รีวิว Samsung Galaxy S7 edge กับการใช้งาน keyboard cover

วันนี้คงมีเคสหลากหลายรูปแบบให้เลือกสำหรับคนใช้งาน Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge วันนี้ผมมารีวิว แนะนำการใช้งานเจ้า keyboard cover ที่เป็นทั้ง type keypad และ เคสสำหรับป้องกันรอยต่างๆ ไปในตัว มาบอกเล่ากันครับ ว่ามันใช้ง่ายแค่ไหน อย่างไร สนนราคาของเจ้า keyboard cover คือ 1990 บาท ถ้วนๆ ไม่มีส่วนลดใดๆ ทั้งสิ้น หาซื้อได้ที่ Samsung Brand shop ทั่วๆ ไป แต่จำนวนอาจจะมีน้อยนะในช่วงนี้

Join PDAMobiz on Telegram

สำหรับใครที่เกิดทันยุค BB ผมว่าพอมีเจ้า keyboard cover หรือ type keyboard สำหรับ Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge มานี่ คงอยากได้มาก แน่นอนว่าผมก็เป็นหนึ่งในนั้น เลยจัดมาใช้สักหน่อย เพราะคิดว่ายังไงการพิมพ์ผ่าน keyboard ยังไงก็เร็วกว่าทัชสกรีนบนหน้าจอปกติอยู่แล้ว ว่าแล้วก็หวนนึกถึงการใช้งานบน BB ที่ตอนนี้ห่างหายไปจาก Smartphone คงกลับมายากแล้วล่ะ

ผมซื้อมาในราคาปกติ พยายามตื้อคนขาย รูปหล่ออยู่หลายครั้ง ยังไงก็ไม่ลดให้ ฮาามั่ก หมดมุก ควักตังค์จ่ายไปด้วยราคา 1990 บาท ก็ได้มาสมใจอยาก ซึ่งบอกเลยว่าใช้ไม่เป็นครับ เพราะปุ่มต่างๆ มันแปลก แหวกแนวที่เคยใช้บน BB มาแบบว่าพอตัวเลยทีเดียว ไหนจะสลับภาษา อันนี้หลักๆ ที่ต้องใช้เลย ไหนจะภาษาไทย ตัวไหนอยู่ตรงไหน ไหนจะสัญลักษณ์ต่างๆ อีก ว่าแล้วก็มาแกะกล่องก่อน

ก็แกะซะหน่อยนะครับ ซื้อมาแล้วนี่ จริงๆ ไม่มีไรเลย มีแค่กล่อง ตัว cover แล้วก็เจ้าคู่มือการใช้งาน จริงๆ จะใช้ให้เป็นก็อ่านคู่มือก็ได้นะ แต่โกรธ Samsung ไทยมากที่ คู่มือไม่มีภาษาไทยมาให้ด้วย หึ่มๆ

รูปร่างหน้าตาจัดว่าน่าใช้งานพอตัวเลยทีเดียว

ซึ่งจริงๆ แล้วเจ้า keyboard cover ประกอบด้วย 2 ส่วนครับ คือตัว cover ที่ใส่กับตัวเครื่อง Galaxy S7 edge และ ตัว keyboard ที่วางไว้ด้านหน้าเครื่อง

ด้านหน้า keyboard ขนาดคล้ายๆ กับ BB เลยครับ lay out นี่ออกแบบมาเหมือนกับ BB

อีกด้านนึงเห็นตรงกลางจะเป็นตัว home button พอดีกับปุ่ม home บน Galaxy S7 edge

พอใส่แล้วก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ

จริงๆ ถือถนัดมือนะ แต่หากใส่แล้วเวลาใช้ก็ต้องใช้สองมือพิมพ์ล่ะ ดังนั้นถ้าเวลาขับรถหรือไม่ถนัดจะใช้สองมือ แนะนำให้ดึง keybaord ออกเก็บติดตัวเอาไว้ เพราะเวลาใส่ก็ไม่ยากครับ

ด้านข้างก็เรียกว่า protect ได้ระดับนึง ตรงมุมเท่นั้น ตรงขอบๆ นี่เสียวเหมือนกัน

ตรงด้านบนจะเห็นว่า protect ขอบเช่นกัน

ส่วนด้านล่างปกป้องคุ้มครองปลอดภัยในระดับนึงล่ะ ลำโพง และพอร์ทสำรับชาร์จ ไมค์ ยังอยู่ครบ

มาลองดูปุ่มกดบน keyboard กันดีกว่า

เรื่องของการใช้งานปุ่มกด ต้องบอกเลยว่าไม่ถนัดในช่วงแรก อย่างที่เห็น layout ล่ะครับ ก็ต้องอาศัยการจำกับความคุ้นเคยในช่วงนึงเลยทีเดียว

เวลาใส่ใช้งานตัวหน้าจอแสดงผลจะหดลงเหลือประมาณ 3 ใน 4 ของการแสดงผลทั้งหมด ซึ่งถูกปรับในทุกการใช้งาน ไม่เว้นแม้กระทั่งจะเป็นโหมดกล้องถ่ายรูปนะ และภาพที่ได้จะเป็นภาพขนาดอัตราส่วน 1:1 ขนาดภาพ 3024×3024 พิกเซล ส่วนการเล่นเกมส์ ก็แน่นอนว่าไม่เหมาะ เพราะการแสดงผลจะกลายเป็นลักษณะสัดส่วน 1:1 หรือสี่เหลี่ยมจตุรัส ทำให้บางทีเกมส์ที่ออกแบบมาให้เล่นกับหน้าจอแบบ HD หรือ Full HD ก็ไม่สนุกเต็มที่

วิธีการสลับภาษา

ผมว่าสำคัญมากกว่าอื่นๆ เลยเพราะว่าการใช้งาน keyboard เราต้องพิมพ์ภาษาไทยและอังกฤษสลับกันไป วิธีการก็ง่ายๆ กดปุ่ม ไมค์ค้างเอาไว้ครับ

จากนั้นจะมี pop up ขึ้นมาบนหน้าจอ ให้เลือกที่รูปโลก เหมือนกับการสลับภาษาบน softkey ในหน้าจอปกตินั่นล่ะ และยังมีฟังก์ชั่นอื่นๆ ให้เลือกอีกเช่น ใส่คำสั่งด้วยเสียง

หากเราใช้งานหลายภาษาก็ไม่ต้องห่วง แต่ที่ห่วงก็คือการใช้งานไม่สะดวก เพราะจริงๆ แล้ว ควรจะเปลี่ยนภาษาได้บนตัว keyboard เลย แต่ต้องมากดบน หน้าจอเพื่อเปลี่ยนภาษาอีกครั้ง ทำให้ไม่สะดวกในการใช้งานตรงจุดนี้จริงๆ ครับ

ส่วนการกดปุ่มนั้น อารมณ์เหมือน BB เลย แต่ความคล่องตัวน้อยกว่า เพราะความไม่คุ้นชิน บนตัว keyboard มี lay out อยู่ 3 แบบ คือปุ่มกดตามปกติ ถ้าเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ ก็สบายไป ตัวใหญ่กด shift แล้วค่อยพิมพ์ ตัวเล็ก ก็กดคีย์ปกติ

ส่วนตัวอักษรภาษาไทย จะมีตัวอักษรปกติ แต่จะซ้อนกันอยู่ 2 ตัว ซึ่งกดครั้งแรกจะเป็นตัวอักษรตัวแรก ส่วนตัวอักษรตัวที่ 2 จะต้องกดค้างครับ

อย่างที่เห็นในภาพ เมื่อกดปุ่ม ท ค้างไว้ ที่หน้าจอจะมี ม และ ์ ขึ้นมาให้เลือก ซึ่งจริงๆ แล้วตัว ์ นี่สามารถกด shift แล้วพิมพ์ได้เลย ส่วนตัวอักษรตัวที่ 2 นี่ไม่สามารถกดเบิ้ลเหมือน BB ได้ ต้องกดค้างสถานเดียวเท่านั้น อันนี้ถือว่าไม่สะดวกอย่างแรง คือพิมพ์ได้ไม่เร็วเหมือน BB ต่อให้ชินกับ lay out แล้วก็ตามที

ส่วนตัวสุดท้ายก็คือกด ALT เพื่อใช้สัญลักษณ์พิเศษต่างๆ อาทิเช่น / ? < > @ หรืออื่นๆ อันนี้ก็กดใช้งานได้ทันที หรือจะกดปุ่ม Sym ก็ได้ สามารถเลือก emoticon ได้ด้วย

ก็เป็นการใช้งานตัว keyboard cover ล่ะครับ ใช้กับแอพพิมพ์ต่างๆ ได้ครบหมด ทุกแอพถูกแสดงผลเป็นหน้าจอสี่เหลี่ยมทั้งหมดเลย

สรุปสักหน่อย

โดยสรุปแล้ว ก็ถือว่าดีกว่าการพิมพ์บนหน้าจอทัชสกรีน แต่ทว่าเรื่องความเร็วในการพิมพ์ยังไม่โดนใจสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ lay out ที่ไม่คุ้นเคยสำหรับผมเอง ที่ห่างหายจาก BB ไปนาน และอย่างยิ่งคือ ไม่สามารถพิมพ์เบิ้ลเพื่อ พิมพ์ตัวอักษรตัวที่ 2 ได้ ต้องกดค้างแทน ซึ่งแทนที่จะใช้แบบ full keyboard ก็ต้องสลับไปทัชสกรีนหน้าจออีก รวมถึงสลับภาษาด้วย อีกส่วนนึงคือ ไม่มี navigator key หรือปุ่มทิศทาง ทำให้อารมณ์ในการใช้งาน full keyboard หายไป โดยรวมแล้วถือว่ายังกลางๆ ได้อารมณ์ BB แต่ไม่สุด เหมือนมันอั้นๆ ยังไงชอบกล แต่หากเป็นคนชอบพิมพ์ และเป็นแฟน BB เดิมล่ะก็ keyboard cover ตัวนี้

Join PDAMobiz facebook Group