ทักทาย วันจันทร์ มันส์เดย์ – Wearble ปี 2017

Is-Wearable-Tech

สวัสดีปีใหม่ กับผมนาย Happyman ที่จะมาทักทายเกี่ยวกับเรื่อง Wearable ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ IoTs กันทั้งปี ถึงแม้ว่าปีที่ผ่าน มาดูแล้วจะล้มลุกคลุกคลานของบรรดา Wearable ทั้งหลาย หลายๆ แบรนด์หายหน้าหายตาไป ไม่แม้กระทั่ง อาทิเช่น Jawbone หรือแม้แต่ปลายปี แบรนด์ Smartwatch อย่าง Pebble ก็โดน Fitbit จัดการไปเรียบร้อย ส่วน Fitbit เองที่เคยออกตัวใหญ่อย่าง Fitbit Surge มาก็ไม่มีต่อยอด มีแต่รุ่นเล็กๆ เท่านั้น แต่แบรนด์จีนอย่าง Xiaomi Miband 2 กลับมีคนถามถึงและใช้งานเพียบ ส่วนของ Fitness Tracker ก็เป็นอย่างที่เห็นล่ะครับ เพราะว่าฟีเจอร์ไล่ทันกันหมดแล้ว  ฟีเจอร์เด็ดๆ อย่างการวัดการเต้นของหัวใจ ก็มีครบหมด ในขณะที่แบรนด์จีนราคาถูกกว่าแบรนด์อินเตอร์เยอะมาก อาจจะขาดแค่การวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอดทั้งวันแค่นั้นเอง กับรูปทรงดีไซน์ที่ไม่หนีกัน อีกประเด็นก็คือเรื่องแบตเตอรี่ ซึ่งทำให้เป็นข้อจำกัดในการออกแบบการใช้งาน หากมีหน้าจอก็จะกินแบตเยอะ เอาจริงๆ คือไม่เหมาะกับการใช้งานจริงๆ จังๆ ใช้วันชาร์จวันแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ฝั่ง Smartwatch เองเจ้าใหญ่อย่าง Android Wear ก็ยังไม่เดินหน้าไปไหนมากนัก แบรนด์แต่ละแบรนด์ที่ส่ง Smartwatch ออกมาก็ยังอยู่ในกลุ่มที่จำกัด ยังไม่นิยมใช้งานกันมากนัก กับฝั่ง Apple Watch ที่ดูแล้วยังอยู่ในกลุ่มจำกัดเช่นเดียวกัน ปีที่ผ่านมายังถือว่าทรงๆ ไม่คืบหน้ามากนัก

ส่วนปี 2017 ก็คงไม่ต่างจากปีที่แล้วมากนัก แต่จะมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น เพราะจำนวนคนใช้งานในปัจจุบันอยู่ในกลุ่มที่จำกัดนั่นเอง ดังนั้นคนที่สนใจและเข้ามาใช้งานจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เทคโนโลยีก็ตามกันทัน และยังคงไม่เดินหน้าไปมากมายนัก แบตเตอรี่ที่ยังคงเป็นข้อจำกัด แต่ที่เปลี่ยนแปลงอีกอย่างก็คือกลุ่มบริษัทผู้ผลิตที่เพิ่งมีการควบรวม อย่าง Fitbit ต้องดูว่าจะมีตัวแจ่มๆ ออกมาหรือไม่ ฝั่ง Smartwatch เอง Google จะลงมาลุยตลาดเอง และ Android Wear ก็จะอัพเกรดฟีเจอร์เพิ่มมากขึ้น หวังว่าจะมีผู้ผลิตใหม่ๆ มาแจมมากขึ้นเช่นกัน Apple เองก็คงจะออก Hardware ของ Apple Watch ใหม่ ฟีเจอร์มากขึ้น ใช้งานได้มากกว่าเดิม นานกว่าเดิม หวังว่าแบตในปีนี้จะมีเทคโนโลยีที่นำมาใช้งานกับอุปกรณ์เล็กๆ เหล่านี้ได้ดีขึ้น และอาจจะได้เห็นการใช้งานรูปแบบใหม่บนช้อมือของเราเพิ่มเติมล่ะนะ ไม่ว่าจะเป็นสาย Fitness Tracker หรือ Smartwatch ก็คงมีอะไรสนุกๆ ให้ตามกันเช่นเคย ยังไม่รวมสาย Sport ที่มีเจ้าตลาดอย่าง Garmin ที่ต้องตามกันว่าจะมีรุ่นไหนออกมาให้เสียตังค์กันอีกหรือเปล่า ทั้งสายวิ่ง สายปั่น สายว่ายน้ำ Garmin จัดให้หมด

ส่วนเทรนด์ VR อาจจะยังต้องรอ CPU ที่ประมวลผลได้ดี ในขณะที่ต้องมีความร้อนน้อยๆ และประหยัดแบตด้วย เพราะอย่างไรคอนเทนต์ VR ล้วนแล้วแต่ต้องการความเร็วของ CPU และ GPU ที่เร็วแรง และประหยัดแบต ไม่อย่างนั้นก็ใช้งานได้ไม่ยาวนาน ปีนี้น่าจะมีเครื่องที่ออกมารองรับ VR มากขึ้น บรรดา VR ไม่ว่าจะเป็น Oculus, Samsung, Microsoft, Sony, HTC จะออกรุ่นต่อยอด และคอนเทนต์ต่างๆ ที่รองรับจะออกมาเยอะขึ้น และจะมีแพลตฟอร์มมาตรฐานที่ไม่ว่าจะใช้ VR ของค่ายไหนก็สามารถนำไปใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา ไม่ต้องรอ dev แฮ็คข้ามระบบ และจะเน้นเรื่องการใช้งานมีประโยชน์มากขึ้น แต่ความบันเทิงก็จะนำโด่งอยู่ดี โดยเฉพาะเกมส์ หากใครยังไม่ได้สัมผัสล่ะก็ เดี๋ยวนี้ VR Headset ราคาไม่แพง และลองโหลดคอนเทนต์ในมือถือมาลองก่อนก็ได้  Wearable Device อยู่ใกล้ตัวเรามาก ยังไม่รวมถึง IoTs ที่จะมีความชัดเจนขึ้น Smarthome ที่คาดว่าจะมีแบรนดใหญ่ ลงมานำในตลาดบ้านเรามากขึ้น รับรองว่า Wearable ในปีนี้สนุกแน่ๆ



ถูกใจบทความนี้  0