กรุงศรี ออโต้ สร้าง Smart SMEs ติดปีกผู้ประกอบการด้วยความรู้ธุรกิจดิจิทัล

Smart Finance in Ayudhya 5

กรุงเทพฯ – 15 กุมภาพันธ์ 2560: ปัจจุบันโลกอยู่ในยุคดิจิทัลที่ผู้บริโภค หันมาใช้ช่องทางออนไลน์ในการติดต่อสื่อสาร ค้นหาข้อมูล เลือกซื้อสินค้า ตลอดจนทำธุรกรรมการเงินมากขึ้น โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) ระบุว่าการซื้อขายสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ต หรือ e-Commerce ของไทยในปี 2559 มีมูลค่าสูงถึง 40% ของมูลค่าการซื้อขายสินค้าและบริการทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 12.42% และมีแนวโน้มที่จะโตเกิน 50% ในอนาคตอันใกล้ ช่องทางดิจิทัลจึงเป็นโอกาสสำคัญในการเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจที่รู้เท่าทันและสามารถปรับตัวให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่กำลังเปลี่ยนไปนี้ได้

 

Smart Finance in Ayudhya 8

จากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) พบว่าปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการรายย่อย หรือ เอสเอ็มอี (SMEs) จำนวนทั้งสิ้นกว่า 2.76 ล้านราย มีรายได้คิดเป็น 42% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี อย่างไรก็ดียังคงมีผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมากที่ขาดความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และไม่สามารถปรับตัวให้เท่าทันต่อกระแสผู้บริโภคยุคใหม่ เนื่องจากไม่มีทักษะ ความเข้าใจ รวมไปถึงแรงบันดาลใจในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาต่อยอดธุรกิจ ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ ส่งผลให้ธุรกิจอาจหยุดชะงักและจำต้องล้มเลิกกิจการลง ทั้งๆ ที่ผู้ประกอบการเหล่านี้มีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่ในมือ  

ด้วยเล็งเห็นถึงความจำเป็นของการส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจไทย ให้สามารถปรับตัวได้เท่าทันต่อการแข่งขันและยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป กรุงศรี ออโต้ จึงได้จัดงานสัมมนา “กรุงศรี ออโต้ สมาร์ท ไฟแนนซ์” ในหัวข้อ ‘ติดอาวุธดิจิทัล Small SMEs’ ขึ้น นำร่องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเชิญกูรูทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยที่ประสบความสำเร็จในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ต่อยอดทางธุรกิจ มาให้ข้อมูล ความรู้ และจุดประกายความคิดในการทำธุรกิจยุคดิจิทัลแก่ผู้ประกอบการรายย่อยในท้องถิ่น

 

Smart Finance in Ayudhya 6

นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “หนึ่งใน ‘เมกะเทรนด์’ หรือกระแสหลักที่ภาคธุรกิจในปัจจุบันให้ความสำคัญ คือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มช่องทางการให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เพียงปลายนิ้วสัมผัสบนจอสมาร์ตโฟนและ    ดีไวซ์ต่างๆ ผู้บริโภคจึงหันมาค้นหาและเลือกซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้การทำธุรกิจผ่านช่องทางออฟไลน์แต่เพียงอย่างเดียวจึงไม่สามารถรองรับพฤติกรรม ความต้องการ และเข้าถึงผู้บริโภคที่หลากหลายนี้ได้ เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดและประสบความสำเร็จในโลกปัจจุบัน ผู้ประกอบการรายย่อยก็ต้องหันมาเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับเมกะเทรนด์นี้เช่นกัน เราจึงจัดงานสัมมนากรุงศรี ออโต้ สมาร์ท ไฟแนนซ์ ในหัวข้อ ‘ติดอาวุธดิจิทัล Small SMEs’ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อต่อยอดธุรกิจของตน ก้าวสู่การเป็น ‘Smart SMEs’ ที่มีการนำช่องทางออนไลน์มาใช้ประโยชน์ทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้ที่รัฐบาลกำลังเดินหน้านโยบายประเทศไทย 4.0 เพื่อปฏิรูปประเทศไทยสู่ประเทศพัฒนาแล้วที่มีระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งผู้ประกอบการรายย่อยที่แข็งแกร่งจะเป็นรากฐานสำคัญให้ยุทธศาสตร์นี้บรรลุเป้าหมายได้”

ในฐานะเจ้าหน้าที่ภาครัฐในท้องถิ่น นายพสิษฐ์ พรหมภักดี ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวเสริมว่า “พระนครศรีอยุธยานับเป็นจังหวัดที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาติไทยมาแต่โบราณ นับเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญยิ่งสำหรับผู้ประกอบการในการนำมาใช้ต่อยอดและสร้างคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์และบริการของตน จึงเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่กรุงศรี ออโต้ เล็งเห็นความสำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และได้จัดงานสัมมนานำร่องขึ้นที่นี่เพื่อจุดประกายและแนะแนวทางให้ผู้ประกอบการรายย่อยในท้องถิ่นที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ได้นำเอกลักษณ์ของจังหวัดมาใช้ในการเพิ่มคุณค่าให้กับธุรกิจ ควบคู่ไปกับการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าหรือผู้บริโภคได้ตรงจุดมากขึ้น”

นางสาวสุรีรัตน์ ศรีพรหมคำ เจ้าของ ‘เจคิว ปูม้านึ่ง Delivery’ เพจเฟซบุ๊กจำหน่ายปูและอาหารทะเลซึ่งมียอดขายกว่า 10 ล้านบาท ต่อเดือน เปิดเผยเคล็ดลับความสำเร็จว่า “เทคโนโลยีดิจิทัลมีส่วนอย่างมากต่อความสำเร็จของธุรกิจ  เจคิว ปูม้านึ่งซึ่งไม่มีหน้าร้าน แต่ลูกค้าสามารถเข้าถึงเจคิวฯ ได้ด้วยช่องทางออนไลน์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line@ หรือ YouTube โดยการนำเสนอสินค้าผ่านช่องทางดิจิทัลจะต้องมีความชัดเจน สามารถสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าได้ว่าสินค้ามีคุณภาพตรงตามที่ได้นำเสนอไว้ รวมไปถึงเพจเฟซบุ๊ก ซึ่งเปรียบเสมือนหน้าร้านหลักของบริษัทฯ ภาพที่โพสต์ลงเพจจะต้องมีความสวยงาม แต่เรียบง่าย และไม่ดูเกินจริง ขณะเดียวกันการเพิ่มช่องทางชำระค่าบริการผ่านระบบออนไลน์และบัตรเครดิต ยังเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าขึ้นอีกขั้น ประกอบกับการรักษาคุณภาพของอาหารและบริการจนลูกค้าไว้วางใจและกลับมาใช้บริการอีก นับเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของเจคิวปูม้านึ่ง ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ผู้ประกอบการจะต้องกล้าลุกขึ้นมาทำ”

เช่นเดียวกับนางสาวมัทนี วงศ์ศิริ  เจ้าของกิจการ ผ้าซิ่นฝ้ายมัดหมี่ By Mattanee อดีตพนักงานบริษัทที่ผันตัวมาทำธุรกิจผ่านแพลทฟอร์มดิจิทัลอย่างจริงจัง ได้แลกเปลี่ยนว่า “ในตอนแรกที่ทำธุรกิจ ทางร้านยังไม่ลงทุนสต็อกสินค้า แต่จะใช้วิธียืมผ้าซิ่นมาถ่ายรูปและประกาศขายผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นแม่บ้านและนักธุรกิจหญิงที่มีความหลงใหลในผ้าซิ่นเหมือนตน เมื่อมีผู้สั่งจึงจะไปซื้อผ้าผืนนั้น หลังจากสินค้าเริ่มติดตลาดภายในเวลาเพียงครึ่งปี จึงได้ศึกษาการทำโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ เพิ่มเติม ทั้ง Facebook, YouTube และ Line@ โดยจุดแข็งของบริษัทฯ คือผลิตภัณฑ์ผ้าซิ่นฝ้ายมัดหมี่ที่มีคุณภาพ ผ่านการตัดเย็บและการทอที่เป็นเอกลักษณ์และประณีตบรรจงของชาวอีสาน ซึ่งทั้งร้านจะมีเพียงผืนเดียว ภายใต้สโลแกน ‘ผ้าซิ่นจะเป็นผู้เลือกเจ้าของเอง’ ประกอบกับการรับประกันสินค้าทุกชิ้น และความรวดเร็วในการบริการด้วยทีมงานมืออาชีพที่พร้อมตอบคำถามตลอด 24 ชั่วโมง และพร้อมจัดส่งสินค้าและติดตามสถานะจนกว่าสินค้าจะถึงมือของลูกค้า ทำให้ผ้าซิ่นฝ้ายมัดหมี่ By Mattanee มีความแตกต่าง และสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องพร้อมๆ ไปกับคุณค่าที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ที่คู่แข่งไม่อาจเทียบได้”

นายเสกสรร เทิดสิริภัทร อดีตครูผู้หันมาจับธุรกิจดิจิทัลอย่างเต็มตัวในฐานะเจ้าของ YouTube Channel เสกสรร ปั้น YouTube ที่มียอดผู้ติดตาม (subscriber) มากกว่าหนึ่งแสนราย ได้แนะนำถึงเทคนิคการสร้างวีดีโอลง YouTube ให้มียอดการเติบโตของผู้ชมโดยไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณา (organic growth) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้จากสื่อออนไลน์ “การอัพโหลดวีดีโอลง YouTube สามารถสร้างรายได้ได้หลายทาง อาทิ รายได้จากโฆษณา รายได้จากการใช้โปรโมทสินค้า และรายได้จากการสร้างคอนเทนต์เพื่อขายสินค้าและบริการภายหลังจากเป็นที่รู้จักและมียอดผู้ชมติดตามเป็นจำนวนมากแล้ว โดยเคล็ดลับในการสร้างความนิยมใน Channel ของเรานั้น วิดีโอที่เราอัพโหลดลง YouTube จะต้องประกอบด้วย 3ส คือ 1) สาระที่สามารถให้ประโยชน์และความรู้แก่ผู้ชม 2) สนุกจนสามารถดึงดูดให้ผู้ชมดูจนจบ และ 3) สม่ำเสมอในการอัพโหลดวีดีโอใหม่ๆ ให้ได้ติดตามกัน แต่ทั้งนี้แล้ว ในการทำธุรกิจผ่านช่องทางดิจิทัล ผู้ประกอบการจะต้องดึงศักยภาพของแต่ละแพลตฟอร์มมาใช้สร้างจุดเด่นให้กับตัวเอง ขณะเดียวกันก็ต้องตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคด้วย”

“โครงการ ‘กรุงศรี ออโต้ สมาร์ท ไฟแนนซ์’เป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ตามแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending) ที่เรามุ่งมั่นดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2552 เพื่อจุดประกายความคิดให้ผู้ประกอบการได้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ รวมไปถึงสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการที่แข็งแกร่งให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนา จากการติดตามและประเมินผลความสำเร็จของโครงการตลอดแปดปีที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง เราพบว่ามากกว่า 80% ของผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนำความรู้ไปใช้ในการวางแผนทางธุรกิจ และนำเครือข่ายผู้ประกอบการที่ได้จากภายในงานไปต่อยอดเชิงธุรกิจได้ เช่นเดียวกับครั้งนี้ เราพบว่าผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 90% พึงพอใจกับการจัดงานและความรู้ที่ได้รับ พร้อมให้ความเห็นว่าโครงการนี้ไม่เพียงให้ความรู้เชิงทฤษฎี แต่ยังจุดประกายความคิดให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้มองไปข้างหน้าเพื่อค้นหาโอกาสอยู่เสมอ ในขณะเดียวกันเรายังพร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยด้วยโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อเสริมสภาพคล่องและต่อยอดทางธุรกิจต่อไป” นายไพโรจน์กล่าวทิ้งท้าย

ประสบการณ์ใหม่กับ กรุงศรี ออโต้ 

“กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ เครือกรุงศรี ให้บริการสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร ได้แก่ สินเชื่อเพื่อคนมีรถ “คาร์ ฟอร์ แคช” สินเชื่อรถบ้าน ”กรุงศรี รถบ้าน” สินเชื่อรถใหม่ “กรุงศรี นิว คาร์” สินเชื่อรถเต็นท์ “กรุงศรี ยูสด์ คาร์” สินเชื่อรถบรรทุกใหม่ “กรุงศรี ทรัค” สินเชื่อซื้อรถยนต์ไว้ใช้ในกิจการ “กรุงศรี ฟลีท แอนด์ ลีสซิ่ง” ซึ่งให้บริการโดยกลุ่มงานธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สินเชื่อรถจักรยานยนต์ “กรุงศรี มอเตอร์ไซค์” สินเชื่อบิ๊ก ไบค์  “กรุงศรี บิ๊ก ไบค์” สินเชื่อบิ๊ก ไบค์ มือสอง “กรุงศรี ยูสด์ บิ๊ก ไบค์” และสินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ “กรุงศรี อินเวนทอรี่ ไฟแนนซ์” ซึ่งให้บริการโดยบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน)

 

ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการสินเชื่อของกรุงศรี ออโต้ พร้อมรับคำปรึกษาทั้งเรื่องรถและเรื่องเงิน ช่วยให้เรื่องเงินเป็นเรื่องง่าย ผ่านสาขากรุงศรี ออโต้ทั่วประเทศ รวมทั้งสาขาของธนาคารกรุงศรีอยุธยาทั่วประเทศ ที่ทำการไปรษณีย์ไทยที่ให้บริการ เคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-Eleven หรือ ติดต่อ “กรุงศรี ออโต้ คอล เซ็นเตอร์” โทร. 02-740-7400 กด 1 เพื่อรับบริการ “เดลิเวอรี่” พร้อมทำสัญญาถึงบ้าน หรือ ขอรับบริการสินเชื่อ “คาร์ ฟอร์ แคช” และ “กรุงศรี รถบ้าน” ได้สะดวกสุด เพียงกดรหัส *740# แล้วกดโทรออกฟรี เพื่อรับ SMS ยืนยันและรอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่ หรือ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.krungsriauto.com  หรือ  www.facebook.com/krungsriauto    

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:

ฝ่ายสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ ธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

คณุตม์ บุญหนูกลับ  โทร. 02-708-8130 อีเมล: Khanut.Bunnooklub@krungsri.com

เภาพังงา สุทิน โทร. 02-708-8131 อีเมล: Paopang-nga.Sutin@Krungsri.com



ถูกใจบทความนี้  0