Vivo V5 เปิดตัวมาแรงพร้อมกับพรีเซนเตอร์ตัวแม่อย่างคุณอั้ม พัชราภา โดยมาพร้อมคอนเซปท์ “เซลฟี่ช็อตไหนก็เพอร์เฟค” โดยมีจุดเด่นอย่างกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 20 ล้านพิกเซลซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้เจ๋งแค่ขนาดภาพแต่ขนาดเซ็นเซอร์ของกล้องหน้าก็ถือว่าค่อนข้างใหญ่เลยล่ะเพราะมีขนาดถึง 1/2.78 นิ้ว และแน่นอนว่าไม่ได้ดีแค่กล้องหน้าแต่ยังมีเรื่องกล้องหลังและซอฟต์แวร์ที่ทำมาอย่างดีตอบสนองการใช้งานได้ลื่นไหลรวดเร็วเช่นเคย
Vivo V5 Specs:
– หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด HD
– Mediatek MT6750Octa Core 1.5GHz
– Ram 4GB
– หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 32GB
– กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล F2.2 พร้อมไฟแฟลช LED
– กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล F2.0 เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.78 นิ้ว พร้อมไฟแฟลชกล้องหน้า
– รองรับการใช้งาน 2 ซิม
– Fingerprint Scanner
– ระบบเสียง Hi-Fi (ชิพเสียง AK4376)
– ขนาดตัวเครื่อง 153.8 x 75.5 x 7.6มม.
– น้ำหนัก 154 กรัม
– แบตเตอรี่ขนาด 3,000mAh
– Android 6.0 Marshmallow
– ราคา 8,990 บาท
– สีทอง, ชมพู
แกะกล่อง
เครื่องที่ทางเว็บได้มารีวิวเป็นเครื่องสีทองตัวกล่องเป็นสีขาวพร้อมโชว์หน้าตาตัวเครื่องหน้าหลังที่ด้านหน้ากล่องเลย พร้อมชูจุดเด่นกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล Perfect Selfie
ด้านหลังกล่องบอกจุดเด่นของรุ่นนี้คือ กล้องหน้า 20MP, Selfie Flash, Ram 4GB, Rom 32GB, Fingerprint Scanner จัดเต็มขนาดนี้ราคาแค่ 8,990 บาท
อุปกรณ์ในกล่องไม่นับรวมตัวเครื่องจะมีเข็มจิ้มซิม, Adapter, สาย USB-A to Micro USB และสมอลล์ทอล์ค
Adapter จ่ายไฟแรง 5V 1.6A
หูฟังที่แถมเป็นแบบธรรมดาไม่ใช่ in-ear
ตัวเครื่องสีทองก็จริงแต่ทองที่หลังและขอบเครื่องนะ ส่วนด้านหน้านี่สีขาว หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ให้สีสันสวยงามแบบธรรมชาติ คมชัดทุกมุมมองตามสไตล์จอ IPS
เหนือหน้าจอมีกล้องหน้าอที่ความละเอียดโคตรสูงถึง 20 ล้านพิกเซลอยู่ทางซ้ายและไฟแฟลชทางขวา
ใต้หน้าจอมีปุ่มโฮมซึ่งมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือซ่อนอยู่ด้วย โดยสามารถปลดล็อคได้เพียงแตะปุ่มโฮมเท่านั้น และปุ่มโฮมจะไม่ยุบเวลากด(มันทำมาเพื่อสัมผัส) ส่วนด้านข้างทางซ้ายเป็นปุ่มเมนู ทางขวาเป็นปุ่มย้อนกลับ
ด้านหลังตัวเครื่องมีโลโก้แบรนด์ Vivo แปะชัดเจน ตัวเครื่องสีทองแบบด้านๆ จับแล้วไม่เป็นรอยนิ้วมือง่ายนักอันนี้คือดี
ด้านบนทางซ้ายของหลังตัวเครื่องมีกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล F2.2 พร้อมไฟแฟลช LED อยู่
ด้านบนตัวเครื่องโล่งได้อีก ไม่มีช่องหรืออะไรอยู่เลย
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีช่องเอาไว้ให้จิ้มถาดใส่ซิมออกมา
แต่ถาดซิมของรุ่นนี้มาแปลกเล็กน้อยคือซิม 1 ต้องใช้งานแบบ Micro Sim ซึ่งปกติมันจะเป็น Nano Sim ส่วนช่องซิม 2 เป็น Hybrid ว่าจะใช้ซิม 2 แบบ Nano Sim หรือ Micro SD Card
ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่มลดเสียงและปุ่ม Power อยู่
ด้านล่างตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5มม., ไมโครโฟน, ช่องเสียบสายชาร์จ/ซิงค์แบบ Micro USB และลำโพงตัวเครื่อง
ลองถือตัวเครื่องไว้ในมือดู เดี๋ยวนี้สมาร์ทโฟนขนาด 5.5 นิ้วคงไม่ถือว่าจอใหญ่กันแล้วล่ะมั้ง เรียกได้ว่าพอดีมือใช้งานมือเดียวได้สบายๆ เลยล่ะครับ
User Interface
User Interface ของ Vivo ยังคงใช้แบบเดิมที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีคือไม่มีการแยกหน้า Home กับหน้า App Drawer แต่เป็นหน้าเดียวกันหมดเลย ก็จัดระเบียบกันหน่อยเวลาใช้งานครั้งแรก และหากปาดบาร์ด้านบนลงมาจะเป็น Notification Bar อย่างเดียว ไม่มีทางลัดในการเปิดปิดการเชื่อมต่อต่างๆ ซึ่งจะอยู่ที่ด้านล่าง โดยสามารถเรียกขึ้นมาได้โดยการปาดหน้าจอด้านล่างขึ้นมา ซึ่งจะมีแอพพลิเคชั่นที่เราพึ่งเปิดใช้งาน (Recent Apps) ให้ปิดด้วย
One-Handed
เนื่องด้วยตัวเครื่องมีขนาดค่อนข้างใหญ่คือ 5.5 นิ้ว จึงมีการใส่ฟีเจอร์การใช้งานมือเดียวมาให้ด้วย ซึ่งสามารถเลือกเปิดได้กับการใช้แป้นตัวเลขโทรศัพท์, รหัสผ่าน/รูปแบบการล็อค, แป้นพิมพ์ หรือจะเข้าการใช้หน้าจอแบบย่อส่วนหลังจากปลดล็อคหน้าจอเลยก็ทำได้เช่นกัน
Super Screenshot
Super Screenshot หรือการจับภาพหน้าจอแบบพิเศษนี่เป็นอะไรที่ผมชอบมากเพราะสามารถจับภาพหน้าจอแบบยาวก็ได้ แบบรูปทรงก็ได้ หรือจะใช้บันทึกวิดีโอของหน้าจอก็ได้เช่นกัน แน่นอนว่าบันทึกเสียงขณะบันทึกวิดีโอหน้าจอได้ด้วย
Smart Motion
Smart Motion หรือการใช้งานอัจฉริยะถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่จัดเต็มมากเพราะยังมีหมวดหมู่แยกย่อยอีกเป็น Smart wake, Air Operation, Smart turn on/off screen และ Smart Call
Smart wake เป็นการใช้งานท่าทาง (gesture) ขณะหน้าจอดับเพื่อเข้าสู่แอพพลิเคชั่นนต่างๆ ทันทีหรือทำให้หน้าจอติดขึ้นมา เช่น ลากหน้าจอขึ้นเพื่อปลดล็อค, ลากหน้าจอลงเพื่อเข้าสู่กล้องถ่ายรูป ฯลฯ
Air Operation: อันนี้เป็นท่าทางโดยไม่ต้องสัมผัสตัวเครื่อง สามารถปาดเหนือหน้าจอขณะจอดับเพื่อเช็คดูภาพหน้าจอว่ามีอะไรแจ้งเตือนเข้ามาบ้าง หรือ จะปลดล็อคหน้าจอโดยโบกฝ่ามือผ่านหน้าจอก็ได้ แต่ผมลองละทำไม่ค่อยสำเร็จ ฮ่าๆ ใช้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือปลดล็อคเอาง่ายกว่า
Smart turn on/off screen: เป็นการใช้ท่าทางต่างๆ เพื่อเปิดปิดหน้าจอ ได้แก่ หน้าจอติดทันทีเมื่อควักออกจากกระเป๋า, แตะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อให้หน้าจอติด, หน้าจอติดเสมอเมื่อเรากำลังมองหน้าจออยู่และแตะหน้าจอสองครั้งเพื่อปิดหน้าจอ
Smart Call: เป็นการใข้งานท่าทางในการสั่งการโทรออกหรือรับสายเช่น โทรออกทันทีเมื่อเราเปิดข้อความหรือรายชื่อคนๆ หนึ่งอยู่โดยการยกมาแนบหู, หรือรับสายทันทีเพียงเอามาแนบหูเช่นกัน หรือหากคุยๆ เปิดลำโพงอยู่แล้วนำมาแนบหูก็เป็นการเปลี่ยนโหมดสู่การใช้ลำโพงสนทนาปกติ หรือหากมีโทรศัพท์เข้ายังไม่พร้อมรับก็เอาฝ่ามือแนบหน้าจอจะเป็นการปิดเสียงเรียกเข้ามาได้
Smart Click: เป็นการใช้งานปุ่มลดเสียงขณะหน้าจอดับโดยการกดค้างไว้เพื่อให้การทำงานอย่างนึงเกิดขึ้น โดยเดิมเครื่องจะตั้งค่ามาให้เป็นการเปิดปิดไฟฉาย
Benchmark
ทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องผ่านแอพฯต่างๆ ได้ผลดังนี้
– Antutu: 33,368 คะแนน
– Geekbench Single Core:567 Multi-Core:2204
– Quadrant Standard: 17,110 คะแนน
– Multitouch: 10 จุด
กล้องถ่ายรูป
User Interface กล้องถ่ายรูปของ Vivo นั้นเรียบง่ายมากไม่มีปุ่มอะไรให้รกหน้าจอเท่าไหร่นักและโหมดถูกซ่อนไว้ใต้จุดสามจุดที่มุมซ้ายบน
โหมดการถ่ายรูปมีมาให้พอประมาณซึ่งถือว่ามากพอสำหรับการใช้งานจริงจังแล้วล่ะ ทั้ง HDR, Panorama, Night, และโหมด Pro ที่ตั้งค่าเองได้ตั้งแต่ระยะโฟกัส, White Balance, ISO, Speed Shutter และ EV เลย
ส่วนในการถ่ายวิดีโอนั้นรองรับสูงสุดที่ Full HD (1080p) ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลย
ต่อไปเป็นตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Vivo V5 กันครับ ภาพทั้งหมดมิได้มีการตกแต่งใดๆ นอกเสียจากย่อขนาดและใส่ลายน้ำเข้าไปเท่านั้น
กล้องหน้าของรุ่นนี้นี่คือที่สุดละ โหมด Beauty แบบโคตรเพอร์เฟค สำหรับใครที่ไม่ต้องการปรับอะไรมากก็เลื่อนระดับความสวยเอาได้ตั้งแต่ 0-100 โดยในภาพไล่จากซ้ายไปขวาคือ 0>50>100 นะ จะเห็นว่า 100 นี่จัดการให้หน้าเนียนกริ๊ปราวกับลงเมคอัพมาแบบจัดเต็ม มีการไฮไลท์จมูก ตาเพิ่มให้อีกตะหาก ทั้งนี่หากใครไม่ชอบให้ตัวเครื่องปรับอัตโนมัติก็สามารถเลือกปรับเองเฉพาะส่วนได้ว่าจะเอาหน้าเรียว หน้าเนียน ตาโต ขนาดไหนบ้าง และจากที่ทดสอบดูจริงบอกเลยว่าผู้หญิงคนไหนเอาเจ้านี่ไป Selfie มีติดใจแน่นอน
สรุป: Vivo V5 เป็นสมาร์ทโฟนในงบไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทที่เป็นตัวเลือกที่ดีงามพระรามสามสี่ห้าหกเจ็ดแปดเลยก็ว่าได้ ด้วยสเปคตัวเครื่องที่ค่อนข้างจัดเต็มทั้ง CPU Octa Core, Ram 4GB ที่มาพร้อมซอฟต์แวร์เครื่องที่ทำงานได้รวดเร็วดี, หน้าจอใหญ่ 5.5 นิ้วและกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซลพร้อมโหมดหน้าสวยแบบโคตรเพอร์เฟค กับราคา 8,990 บาทนี่เรียกว่าครบครัน จะขาดแค่อย่างเดียวก็คือหน้าจอยังมิใช่แบบ Full HD เท่านั้น ซึ่งหากได้ตรงนี้มาคงจะเว่อร์วังสุด แต่จริงๆ เก้าพันบาทได้ขนาดนี้ก็ดีสุดๆ แล้วล่ะครับ
You must be logged in to post a comment.