Adobe Creative Cloud รองรับกระบวนการสร้างสรรค์งานอย่างเหนือชั้น จากกระดาษเปล่าสู่งานสร้างสรรค์อย่างมีคุณค่า

Adobe Creative Cloud Innovations

  กรุงเทพฯ — 28 มิถุนายน 2559 — ด้วยเป้าหมายที่จะขจัดปัญหาความไร้ประสิทธิภาพซึ่งทำให้กระบวนการสร้างสรรค์เกิดความล่าช้า อะโดบีจึงได้เปิดตัวอัพเดตสำคัญๆ สำหรับเครื่องมือและบริการ Creative Cloud พร้อมด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ ในแอพพลิเคชั่นหลักของอะโดบี พร้อมด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพสำหรับ Creative Cloud (CC) และการอัพเดตที่ดีเยี่ยมสำหรับ Adobe Stock รวมถึงการผนวกรวมในระดับที่ลึกกว่าเดิมในแพลตฟอร์ม CC และการเพิ่มเติมคอลเลกชั่น Premium สำหรับสต็อกคอนเทนต์คุณภาพสูง  อัพเดตใหม่ล่าสุดนี้ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์ Creative Cloud ทั้งหมด โดยมุ่งแก้ไขปัญหามากมายที่นักออกแบบ ช่างภาพ และผู้สร้างภาพยนตร์ต้องประสบพบเจออยู่เป็นประจำ 

 

Adobe Creative Cloud รองรับกระบวนการสร้างสรรค์งานอย่างเหนือชั้น จากกระดาษเปล่าสู่งานสร้างสรรค์อย่างมีคุณค่า

ฟีเจอร์ใหม่ การปรับปรุงประสิทธิภาพ พร้อมอัพเดต Adobe Stock เพิ่มความสะดวกในการสร้างสรรค์ผลงาน

 

Adobe CC 2016


นายไบรอัน แลมกิ้น รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายดิจิตอลมีเดียของอะโดบี กล่าว “เรามีเป้าหมายหลักสองข้อในการอัพเดตเทคโนโลยีในครั้งนี้ นั่นคือ เพื่อช่วยให้ลูกค้าประหยัดเวลา และเริ่มต้นงานสร้างสรรค์ได้อย่างฉับไว ทุกโครงการสร้างสรรค์เริ่มต้นจากหน้ากระดาษที่ว่างเปล่า และจบลงด้วยวิสัยทัศน์ที่กลายเป็นจริง  การเปิดตัวอัพเดตล่าสุดของ Creative Cloud ในวันนี้จะช่วยให้กระบวนการดังกล่าวดำเนินไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ  ตั้งแต่การผนวกรวม Adobe Stock เข้ากับแพลตฟอร์ม CC อย่างกลมกลืน ไปจนถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ยอดเยี่ยม เช่น Content-Aware Crop ใน Adobe Photoshop รีลีสใหม่นี้จะช่วยเร่งกระบวนการสร้างสรรค์สำหรับลูกค้าหลายล้านรายทั่วโลก”

 

Adobe CC 2016__01

นายพอล ร็อบสัน ประธานประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของอะโดบี กล่าวว่า “ปัจจุบัน เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแวดวงอุตสาหกรรม โดยเป็นผลมาจากการขยายตัวของโมบายล์ และความรวดเร็วในการนำเสนอเนื้อหาคอนเทนต์ที่มีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นเพื่อเชื่อมโยงคอนเทนต์และประสบการณ์ของลูกค้าเข้ากับผลกระทบ และความสำเร็จทางธุรกิจ  อย่างไรก็ตาม เราทราบว่ามีนักการตลาดและผู้บริหารองค์กรธุรกิจเพียง 16% ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่ระบุว่าตนเองมีเวิร์กโฟลว์ที่รองรับการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องและการทำงานร่วมกัน ซึ่งจำเป็นต่อการผลิตคอนเทนต์ในปัจจุบัน[1] การอัพเดทครั้งนี้นำเสนอเทคโนโลยีที่น่าทึ่ง และเวิร์กโฟลว์ที่ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ และช่วยให้องค์กรมอบประสบการณ์ลูกค้าที่ดีเยี่ยมผ่านทุกช่องทาง”

 

Adobe CC 2016__02

อัพเดตที่เปิดตัวในรอบนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างที่สำคัญในการพัฒนา Creative Cloud เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจรสำหรับมืออาชีพด้านครีเอทีฟ (one-stop shop) โดยนำเสนอเครื่องมือเดสก์ท็อปที่ดีที่สุด รวมไปถึงโมบายล์แอพพลิเคชั่น การฝึกอบรม และมาร์เก็ตเพลสที่โดดเด่นซึ่งจัดหาบริการต่างๆ อย่างเช่น Adobe Stock รวมถึงการเข้าถึงชุมชน Behance ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 7 ล้านรายทั่วโลก

 

นายแพทริค อึ้ง หัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟของ Hakuhodo Singapore กล่าว “เราชื่นชอบอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายของ Adobe Creative Cloud ดีไซเนอร์ของเราทำงานกับภาพจำนวนมากในแต่ละวัน และเราใช้บริการ Creative Cloud รวมไปถึง Adobe Stock ที่รวมอยู่ใน Creative Cloud โดยตรง ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการใช้ทรัพยากรร่วมกันภายในทีมงาน กล่าวโดยสรุปก็คือ บริการดังกล่าวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับทีมงานของเราได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว”

นายคริส ฮอกกิ้ง ผู้จัดการทั่วไปของ LateNite Films กล่าวว่า “หากไม่มี Adobe Creative Cloud เราคงไม่สามารถผลิตละครทางโทรทัศน์เรื่อง “The Wizards of Aus” ได้สำเร็จ สิ่งที่ต่างจากภาพยนตร์และโทรทัศน์ส่วนใหญ่ก็คือ เราไม่มีเวิร์กโฟลว์ออฟไลน์/ออนไลน์แบบเดิมๆ ดังนั้นเราจึงต้องการโซลูชั่นที่มีองค์ประกอบที่เฉพาะเจาะจง เช่น รองรับ Mac และพีซี สามารถใช้งานร่วมกับวิดีโอ Ultra HD และสามารถสลับระหว่างการตัดต่อแบบออฟไลน์และวิช่วลเอฟเฟ็กต์ได้อย่างไร้รอยต่อ โดยไม่ทำให้การทำงานช้าลง เรามักจะสลับไปมาระหว่างโปรแกรม Premiere สำหรับการตัดต่อ และโปรแกรม After Effects สำหรับวิช่วลเอฟเฟ็กต์ จนกระทั่งเราส่งออก Digital Cinema Package ขั้นสุดท้ายโดยใช้ Adobe Media Encoder”

นายโฮ แจ ลี รองหัวหน้าทีมออกแบบ ฝ่ายการตลาดของ BC Card กล่าว “เราใช้ Adobe Creative Cloud เพื่อสะท้อนแบรนด์ของเราในผลงานสร้างสรรค์ และนำเสนอประสบการณ์การออกแบบที่โฟกัสลูกค้าเป็นหลัก  เราเชื่อว่าการอัพเดตเหล่านี้จะนำเสนอฟีเจอร์การทำงานร่วมกันที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสร้างองค์ประกอบด้านภาพที่สอดประสานกัน และแก้ไขปัญหาที่ผู้ใช้ทั่วโลกต้องประสบพบเจอในแต่ละวัน พร้อมช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพ และความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างลงตัว”

รวมอยู่ใน Creative Cloud: บริการ Adobe Stock มอบทางเลือกที่ดีที่สุดและหลากหลายที่สุด

ผลการวิจัยจาก Pfeiffer Consulting ยืนยันว่า การผนวกรวม Adobe Stock เข้ากับเดสก์ท็อปแอพพลิเคชั่น CC จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับบริการสต็อกภาพอื่นๆ*  บริการ Adobe Stock ที่มีการขยายตัวนี้นำเสนอภาพถ่าย วิดีโอ ภาพประกอบ และกราฟิกคุณภาพสูงกว่า 55 ล้านรายการ โดยปราศจากค่าลิขสิทธิ์ พร้อมด้วยความสามารถใหม่ๆ ดังต่อไปนี้:

 

·         เวิร์กโฟลว์แบบคลิกเดียว  การผนวกรวม Adobe Stock เข้ากับแอพพลิเคชั่น CC ในระดับที่ลึกกว่าเดิมจะรองรับเวิร์กโฟลว์แบบคลิกเดียว ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกภาพหรือวิดีโอบนเว็บไซต์ Adobe Stock และวางไว้บนผืนผ้าใบสำหรับงานสร้างสรรค์ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว  นอกจากนี้ นับเป็นครั้งแรกในแวดวงอุตสาหกรรมสำหรับฟีเจอร์การสั่งซื้อภายในโปรแกรม (In-app Purchase) ซึ่งรองรับการขออนุญาตใช้งานแบบคลิกเดียวจาก Photoshop โดยตรง

·         คอลเลกชั่นระดับพรีเมียม  ครั้งแรกกับการนำเสนอคอนเทนต์ระดับพรีเมียมของอะโดบีสำหรับ Adobe Stock โดยประกอบด้วยภาพที่มีการดูแลจัดการเกือบ 100,000 ภาพ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของเอเจนซี่โฆษณาระดับท็อป แบรนด์ชั้นนำ รวมไปถึงสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อดิจิตอล

·         เพิ่มความสะดวกในการสร้างรายได้  ในอนาคตอันใกล้ อะโดบีจะขยายวิสัยทัศน์ไปสู่การสร้างตลาดกลางด้านงานสร้างสรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยการเปิดโอกาสให้มืออาชีพด้านครีเอทีฟได้มีส่วนร่วมสนับสนุนและสร้างรายได้จากผลงานของตนเอง โดยบุคลากรด้านครีเอทีฟจะสามารถจัดส่งผลงานได้โดยตรงจากแอพพลิเคชั่นบนเดสก์ท็อปหรืออุปกรณ์พกพา รวมถึง Adobe Lightroom CC, Adobe Bridge CC, Photoshop Fix และ Photoshop Mix นับเป็นช่องทางที่สะดวกง่ายดายในการจัดแสดงและขายผลงานผ่านทาง Adobe Stock  นอกจากนี้ อะโดบียังเตรียมเปิดตัว Stock Contributor Portal ซึ่งประกอบด้วยฟีเจอร์การใส่แท็กอัตโนมัติที่ชาญฉลาด ช่วยประหยัดเวลาหลายชั่วโมงในการป้อนคีย์เวิร์ด

ความสามารถใหม่ๆ ของเดสก์ท็อปแอพ CC และการปรับปรุงประสิทธิภาพ

ฟีเจอร์ CC ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับครีเอทีฟ โดยจะช่วยประหยัดเวลาและขยายโอกาสใหม่ๆ สำหรับสมาชิก Creative Cloud ดังนี้:

·         Content-Aware Crop ใน Photoshop จะเติมช่องว่างโดยอัตโนมัติเมื่อคุณหมุนหรือขยายผืนผ้าใบ (canvas) จนเกินขนาดของภาพต้นฉบับ

·         Face-Aware Liquify ใน Photoshop เพิ่มความสะดวกในการสร้างเอฟเฟ็กต์ทางด้านศิลปะด้วยคุณลักษณะใบหน้า โดยใช้เครื่องมือ Liquify ขณะที่ยังคงรักษาสัดส่วนที่เหมาะสมของใบหน้า

·         Match Font ใน Photoshop เป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีการรับรู้แบบอักษรที่สามารถจดจำและระบุแบบอักษรที่มีลิขสิทธิ์ และแนะนำแบบอักษรที่มีอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของคุณโดยอัตโนมัติ หรือสามารถขออนุญาตใช้งานผ่านทาง Adobe Typekit

·         Character Animator Preview ใน After Effects CC จับคู่ตัวละครในการ์ตูนเข้ากับคำพูดและท่าทางของนักแสดงจริง โดยเทคโนโลยีนี้ได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในรายการ The Late Show with Stephen Colbert ในช่วงของการสัมภาษณ์ “Cartoon Donald Trump”(1:30) และล่าสุด มีการใช้งานโดยทีมผู้สร้างแอนิเมชั่น The Simpsons สำหรับตอนที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2559

·         ฟีเจอร์ใหม่ Virtual Reality (VR) ใน Adobe Premiere Pro CC รวมถึงโหมด “field of view” สำหรับการแสดงตัวอย่างคอนเทนต์

·         Fast Export สำหรับทรัพยากรและอาร์ตบอร์ดใน Adobe Illustrator CC ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งออกทรัพยากรเป็นหลายรูปแบบ โดยมีความละเอียดแตกต่างกันภายในคลิกเดียว

·         การปรับปรุงประสิทธิภาพของ Photoshop รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพ 4 เท่า เมื่อทำงานกับฟอนต์อักษรและฟีเจอร์ Content-Aware Fill

 

CreativeSync และ Assets: ค้นหาได้ง่ายขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพ และผนวกรวมเวิร์กโฟลว์แบบโมบายล์และเดสก์ท็อปเข้าด้วยกัน

เทคโนโลยี CreativeSync ของอะโดบีช่วยให้ไฟล์ แบบอักษร งานออกแบบ และการตั้งค่าของผู้ใช้ปรากฏในเวิร์กโฟลว์โมบายล์และเดสก์ท็อปในทันทีทุกที่ที่ต้องการ  ฟีเจอร์ล่าสุดที่รองรับการทำงานร่วมกันได้แก่ ไลบรารี Creative Cloud แบบอ่านอย่างเดียว ซึ่งจัดหาระดับการอนุญาตภายใต้การควบคุม ขณะที่ทำงานร่วมกับคนอื่นๆ ภายในทีมงาน  ไลบรารี Creative Cloud ทำหน้าที่เป็นสไตล์ไกด์แบบดิจิตอลสำหรับทีมงาน เพื่อให้แคมเปญมีความสอดคล้องกันและสัมพันธ์กับแบรนด์  อีกทั้งครีเอทีฟยังสามารถกำหนดระดับของการอนุญาต เพื่อช่วยในการจัดการไลบรารีและไฟล์ต่างๆ  นอกจากนี้ แผง Creative Cloud Libraries ยังได้รับการอัพเดตด้วยตัวกรองการค้นหา (Search Filters) ที่ช่วยให้ลูกค้าค้นหาและเลือกวิดีโอ ภาพถ่าย เวคเตอร์ และภาพประกอบได้อย่างง่ายดาย

 

ความสามารถใหม่ๆ เพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์และเอเจนซี่ระดับโลก

Creative Cloud for enterprise (CCE) ช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้าง ทำงานร่วมกัน และนำเสนอคอนเทนต์ได้อย่างรวดเร็ว โดยทั้งหมดนี้อยู่ภายในระบบรักษาความปลอดภัยไฟร์วอลล์ขององค์กร  อัพเดตของ Creative Cloud for enterprise นำเสนอความสามารถใหม่ๆ ที่สำคัญ เช่น เวิร์กโฟลว์ที่ง่ายดายสำหรับทีมงานครีเอทีฟที่ทำงานร่วมกัน และแลกเปลี่ยนทรัพยากรระหว่างกัน ไลบรารีและโฟลเดอร์แบบอ่านอย่างเดียว การสนับสนุนการจัดเก็บอาร์ไคฟ์สำหรับโฟลเดอร์และไฟล์ และการกำหนดเวอร์ชั่น  ด้วยรีลีส CC ที่เปิดตัวในวันนี้ Adobe Stock สำหรับองค์กรจะประกอบด้วยคอลเลกชั่นระดับพรีเมียม รวมถึงการค้นหาขั้นสูง แผนการจ่ายเงินที่ยืดหยุ่น และความสามารถในการตรวจสอบติดตามภาพ และวิดีโอในสต็อกผ่านทางแดชบอร์ดระดับองค์กรที่ครบวงจร

 

ราคาและการวางจำหน่าย

อัพเดตสำหรับเดสก์ท็อปแอพ CC เปิดให้ดาวน์โหลดได้แล้วสำหรับสมาชิก Creative Cloud โดยเป็นส่วนหนึ่งของบริการสำหรับสมาชิก โดยไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด  มีบริการสมาชิกหลากหลายรูปแบบให้เลือกสำหรับผู้ใช้ทั่วไป นักศึกษา ทีมงาน สถาบันการศึกษา หน่วยงานราชการ และองค์กร  ดูรายละเอียดเกี่ยวกับราคาได้ที่:https://creative.adobe.com/plans

เกี่ยวกับบริษัทอะโดบี ซิสเต็มส์ อินคอร์เปอเรทเต็ต

 

อะโดบีเปลี่ยนโลกผ่านประสบการณ์ด้านดิจิตอล รายละเอียดเพิ่มเติม www.adobe.com/sea/

 

กลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์อะโดบีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถติดต่อกับทีมงานของอะโดบีและบุคลากรด้านครีเอทีฟผ่าน Facebook ได้โดยตรง เพื่อรับทราบข่าวคราวความเคลื่อนไหว ข้อมูลอัพเดต และโปรโมชั่นได้ที่ http://facebook.com/AdobeSEA

###

* Pfeiffer Consulting

© 2016 Adobe Systems Incorporated. All rights reserved. Adobe and the Adobe logo, are either registered trademarks or trademarks of Adobe Systems Incorporated in the United States and/or other countries. All other trademarks are the property of their respective owners.

 

ถูกใจบทความนี้  0