สำหรับแบรนด์ Wiko เองแล้ว อยู่ในสถานะของความคุ้มค่าคุ้มราคา และซีรีส์เล็กของเขาก็คือ Wiko Lenny 3 ที่เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 แล้วต่อยอดความประหยัดและคุ้มค่าสุดๆ กันอีกครั้งในปีนี้ ยังคงมาพร้อมหน้าจอ 5 นิ้ว แบบ HD และดีไซน์มาในแนวเมทัล แบบว่าอารมณ์โลหะ แข็งแกร่ง คงทน และเป็น Android 6.0 เรียบร้อยแล้ว ราคา 2,790 บาท มาชมกันครับว่าแจ่มแค่ไหน
Wiko เป็นแบรนด์ที่มาจากฝรั่งเศส แต่ดูแบรนด์จะหรูแต่ทว่าราคานี่จับต้องได้มาโดยตลอด โดยนโยบายของ Wiko ก็ยังไม่เปลี่ยนไปไหน ยังคงเน้นรุ่นราคาประหยัด และคุ้มค่ามาให้ใช้งานกันโดยตลอด โดยล่าสุด Wiko Lenny 3 ที่เป็นรุ่นต่อยอดจากรุ่นเดิม ก็ออกมาให้ลองเล่นกันแล้วล่ะครับ โดยงานนี้ต้องบอกว่าอาจจะไม่หวือหวาเรื่องสเปคมากนัก แต่คุ้มแน่นอน
ส่วนสเปคเพิ่มเติมดูได้ที่ http://th-th.wikomobile.com/m1259-lenny3 เลยนะครับ
เริ่มจากกล่องกันล่ะครับ เจ้า Lenny 3 นี่ต้องบอกว่ายังคงคอนเซ็ปท์เดิมๆ กล่องขนาดเล็กกระทัดรัด
ส่วนในกล่องก็จัดเต็มทั้งเคส ทั้ง screen protector อื่นๆ ก็เหมือนๆ กับทุกๆ ค่าย แต่ที่ต่างจริงๆ ก็คือ adapter SIM สำหรับแปลงขนาดนี่ล่ะ เขาเข้าใจและเข้าถึงคนใช้งานจริงๆ
ด้วยขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว เรื่องของการใช้งานทั่วๆ ไปผมว่าเพียงพอแล้วล่ะ ความละเอียดยังไม่ใช่ Full HD แต่แค่เพียง HD ก็ทำให้ไม่ไปหนักเรื่องการทำงานของ CPU และ GPU มากนัก ทำให้การใช้งานลื่นๆ ไม่ต้องกังวลเลย ส่วนปุ่มต่างๆ ก็แยกออกมาไม่ได้ไปอยู่บนหน้าจอแสดงผล ก็ทำให้แสดงผลได้เต็มตาล่ะครับ ผมชอบปุ่มที่ออกแบบมาแยกแบบนี้มากกว่า หลายๆ รุ่นที่มีในปัจจุบัน
กล้องด้านหน้า 5 ล้านพิกเซล ก็ถือว่าไม่น้อยแล้วนะครับ สำหรับรุ่นเล็กๆ ราคาเบาๆ แบบนี้
ลองอ่านรีวิว Lenny 2 ดูก่อนได้นะ => http://goo.gl/4QoiN9
CPU ความเร็ว 1.3 GHz ยังเป็น Quad-core ก็คือต่ำสุดในบรรดา CPU ที่มีในตลาดแล้ว ส่วน GPU เป็น Mali 440MP ก็เช่นกัน อย่างไรก็คงต้องลองทดสอบเล่นเกมส์กันดูสักตั้งว่าจะลื่นแค่ไหน ไว้ติดตามในคลิปบน youtube เว็บนะครับ ส่วนด้านหลังกล้องที่ให้มา 8 ล้านพิกเซล ก็เหลือๆ แล้วล่ะครับ
พูดถึงดีไซน์ที่เป็นเมทัล หรือโลหะที่ WIko เค้าเน้นให้กับ Lenny รุ่นที่ 3 นี่ก็ถือว่าน้ำหนักและรูปทรง ความแข็งแรงนี่รู้สึกได้เลย ไม่น่าเชื่อว่าราคาจะไม่ถึง 3,000 บาท
ส่วนของด้านบน เราจะเห็นช่องสำหรับแกะฝาหลังอยู่ตรงนี้นะครับ เผื่อใครหาไม่เจอเหมือนผม ส่วน micro usb port สำหรับชาร์จก็อยู่ด้านบนด้วย และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ซึ่งที่ชาร์จอยู่ด้านบนนี่รู้สึกไม่สะดวกนิดนึงนะ
ส่วนด้านล่างก็มีไม่ไมค์ตัวเดียวเท่านั้น
ความบางของเจ้า Lenny 3 คงไม่ได้บางอะไรมากมาย ส่วนของขอบ จะมีความหนาตรงหน้าจอมาช่วงเสริม ทำให้เครื่องดูหนา และขอบไม่ได้คลุมหน้าจอ ทำให้บางครั้งเวลาหล่นก็อาจจะเสียหายหนักได้เหมือนกัน แต่ไม่หล่นน่ะดีที่สุด แต่อย่างว่าครับ คนเราก็พลาดกันได้ ผมนี่ประจำเลย
อีกด้านก็มีปุ่ม ปิดเปิดเครื่อง และเร่งลดเสียง ตามสไตล์ล่ะ
ขอบด้านข้างนี่ดูแข็งแรงดี ใช้งานมาตั้งนานก็ยังไม่เห็นรอยขีดข่วนสักนิด
ลองถอดฝาหลังดูบ้างครับ
เจ้า Wiko Lenny 3 นี่รองรับ 2 ซิม จะเห็นว่าจะยังมีซิมขนาดปกติ อยู่ slot นึง ซึ่งผมว่าด้วยราคาระดับนี้ กลุ่มคนใช้งานก็อาจจะยังมีซิมขนาดนี้อยู่จำนวนนึงเหมือนกัน คือซื้อมาก็ใช้ได้เลย หรือหากมีซิมขนาดอื่นๆ เช่น nano ก็สามารถเอา adapter ที่แถมมาให้ใช้งานได้ทันทีเช่นกัน ส่วนที่ยังขาดก็คือ การรองรับ 4G ซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย ถึงแม้ว่าจะใช้ 3G ได้ทุกค่าย แต่ก็นะ ยุคนี้ 4G แล้ว ถ้าได้ในราคานี้จะดีมากเลย สงสัยจะต้องรอ Lenny 4 แน่ๆ
มาดูในส่วนของ software ในตัวเครื่อง และโหมดของกล้องกันครับ
สำหรับ Wiko Lenny 3 นั้นมาพร้อมกับ Android 6.0 เรียกว่าการใช้งานนี่ลื่นๆ ไม่ต้องห่วงเลย ส่วนแอพต่างๆ ก็มีให้ใช้าานพร้อม แทบจำไม่ต้องไปดาวโหลดเพิ่ม UI ก็เป็น UI พื้นๆ ของ Wiko นี่ล่ะ ไม่ได้หวือหวาอะไร สวยเรียบๆ และเน้นการใช้งานรวดเร็ว
ส่วนที่ต้องโหลดเพิ่มก็คงต้องใช้งานบน microSD card นะครับ แนะนำให้ใส่เพิ่มเพราะที่ว่างเหลือใช้งานแค่ 4GB โดยประมาณ ยังไงก็ไม่พออยู่แล้ว
ทดสอบประสิทธิภาพกันนิดนึง ก็จะเห็นว่า รองรับการแตะหน้าจอได้ 2 จุดจะว่าไปก็พอ แต่จะให้ดีก็น่าจะ 5 จุดนะ ส่วนคะแนนทดสอบจาก Antutu คะแนนที่ได้ก็ไม่มากไม่น้อยครับ สมราคา
ส่วนของกล้อง ต้องบอกว่าปรับได้เล็กๆ น้อยๆ พอใช้งานได้ การตั้งค่าต่างๆ ก็มีครบนะ
ฟีเจอร์ก็คงมีให้เลือกไม่มากนัก การใช้งานอย่าง HDR ก็ต้งถือค้างไว้สักแป๊ปนึง ก็ไม่นานมาก โหมดหน้าสวย ก็มีให้เลือก 3 ระดับ หรือจะปรับด้วยตัวเองก็ได้
กล้องด้านหน้ามีให้เลือก 3 โหมด และสามารถปรับรายละเอียดหน้าสวยเองได้เช่นกัน อันนี้ก็แล้วแต่เลย ว่าจะเปิดโหมดหรือไม่นะครับ
ที่เหลือมาดูภาพถ่ายจริงๆ จาก Wiko Lenny 3 ก็แล้วกันนะ
คลิ้กที่ภาพเพื่อดูขนาดเต็มได้นะครับ แต่ว่าระวังเน็ทหมดล่ะ
ภาพในที่มืดครับ กลางดึกก็ยังเห็นรายละเอียดได้ครบ ถ้ามีแสงในปริมาณพอสมควร
ภาพวัตถุ ก็ถือว่าเก็บรายละเอียดได้ในระดับนึงล่ะนะ
มาดูภาพธรรมชาติกันบ้างดีกว่า
ภาพทั่วๆ ไป วิว บรรยากาศ ต้นไม้ ดอกไม้
พลีชีพครับอันนี้ โหมดเค้าใช้ได้อยู่นะ ตาโตเชียว
คงไม่ต้องบอกว่านี่ก็อานุภาพของกล้องด้านหน้า เก็บได้กว้างพอตัวเลยทีเดียว
ภาพอาหารในที่แสงไฟนีออนร้านอาหารทั่วๆ ไป ดูสีก็พอใช้ได้ แต่อาจจะออกเหลืองๆ ส้มๆ หน่อย
ภาพอาหารตอนกลางวันมีทั้งแสงภายนอกและแสงไฟ สรุปกันสักนิด
สำหรับเครื่องในราคา 2,790 บาท ในระดับนี้ผมก็ถือว่าคุ้มแล้ว Wiko Lenny 3 ผมว่าสอบผ่านนะ ด้วยตัวเครื่องที่ดูอึด ถึกทน จับถนัดมือ ขนาดหน้าจอใหญ่ แสดงผลได้ดีในระดับนึง ความละเอียดไม่ถึง FullHD แต่ก็พอกับการใช้งานแล้วล่ะครับ ส่วนเรื่องการใช้งานทั่วๆ ไปก็ครบถ้วน ใช้งานลื่นดี อาจจะด้วย Android 6.0 และ Wiko เองก็ไม่ได้มี UI หนักๆ ครอบทับไว้ ก็ทำให้ตัวเครื่องในระดับนี้รองรับการใช้งานได้สบายๆ กล้องก็ให้ฟีเจอร์ต่างๆ มาครบพร้อมใช้งาน ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
ส่วนที่ติดอยู่นิดๆ หน่อยๆ ก็ตรงสเปคพื้นที่ภายในนี่ล่ะที่อาจจะไม่เพียงพอกับการใช้งาน กับตัวกล้อง ที่เรียกว่าภาพความละเอียดสูงก็จริงแต่คุณภาพก็ต้องบอกว่ายังไม่น่าพอใจสักเท่าไหร่นัก แต่อย่างว่าล่ะครับ ราคาไม่ถึง 3,000 บาท ได้ระดับนี้ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อแล้ว ซึ่งเครื่องก็วางขายมาได้สักพักแล้วนะครับ ใครสนใจก็ลองไปเล่นหรือทดสอบที่หน้าร้านค้าต่างๆ กันก่อน ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ
ขอบคุณ Wiko Mobile Thailand ที่ให้ยืมเครื่องทดสอบ
ถูกใจบทความนี้ 15
You must be logged in to post a comment.