ค่าย Huawei Thailand ส่งพรีเมียมสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ หัวเว่ย พีเก้า (Huawei P9) และ หัวเว่ย พีเก้า พลัส (Huawei P9 Plus) ลุยตลาดในไทยอย่างเป็นทางการ สำหรับทั้งสองรุ่นนี้ชูจุดเด่นด้วยกล้องเลนส์คู่ที่หัวเว่ยพัฒนาร่วมกับไลก้า เพื่อปฏิวัติการถ่ายรูปบนสมาร์ทโฟน พร้อมยกระดับการให้บริการหลังการขายด้วยการประกาศเป็นเจ้าแรกในตลาดให้บริการสุดพิเศษแก่ลูกค้าที่ซื้อหัวเว่ย พีเก้า และพีเก้า พลัส ด้วยบริการเปลี่ยนเครื่องใหม่หากไม่สามารถซ่อมเครื่องได้ภายใน 1 ชั่วโมง
ท้าวความในอดีตกันหน่อย ซีรีย์ P ซึ่งมีความโดดเด่นด้วยการเป็น World First ในด้านคุณสมบัติของกล้องตั้งแต่ Huawei P6 ที่เปิดตัวในปี 2013
จนมาถึงรุ่นล่าสุดอย่าง Huawei P9 ที่เป็นนวัตกรรมใหม่แห่งวงการสมาร์ทโฟนที่เกิดจากการจับมือกับบริษัทผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพระดับโลกที่มีชื่อเสียงมายาวนานมากกว่า 100 ปีอย่าง Leica Camera
สู่ความเหนือระดับในด้านการดีไซน์และขุมพลัง
หัวเว่ย พีเก้า เป็นผลงานชิ้นสำคัญในการดีไซน์ที่เหนือระดับ ด้วยความเรียบง่ายล้ำสมัยเปล่งประกายในแบบฉบับของ พี ซีรี่ยส์ ที่เป็นพรีเมี่ยมสมาร์ทโฟนของหัวเว่ย โดยในแต่ละเครื่องมาพร้อมกระจกหน้าจอคุณภาพสูง 2.5D แบบ Diamond Cut และตัวเครื่องที่ผลิตจากอลูมิเนียมเกรดเดียวกับการสร้างยานอวกาศ หัวเว่ย พีเก้า พลัส ความจำ 64GB มาพร้อมกับสี Haze Gold ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการ ทั้งยังได้รับการขัดเงาให้มีพื้นผิวโปร่งแสงอีกด้วย
สเปคเบื้องต้นของ Huawei P9
หัวเว่ย พีเก้า มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว ความคมชัด Full HD 1080p ใช้ชิปเซต Kirin 955 2.5GHz 64-bit ARM โปรเซสเซอร์ เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแบตเตอรี่คุณภาพสูง 3,000 mAh ใช้งานได้ยาวนาน และในรุ่น พีเก้า พลัส มีหน้าจอแสดงผลที่กว้างขึ้นถึง 5.5 นิ้ว
ตัวเลนส์กล้องของหัวเว่ย พีเก้าและ พีเก้า พลัส จะไม่ยื่นนูนออกมาเหมือนคู่แข่งรายอื่น ๆ ในท้องตลาด
ความจุแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 3000 mAh และ 3400 mAh ในรุ่นพลัส มีจุดเด่นในด้านของการชาร์จไฟแบตเตอรี่ที่รวดเร็ว (Dual-IC Rapid Charge) โดยสามารถคุยต่อเนื่องได้ถึง 6 ชั่วโมงเพียงชาร์จแค่ 10 นาทีเท่านั้น
การผสมผสานระหว่างดีไซน์และการออกแบบการใช้งานที่มาจากขุมพลังจากเลนส์คุณภาพอย่าง ไลก้า นำไปสู่ความเหนือระดับของอุปกรณ์ชั้นเลิศไม่ว่าจะเป็น เครื่อง เลนส์ เซนเซอร์ รวมไปถึงระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อการถ่ายภาพที่สมบูรณ์แบบ
โดยกล้อง RGB ตัวแรกนั้นจะให้ภาพสีที่เด่นชัด ในขณะที่กล้องตัวที่สองเก็บรายละเอียดของภาพขาวดำได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นการผสานพลังของกล้องทั้งสองตัวนี้ทำให้สร้างสรรค์ภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยมทั้งในด้านรายละเอียดของภาพ ความลึก และสีของภาพ
นอกจากนี้ พีเก้า ยังสามารถถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยความเหนือระดับจากกล้องหลังเลนส์คู่ที่ช่วยเพิ่มแสงและรายละเอียดของถ่ายภาพให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ระบบโฟกัสแบบไฮบริดที่ให้มาถึง 3 รูปแบบ ทั้ง Contrast focus และ Laser focus สุดท้ายคือระบบโฟกัสแบบใหม่ Depth focus
Depth focus จะมีชิปเซ็ตที่เป็น Hardware ในการประมวลผลเฉพาะ ไม่ใช่แค่การประมวลผลผ่านทาง software เพียงอย่างเดียวครับ
โชว์ให้เห็นว่าระบบโฟกัสของ หัวเว่ย พีเก้าและ หัวเว่ย พีเก้า พลัส นั้นรวดเร็วเพียงใด
และ Professional Bokeh กด็คืออีกหนึ่งจุดขายจากกล้องเลนส์คู่ของ หัวเว่ย พีเก้าและ หัวเว่ย พีเก้า พลัส
โทนสีและอารมณ์ของภาพที่ได้จาก หัวเว่ย พีเก้าและ หัวเว่ย พีเก้า พลัส นั้นมาในสไตล์กล้องไลก้าแท้ ๆ
รวมไปถึงภายถ่าขาวดำที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของไลก้า บนหัวเว่ย พีเก้าและ หัวเว่ย พีเก้า พลัส ก็ถ่ายทอดออกมาได้ฟิลลิ่งเดียวกัน
นอกจากนี้ การออกแบบอินเตอเฟสรวมไปถึงเสียงชัตเตอร์ของกล้อง ทางค่ายไลก้าก็เป็นผู้ออกแบบเองอีกด้วย
พกความสามารถมาเพียบ รองรับการใช้งานในรูปแบบ Professional ที่ต้องการความยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี
สำหรับขุมพลังก็จะมาพร้อมกับชิปเซ็ตตัวล่าสุดของทางค่าย Kirin 955
หัวเว่ย พีเก้า และ พีเก้า พลัส ยังมีคุณสมบัติพิเศษในเรื่องของการออกแบบเสาสัญญาณรับคลื่นมือถือและสัญญาณ Wi-Fi ที่แม่นยำ อย่างเทคโนโลยี Virtual-Triple-Antenna เพื่อการเชื่อมต่อโลกออนไลน์ที่ไม่สะดุดไม่ว่าจะอยู่ที่ใดบนโลก ทั้งยังมีระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูงด้วยความเป็นผู้นำในเทคโนโลยีระบบการสแกนนิ้วมือแบบ Biometric ที่ป้องกันการเข้าสู่ระบบของตัวเครื่องอย่างแม่นยำเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน อีกทั้งยังสามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
มาดูความแตกต่างของ หัวเว่ย พีเก้า และ พีเก้า พลัส กันบ้างครับ
หน้าจอของ พีเก้า พลัส จะใหญ่ขึ้นมาอีกนิดและแบตเตอรี่ก็มีความจุที่มากกกว่ากัน ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า
พีเก้า พลัส มาพร้อมกับลำโพงคู่และระบบเสียงสเตอริโอ
กล้องหน้าที่โดดเด่นขึ้นด้วยระบบออโตโฟกัส
หน้าจอ Press Touch Display อารมณ์ก็คล้าย ๆ กับ 3D Touch ของค่าย Apple นั่นเอง
มีรีโมตคอนโทรลมาให้ใช้งานด้วย
สนนราคาค่าตัวของทั้งคู่ ดย Huawei P9 นั้นเปิดตัวที่ 16,990 บาท ส่วน P9 Plus จะมีค่าตัวอยู่ที่ 21,990 บาทครับ
เจ้าแรกในตลาดด้วยบริการเปลี่ยนเครื่องใหม่ หากซ่อมไม่เสร็จภายใน 1 ชั่วโมง
บริการเปลี่ยนเครื่องใหม่หากซ่อมไม่เสร็จภายใน 1 ชั่วโมง เป็นบริการพิเศษสำหรับลูกค้า หัวเว่ย พีเก้า และ พีเก้า พลัส เพื่อยกระดับการให้บริการและสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจจากหัวเว่ย
ลูกค้าของ หัวเว่ย พีเก้า สามารถหมดกังวลกับการรอเครื่องซ่อมเมื่อมีบริการเปลี่ยนเครื่องเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า ที่ต้องใช้เวลาซ่อมเครื่องนานเกินกว่า 1 ชั่วโมง ลูกค้าสามารถใช้บริการได้ที่ศูนย์บริการทั่วประเทศ:
• SYNNEX สำนักงานใหญ่ ลาดพร้าว
• SVOA สำนักงานใหญ่ ราชบูรณะ
• CSC สำนักงานใหญ่ ลุมพินี
• ศูนย์บริการหัวเว่ย นครศรีธรรมราช
• ศูนย์บริการหัวเว่ย เชียงใหม่
บริการเปลี่ยนเครื่องหากซ่อมไม่เสร็จภายใน 1 ชั่วโมง หัวเว่ย จะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ลูกค้าทันที สำหรับลูกค้าของหัวเว่ยในรุ่นอื่นๆ สามารถรับเครื่องสำรองได้ในกรณีที่ต้องใช้เวลาซ่อมเครื่องนานมากกว่า 3 ชั่วโมง
หัวเว่ยให้ความใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อสร้างความแตกต่างและประสบการณ์การใช้งานเพื่อลูกค้าคนสำคัญ ด้วยบริการให้คำปรึกษา และสายด่วน เพื่อให้ลูกค้าสามารถจองบริการได้ล่วงหน้า
แม้เครื่องจะหมดประกันแล้วแต่ลูกค้าสามารถรับส่วนลดอะไหล่รวมถึง หน้าจอ และเมนบอร์ด บริการพิเศษเหล่านี้มีเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า
ประกาศแคมเปญ ออนไลน์ Worldfie War
หัวเว่ย ประกาศเปิดตัวกิจกรรมการตลาดทางสื่อออนไลน์ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ ‘Worldfie War’ เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์และดึงกลุ่มเป้าหมายเข้ามีความใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้น ผ่านการใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ของหัวเว่ย ได้แก่ อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ และอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ที่นำทีมเหล่าดาราเซเลบริตี้ อาทิ ภูผา เตชะณรงค์, โจ้ ช.การช่าง,อายส์ กมลเนตร เรืองศรี, ยิปซี คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ พร้อมช่างภาพมืออาชีพ ที่จะมาถ่ายภาพ “Worldfie” ด้วยการใช้หัวเว่ย พีเก้า ในการเปิดประสบการณ์และมุมมองต่อโลกและการใช้ชีวิตในมุมที่แตกต่างผ่านโซเชียลมีเดีย ติดตามรายละเอียดแคมเปญได้ที่เพจเฟสบุค Huawei Device Thailand
สำหรับรีวิว Huawei P9 สามารถอ่านได้จากที่นี่ครับ http://goo.gl/Kw4Gp5
Hands ON Huawei P9 Plus
นอกจากหัวเว่ย พีเก้า และ พีเก้า พลัส ยังมี พีเก้า ไลท์ ซึ่งเป็นรุ่นแห่งความสำเร็จที่ต่อเนื่องมาจาก พีแปด ไลท์ พีเก้า ไลท์ มาพร้อมกับนวัตกรรมและฮาร์ดแวร์ใหม่ในตัวเครื่องที่บางเบา ทั้งสามรุ่นพร้อมวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ ณ หัวเว่ย แบรนด์ ช็อป และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2559 เป็นต้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 8,990 บาท
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Huawei Thailand ที่เชิญไปร่วมงานนะครับ
สามารถพูดคุยเกี่ยวกับบทความนี้ได้ที่หน้าเว็บบอร์ดเดิมครับ โดยคลิ๊กที่ลิงก์นี้ครับ >>> pdamobiz.com
ถูกใจบทความนี้ 0
You must be logged in to post a comment.