พรีวิว Hands On แรกจับลองสัมผัส ASUS ZenFone 3 Deluxe รุ่น Top จัดหนักทั้งสเปคและราคาจากงานเปิดตัวในไทย !!!

ASUS Zenfone 3_2

 ASUS Zen 3 Series เปิดตัวในไทยเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา หรือก็คือเมื่อวานนั่นเอง โดยในงานนี้ทางฝั่งสมาร์ทโฟนที่ได้รับความสนใจและเรียกเสียงฮือฮาจากผู้เข้าร่วมงานได้มากที่สุดก็คือ  ZenFone 3 Deluxe ที่เป็นแฟลกชิปเรือธงตัว Top สุดของซีรีย์ Zenfone 3  ที่นอกจากจะมาพร้อมสเปคจัดหนักจัดเต็มแล้ว ในเรื่องราคาเปิดตัวก็ร้อนแรงไม่แพ้กันเลยครับ  

 

สเปคเบื้องต้นของ ZenFone 3 Deluxe

2016-08-03_092910

 

ASUS Zenfone 3_2

ASUS Zenfone 3_1

ZenFone 3 Deluxe มาพร้อมดีไซน์  Full aluminum alloy unibody with “invisible antenna” ที่เป็นโลหะทั้งชิ้น มีความโดดเด่นตรงไร้รอยต่อและซ่อนเสารับสัญญาณไว้อย่างแนบเนียน โดยปรกติเครื่องที่ใช้บอดี้เป็นโลหะมักจะต้องมีเส้นสายเสาอากาศเพื่อช่วยแก้ปัญหาเรื่องสัญญาณดรอป แต่ ZenFone 3 Deluxe ออกแบบได้อย่างดีเยี่ยมมาก ๆ เลยครับ

ตัววัสดุหลักเลือกใช้วัสดุอลูมิเนียมเกรดพรีเมี่ยม แบบที่ใช้ในอุตสาหกรรมอากาศยาน ตัดขอบด้วยไดมอนด์คัดและขัดผิวด้วยกระบวนขัดละเอียดพิเศษ จนทำให้ได้ผิวที่เรียบเนีนสวยงาม และมาพร้อมขอบจอที่แคบ จึงทำให้ตัวเครื่องมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แม้จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.7 นิ้วก็ตาม 

สรุปดีไซน์ในภาพรวมเป็นการฉีกออกมาจากดีไซน์เดิม ๆ ของ Zenfone 2 ให้อารมณ์ที่พรีเมียม หรูหราแถมยังดูหนักแน่นแข็งแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยครับ

 

ASUS Zenfone 3_9

ASUS Zenfone 3_10

หน้าจอ Full HD (1920 x 1080) Super AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว ที่ให้คอนทราสต์ถึง 3,000,000:1 และตัวกระจกเลือกเสริมความแข็งแกร่งด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 4 สำหรับกล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ให้มุมมองกว้าง 84 องศา

 

ASUS Zenfone 3_6

ASUS Zenfone 3_8

การออกแบบจัดวางเลย์เอาท์ด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่อง โดยด้านบนจะมีเพียงช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ส่วนด้านล่างจะประกอบไปด้วย ไมค์สนทนาและลำโพงหลักของตัวเครื่อง

ZenFone 3 Deluxe ZenFone 3 Deluxe มีลำโพงคุณภาพเยี่ยมที่มีโครงสร้างใช้แม่เหล็ก 5 ชิ้น ทำงานร่วมกับแอมพลิฟายเออร์อัจฉริยะที่ผลิตโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงอย่าง NXP ทำให้เสียงดังและชัด และยังป้องกันไม่ให้ลำโพงเสื่อมสภาพอีกด้วย เมื่อเชื่อมต่อกับช่องเสียบหูฟัง สามารถรับฟังเสียงมาตรฐาน Hi-Res Audio (HRA) และความคมชัดของเสียงมากถึง 24-bit/192-kHz เมื่อใช้คู่กับหูฟังที่ได้รับการรับรองโดย HRA

 

ASUS Zenfone 3_5

ASUS Zenfone 3_7

ปุ่มเพิ่มลดระดับเสียงและปุ่ม Power จะอยู่ฝั่งขวามือของตัวเครื่อง สำหรับด้านซ้านมือจะเป็นที่อยู่ของช่องใส่ซิมการ์ด + Micro SD Card และด้านบนถัดจากช่องใส่ซิมจะเป็นไมค์ตัดเสียงรบกวน

 

ASUS Zenfone 3_4

กล้องหลักด้านหลังมาพร้อมความละเอียด 23 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0,  Dual-LED real tone flash เซ็นเซอร์ใหม่ล่าสุด Sony Exmor RS IMX318 พร้อมฟีเจอร์อัดแน่น เช่นกันสั่น 4 แกน และ EIS สำหรับการถ่ายวีดีโอ, เลเซอร์โฟกัส, ระบบโฟกัสอัตโนมัติ ASUS TriTech, และ phase detection พร้อมขับเคลื่อนด้วยซอฟท์แวร์ ASUS PixelMaster 3.0  สำหรับตัวกระจกเลนส์จะเป็นแซฟไฟร์ที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน

ถัดจากกล้องก็คือเซ็นเซฮร์สแกนลายนิ้วมือที่มาในรูปทรงรี ตัวเซ็นเซอร์นอกจากสแกนได้อย่างรวดเร็ว ยังรองรับฟีเจอร์อื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่นใช้เป็นปุ่มชัตเตอร์หรือใช้ในการรับสายเรียกเข้า หรือเปิดแอพเป็นต้น

 

 

ASUS Zenfone 3_3

มาพร้อมกับ Android OS, v6.0.1 (Marshmallow) ครอบทับด้วย ZenUI 3.0

 

ASUS Zenfone 3_11

ASUS Zenfone 3_12

อินเทอร์เฟซกล้องมีการปรับปรุงใหม่ และมาพร้อมกับโหมดการถ่ายที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

 

ASUS Zenfone 3_13

ภาพถ่ายแซมเปิ้ลจากกล้อง ZenFone 3 Deluxe เนื่องจากตัวเครื่องที่นำมาโชว์ยังเป็นตัวเดโม ยังไม่ใช้ไฟนอลนะครับ และ Software ยังไม่ใช่ตัววางขายจริง อีกทั้งสภาพแสงไฟในห้องแถลงข่าวนั้นมีความสับสนยุ่งเหยิงมาก ๆ เอาเป็นว่ารอได้เครื่องจริงแล้วผมจะมาจัดหนักทดสอบให้ได้รับชมกันอีกครั้งในภายหลังครับ

 

ราคาเปิดตัวในประเทศไทย

ASUS Zenfone 3_5

โดยในรุ่น Top “Zenfone 3 Deluxe” ความจุ 256GB  เปิดราคามาที่ 28,900 บาท ส่วนในรุ่นความจุ 64GB เคาะราคาไว้ที่ 22,990 บาทครับ

สรุป  Zenfone 3 Deluxe มาพร้อมความเปลี่ยนแปลงทุก ๆ ด้าน ทั้งในแง่ของดีไซน์การออกแบบ สเปคภายในที่อัดแน่น รวมไปถึงราคาเปิดตัวสุดร้อนแรง เรียกว่าขึ้นไปกระทบไหล่แบรนด์ดังเจ้าตลาดกันเลยที่เดียว ส่วนจะเปลี่ยน user experience ของผู้ใช้งานในบ้านเราได้หรือไม่ ต้องรอดูกันยาว ๆ ครับ 

สามารถพูดคุยเกี่ยวกับบทความนี้ได้ที่หน้าเว็บบอร์ดเดิมครับ โดยคลิ๊กที่ลิงก์นี้ครับ >>> http://goo.gl/pfmo3p



ถูกใจบทความนี้  1