วันนี้ผมมาบอกความรู้สึกที่ได้จับเจ้า Samsung Galaxy S8 และ Galaxy S8+ ซะหน่อย แน่นอนเลยว่ากระแสแต่ละที่ไม่พ้นว่าแจ่ม ดีไซน์สวยน่าใช้งาน เลยมาแชร์ความรู้สึกที่ได้จับกับเขาบ้างก็แล้วกัน คงไม่ต้องบอกว่า สเปคเป็นยังไงล่ะมั้ง ในแรกจับ ประทับใจ รีเทิร์น นะครับ กลับมาอีกสักที
แรกจับ ประทับใจ ในแบบฉบับของผมเดิมๆ คือสั้นๆ นั่นล่ะ บอกแค่ชอบไม่ชอบ ยังไง อะไร วันนี้ก็คงเช่นกัน ผมคงไม่ได้มาบอกว่าแจ่มแค่ไหน แต่จะมาเคลมด้วยว่า แรกจับ ประทับใจ และไม่ประทับใจตรงจุดไหนบ้าง มาเริ่มกันเลยก็แล้วกัน
สิ่งนึงที่ไม่ใช่แค่ Samsung ค่ายอื่นๆ ก็เหมือนกัน ในช่วงก่อนเปิดตัว หลุดซะจนไม่เหลือชิ้นดีเลย ความว้าวที่ เมื่อสมัยก่อนแบบว่า หลุดมาแบบเบลอๆ แบบไม่ตั้งใจ แต่สมัยนี้คือเต็มๆ ดังนั้นความประทับใจในแรกเห็นคงไม่ใช่ แต่กลายเป็นความคาดหวังเมื่อได้จับแล้วต่างหาก ความประทับใจแรกเลยก็คือ ความบาง กระทัดรัด พกพาสะดวกอย่างแน่นอน ไม่น่าเชื่อเลยว่าหน้าจอจะขนาด 5.8 นิ้ว เพราะอะไรนั่นหรอครับ ก็เพราะว่าการขยายหน้าจอ ขยายไปทางความสูงนั่นเอง แต่ก็ไม่แค่นั้น ขอบเครื่องยังหายไปแทบหมด คือประทับใจมากเลยในเรื่องดีไซน์ ความสวยงาม การใช้งานต่างๆ ปุ่ม Home ที่เปลี่ยนไป อันนี้ที่น่าจะเป็นความคุ้นเคยของคนที่ใช้ Samsung มาก่อน ก็ต้องเปลี่ยนไป บอกตรงๆ ว่าไม่ชอบเลย กลับไปทำ 3D Touch เหมือน Apple iPhone 7 จริงๆ ก็มีข้อดีนะ แต่สำหรับผมมันไม่ใช่
ตัวกระจกที่ใช้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง คาดว่าจะกันรอยขูดขีดได้ไม่มากนัก จริงๆ ตามสเปคคือมันกันรอยนั่นล่ะ แต่ใช้ไปใช้มาก็เป็นรอยประจำ ผมว่าก็แลกกับความสวยงามล่ะนะ เป็นรอยนิ้วมือง่ายไปหน่อย ตามวัสดุลักษณะนี้ ก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งนึงที่ต้องบอกตรงๆ ว่าไม่ใช่ไม่ชอบ เรื่องกล้องของ Samsung Galaxy S8 คือ แทบจะไม่ต่างอะไรจากกล้องตัวเดิมอย่าง Galaxy S7 ทั้งสเปคและฟีเจอร์ ซึ่งคงต้องรอเปรียบเทียบจังๆ อีกที แต่ส่วนตัวแล้ว ถ้าคาดหวังเรื่องกล้อง ผมไปซื้อ Galaxy S7 ดีกว่า มีโปรกับค่ายต่างๆ ในช่วงนี้ คุ้มกว่ากันเยอะ
เรื่องปุ่มสแกนลายนิ้วมือ เห้ยแบบนี้ก็ได้หรอ เพราะว่าปุ่ม Home หายไป จึงต้องมาอยู่ด้านหลัง หลายคนไม่ชอบ เอาจริงๆ ผมถนัดแบบนี้มากกว่าเสียด้วยซ้ำ สรุปว่าผมชอบน่ะเรื่องนี้
ปุ่ม Bixby ฟีเจอร์ที่ Samsung ลงทุนทำปุ่มมาเพื่อให้เรียกใช้งานได้สะดวก ก็ถือว่าโอเคนะ แต่ฟีเจอร์นี้ จริงๆ ถ้าเราอยู่หน้า Home แล้วปัดไปทางด้านซ้ายมือครั้งนึง ก็มีค่าเท่ากัน และฟีเจอร์นี้สำหรับผม สำหรับครั้งแรกที่ลองใช้งานดู ก็ยังไม่ค่อยเห็นประโยชน์มาก แต่จากที่พรีเซนต์และตามข่าวต่างๆ มันฉลาดพอตัวเลยล่ะ เอาเป็นว่าปุ่มนี้น่าจะดี แต่ต้องฟันธงอีกที แต่สรุปสำหรับผมก็ไม่ค่อยมีประโยชน์ล่ะนะ
เรื่องการชาร์จ และพอร์ทเป็น USB-C เรียบร้อยแล้ว ก็น่าจะดีขึ้น ยังดีนะที่ไม่ได้ตัดช่องเสียบหูฟังออกไป เพราะเค้าแถมหูฟังมาด้วยทุกกล่องไม่ต้องไปตาม Apple ก็ดีแล้ว ส่วนการชาร์จอย่างเร็วอันนี้ก็ไม่ได้เน้นซะด้วย แต่ฟีเจอร์มีก็ดี อย่างเดียวที่กังวลคือแบตจะอยู่ไหวแค่ไหน และประเด็นที่ห้ามลืมคือ แบตจะมีปัญหา แบตจะระเบิดไหม? ผมว่าประเด็นนี้ เป็นประเด็นที่น่าจับตามองต่อไปล่ะนะ เอาเป็นว่าเรื่องพลังงาน ยังฟันธงไม่ได้ซะทีเดียว แต่ก็ชอบเรื่องพอร์ทเป็น USB-C ล่ะ
ตัวซิมที่รองรับคือ 2 ซิมนะครับ เป็น Hybrid SIM ก็จะได้สบายใจสำหรับคนที่มี 2 เบอร์ อันนี้แจ่ม แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ควรใส่ 2 ซิมพร้อมกับใส่ microSD ได้ด้วย เชื่อเลยว่าไม่พอหรอกครับ ความจุแม้ว่าจะ 64GB ก็ตามที
เทคโนโลยีนึงคือ การรองรับ 4G LTE ที่ตอนนี้บ้านเรามีความเร็ว network ไปถึงระดับ 1Gbps แล้วนะ ซึ่งเห้ย นี่มันกั๊กนี่หว่า ดังนั้น ใครหวังจะซื้อมาแล้วใช้งานได้ ความเร็วแบบสุดโต่ง ข้ามไปได้เลย ซึ่งผมก็ยังไม่ค่อยประทับใจล่ะนะ คือคาดหวังว่าน่าจะเร็วกว่านี้ อีกทีอาจจะต้องรอโอเปอเรเตอร์อัพเดทอีกรอบ เพราะว่าเครื่องใหม่ๆ บางทีก็ต้องรออัพเฟิร์มแวร์ให้ใช้งานได้เต็มที่ก็เป็นได้ แต่เบื้องต้น ได้แค่นี้เอง
มาเรื่องของ UI กันมั่ง คือการใช้งานผมว่าลื่นหัวแตกเลย อันนี้ยกนิ้วให้ แต่เรื่องการแสดงผลนี่ เนื่องจากหน้าจอยาว และรู้สึกเลยว่าหน้าจอแคบลง จริงๆ เค้าบอกว่าไม่แคบ ขนาดเท่ากับ S7 แต่ความรู้สึกในการใช้งาน browser ต่างๆ ผมว่ามันดูแปลกๆ นะ เอาเป็นว่าการใช้งานโดยรวมดูดี ปรับความละเอียดของหน้าจอได้ด้วย มาพร้อมกับ Android 7.0 ติดอย่างเดียวคือเรื่องการแสดงผล ความยาวและความแคบของหน้าจอนี่ล่ะ
สุดท้ายเลยคือเรื่องราคา และความคุ้มค่า สำหรับผมเลยนะ ไป S7 ดีกว่า อาจจะไม่ได้เรื่องดีไซน์ แต่ฟีเจอร์หลังจากอัพเกรดเป็น Android 7.0 แล้วก็ไม่ต่างกันมากนัก ความประทับใจ Samsung Galaxy S8 และ Gaalxy S8+ ก็จบลงด้วยประการละฉะนี้ ล่ะครับ
You must be logged in to post a comment.