ก็คงเป็นกรณี ที่ต้องติดตามกันไป สำหรับการเจรจาข้อตกลงทางธุรกิจที่ไม่ลงตัว ระหว่าง 7-11 และ AIS ยังไงซะผู้ใช้งานอย่างเราๆ ได้รับผลกระทบแน่นอน ไม่มากก็น้อย และอย่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินกรณีต่างๆ แทนคนอื่นๆ ถามผมว่าได้ผลกระทบไหม? บอกเลยว่าไม่ เพราะปกติผมเติมเงินผ่าน Online และแอพบนมือถืออยู่แล้ว แทบจะไม่เคยเติมเงินที่ 7-11 เลย ซึ่งเชื่อเหลือเกินคนที่กำลังอ่านอยู่นี้ ก็คงคล้ายๆ กัน ผลกระทบคงไม่เท่าไหร่ แต่รู้ไหมว่าจำนวนคนอีกมากระดับหลายล้านคนที่ผมเชื่อเลยว่า เติมเงินในลักษณะนี้ไม่เป็นแน่ๆ ถ้าดูข้อมูลสรุปแล้วคนที่ใช้ระบบเติมเงินมีอยู่ประมาณ 30 ล้านเลขหมาย ให้คนที่เติมเงินออนไลน์เป็นอย่างเราๆ ท่านๆ สักครึ่งนึงก็แล้วกัน เอาให้ไปสัก 70% เลยก็ได้ ลองคำนวณดูครับว่า คนที่ได้รับผลกระทบจะมีเท่าไหร่ ก็คงจะมีประมาณสัก 10 ล้านเลขหมายแค่นั้นเอง ซึ่งต้องปรับตัว แต่จะปรับตัวยังไงล่ะ เค้าจะรู้ไหม เค้าไม่ได้มาอ่านในเน็ทเหมือนเราๆ ท่านๆ แน่นอน ยังนึกถึงตอนที่ซิมจะดับ ยังมีคนอีกมากมายที่ยังไงๆ ก็ไม่ยอมมาเปลี่ยนซิม หรือเปลี่ยนเครื่อง เป็นล้านๆ ราย แค่นั้นก็กระทบแล้วใช่ไหมล่ะ แล้วตอนนี้จะไม่กระทบ ก็คงแปลกแล้วล่ะผมว่า
ฟาก 7-11 ต้นเรื่องก็คือต้องการปรับค่าธรรมเนียมให้เท่ากับอีก 2 ค่าย ตามแหล่งข่าวคือ 7% ซึ่งหากมองในฝากของ 7-11 ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกค่ายเท่าๆ กัน ไม่ว่จะมีปริมาณลูกค้ามากหรือน้อย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของค่ายนั้นๆ ถ้าอยากจ่ายน้อย ก็ต้องไปลดจำนวนลูกค้าของตัวเองลง? หรือก็เป็นอย่างที่เราเห็นนี่ล่ะ โดยเรื่องนี้มีการผูกโยงกันนอกเหนือจากการตกลงกันไม่ได้ทั้งสองฝ่าย เพราะ CP All เป็นบริษัทแม่ของ truemove H นั่นเอง ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ AIS ทำให้หลีกหนีประเด็นนี้ไม่ได้ ถึงแม้ว่าความจริงอาจจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลยก็ตามที ซึ่ง 7-11 ก็เรียกเก็บ แต่ AIS ไม่ยอม ดังนั้น 7-11 จึงไม่สั่งสินค้าเพิ่มเติมเข้าไป ในช่วงแรกจะเห็นว่ายังมีขายสินค้าและเติมเงิน แต่พอมาช่วงนี้เนื่องจากสินค้าไม่มีแล้ว ก็เลยขายและเติมเงินไม่ได้ไปโดยปริยาย ก็เป็นเรื่องของการรักษาผลประโยชน์ และการต่อรองกัน ซึ่งระหว่างทาง 7-11 เองยังไม่ได้ออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการ มีแต่บางสำนักข่าวเช่น ประชาชาติธุรกิจ ที่แจ้งว่าผู้บริหารของ 7-11 ยังไม่ให้คำตอบ ณ เวลานี้
ฟาก AIS เองก็ออกมาให้ข่าวตั้งแต่เริ่มมีลูกค้าออกมาทวงถามถึงการให้บริการใน 7-11 ซึ่งสุดท้ายก็ได้คำตอบว่า ทาง 7-11 ไม่ยอมสั่งสินค้าเอง ก็เพราะการเจรจาไม่ลงตัว ซึ่งทางผู้บริหารของ AIS เองก็เปิดปลายเอาไว้ว่าพร้อมเจรจาเพิ่มเติม ซึ่งก็คงต้องรออีกทีล่ะว่าเมื่อใด แต่สำหรับ AIS เองก็พยายามแจ้งให้ลูกค้ารู้ว่า มีช่องทางเติมเงินได้ที่ไหนบ้าง ทั้งหมด 500,000 จุดเลยทีเดียว ถือว่าเยอะมาก แต่เชื่อได้เลยว่ามีผลกระทบอย่างแน่นอน แต่คงอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ อย่างที่หลายๆ สำนักวิเคราะห์เอาไว้ หากช่วงนี้สามารถปรับลูกค้าให้หันไปเติมเงินช่องทางอื่นๆ ได้ ก็คงรอดตัวไป ถ้าไม่ได้ ก็คงต้องเปิดโต๊ะเจรจากับ 7-11 กันอีกรอบ ดังนั้นเคสนี้คงไม่เร็วแน่นๆ อย่างน้อยก็คงมีสองสามเดือนนั่นล่ะ แต่เรื่องการประชาสัมพันธ์เชื่อขนมกินได้เลยว่า AIS จัดเต็มเรื่องนี้ และคงเข้าถึงลูกค้าส่วนใหญ่ได้ คล้ายตอนที่ลูกค้าจะซิมดับ ก็พยายามจนสุดท้ายเหลือลูกค้าไม่กี่แสนรายเท่านั้น ครั้งนี้ก็คงจะประมาณเดียวกัน
คงหลีกไม่ได้ว่า AIS เอง ก็คงระวังตัวเรื่องทางธุรกิจ เพราะ CP ALL เป็นบริษัทแม่ของคู่แข่งโดยตรงอย่าง truemove H ซึ่งช่วงหลังๆ ก็แข่งขันกันสูง และวิ่งตามมาเรื่อยๆ จนล่าสุดที่ truemove H ประกาศว่าจะขึ้นเป็นอันดับ 1 ให้ได้ ซึ่งถือว่าเป็นประกาศสงครามอย่างชัดเจน จริงๆ ก็ซัดกันมาตั้งแต่การประมูลแล้วล่ะนะ ฮ่ะๆ ช่วงนี้ก็เป็นอีกช่วงที่คงต้องแย่งชิงลูกค้ากัน เพราะเมื่อใดที่ลูกค้าตาดำๆ ได้รับความลำบาก เชื่อว่า truemove H ก็ไม่อยู่นิ่ง ทิ้งโอกาสนี้ให้หลุดลอยไป คงเร่งโกยลูกค้าเข้าอย่างแน่นอน ซึ่งประเด็นต่างๆ ทำให้การเติมเงินของ AIS ในช่องทาง 7-11 ยังเป็นสลิป ในขณะที่ทั้ง dtac และ truemove H สามารถกดเบอร์ผ่านหน้าเค้าเตอร์ได้เลย ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่า AIS ไม่ต้องการให้ 7-11 รู้ข้อมูลของลูกค้าและไม่อยากให้รู้ว่า เบอร์ไหนเติมเงินเท่าไหร่ จึงไม่ต่อระบบเข้ากับ 7-11 เหมือนอีกสองค่าย ซึ่งก็ค่อนข้างชัดเจน ถึงการระมัดระวังตัวเป็นอย่างดี ดังนั้นเคสนี้ก็ไม่แปลกเลยที่ AIS จะเร่งหาทางแก้เกมส์โดยด่วน ในขณะที่ปฎิเสธไม่ได้ว่า 7-11 เองเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เผลอๆ 9000 จุดที่หายไป อาจจะเทียบเป็นสองหรือสามเท่าของจุดบริการเลยก็ว่าได้ แต่ยังไงซะ แนะนำให้เติมออนไลน์กันครับ บนมือถือของเรามีช่องทางเยอะแยะ ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปข้างนอกด้วย สะดวก และหาช่องทางที่ไม่ต้องเสียค่าบริการได้ไม่ยาก ถ้าเดินไปเติมที่ร้านโชว์ห่วย เค้าก็ชาร์จค่าบริการเราอยู่แล้วล่ะ สรุปว่าทั้ง AIS และ 7-11 ไม่มีใครเจ็บกว่าใคร เพราะยอดคงตกทั้งคู่ แต่คนที่เจ็บ (ลำบาก) จริงๆ ก็คงเป็น ลูกค้าผู้ใช้งานตาดำๆ อย่างเราๆ ท่านๆ นี่ล่ะ จะเจ็บแล้วจบหรือเปล่าก็ไม่รู้เสียด้วย ช่วยเคลียร์กับให้ไวๆ เลยนะครับ
ถูกใจบทความนี้ 0
You must be logged in to post a comment.