์มกันรอยหน้าจอ ซึ่งเรียกว่าซื้อเสร็จพร้อมออกรบกันเลยล่ะ และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่จะได้ในราคาเพียงราวๆ ครึ่งหมื่น (เกินไปหน่อย ฮ่าๆ) แต่สำหรับใครที่เล่นหนักๆ จริงก็คงแนะนำให้จัด Z630S ไปเลยเพราะแบตมันอึดมากจริงๆ
บทความนี้เป็นบทความ Advertorial
ถูกใจบทความนี้ 0
You must be logged in to post a comment.