งานนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ Huawei P10าคาเปิดตัวประมาณ 23,900 บาท และ Huawei P10 Plus 2 เวอร์ชั่น 25,900 บาท และ 29,900 บาท ซึ่งเป็นราคาแปลงจากเงินยูโรประเทศไทยรอเปิดราคา คาดว่าอีกไม่นานนี้ เตรียมตังค์เอาไว้ได้เลย ฟีเจอร์ครบสุด สเปคอย่างโหด Leica ก็ยังครบเครื่อง ฟีเจอร์จัดเต็ม อีกต่างหาก จะรออยู่ใย เตรียมจัดกันได้เลย
งานนี้ Huawei P10 และ Huawei P10 Plus สเปคมาจัดเต็มอย่างแรง เอาใจคนใช้ Leica ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และสเปคจัดเต็ม สรุปสเปคดังนี้ครับ
มาสรุป Huawei P10 กันหน่อย
โดยจะมีหน้าจอกระจกโค้ง 2.5 D พร้อม Gorilla Glass 5 ด้านหน้าเป็นแผ่นเพลตโลหะทั้งตัวพร้อมขอบตัดเพชร และสายอากาศตัดด้านหลังเหมือนกับ iPhone 7 โดยหน้าจอของ Huawe P10 แค่ 5.1 นิ้ว จากที่ P9 5.2 นิ้ว ลดลงมานิดนึง ยังใช้ CPU เหมือนกับ Mate 9 คือ Kirin 960 และ RAM 4 GB
โดย Huawei P10 มาพร้อมกับกล้องด้านหลังเหมือนกับ Mate 9 คือ 12 ล้านพิกเซลที่เป็นโมโนโครม และ 20 ล้านพิกเซล f/2.2 พร้อม OIS ที่เป็นกล้องตัวหลัก และเอา Leica มาที่กล้องด้านหน้า ที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/1.9 แต่ถ่ายภาพบุคคลได้ดีขึ้นเยอะ พร้อมเซลฟี่หน้าเนียนอีกด้วย
โดย Huawei P10 และ Huawei P10 Plus ย้ายตัวสแกนลายนิ้วมือมาที่ปุ่ม Home ด้านหน้า ซึ่งทำหน้าที่เป็น multi-function ถ้ากดครั้งเดียวทำหน้าที่เป็นปุ่ม back ถ้ากดค้างไว้คือ Home และปัดไปด้านข้างจะเป็น Recent App หรือ Task switcher ซึ่งจริงๆ เป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่บน Mate 9 Pro อยู่แล้ว
Huawei P10 ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 3,200 mAh และขาดไม่ได้กับ Super Charge ชาร์จอย่างไว และออกจากกล่องมาก็เป็น Android 7 Nougat เรียบร้อยแล้ว พร้อม Emotion UI 5.1 ใหม่สุด โดยจะวางขายพร้อมกันเกือบทั่วโลกในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ มาอย่างไว มีสีให้เลือกเพียบ สีเขียว Greenery, สีฟ้า Dazzling Blue, สีชมพู Rose Gold, สีขาว Ceramic White, สีดำ Graphite Black, สีเงิน Mystic Silver, และสีทอง Prestige Gold โดยจะวางขายตามประเทศดังนี้ Australia, Austria, Chile, China, Columbia, Denmark, Finland, France, Germany, Greece, Italy, Malaysia, Mexico, Netherlands, New Zealand, Norway, Peru, Philippines, Poland, Russia, Saudi Arabia, Singapore, South Africa, Spain, Sweden, Thailand, Turkey, UAE, United Kingdom, Vietnam. โดยในประเทศไทยคงต้องดูว่าจะมีสีไหนเข้ามาวางแผงก่อน แต่คาดว่าจะเป็นสีเบสิคอย่าง Ceramic White, สีดำ Graphite Black, สีเงิน Mystic Silver ส่วนสีอื่นๆ อาจจะตามมาทีหลัง คาดว่าสีฟ้า และสีเขียว จะเป็นสีที่มีความต้องการมากที่สุด โดยราคาเบื้องต้นอยู่ที่ประมาณ 23,900 บาท
ส่วน Huawei P10 Plus
ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ IPS และความละเอียด QHD ดีไซน์แทบเหมือน Huawei P10 ทั้งหมด CPU Kirin 960 จะมีสองเวอร์ชั่นให้เลือกคือ RAM 4GB พื้นที่เก็บข้อมูล 64GB และ RAM 6GB พื้นที่เก็บข้อมูล 128GB ซึ่งกล้องก็มีความละเอียดเท่ากับ P10 แต่จะเก็บภาพได้ดีกว่า โดยจัด f/1.8 มาให้ ซึ่งจะรองรับ laser autofocus two-tone LED flash และบันทึกวีดีโอแบบ 4K ได้
นอกจากนั้นยังรองรับ 4.5G พร้อมกับ 4 LTE antennas (4x4MIMO 600Mbps) อีกด้วย และแบตเตอรี่ 3750 mAh และรองรับ Super Charge อื่นๆ เหมือน P10 ทั้งสีและวันวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม ส่วนราคาคาดว่า 2 เวอร์ชั่น รุ่น RAM 4GB พื้นที่เก็บข้อมูล 64GB ที่ราคาประมาณ 25,900 บาท และ RAM 6GB พื้นที่เก็บข้อมูล 128GB ที่ราคาประมาณ 29,900 บาท โดยราคาแปลงจากเงินยูโร ราคาเปิดตัวในประเทศไทยอาจจะแพงหรือถูกกว่านี้ก็เป็นไปได้ หรือไม่ก็เท่ากับราคาเดิมของ Huawei P9 และ Huawei P9 Plus ที่เปิดเมื่อปีที่แล้ว
อ้างอิง gsmarena
You must be logged in to post a comment.