สวัสดีครับ วันนี้มาส่งท้ายกันไปก่อนส่งเครื่องคืนด้วยฟีเจอร์อันเป็นจุดขายอีกหนึ่งอย่างของ V3Max นั่นก็คือ Faster Fingerprint Unlocking หรือระบบสแกนลายนิ้วมือที่มาพร้อมกับตัว V3 Max นั่นเอง โดยทางค่าย vivo เคลมว่าเจ้าเซ็นเซอณ์ตัวนี้ทำงานได้อย่างรวดเร็วทันใจ สามารถปลดล็อคหน้าจอโดยใช้เวลาเพียง 0.5 วินาทีเท่านั้น แต่จริงหรือโม้ ต้องมาพิสูจน์กันครับ
ขอขอบคุณ vivo Thailand สำหรับเครื่องทดสอบและใช้ในการเขียนบทความนี้ครับ
สเปคเบื้องต้นของ vivo V3Max
- หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 652 (Octa-core 64bit) ความเร็ว 1.8GHz
- หน่วยความจำภายใน 32GB และรองรับหน่วยความจำภายนอก MicroSD card ได้สูงสุด 128GB
- แรม : 4GB
- จอแสดงผล : ชนิด IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1920 × 1080 พิกเซล
- การเชื่อมต่อ 2G : 850/ 900/ 1800/ 1900MHz
- การเชื่อมต่อ 3G : 850/ 900/ 2100MHz
- การเชื่อมต่อ 4G FDD-LTE850/ 900/ 1800/ 2100/ 2600MHz
- รองรับการใช้งานในระบบ 2 ซิมการ์ด (Hybrid slot)
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n , Bluetooth V. 4.1,
- กล้องหลักด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ระบบโฟกัสแบบ PDAF
- กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- Sound Chip : AK4375
- Android 5.1 Lollipop ครอบทับด้วย Funtouch OS 2.5
- ขนาดตัวเครื่อง 153.9 × 77.1 × 7.58 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 168 กรัม
- แบตเตอรี่ 3000 mAh, Li-Polymer
- สีที่มีวางจำหน่าย Gold (เมทัลลิค)
ราคาวางจำหน่าย 12,990 บาท
เมื่อดูคลิปจบแล้วก็คงจะได้เห็นภาพรวม ๆ ของระบบสแกนลายนิ้วมือบน vivo V3Max กันแล้วนะครับ ว่าสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วทันใจสมราคาคุยจริง ๆ นอกจากนี้ จุดเด่นอีกอย่างก็คือสามารถปลดล็อคหน้าจอได้โดยไม่ต้อง Wake up หรือปลุกหน้าจอขึ้นมาก่อนแต่อย่างใด ตรงนี้ถือว่าช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ เช่นการจัดเก็บข้อมูล Privacy ต่าง ๆ รวมไปถึงการล็อคแอพพลิเคชั่น ด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือ ก็ถือว่ามีประโยชน์เช่นกัน แต่น่าเสียดายครับ เพราะถ้าหากสามารถใช้งานร่วมกับแอพกล้องได้ก็คงจะสมบูรณ์แบบยิ่งกว่านี้ครับ
สุดท้ายสำหรับคลิปการทดสอบระบบสแกนลายนิ้วมือบน V3Max ก็คงต้องลากันไปแต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ในโอกาสหน้าครับ
สามารถพูดคุยเกี่ยวกับบทความนี้ได้ที่หน้าเว็บบอร์ดเดิมครับ โดยคลิ๊กที่ลิงก์นี้ครับ >>> pdamobiz.com
You must be logged in to post a comment.