Alcatel Pixi 4 (6”) เบสิคโฟน 3G – 2 ซิม จอ IPS 6 นิ้ว พร้อมแฟลชกล้องหน้า ในราคาสุดคุ้ม !!!

Alcatel เป็นแบรนด์ชั้นนำที่ลุยตลาดในไทยมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ยุค 2G ฟีเจอร์โฟนยังเฟื่องฟูกันเลยทีเดียว จุดเด่นของแบรนด์ Alcatel คือเรื่องดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์และความแข็งแรงทนทาน รวมไปถึงสเปคต่อราคาที่ดูสมเหตสมผล ถึงแม้ว่าช่วงหลัง ๆ จะหายหน้าหายตาและดูแผ่วลงไปบ้าง แต่เชื่อว่าแฟนบอยของค่ายนี้ยังคงคิดถึงกันไม่เสื่อมคลาย ล่าสุดไม่ต้องรอนานครับเพราะวันนี้ Alcatel กลับมาลุยตลาดในบ้านเราอีกครั้ง โดยพร้อมส่งสมาร์ทโฟนในหลาย ๆ ซีรีย์เข้ามาทำตลาดในไทย และตัวที่ผมได้มารีวิววันนี้ก็คือ Alcatel Pixi 4 (6”) ซีรีย์ยอดนิยมที่ได้เปิดตัวในงาน CES 2016 ที่ผ่านมานั่นเอง

Join PDAMobiz on Telegram

ซีรีย์ Pixi 4 ในต่างประเทศจะมีด้วยกันหลายโมเดล ซึ่งจะแตกต่างกันไปตาม specification ส่วนรุ่นที่ได้รับมารีวิวในครั้งนี้คือ Alcatel Pixi 4 (6”) เป็นสมาร์ทโฟน 3G beginning ที่เปิดตัวด้วยราคาเพียง 3,990 บาท เท่านั้น

สำหรับ Pixi 4 จะมีจุดเด่นตรงที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ และเหมาะกับผู้ใช้งานที่ชอบความเรียบง่าย ซึ่งนอกจากจะตอบโจทย์การใช้งานทั่ว ๆ ไปได้อย่างลงตัวแล้ว ในด้านเอนเตอร์เทนก็ถือว่ารองรับได้เป็นอย่างดี ด้วยจุดเด่นของจอแสดงผล IPS ขนาด 6 นิ้ว นั่นเองครับ

ก่อนที่จะทำการแกะกล่องและรีวิว มาดูสเปคเบื้องต้นของ Alcatel Pixi 4 กันซะหน่อยนะครับ

สเปคเบื้องต้นของ Alcatel Pixi 4 (6”)

● หน่วยประมวลผล Qualcomm MSM8909 Snapdragon 210 Quad-core 1.1 GHz
● หน่วยประมวลผลกราฟฟิค Adreno 304
● หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 8GB และรองรับหน่วยความจำภายนอก MicroSD card ได้สูงสุด 32GB
● แรม : 1GB
● จอแสดงผล : ชนิด IPS ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด 960X540 pixeles qHD
● การเชื่อมต่อ รองรับ 2G, 3G,
● รองรับการใช้งานในระบบ 2 ซิมการ์ด (Micro-SIM)
● การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ , Bluetooth v4.1, A2DP
● กล้องหลักด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
● กล้องด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
● Android™ 5.1 Lollipop
● ขนาดตัวเครื่อง 168.7 x 85.8 x 7.99 มิลลิเมตร
● น้ำหนัก 179 กรัม
● แบตเตอรี่ 2580 mAh

ราคาวางจำหน่าย 3,990 บาท

สเปคเริ่มต้นของ Alcatel Pixi 4 (6”) สามารตอบโจทย์ beginning user ที่เน้นด้านความบันเทิงและชื่นชอบสมาร์ทโฟนจอใหญ่ ๆ ได้เป็นอย่างดีเลยครับ

ตัวกล่องออกแบบมาได้อย่างสวยงามและมีขนาดกะทัดรัด

และที่ด้านข้างกล่องมีการแปะฟีเจอร์โดดเด่นอันเป็นจุดขายของเจ้าตัว Alcatel Pixi 4 (6”) มาให้ดูกันด้วย ซึ่งหลัก ๆ คือได้จอ IPS ขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้วในราคาที่ไม่แรงเลยครับ

เทอุปกรณ์ภายในกล่องออกมาดูหน่อบว่าให้อะไรมาบ้าง

สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มาจะประกอบไปด้วย

1. คู่มือการใช้งานอย่างย่อและใบรับประกันสินค้า

2. ชุดหูฟังหูฟังสมอลทอร์คชนิด “เอียร์บัด”

3. อแดปเตอร์ชาร์จไฟ ชนิดขากลม + สาย Micro USB สำหรับซิงค์และชาร์จไฟ

ตัวอแดปเตอร์ให้ Output มาที่ 1A แต่ถ้าอยากชาร์จไฟให้เต็มเร็ว สามารถนำอแดปเตอร์ที่รองรับ Quick Charge มาใช้งานแทนได้เลยครับ เพราะ Alcatel Pixi 4 (6”) นั้นมาพร้อมกับเทคโนโลยี Quick Charge 2.0 อยู่แล้ว ถือว่าเป็นข้อดีมาก ๆ เพราะส่วนใหญ่สมาร์ทโฟนในระดับราคาเท่านี้จะไม่ค่อยเห็นว่ามีระบบ Fast Charge มาให้นะ ตรงนี้ Pixi 4 ได้ใจไปเต็ม ๆ เลยครับ

Design & Hardware

ดีไซน์ของ Alcatel Pixi 4 บอกเลยว่าไม่ได้ฉีกแนวไปจากสมาร์ทโฟนภายในค่ายสักเท่าไหร่ครับ คือมาในสไตล์เรียบ ๆ และดีไซน์ทรงนี้จะเรียกว่าเป็นเบสิคดีไซน์ของสมาร์ทโฟนในหลาย ๆ แบรนด์ก็ย่อมได้ คือจะเน้นความโค้งมนทั้งสี่มุม พร้อมตัดขอบจอยกขึ้นมาเล็กน้อย และไม่เน้นความเป็นเหลี่ยมสันมากนัก โดยงานออกแบบในลักษณะนี้จะมีข้อดีในเรื่องการจับถือพกพาครับ

วัสดุและงานประกอบ วัสดุหลักจะเป็นโพลีคาร์บอเนตหรือพลาสติกนั้นแหล่ะ แต่เกรดของตัววัสดุอยู่ในเกณฑ์ที่ดีแถมงานประกอบยังเรียบร้อยแข็งแรงแน่นหนาอีกด้วย สรุปให้ผ่านนะแม้จะไม่ได้มาพร้อมกับวัสดุโลหะตามสมัยนิยมก็ตามที แต่อย่าลืมว่าราคาค่าตัวของ Alcatel Pixi 4 ก็ไม่ได้แรงจนเกินเอื้อมแต่อย่างใด พูดง่าย ๆ ว่าวัสดุและงานประกอบนั้นสมราคาค่าตัวครับ

สุดท้าย Handle การจับถือพกพาครับ ด้วยความเป็น “แฟบเล็ต” ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ ๆ เรื่องพกพาย่อมต้องมีอึดอัดเป็นเรื่องธรรมดา แต่ส่วนใหญ่ผู้ใช้งานที่เลือกสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ ๆ มาใช้งาน ก็น่าจะเตรียมพร้อมและทำใจในเรื่องนี้กันอยู่แล้ว ฉะนั้นตรงนี้จึงไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญ สำหรับการจับถือ ด้วยวัสดุที่ไม่ได้เป็น glossy ทำให้ไม่ลื่นและงานดีไซน์ที่ออกแบบเน้นความโค้งมนเข้ากับสรีระฝ่ามือของ Pixi 4 ก็ช่วยให้การจับถือใช้งานค่อนข้างกระชับถนัดมือดีพอสมควรเลยครับ

จุดขายหลักอีกหนึ่งอย่างของ Alcatel Pixi 4 ก็คือเรื่องจอแสดงผลนั่นเอง โดย Pixi 4 มาพร้อมจอแสดงผล ชนิด IPS ความละเอียด 960X540 pixeles qHD ด้วยราคาขนาดนี้และจอใหญถึง 6 นิ้ว หายากมากที่จะมาพร้อมกับจอ IPS นะครับ

สำหรับคุณภาพของจอ Alcatel OneTouch Pixi 4 ในเรื่องสีสันและความสดใสอาจจะยังไม่โดดเด่นนัก ตัวจอจะออกแนวนวล ๆ ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งมีข้อดีตรงที่ใช้งานนาน ๆ อย่างต่อเนื่องจะทำให้ไม่ล้าหรือเมื่อยสายตาครับ

ส่วนความละเอียด qHD ในการใช้งานจริงก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด ไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเกม ท่องเว็บ ความละเอียดเท่านี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ แถมจะทำให้ไม่สิ้นเปลืองแบตอีกด้วยเพราะไม่ต้องประมวลผลให้กับหน้าจอความละเอียดสูง ๆ นั่นเอง เรียกว่ามีข้อดีมากกว่าข้อเสีย และการที่มาพร้อมหน้าจอใหญ่ ๆ ก็มีฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานมาให้ด้วยนะครับ เช่น “การเคาะหน้าจอ 2 ครั้ง เพื่อ Wake up – down หรือเปิดหน้าจอจากโหมดสแตนบาย และสามารถเคาะบนหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อปิดล็อคหน้าจอได้อีกเช่นกันครับ“

และขอปิดท้ายกันไปด้วยเรื่อง response หรือการตอบสนองของจอภาพ จากที่ได้ลองใช้งานจริงทั้งการใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกม ตัวจอ Alcatel Pixi 4 (6”) สามารถตอบสนองการสั่งงานได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยครับ

ต่อกันที่จุดเด่นที่ 2 คือเรื่องเซลฟี่ที่พร้อมมอบประสบการณ์น่าประทับใจได้ในทุก ๆ สภาพแสงและทุกสถานการณ์ เพราะ Alcatel Pixi 4 นั้นมี “ไฟแฟลช” กล้องหน้ามาให้ใช้งานด้วยนั่นเอง ” สำหรับตัวกล้องหน้านั้นให้ความละเอียดมาถึง 5 ล้านพิกเซล และแน่นอนโหมดบิวตี้ที่คน Gen นี้ชื่นชอบ ก็มีพร้อมให้บริการเสริมความงามฟรุ้งฟรุ้งมุ้งมิ้งกันด้วยนะเออ

สำหรับสามปุ่มนำทางจะเป็นแบบ Capacitive button โดยไม่มีไฟแบลค์ไลค์มาให้ใช้งานนะครับ แต่ในการใช้งานจริงยังพอมองเห็นได้ชัดเจน แม้จะเป็นพื้นที่ ที่มีแสงน้อยก็ตาม

ตัวฝาหลังวัสดุไม่ได้เป็นแบบ glossy มันวาว จึงไม่เก็บรอยนิ้วมือสักเท่าไหร่ ช่วยให้การดูแลรักษาความสะอาดนั้นง่ายขึ้นอีกเป็นกอง และตัวเครื่องจะเป็นแบบ unibody ที่ไม่สามารถถอดฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เองนะครับ

กล้องหลักด้านหลังมาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซลแบบออโต้โฟกัส และมีไฟแฟลชมาให้ใช้งาน 1 ดวง ตัวกล้องจะยื่นนูนนออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย และมีกรอบโลหะคาดล้อมรอบตัวกระจกเลนส์ ส่วนด้านบนจะเป็นที่อยู่ของไมค์ตัดเสียงรบกวนและรวมถึงเป็นไมค์ที่ใช้ในการบันทึกเสียงอีกด้วย ถัดลงมาจากไฟแฟลชจะมีโลโก้ของ Pixi แปะไว้ดูโดดเด่นเป็นสง่า

ลำโพงหลักจะอยู่ที่ด้านล่างของตัวฝาหลัง เห็นช่องเล็ก ๆ อย่างนี้ แต่เรื่องความดังและคุณภาพเสียงถือว่าดีเลยแหล่ะ แถมเร่งเสียงจนสุดก็ไม่มีอาการแตกพร้าให้ได้ยินแต่อย่างใด แบบนี้ก็ได้ใจคอเอนเตอร์เทนกันไปแบบเต็ม ๆ เลยฮ่ะ

มาสำรวจ Hardware รอบๆ ตัวเครื่องกันต่อ

ด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต Micro USB สำหรับด้านล่างจะมีเพียงไมค์สนทนาเท่านั้นครับ

ด้านขวามือของตัวเครื่อง ไล่จากบนลงล่าง เริ่มจากช่องใส่หน่วยความจำภายนอก Micro SD Card ถัดลงมาคือปุ่มปรับระดับเสียง สุดท้ายคือปุ่ม Power เปิด-ปิดเครื่อง

สำหรับการจัดวางปุ่ม Power ไว้ในตำแหน่งนี้ถือว่าดีมากสำหรับหน้าจอขนาดใหญ่ ๆ เพราะไม่ต้องเอื้มมนิ้วให้เมื่อยเลยครับ

และอีกหนึ่งจุดเด่นที่ผมถือว่าค่าย Alcatel ออกแบบมาได้ดีมาก ก็คือตรงฝาปิดช่องใส่หน่วยความจำภายนอก Micro SD Card และรวมไปถึงช่องซิมการ์ด ตัวฝานั้นออกแบบมาให้มีปุ่มเล็ก ๆ เมื่อกดลงไป ตัวฝาปิดก็จะเผยอออกมา ตรงนี้สะดวกมาก ๆ สำหรับคนที่ไม่มีเล็บ เพราะบางแบรนด์จะออกแบบมาให้มีร่องบากที่ต้องใช้เล็บในการแงะ ซึ่งจะลำบากสำหรับคนที่ไม่มีเล็บครับ

ปิดท้ายกันไปที่ด้านซ้ายมือของตัวเครื่อง จะเป็นที่อยู่ของช่องถาดซิมการ์ด 1-2 ซึ่งตัวฝาปิดก็จะมีการออกแบบเหมือนช่องใส่หน่วยความจำภายนอก Micro SD Card ที่ผมได้อธิบายไปแล้วนั่นเองครับ

สำหรับรูปแบบของตัวซิมการ์ดจะเป็นแบบ Micro SIM ทั้งคู่เลยครับ

Software & Features

Alcatel Pixi 4 เปิดตัวมาพร้อมกับ Android OS, v5.1 (Lollipop) ตัว User Interface หรือ Launcher มีการปรับแต่งมาจาก AOSP ทำให้หน้าตาในส่วนของ Home หลักและไอคอน มีความเป็นโมเดิร์นขึ้นในสไตล์ของ Alcatel

บนหน้าโฮมเมื่อปัดจากซ้ายมาขวาจะเป็นหน้า onetouch STREAM ที่แสดงพยากรณ์อากาศและข่าวสารต่าง ๆ และรวมไปถึง Featured Wallpapers ที่เราสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานและติดตั้งได้ในทันที

ในส่วนของหน้า App Drawer จะจัดเรียงไอคอนในรูปแบบ 4×5 แถว สำหรับแอพพลิเคชั่นที่ถูกบันเดิลมา จะมีทั้งโซเชียลยอดนิยม เช่น Facebook, Instagram, WhatsApp และ 3rd party บางส่วนของค่าย Alcatel ตรงนี้ถือว่าเพียงพอและพร้อมใช้งานทันทีหลังจากแกะกล่องออกมาเลยครับ

หน้า Setting การตั้งค่า จะเป็นแบบ Original ของ ROM AOSP

มาดูฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Pixi 4 กันต่อเลยนะครับ

ฟีเจอร์ Gestures ตรงนี้อาจจะให้มาไม่เยอะเหมือนพวก ROM จีน แต่หลัก ๆ จะเป็นฟีเจอร์ที่สามารถใช้งานได้จริงและใช้ได้บ่อยในชีวิตประจำวันนั้นเอง เช่น การเคาะบนหน้าจอสองครั้ง เพื่อเปิดหน้าจอหรือล็อคหน้าจอ การพลิกหน้าจอเพื่อปิดสายที่เรียกเข้ามาหรือเพื่อใช้ในการเลื่อนการปลุกเป็นต้น

และสุดท้าย ด้วยความที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้ว การใช้งานในบางสถานการณ์ก็อาจจะไม่คล่องตัวนัก แต่เราสามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้ด้วยโหมด One-handed mode หรือโหมดมือเดียวนั่นเองครับ การใช้งานก็ง่าย ๆ เพียงแค่กดปุ่ม Back หรือปุ่ม Recent app ค้างไว้เป็นเวลา 3 วินาที และสามารถเลือกให้การแสดงผลของหน้าจอนั้นจะอยู่ทางฝั่งขวาหรือซ้ายก็ได้ ตามที่ผู้ใช้งานถนัดครับ

ฟีเจอร์ล็อคหน้าจอของ Alcatel Pixi 4 จะมีชื่อเรียกว่า Func โดยเราสามารถกำหนดแอพและการแจ้งเตือนต่าง ๆ ให้แสดงในหน้าล็อคสกรีนได้ตามที่ต้องการ

สำหรับฟีเจอร์อื่น ๆ ก็จะเป็นพวกเบสิคครับ แต่มีประโยชน์และได้ใช้งานจริงกันอย่างแน่นอน เช่น โหมดประหยัดพลังงาน, การกำหนดเวลาในการเปิด-ปิดเครื่อง, และปรับขนาดตัวอักษรเป็นต้น

แป้นพิมพ์คีย์บอร์ดค่าเริ่มต้นจะกำหนดมาให้เป็น SwifKey และแน่นอนว่าด้วยการที่ใช้เบสรอมมาจาก AOSP จึงต้องมีคีย์บอร์ดของ AOSP มาให้ใช้งานกันด้วย

เมนูรายชื่อ, แป้นโทร, และฟีเจอร์ที่น่าสนใจของฟังก์ชั่นโทรจะประกอบไปด้วย การกำหนดปุ่มโทรด่วนและการเปิดใช้งานการลดเสียงรบกวนขณะโทร

เมนูในการจัดการซิมจะไม่แตกต่างไปจากสมาร์ทโฟน 2 ซิมทั่ว ๆ ไปในท้องตลาดครับ

3rd party บางส่วนของค่าย Alcatel ส่วนใหญ่จะเป็นแอพประเภทอำนวยความสะดวกในการใช้งานให้กับ User ครับ เช่น User Care และ USER CENTER ส่วน Alcatel Apps จะเป็นแอพที่ช่วยแนะนำแอพพลิเคชั่นที่น่าสนใจ โดยมีการแยกเป็นหมวดหมู่เหมือนกับ Play Store นั่นเอง และสามารถดาวน์โหลดได้โดยตรงจากตัวแอพ

Multimedia

Alcatel Pixi 4 (6”) มี FM มาให้ใช้งานกันด้วย โดยเป็นแบบทศนิยมสองจุด รูปร่างหน้าตาสวยงาม ฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็ถือว่าครบเครื่องนะ ส่วนภาครับสัญญาณจัดว่าชัดเจนใช้ได้ครับ

Music Player มีชอยส์ให้เลือกใช้งานอยู่ 2 ตัวเลือกครับ คือ Play Music ของค่าย Google กับแอพมิวสิคเพลย์อีกตัวที่มีชื่อว่า Mix สำหรับ Play Music คืออย่างที่รู้ ๆ กัน ไม่ค่อยมีฟีเจอร์หรือความสามารถอะไรนัก ส่วน Mix จะมีอินเทอร์เฟซที่ดูสวยงามกว่า แต่ฟีเจอร์ส่วนใหญ่จะออกแนวเบสิคเช่นกันครับและไม่มี EQ มาให้ใช้งาน สรุปคือหน้าตาสวยกว่า Play Music แต่ว่าฟีเจอร์และความสามารถพอ ๆ กันครับ

สำหรับ VDO Player ก็อารมณ์เดียวกันเลยครับ คือไม่มี 3rd party บันเดิลมาให้ แต่จะรวมฟีเจอร์เล่นหรือดูวีดีโอรวมอยู่กับแอพแกลลอรี่ จึงทำได้แค่แชร์เท่านั้น ถ้าต้องการความสามารถที่เพิ่มขึ้นต้องดาวน์โหลดจากสโตร์มาใช้แทนครับ

Camera & Sample

กล้องหลักมาพร้อมกับความละเอียด 8 ล้านพิกเซล + LED Flash 1 ดวง สำหรับ User interface หรือหน้าเมนูกล้องบน Alcatel Pixi 4 (6”) จะเน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก เพื่อให้ตอบโจทย์ Simply use ครับ

โหมดการถ่ายภาพจะประกอบไปด้วย 7 โหมดหลักตามนี้ Auto mode, Polaroid, HDR, Pano, Manual mode, Scanner, และ Face beauty ที่สามารถใช้งานได้กล้องหน้าและหลัง

สำหรับ Manual mode จะสามารถปรับไวท์บาลานซ์, ชดเชยแสง, และ ISO ได้ครับ

เมนูการตั้งค่า อาจจะไม่ค่อยยืดหยุ่นมากนัก คือตามคอนเซ็ปต์จะเน้นไปที่ความเรียบง่าย การปรับตั้งค่าจึงมีให้ใช้งานเฉพาะในส่วนที่เป็นเบสิคจริง ๆ เท่านั้นครับ

โหมดเซลฟี่จะเป็นแบบสำเร็จรูปคือ Auto ให้ทุกอย่างนะครับ เราไม่สามารถปรับระดับหรือ Custom อะไรได้ ส่วนโหมด Polaroid ก็จะให้อารมณ์เหมือนใส่เอฟเฟกต์หรือฟิลเตอร์ต่าง ๆ ลงไปในรูปถ่ายของเรานั่นเอง

Auto mode

HDR Mode

Auto mode

HDR Mode

ทดสอบกล้องหน้ากันบ้าง

Auto mode

Face beauty

สรุป Alcatel Pixi 4 (6”) เป็นเบสิคโฟน 3G เจาะกลุ่มผู้ใช้งานเริ่มต้นที่ชื่นชอบหน้าจอใหญ่ ๆ โดยจุดขายหลัก ๆ ของ Pixi 4 ก็อยู่ที่การมาพร้อมกับจอแสดงผลชนิด IPS ในขนาด 6 นิ้วนั่นเอง ซึ่งจากราคาเปิดตัว และมาพร้อมกับจอขนาดเท่านี้ หายากมาก ๆ ครับ จึงต้องบอกว่าน่าสนใจอยู่ไม่น้อย แถมยังมีฟีเจอร์ที่รองรับการใช้งานร่วมกับขนาดหน้าจอใหญ่ ๆ อีกด้วยเช่น การเคาะบนหน้าจอสองครั้ง เพื่อเปิดหน้าจอหรือล็อคหน้าจอ รวมไปถึง One-handed mode หรือโหมดใช้งานมือเดียวเป็นต้น

นอกจากนี้ Alcatel Pixi 4 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Quick Charge 2.0 หรือระบบชาร์จแบตเร็ว ตรงนี้ถือว่าเป็นข้อดีมาก ๆ เพราะส่วนใหญ่สมาร์ทโฟนในระดับราคาใกล้เคียงกัน จะไม่ค่อยเห็นว่ามีระบบ Fast Charge มาให้ครับ

ส่วนเรื่องกล้อง บอกตรง ๆ ในคราวแรกที่ได้รับเครื่องมาก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับกล้องมากนัก แต่จากการลองใช้งานจริงกลับพบว่า Alcatel Pixi 4 นั้นทำผลงานได้ดีเกินคาด แม้ว่าโหมดการถ่ายจะน้อยและรูปแบบการใช้งานจะมีบางอย่างขัดใจอยู่บ้าง แต่คุณภาพที่ได้สร้างความประทับใจมาก ๆ ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังครับ สมกับสโลแกนที่ว่าเป็น Basic phone big screen & 3G phone but Simply use

ปิดท้ายกันไปด้วยเรื่อง Software ที่ใช้ในขับเคลื่อน ถึงแม้จะมาพร้อมกับ Android OS, v5.1 (Lollipop) และมี RAM ให้ใช้งานเพียง 1GB แต่จากการใช้งานจริงแทบไม่มีอาการหน่วงหรือสะดุดติดขัดให้กวนใจเลยครับ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับตัว Firmware ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Base ROM ของ AOSP นั่นเอง สรุปส่งท้าย Alcatel Pixi 4 (6”) เป็นเบสิคโฟน 3G สองซิม หน้าจอใหญ่ ๆ ใช้งานง่าย พร้อมตอบโจทย์การใช้งานเบื้องต้นได้อย่างครบครัน ในราคาที่ไม่เกินเอื้อมอีกด้วยครับ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณที่ติดตามรับชมกันนะครับ แล้วพบกันใหม่ในโอกาสหน้าครับผม

บทความนี้เป็นบทความ advertorial

สามารถพูดคุยเกี่ยวกับบทความนี้ได้ที่หน้าเว็บบอร์ดเดิมครับ โดยคลิ๊กที่ลิงก์นี้ครับ >>> http://goo.gl/GUzqFV