ZTE BLADE V7 LITE เปิดตัวมาด้วยราคาเพียง 4,990 บาท แต่ได้ฟีเจอร์มาแบบครบครัน ทั้งบอดี้โลหะและสเปคในภาพรวม แถมยังมีสแกนลายนิ้วมือมาให้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งในตลาด Mid – range ณ ตอนนี้มีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่มีสแกนลายนิ้วมือมาให้ใช้งานในราคาไม่ถึงห้าพันบาทครับ แต่ทั้งนี้ BLADE V7 LITE ไม่ได้มีดีแค่ภายนอกหรือทางด้าน Hardware เพียงอย่างเดียวนะครับ ในฝั่งของฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็อัดแน่นและน่าสนใจไม่แพ้กัน แต่จะมีอะไรบ้างต้องมาติดตามอ่านกันครับ ……
สเปคเบื้องต้นของ ZTE BLADE V7 LITE
● หน่วยประมวลผล Mediatek MT6735P Quad-core 1.0 GHz Cortex-A53
● หน่วยประมวลผลกราฟฟิค Mali-T720MP2
● หน่วยความจำภายใน 16GB และรองรับหน่วยความจำภายนอก MicroSD card ได้สูงสุด 256 GB
● แรม : 2 GB
● จอแสดงผล : ชนิด IPS ขนาด 5.0 นิ้ว ความละเอียด HD 1280 × 720 พิกเซล
● การเชื่อมต่อ รองรับ 2G, 3G, 4G LTE ทุกคลื่นความถี่ในไทย
● รองรับการใช้งานในระบบ 2 ซิมการ์ด ในรูปแบบไฮบริดซิม (Micro SIM + Nano + Micro SD Card)
● การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n , Bluetooth V. 4.0
● กล้องหลักด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล + Flash
● กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล + Flash
● Android OS, v6.0 (Marshmallow)
● ขนาดตัวเครื่อง 143.8 x 70.2 x 7.9 มิลลิเมตร
● น้ำหนัก 135 กรัม
● แบตเตอรี่ 2500 mAh Prismatic
● สีที่มีวางจำหน่าย Silver, Gold
ราคาวางจำหน่าย 4,990 บาท
ปล. รูปในบทความสามารถคลิ๊กที่รูปเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ได้ครับ
Packaging & Accessories
ตัวกล่องแพกเกจจะมาในโทนสีขาวสะอาดตาและมีขนาดกะทัดลัด
อุปกรณ์ภายในกล่องของ ZTE BLADE V7 LITE จะประกอบไปด้วย
1. คู่มือการใช้งานอย่างย่อ + เข็มจิ้มเปิดถาดซิม + ฟิลม์กันรอย
2. ชุดหูฟังสมอลทอร์คแบบอินเอียร์
3. อแดปเตอร์ชาร์จไฟแบบขาแบนให้ Out Put มาที่ 1.0 A + สาย Micro USB
Design & Hardweare
ZTE BLADE V7 LITE มาพร้อมงานออกแบบในสไตล์ “เมทัล ยูนิบอดี้” วัสดุหลักจะเป็นโลหะ “อะลูมิเนียม” ที่นอกจากจะส่งผลให้ดูพรีเมี่ยมแล้ว ยังมีข้อดีคือได้ทั้งความแข็งแรงทนทานและมีน้ำหนักเบาอีกด้วย ตัวเครื่องด้านหน้าจะเป็นกระจกโค้ง 2.5D ตามสมัยนิยม และ cutting edge ขอบข้างรอบตัวเครื่องให้ดูแวววาวสวยงามขึ้นทั้งขอบบนและล่าง ส่วนด้านหลังตามที่เกริ่นไว้เป็นโลหะที่ให้ผิวสัมผัสแบบด้าน จึงไม่เก็บรอยนิ้วมือและทำความสะอาดได้โดยง่าย
ในส่วนของ Build Quality ตัววัสดุและงานประกอบอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากครับ เท่าที่ได้ลองใช้งานมาสักพักใหญ่ ๆ ยังไม่พบเจอ defect ในส่วนของงานประกอบแต่อย่างใด
มาพูดถึง Handle การจับถือพกพากันต่อครับ ตัว BLADE V7 LITE มีขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว ภาพรวมของตัวเครื่องจึงไม่ได้มีขนาดใหญ่มากเหมือนพวกจอ 5.5 นิ้ว และถึงแม้งานออกแบบดีไซน์จะไม่ถึงกับโค้งมนเข้ากับสรีระของฝ่ามือมากนัก แต่ในการใช้งานทั่ว ๆ ไป ถือว่าไม่อึดอัดครับ
จากนี้มาสำรวจภาพรวมของตัว Hardware กันต่อครับ
มาพร้อมจอแสดงผล IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด HD 720P การจัดวางเลย์เอาในส่วนหน้าด้านบน ไล่จากซ้ายจะเป็นที่อยู่ของแฟลชกล้องหน้า, ช่องลำโพงสนทนา, ไฟแจ้งเตือน LED Notification, กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และชุดเซ็นเซอร์ Accelerometer, Proximity Sensor
สำหรับสามปุ่มนำทางจะเป็นแบบ Capacitive button ที่มาพร้อมดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของทางค่าย ZTE ตัวปุ่มมีไฟแบลค์ไลค์มาให้ใช้งานและสามารถกำหนดปุ่ม Back และปุ่ม Menu ได้ตามความถนัดของผู้ใช้งาน
ด้านบนของตัวเครื่องจะมีเพียงช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. เท่านั้น ส่วนด้านล่างจะมีพอร์ต Micro USB และไมค์สนทนา
ด้านซ้ายมือของตัวเครื่องจะมีเพียง – ปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง
ส่วนด้านขวามือของตัวเครื่องจะเป็นที่อยู่ของช่องถาดซิมการ์ดและ Micro SD Card
สำหรับตัวถาดซิมจะเป็นแบบไฮบริด ที่รองรับการใช้งานร่วมกับหน่วยความจำภายนอกครับ คือถ้าต้องการใช้งาน 2 ซิมจะไม่สามารถใช้งาน Micro SD Card ได้นั่นเอง
กล้องหลังมาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล + ไฟแฟลช 1 ดวง ถัดลงมาจากเลนส์กล้องก็คือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่พกฟีเจอร์มาแบบอัดแน่น
สุดท้ายคือลำโพงหลักของตัวเครื่อง ที่เห็นช่องลำโพงซ้าย- ขวา แ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ลำโพงคู่สเตอริโอแต่อย่างใดนะครับ ตรงนี้เป็นแค่การออกแบบเท่านั้น โดยตัวเลำโพงจะเป็นแบบโมโนที่ให้เสียงออกทางช่องซ้ายมือเพียงช่องเดียวครับ
Software & Featere
ZTE BLADE V7 LITE เปิดตัวมาพร้อมกับ Android 6.0 (Marshmallow ) ในส่วนของ Interface จะเป็น launcher ที่ค่าย ZTE พัฒนาในชื่อ MiFavor UI 3.5 ซึ่งมีสไตล์ในลักษณะ iOS คือไม่มีหน้า AppDrawer เหมือน launcher ทั่ว ๆ ไปนั่นเอง
ฟีเจอร์ Gesture & Motion ตามสไตล์รอมจีน ความสามารถรวม ๆ ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากแบรนด์ ร่วมสัญชาติสักเท่าไหร่
เช่น Air gestures จะเป็นการกดปุ่มปรับระดังเสียงค้างไว้ แล้วขยับมือวาดรูปตัวอักษรในอากาศเพื่อเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นที่กำหนดไว้ ส่วน Black screen gestures ก็คือในขณะที่หน้าจอดับ เราสามารถวาดตัวอักษรบนหน้าเพื่อเรียกรันแอพพลิเคชั่นที่ได้กำหนดไว้เป็นต้น
fingerprint ถือว่าเป็นจุดขายอีกหนึ่งอย่างของค่าย ZTE เพราะใส่ฟีเจอร์มาให้ใช้งานแบบจัดเต็ม โดยไม่ได้เป็นการใช้งานเพื่อปลดล็อคเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถใช้ในการล็อกแอพ – เปิดแอพ, หรือคอนโทรลเครื่องเล่นเพลง, เป็นชัตเตอร์กล้อง, หรือการจับภาพหน้าจอได้เป็นต้น
Multimedia
FM Radio ที่มีให้ใช้งานบน ZTE BLADE V7 LITE จะเป็นแบบทศนิยม 1 จุด ภาครับสัญญาณอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง และสามารถบันทึกไว้ฟังในแบบออฟไลน์ได้ครับ
Music Player อินเตอร์เฟซเรียบง่ายสะอาดตา ความสามารถในการเล่นเพลงแบบเบสิคมีมาให้อย่างครบถ้วน เพียงแต่ไม่มี EQ มาให้ใช้งานครับ
VDO Player มีความสามารถคล้ายคลึงกับแอพยอดนิยมอย่าง MX Player ที่สามารถ Swipe เพื่อปรับระดับความสว่างและระดับเสียง รวมไปถึงสามารถเล่นเป็นหน้าต่าง Pop up ได้อีกด้วย
Performance
สำหรับผลคะแนนอยู่ในเกณฑ์ปรกติ เรียกว่าไม่แตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ ที่ใช้ชิปเซ็ตตัวเดียวกันสักเท่าไหร่ แต่บางผลทดสอบนั้นจะแตกต่างกันออกไปบ้าง โดยผลคะแนนบางส่วนจะขึ้นอยู่กับความละเอียดของหน้าจอด้วยครับ ซึ่งเจ้า ZTE BLADE V7 LITE นั้นมาพร้อมความละเอียด HD เท่านั้น จึงทำให้การใช้งานทั่ว ๆ ไปไม่หน่วง หรือรู้สึกว่ามันช้าจนอึดอัดแต่อย่างใด
Camera & Sample
กล้องหลักมาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล + LED Flash สำหรับ User interface หรือหน้าเมนูกล้องบน ZTE BLADE V7 LITE แต่มีจุดเด่นตรงที่มีโหมดโปรมาให้ใช้งาน และสามารถเรียกใช้งานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
โหมดการถ่ายภาพ หลัก ๆ จะมีมาให้ใช้งานทั้งหมด 5 โหมด การปรับตั้งค่าในในการถ่ายเช่น ISO , White Balance , EV และ Shutter Speed จะอยู่ในส่วนของโหมดโปรครับ การปรับตั้งค่ารองลงมาก็จะเป็นพวกฟีเจอร์ที่ช่วนอำนวยความสะดวกในการถ่ายภาพ เช่นถ่ายด้วยคำสั่งเสียง, ระบบตรวจจับใบหน้า, หรือการทัชเพื่อลั่นชัตเตอร์เป็นต้น
จากนี้มาดูรูปถ่ายจาก ZTE BLADE V7 LITE กันได้เลยครับ
คลิ๊กที่รูปเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ได้ครับ
ทดสอบในที่แสงน้อยและลองใช้งานแบบเปิดแฟลช
Normal mode
HDR mode
Normal mode
HDR mode
กล้องหน้า
กล้องหน้ามีโหมดบิวตี้มาให้ใช้งานในแบบสเกล 5 ระดับ และตัว Software ในโหมดบิวตี้ก็ปรับแต่งออกมาได้ค่อนข้างดีมาก คือไม่เวอร์ไม่ดูหลอกตาจนเกินไป และอีกหนึ่งจุดเด่นก็คือมีไฟแฟลชกล้องหน้าและรองรับการเซลฟี่แบบพาโนราม่าเพื่อเก็บภาพหมู่คณะ หรือวิวฉากหลังได้อย่างครบถ้วน
สรุปกล้อง ZTE BLADE V7 LITE
กล้องของ ZTE BLADE V7 LITE ให้คุณภาพดีมากทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคาค่าตัวและคู่แข่งในรุ่นที่มีความใกล้เคียงกัน ในภาพรวม คุณภาพของเนื้อไฟล์อยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ ทั้งสีสันและความคม รวมไปถึงตัว Software ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน แต่ก็อย่างที่บอกนะครับ คุณภาพกล้องนั้นดี ในช่วงราคาของมัน คงเอาไปเปรีบบเทียบกับพวกตัว Top หรือรุ่นเรือธงไม่ได้ แต่ถ้าเป็นการใช้งานทั่ว ๆ ไป ZTE BLADE V7 LITE สามารถสอบผ่านได้อย่างสบาย ๆ ครับ
สรุป ZTE BLADE V7 LITE
ข้อดี
1. ดีไซน์ วัสดุและงานประกอบ และฟีเจอร์จัดเต็มในราคาจับต้องได้
2. คุณภาพกล้องอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ ทั้งกล้องหน้าและหลัง
3. เป็นรุ่นครึ่งหมื่นที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ใช้งาน
4. มาพร้อม Android 6.0 (Marshmallow)
สิ่งที่ต้องพิจารณา
1. ถาดซิมเป็นแบบไฮบริด
2. เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบางจังหวะก็ยังมีอาการแล็คอยู่บ้าง
ก็คงจะฝากไว้แต่เพียงเท่านี้ สำหรับรีวิว ZTE BLADE V7 LITE แล้วพบกันใหม่ในรีวิวทดสอบด้านเอนเตอร์เทนครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ ^^
You must be logged in to post a comment.