สำหรับ Fitness Tracker ในช่วงนี้ที่ได้ของเล่นใหม่ก็คือจากแบรนด์ DT No.1 รุ่น Smartband F1 ซึ่งมีดีไซน์และฟีเจอร์สวยงามมากมาย อารมณ์คล้ายกับแบรนด์ดัง แต่ทว่ามีจุดเด่นเพียบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกันน้ำ กันฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP68 แถมแบตยังอึดมากๆ ด้วย สแตนบายด์ได้ 100 วัน หรือประมาณ 3 เดือนขนาด Mi Band 2 ว่าอึดๆ แล้วก็ยังสู้ไม่ได้ แถมยังวัด Heart Rate ได้แบบเรียลไทม์อีกต่างหาก เรียกว่าครบเลยทีเดียว
DT No.1 เป็นแบรนด์ผู้ผลิต Smartwatch ในจีนซึ่งในเว็บเราเองก็มีรีวิวอยู่หลายรุ่น บางรุ่นก็มี OS ของตัวเอง และนี่น่าจะเป็นตัวล่าสุดที่เป็น Activity Tracker หรือ Fitness Tracker ซึ่งเป็นรุ่นแรก และทำออกมาได้ดีเกินคาด ไม่น่าเชื่อว่าแบรนด์จีนที่อยู่นอกสายตา จะผลิตของคุณภาพๆ แบบนี้ได้ด้วย ว่าแล้วก็มาชมรายละเอียดกันเลยดีกว่าครับ
มาดูสเปคเบื้องต้นกันนิดนึง
DT No.1 มาพร้อมกับคอนเซ็ปท์สีดำ SPORT NEVER STOP เล่นกีฬาแบบไม่หยุดยั้งซึ่งเจ้า Smartband F1 เป็นรุ่นแรกที่ผมได้ทดสอบจากแบรนด์นี้นะ คงไม่ต้องสืบว่าเดี๋ยวนี้ Smartband ล้วนแล้วแต่ผลิตในจีนทั้งนั้น แต่ของดีมีคุณภาพหายาก ซึ่ง DT No.1 นี่่ถือว่าใช้ได้เลยล่ะ
อุปกรณ์ในกล่อง มีอยู่เท่านี้ครับ สายชาร์จแบบปกติ micro USB คู่มือเล่มเล็กๆ เป็นภาษาจีน และเจ้า Smartband F1
คู่มือ อ่านไม่ออกไม่เป็นไร แต่ต้องเปิดดูเพราะมีลิงค์ของแอพอยู่ใน QR Code นี่ล่ะ ที่ต้องสแกนและลงแอพเอาไว้ให้เรียบร้อย
สายชาร์จที่มีขั้วเฉพาะ อันนี้ก็ห้ามหายล่ะนะ หายไปก็ต้องหาสั่งใหม่ไม่มีขายในบ้านเราแน่ๆ
หน้าปัทม์ หรือจอแสดงผล เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 0.91 นิ้วเป็น OLED ซะด้วย แสดงผลได้เต็มตา และประหยัดแบต นี่คงเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้ Smartband F1 อยู่ได้ถึง 100 วันโดยไม่ต้องชาร์จ ดีไซน์ดูหรูในระดับนึงเลยทีเดียว
ด้านข้างเรียบๆ ตัวบอดี้จริงๆ เป็นพลาสติก สีดำ สัมผัสดูแล้วอาจจะดูเบาๆ ไปสักนิด แต่สายนี่ วัสดุที่ใช้ก็เป็นยางคุณภาพดีนะ ใส่สบาย
ตัวปุ่มกดมีอยู่ปุ่มเดียว ใช้เป็นทั้งปิดเปิดเครื่อง ถ้ากดค้างเอาไว้ แต่ถ้ากดปกติ จะเป็นการเปิดหน้าจอเพื่อดูรายละเอียด
ด้านล่างมีเซ็นเซอร์สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจหรือ Heart Rate Sensor นั่นเอง มี QR Code สำหรับดูรายละเอียดต่างๆ แปะไว้ด้วย และขั้วด้านล่างคือ หน้าสัมผัสสำหรับสายชาร์จนั่นเอง
สิ่งหนึ่งที่ออกแบบมาให้ใช้งานสะดวกสำหรับ Smartband F1 ก็คือระบบสัมผัส ตรงขอบหน้าจอทั้งด้านบนและด้านล่าง(ตามรูปด้านบน) จะเป็นการเปลี่ยนหน้าจอ เลื่อนหน้าจอไปทางด้านซ้ายหรือขวา สลับไปมาได้ ซึ่งเป็นระบบสัมผัส
โดยการแสดงผลหน้าจอหลัก จะมีขนาดแบตเตอรี่ และวันเวลา พร้อมสถานะการเชื่อมต่อกับ Smartphone ซึ่งรองรับทั้ง Android และ iOS
หน้าจอหลัก 3 หน้าจอที่แสดงผลได้ ซึ่งที่สำคัญคือ การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ โดยการวัดอัตราการเต้นของหัวใจเป็นแบบ Dynamics หรือวัดตลอดเวลา ซึ่งจริงๆ แล้วสามารถตั้งค่าได้ให้วัดทุกๆ 2 ชั่วโมงซึ่งเดี๋ยวเรามาดูตรงส่วนของแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมละกันนะครับ
ลองสวมที่ข้อมือ ตัวสายที่ให้มาก็ได้ขนาดข้อมือทั้งใหญ่และเล็ก ซึ่งผมว่าน่าจะใหญ่พอสำหรับคนทั่วๆ ไปนะครับ ส่วนของผมนี่เล็กๆ สบายๆ
สังเกตตรงรูใส่สายครับ แทบจะรอบสายเลย ผมถึงบอกว่าใหญ่แค่ไหนก็ใส่ได้แน่ๆ
ความโค้งจะรับพอดีข้อมือ แต่ข้อมือผมเล็กไปสักหน่อย แต่เวลาใส่ก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใดนะ สบายๆ แบตเตอรี่ ขนาด 230 mAh ชาร์จแค่ชั่วโมงเดียว แต่ Standby 100 วัน
ลองใส่เทียบกับ Mi Band 1S จริงๆ มี Mi Band 2 (เคยมี แต่หล่นหาย) เลยไม่มีเปรียบเทียบเลย ฮ่ะๆ แต่ยังไงซะก็ดีกว่า Mi Band 2 นะ ถ้าเทียบสเปคชนสเปค หลักๆ ก็ประมาณนี้ล่ะครับ คราวนี้มาดูเรื่องฟีเจอร์และการใช้งานบ้างดีกว่า
ฟีเจอร์และการใช้งาน
ฟีเจอร์หลักๆ มีตามนี้เลยครับ
- กันน้ำ กันฝุ่นมาตรฐาน IP68
- เป็นรีโมทชัทเตอร์
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
- แสดงผลข้อความเข้า
- วัดอัตราการก้าวเดิน
- แทรคการนอนหลับ
- เตือนการนั่งนานๆ
- เตือนเมื่อมีสายโทรเข้า
- สามารถอัพเกรดซอฟท์แวร์ผ่านแอพได้ง่าย
จากฟีเจอร์ด้านบน ก็ไม่หนีไปจาก Fitness Tracker ไปมานัก จะมีก็จะมีฟีเจอร์ Smartwatch ผสมเข้ามานิดนึง เรียกว่าเป็น Smartband สมชื่อจริงๆ ได้ทั้งเรื่องแทรคการใช้ชีวิตประจำวันและการใช้งานต่างๆ เรียกว่าแทบจะครบถ้วนแล้วล่ะครับ น่าใช้งานไหมล่ะ
กันน้ำได้ลึก 50 เมตรเลยทีเดียว แต่ไม่สามารถแทรคการว่ายน้ำได้นะ
ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ส่วนใหญ่ เราเก็บพวกผลต่างๆ เอาไว้บนแอพพลิเคชั่น
เรื่องการใช้งานคือต้องดาวโหลดแอพมา และสมัครแอคเค้าท์พร้อมซิงค์ข้อมูลครับ ง่ายๆ แค่นี้แหล่ะ
เริ่มต้นใช้งาน จะตั้งค่าแอพให้ค้นหา Smartband F1 ทันที ซึ่งเราคงมีแค่ตัวเดียวนั่นล่ะ
ดาวโหลดแอพได้ที่นี่
ตัวแอพมีการแสดงผล จำนวนก้าวเดิน จำนวนชั่วโมงการนอน และสามารถเป็นรีโมทชัทเตอร์ได้ด้วย
การแสดงการก้าวเดินมีรายละเอียดอยู่พอสมควรเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นระยะทาง แคลลอรี่ที่ใช้ไป มีสรุปด้วยว่าสถานะแต่ละวัน ประสบความสำเร็จหรือไม่ รวมถึง เก็บสถิติเอาไว้ได้เป็นปี
ที่ผมชอบก็คืออัตราการนอน จำนวนชั่วโมงไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่การแทรคละเอียดกว่าหลายๆ ยี่ห้อที่เคยใช้งานและเคยทดสอบ ไม่ใช่แค่หลับลึก หรือหลับตื้นเท่านั้นนะ
การวัดการเต้นของหัวใจ สามารถเก็บเอาไว้ดูในแต่ละวันเพื่อเปรียบเทียบได้ และวัดได้ทั้งวันด้วย สามารถตั้งค่าให้วัดทุกๆ 2 ชั่วโมงก็ได้ แต่ตรงนี้ก้ไม่ค่อยยืดหยุ่น คืนจริงๆ น่าจะกำหนดได้เป็นระดับนาทีนะ แต่ก็ยังดีกว่าหลายๆ แบรนด์ที่วัดแบบทั้งวันไม่ได้ ได้เป็นครั้งๆ ไปหรือเฉพาะแค่ตอนออกกำลังกาย
การออกกำลังกาย ไม่ได้มีรายงานละเอียด จับได้แค่ระยะทาง และระยะทางก็ยังไม่มีแผนที่ในไทยอีกต่างหาก ต้องบอกว่าพี่จีนมากจ้า
การตั้งค่าอื่นๆ
สามาารถทำเป็นรีโมทชัทเตอร์ช่วยถ่ายภาพได้ แต่ทว่าตัวซอฟท์แวร์กล้อง ที่ใช้ไม่ได้เป็นกล้องหลักในเครื่อง ทำให้อาจจะไม่ได้ดังใจสักเท่าไหร่ แต่ก็สะดวกดีนะครับ สามารถตั้งปลุกได้ ค้นหาสายข้อมือก็ได้ การแจ้งเตือนต่างๆ นอกจากหลักๆ แล้วก็สามารถตั้งเพิ่มเติมได้ คนโทรเข้ามาก็แสดงเบอร์ แต่ทว่าไม่รองรับภาษาไทยนะ สามารถแจ้งเตือนเมื่อนั่งนานๆ ได้
วีดีโอคลิปรีวิว
สรุปว่า Smartband F1 ราคาค่าตัวไม่ถึง 1,000 บาท แต่ว่าฟีเจอร์ สเปค ประสิทธิภาพเพียบ เกินตัวเยอะเลย มีหน้าจอขนาดใหญ่ กันน้ำกันฝุ่น แทรคอัตราการเต้นของหัวใจได้แบบทั้งวันอีกด้วย ผมว่าแค่นี้ก็คุ้มแล้ว ยังไม่รวมฟีเจอร์ต่างๆ อีกเพียบ ที่ชอบก็คงเป็นรีพอร์ทที่ละเอียดกว่าแบรนด์อื่นๆ เช่นรีพอร์ทการนอน มีสรุปด้วยว่าเรานอนพอหรือไม่อย่างไร ไม่แค่ให้ดูว่าหลับลึกไม่ลึกยังไง อันนี้คือแทรคละเอียดมาก ใครที่กำลังหา Fitness Tracker หรือ Smartband อยู่ล่ะก็ หากไม่ได้ติดแบรนด์จนเกินไปผมว่า DT No.1 Smartband F1 เป็นอีกทางนึงที่น่าสนใจไม่น้อยเลยนะครับ ใครสนใจสามารถหาซื้อได้ที่ aliexpress หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ DT No.1 => https://goo.gl/jnKrDH
You must be logged in to post a comment.