แกะกล่อง & รีวิว ASUS Zenfone Go TV & ASUS Folio Cover ‏!!!

รับชมแกะกล่องและพรีวิว http://goo.gl/dD1vM4 ในฉบับวีดีโอไปแล้ว คราวนี้มารับชมกันต่อกับ Full Review ครับ สำหรับจุดเด่นจุดขายของรุ่นนี้ก็อย่างที่รู้ ๆ กัน เพราะชื่อนั้นก็บ่งบอกอย่างชัดเจนอยู่แล้ว แต่นอกจากการรับชมดิจิตอลทีวีอันเป็นจุดขายหลัก ในส่วนของฟีเจอร์และความสามารถอื่น ๆ ของ ASUS ZenFone Go TV ก็มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยครับ แต่จะมีอะไรบ้างต้องมาติดตามอ่านกันครับ

Join PDAMobiz on Telegram

ขอขอบคุณ ASUS Thailand สำหรับเครื่องทดสอบและใช้ในการเขียนบทความนี้ครับ

สเปคเบื้องต้นของ ASUS ZenFone Go TV

• หน่วยประมวลผล Qualcomm MSM8928 Snapdragon 400 Quad-core 1.6 GHz Cortex-A
• หน่วยประมวลผลกราฟฟิค Adreno 306 / 405
• หน่วยความจำภายใน 32GB และรองรับหน่วยความจำภายนอก MicroSD card ได้สูงสุด 64 GB
• แรม : 2 GB
• จอแสดงผล : ชนิด IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD 1280 × 720 พิกเซล กระจก Corning® Gorilla® Glass 3
• การเชื่อมต่อ รองรับ 2G, 3G, 4G LTE ทุกคลื่นความถี่ในไทย
• ชิปเซ็ตดิจิตอลทีวี (DTV) SONY IC (SMT-EW100 ) รองรับคลื่นหลากหลายแบนด์ โดยในไทยจะใช้คลื่น DVB-T2
• รองรับการใช้งานในระบบ 2 ซิมการ์ด (Micro SIM)
• การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n , Bluetooth V. 4.0
• กล้องหลักด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล + dual-LED (dual tone) Flash
• กล้องด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
• Android 5.1.1
• ขนาดตัวเครื่อง 151 x 76.9 x 10.7 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก 160 กรัม
• แบตเตอรี่ 3100 mAh Prismatic
• สีที่มีวางจำหน่าย Glacier Gray/Sheer Gold/Silver Blue

ราคาวางจำหน่าย 5,990 บาท

ปล. รูปในบทความสามารถคลิ๊กที่รูปเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ได้ครับ

Packaging & Accessories

ตัวกล่องแพกเกจมาในขนาดกะทัดรัดและยังคงใช้ดีไซน์เดิม ๆ ไม่แตกต่างไปจาก Zenfone ในรุ่นอื่น ๆ สักเท่าไหร่

แง้มกล้องออกมาดูว่ามีอะไรให้มาบ้าง

สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มาจะประกอบไปด้วย

1. คู่มือการใช้งานอย่างย่อและใบรับประกันสินค้า

2. อแดปเตอร์ชาร์จไฟชนิดขากลม ให้ Output มาที่ 5V-1A

3. แบตเตอรี่ความจุ 3100 mAh

4. หูฟังสมอลทอล์ค แบบอินเอียร์ และมีจุกยางมาให้อีก 2 ขนาด

5. เสาอากาศสำหรับรับสัญญาณดิจิตอลทีวี

Design & Hardweare

ZenFone Go TV งานออกแบบและดีไซน์แทบไม่ต่างไปจากตระกูล Zenfone 2, Zenfone Go เรียกว่าถอดพิมพ์ออกมาแบบเดิม ที่เพิ่มเติมก็คงจะมีในเรื่องของตำแหน่งและดีไซน์ของตัวแฟลชเท่านั้นเอง

ในส่วนของ Build Quality ตัววัสดุและงานประกอบอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากครับ แม้จะไม่ได้เป็น Unibody แต่เรื่องความแน่นหนาและงานประกอบถือว่าสอบผ่านตามมาตรฐานของสมาร์ทในระดับราคานี้

มาพูดถึงการจับถือพกพากันต่อ ZenFone Go TV ถึงจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว แต่ด้วยดีไซน์ด้านหลังที่มีความโค้งมนสอดรับเข้ากับสรีระของฝ่ามือได้เป็นอย่างดี จึงช่วยเพิ่มความกระชับในการจับถือขึ้นมาอีกนิด ที่จะติก็คือการวางปุ่ม Power ไว้ด้านบนทำให้กดลำบากไปสักนิดครับ

จากนี้มาสำรวจภาพรวมของตัว Hardware กันต่อครับ

ZenFone Go TV มาพร้อมกับจอแสดงผล IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD 1280×720 กระจกกันรอย Corning® Gorilla® Glass 3 และมีความสว่างของหน้าจอที่สูงถึง 450nits และด้วยความที่ชูจุดขายในเรื่องดิจิตอลทีวี ฉะนั้นจึงต้องมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่เพื่อให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานด้านการรับชมดิจิตอลทีวีโดยเฉพาะนั่นเองครับ

ด้านหน้าส่วนบน ไฟแจ้งเตือน LED Notification จะอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ ถัดมาคือลำโพงสนทนาและกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สุดท้ายจะเป็นที่อยู่ของชุดเซ็นเซอร์ Accelerometer, Proximity Sensor

สำหรับด้านล่างสามปุ่มนำทางแบบ capacitive button แต่ไม่มีไฟท์แบล็คไลท์มาให้ใช้เหมือนเดิมครับ

ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ไมค์ตัดเสียงรบกวนและปุ่ม Power ด้านล่างเป็นที่อยู่ของพอร์ต Micro USB และไมค์สนทนา

ด้านขวามือจะมีร่องบากที่ใช้ในการถอดฝาหลังของตัวเครื่อง ส่วนด้านซ้ายมือจะเรียบ ๆ โล่ง ๆ ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ

ด้านหลังออกแบบฝาหลังในสไตล์ brushed metal ที่ให้อารมณ์เหมือนโลหะ แต่ตัววัสดุจริงๆ จะเป็นโพลีคาร์บอเนตหรือพลาสติกนั่นแหล่ะ ส่วนการจัดวางเลท์เอาท์ยังคงเหมือนเดิมคือนำปุ่มปรับระดับเสียงมาไว้ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง สำหรับตัวกล้องหลักด้านหลังจะมาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซลและไฟแฟลชแบบ Dual-color Real Tone flash พร้อมขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี PIxelMaseter ที่เป็นจุดขายของทางค่าย ASUS

ASUS ZenFone Go TV ถอดฝาหลัง เปลี่ยนแบตเตอรี่ได้

ในส่วนของการเชื่อมต่อ รองรับการใช้งาน 4G ทั้งสองซิมการ์ดในแบบ Dual Standby แต่แอคทีฟใช้งาน Data 4G ได้ทีละซิมนะครับ ตัวเครื่องรองรับซิมชนิด Micro SIM ทั้งซิม 1-2 ส่วนช่องใส่ MicroSD จะอยู่ติดกับช่องซิม 2 โดยรองรับความจุสูงสุดที่ 64GB

สำหรับการสำรวจด้าน Hardware ภายนอกก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ครับ

มาต่อกันที่เคส ZenFone Go View Folio Cover ‏(ZB551KL)

ZenFone Go View Folio Cover มีขนาด 153.5 x 81 x 15.5 มม. และหนัก 50 กรัม มี 2 สีให้เลือกใช้งานคือสีดำและสีฟ้า

ตัววัสดุจะเป็นหนัง PU (Polyurethane) และโพลีคาร์บอเนตหรือพลาสติกนั่นเอง

ตัวเคสเก็บรายละเอียดได้เรียบร้อย เมื่อส่วมใสแล้วแน่นอนว่ามันต้องหนาขึ้นแต่ก็แลกมาด้วยการปกป้องได้อย่างเต็มรูปแบบ

รองรับการฟีเจอร์ Cover View ที่สามารถปรับแต่งการแสดงผลในหน้าต่างของตัว Cover ได้อย่างยืดหยุ่น

สำหรับเคส ZenFone Go View Folio Cover มีวางจำหน่ายในไทยแล้วนะครับ โดยมีสนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 499 บาท และมี 2 สีให้เลือกใช้งานคือ สีฟ้าและสีดำ

Software & Featere

ZenFone Go TV เปิดตัวมาพร้อมกับ Android 5.1.1 (Lollipop) และคาดว่าน่าจะได้อัพเดตไปยัง 6.0 ในอนาคตครับ

ในส่วนของ Interface จะเป็น ASUS ZenUI 2.0 ที่คนใช้งานสมาร์ทโฟนค่ายนี้น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นของทางค่าย ASUS ที่บันเดิลมาให้ใช้งานอย่างหลากหลาย เช่น What’s Next, ZenLink, ZenMotion, ASUS Splendid, Kids Mode, SnapView, One Hand Mode, Trend Micro™ Security, Power saving mode, PhotoCollage, PhotoEffects, MiniMovie, Google Apps, ASUS Sync, File Manager, Quick Memo, Themes, ZenCircle

แต่คงไม่ลงรายละเอีดเชิงลึกนะครับ เพราะรีวิวในฝั่งของ Softweare มาหลายรอบแล้ว สามารถอ่านบทความเก่า ๆ ได้จากที่นี่ครับ http://goo.gl/9gXqM3

สำหรับ Cover View ปรับตั้งค่าการแสดงผลในหน้าต่างได้ค่อนข้างยืดหยุ่นดีมาก ๆ เลยครับ ทั้งการแสดงผลในส่วนของการแจ้งเตือน, แอพพลิเคชั่น, รวมไปถึงการทำงานร่วมกับ Touch Gesture

มาพูดถึงจุดขายหลักของ ZenFone Go TV กันต่อ ซึ่งก็ตามชื่อรุ่นเลยครับ นั่นก็คือการรับชมดิจิตอลทีวีนั่นเองสำหรับการรับชมดิจิติตอลทีวีจะไม่ค่าใช้จ่าย และไม่ต้องเชื่อมต่อเน็ตแต่อย่างใด เพราะตัว ZenFone Go TV นั้นมีชิปดิจิตอลทีวีภายในตัวอยู่แล้ว เพียงแต่ก่อนการรับชมต้องเชื่อมต่อสายสัญญาณก่อนเท่านั้นเอง
Solo TV เป็นแอพที่ใช้ในการรับชมดิจิตอลทีวี และมีการบันเดิลมาให้อยู่แล้วภายในเครื่อง

สำหรับประเทศไทยจะรองรับคลื่น DVB-T2 ในการใช้งานครั้งแรกต้องทำการสแกนช่องสัญญาณกันก่อน โดยการสแกนนั้นใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ครับ
ฟีเจอร์ในส่วนของการคอนโทรล จะมีความคล้ายคลึงกับแอพยอดนิยมอย่าง MX Player ที่ใช้การ Swipe บนหน้าจอ เพื่อปรับความสว่างหน้าจอ ปรับระดับเสียง และการเลื่อนไปยังชาแนลต่าง ๆรับชมคลิปพรีวิวได้จากด้านล่างครับ

ทดสอบความอึดของแบตเตอรี่เมื่อรับชมดิจิตอลทีวีอย่างต่อเนื่อง

ในการทดสอบนี้ผมปิดการเชื่อมต่อต่าง ๆ เพื่อไม่ให้มีการทำงานอยู่เบื้องหลัง และปรับความสว่างไว้ในระดับสูงสุด

เล่นต่อเนื่องจากช่วงเวลา 12.00 น. มาถึงเวลา 14.30 น. แบตเตอรี่เหลือพลังงานรอยู่ที่ 25%

15.00 น. แบตเตอรี่เหลือพลังงานรอยู่ที่ 10% สรุปรับชมในแบบปรับความสว่างและเสียงลำโพงสูงสุดได้ต่อเนื่องที่ 3 ชั่วโมงเต็ม ๆ ครับ หากปรับความสว่างลงมาครึ่งหนึ่งก็น่าจะยืดอายุแบตเตอรี่ได้ขึ้นมาอีกนิดครับ

Performance

สำหรับผลคะแนนอยู่ในเกณฑ์ปานกลางครับ เพราะตัวชิปเซ็ตเป็นรุ่นที่เน้นประหยัดพลังงาน จึงไม่ได้แรงอะไรมากนัก สำหรับการใช้งานจริง ในภาพรวม ๆ หากเป็นการใช้งานทั่ว ๆ ไปก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันช้าจนอึดอัดแต่อย่างใด อาจจะมีหน่วง ๆ บ้างในบางจังหวะ ส่วนหนึ่งก็คงต้องโทษ ROM และแอพบันเดิ้ลที่ค่าย ASUS อัดมาจนล้นเกินไปหน่อยครับ

Camera & Sample

กล้องหลักมาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล + LED Flash สำหรับ User interface หรือหน้าเมนูกล้องและรวมไปถึงโหมดการถ่ายภาพบน ZenFone Go TV ยังใช้รูปแบบเดิม ๆ เหมือนที่ผ่านมาครับ สามารถอ่านบทความเก่า ๆ ได้ที่นี่ http://goo.gl/Ub75cI
จากนี้มาดูรูปถ่ายจาก ZenFone Go TV กันได้เลยครับ

คลิ๊กที่รูปเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ได้ครับ

มาลองทดสอบ HDR mode กันบ้าง

Normal mode

HDR mode

กล้องหน้า

กล้องหน้ามีโหมดบิวตี้มาให้ใช้งาน 10 ระดับและสามารถ Custom ได้อีกด้วย

สรุป ZenFone Go TV

ZenFone Go TV ไม่ได้โปรโมตหรือชูจุดขายหลักเรื่องกล้องเป็นหลัก คุณภาพโดยรวมทำผลงานออกมาได้ค่อนข้างดีครับ ทั้งกล้องหน้าและหลัง แต่อาจจะมีเรื่องของการหลุดโฟกัสและอาการหน่วง ๆ ในการบันทึกไฟล์อยู่บ้างเล็กน้อย

สรุป ZenFone Go TV

ข้อดี

1. ดิจิตอลทีวีที่มีคุณภาพสัญญาณดีมาก ๆ
2. จอแสดงผลสวย สว่างสดใส
3. มีฟีเจอร์และแอพพลิเคชั่นของทางค่ายให้ใช้งานอย่างหลากหลาย
4. แบตเตอรี่ค่อนข้ารงอึดในการใช้งานทั่ว ๆ ไป รวมถึงการรับชมดิจิตอลทีวีอย่างต่อเนื่อง

สิ่งที่ต้องพิจารณา

1. แอพบัลเดิ้ลเยอะเกินไป และ Firmware ยังมีอาการหน่วง ๆ อยู่บ้าง
2. เสียงลำโพงเบาไปนิด
3. ปุ่ม Power อยู่ด้านบน กดลำบากสำหรับคนมือเล็ก ๆ

ก็คงจะฝากไว้แต่เพียงเท่านี้ สำหรับรีวิว ZenFone Go TV แล้วพบกันใหม่ในรีวิวทดสอบด้านเอนเตอร์เทนครับ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ ^^

สามารถพูดคุยเกี่ยวกับบทความนี้ได้ที่หน้าเว็บบอร์ดเดิมครับ โดยคลิ๊กที่ลิงก์นี้ครับ >>> http://goo.gl/cxZ12b