ความฮ๊อตบังเกิด เมื่อ Huawei เปิดตัว Mate 9 ไปหมาดๆ และวันนี้ตัวที่ผมจองเอาไว้ก็มาอยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว วันนี้มาแกะกล่องให้ชมกันก่อนก็แล้วกันนะครับ ส่วนรีวิวเต็มๆ ค่อยมาชมกัน รับรองว่าจัดเต็มซีรีส์แน่ๆ โดย Huawei Mate 9 ที่สั่งซื้อมา มาจาก wemall ซึ่งจัดมาราคาเต็ม 23,900 บาท (จองไว้) ไม่ได้ผูกโปรใดๆ หากใครสนใจผูกโปรก็ลองดูครับ มีส่วนลดด้วย ใครใช้โปรก็คุ้ม และใครที่จองเอาไว้มีของแถม ทั้ง memory card 64GB และ เคสหนัง Leica ที่มีจำนวนจำกัด ว่าแล้วก็มาดูแกะกล่องตัวเครื่องกันหน่อยนะ
สำหรับ Huawei Mate 9 มีสเปคดังนี้จ้า
● หน่วยประมวลผล Kirin 960, Octa-core CPU (4 x 2.4 GHz A73+ 4 x 1.8 GHz A53) + i6 co-processor
● หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G71 MP8
● หน้าจอแสดงผลชนิด Super AMOLED ขนาด 5.9 นิ้ว ความละเอียด Full HD
● RAM 4GB
● หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 64GB และรองรับหน่วยความจำ MicroSD ได้สูงสุด 256GB
● กล้องคู่ด้านหลังความละเอียด 20 ล้านพิกเซล สำหรับ Monochrome และ 12 ล้านพิกเซล สำหรับ RGB, มี OIS ในตัว ซูมได้ระดับ 2X, dual tone flash.
● กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/1.9
● รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และ 4G LTE CAT12
● แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh
● ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ Android 7.0 พร้อม EMUI 5.0
● ขนาดตัวเครื่อง 156.9 x78.9 x 7.9 มม.
● น้ำหนัก 190 กรัม
● ราคาวางจำหน่าย ราคา 23,900 บาท
ต้องบอกเลยว่าจองเอาไว้เหมือนกัน สำหรับเรือธงในช่วงปลายปีของ Huawei ที่ปีนี้มาแรงมาก พร้อมกับชื่อ Leica ยังไงซะก็เป็นมนต์ขลังที่แฟนๆ ชื่นชอบกัน โดย Mate 9 มีการพัฒนาเรื่องคุณภาพกล้อง monochrome เพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านพิกเซล ไม่เท่านั้นผมว่าเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนแน่ๆ อินเทรนด์กันอีกรอบ เพราะช่วงต้นปีอินเทรนด์กันแล้วกับ Huawei P9 แต่มาปลายปีต้องปล่อยให้ Mate 9 เค้าล่ะ โดยมีฟีเจอร์ต่างๆ เพิ่มขึ้นจาก P9 พอสมควร นอกจากกล้อง ก็มีเรื่องของ OIS สำหรับกันภาพสั่นไหวอีกด้วย ซึ่งคงต้องรอดูเรื่องภาพถ่าย ทดสอบต่างๆ กันอีกรอบนึง วันนี้มาแกะกล่องกันก่อนดีกว่า
ของแถมอย่างที่เห็นเลยครับ ของแถมปกติ
อุปกรณ์ทั้งหมดมีเท่านี้ครับ รวมของแถมแล้ว
เนื่องจาก Huawei Mate 9 มีแบตขนาดใหญ่ จึงต้องใช้ walll charge ในลักษณะนี้ เป็นเทคโนโลยี SuperCharge ชาร์จเร็วอยู่แล้ว
หูฟังก็ดูน่าสนใจ แต่ยังไม่ได้ลองเลยแฮะ
จริงๆ สายชาร์จเป็น USB-C กันอยู่แล้วนะครับ มีแถมในกล่อง แต่เคสนี้เอาไว้เผื่อใช้งานร่วมกับสาย micro USB เดิมๆ แต่ในแพ็กเกจ ก็เป็น USB-C นะ
หน้าจอขนาด 5.9 นิ้ว ดีไซน์สวยงามตามสไตล์ Mate ซีรีส์
ใครเคยใช้ซีรีส์ Mate จะค่อนข้างชินตาเกี่ยวกับดีไซน์อยู่แล้ว ใช่ไหมล่ะ แต่สำหรับผมแล้ว Mate 9 นับว่าเป็นรุ่นแรกที่จับจอง น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ด้วย P9 ที่สร้างกระแสดีเอาไว้เพียบ Mate 9 คงไม่แพ้กัน ตัวกันรอยหน้าจอเค้าติดมาให้เรียบร้อยแล้วด้วย เปิดมาใช้งานได้เลย
ตัว Spec เป็น Kirin 960 รุ่นใหม่ล่าสุดข้ามไป ขุมพลังอัดแน่น มีสีที่ขาย Space Gray/Moonlight Silver/Champagne Gold/Mocha Brown และ Ceramic White
คำว่า Leica ชื่อนี้มันเหมือนโดนมนต์สะกด เป็นที่ยอมรับของคนที่ชื่อชอบในการถ่ายภาพ กล้องด้านหลังปรับมาเป็น 20 ล้านพิกเซล ซึ่งได้รายละเอียดครบๆ ยิ่งกว่า P9 อีก
ด้านหลังครับ สดๆ แปะข้อมูลต่างๆ ไว้ครบ ฝาหลังถอดไม่ได้ดังนั้น แบตเตอรี่จัดเต็ม 4,000 mAh อยู่รอดวันนึงสบายๆ อยู่แล้ว
ด้านหลังมี NFC อยู่ด้านบนสุดของตัวเครื่องด้วยนะ
ตัวบอดี้รอบๆ ตัวเครื่งอ เป็นโลหะทั้งแท่ง เดี๋ยวนี้เครื่องที่เป็นโลหะสภาพดีๆ หาไม่ยาก แต่ทว่า Huawei เปิดรับประกันอีกด้วย เรื่องบริการหลังการขาย Huawei มีทางเลือกให้ลูกค้าเพียบ ไปจนถึง เคาะประตูบ้านกันเลยทีเดียว
ด้านบน มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และไมค์
ด้านล่างที่สนก็คือ พอร์ท USB-C ที่เริ่มแพร่หลายมากขึ้น
ด้านข้างบางแค่ 7.4 มม. เท่านั้น รองรับ 4G และเทคโนโลยีล่าสุดจัดเต็ม CAT 12 สำหรับความเร็วสูงสุดที่ทำได้ 600 Mbps เลยทีเดียว
อีกด้านก็เร่งลดเสียง และปุ่ม ปิด-เปิดเครื่องตามปกติ ที่เห็นรอบๆ ตัวเครื่องคือ ถอดฝาหลังไม่ได้ ดังนั้นแบตให้มา 4,000 mAh คงอึดน่าดูเลยล่ะ
ว่าแล้วก็จับเอามาเทียบกับ nubia Z11 Max สักหน่อยนึง หน้าจอต่างกันนิดเดียว
ด้านหลัง ก็คล้ายๆ กัน แต่ Huawei Mate 9 มีกล้องคู่
ด้านบนสลับช่องกันนิดนึง
เรื่องดีไซน์ดูแล้วมีความใกล้เคียงกัน แต่สเปคล่ะก็ Huawei Mate 9 แรงกว่าเห็นๆ แถมการออกแบบ เน้นเรื่องความหรู แต่ถ้ายังหรูไม่พอล่ะก็ ต้องจัด Mate 9 Pro หรือ ไม่ก็ Porsche ไปเลย แค่ 49,900 บาทแค่นั้นเอง มี 800 เครื่องในไทยซะด้วย
ตัวเคสหนังที่แถมให้ครับ โดยมีสีน้ำตลาดอ่อนๆ
ลองใส่ดูแล้วลงตัวอย่างแรง
ชมคลิปแกะกล่องกันครับ
ความรู้สึกเมื่อได้จับครั้งแรก คืออารมณ์โลหะทั้งตัว น้ำหนักกำลังดี บวกสเปคให้มาขนาดนี้ ใช้งานสบายๆ จริงๆ จุดเด่นที่โดนคนจำนวนมากก็คือกล้องที่ยังไงซะ Leica ก็คงทำดีเหมือนเดิม และพัฒนายิ่งกว่าเดิมอีกซึ่งผมว่าใครที่กำลังตัดสินใจอยู่ล่ะก็ ชั่งใจกันหน่อย ไม่งั้นอาจจะเสร็จ Mate 9 ได้นะ ถ้าไม่ติดเรื่องงบประมาณ ผมว่าจัดได้เลย ได้ภาพสวยโดนใจชัวร์ๆ มีเรื่องประกันที่ Huawei เปิดศึกด้าน service คืออยู่กับบ้าน ทาง Huawei ก็มีบริการมารับถึงที่บ้านด้วย หรืออยากได้เร็วก็เข้าศูนย์ซ่อมได้ ถ้าใช้ระยะเวลาเกิน 1 ชั่วโมง เค้าจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ทันที เอาไว้มาต่อเรื่องการใช้งานกันอีกรอบก็แล้วกันนะครับ รวมถึงตัวอย่างภาพถ่ายต่างๆ สำหรับผมขอตัวไปเล่นเจ้า Huawei Mate 9 ให้หนำใจก่อนก็แล้วกัน
ถูกใจบทความนี้ 4
You must be logged in to post a comment.