มาแล้วจ้า ปีนึงเทสทีนึงก็แล้วกันครับ จริงๆ ผมเทสประจำแหล่ะ มีบางช่วงพีคๆ ก็เทสลง IG หรือ social ของเว็บแบบมากๆ ลองติดตาม tag #Speedtest4GTH บน Twitter ก็ได้นะครับ แต่คราวนี้ขอมาสรุป สิ่งที่ผมเจอมา เพราะว่าได้ไปทริปภาคเหนือโดยรถไฟไทยที่เพิ่งให้บริการไม่นานนี้ รถด่วนอุตราวิถีที่วิ่งขึ้นไปที่เชียงใหม่ เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยทริปนี้หลักๆ คือทดสอบบนรถไฟเลยครับ แต่ละสถานีเท่าที่จะทำได้ เพราะมีบางช่วงแบบว่าหลับ เพราะเดินทางช่วงกลางคืน และการเดินทางใน ทริป #เชียงดาวเรื่องราวแห่งความหวัง ที่ผมได้ไปแจมด้วยกับทาง CP All ซึ่งมีหลายสถานที่เลยครับ ทั้งบนเขา โรงเรียน ร้านอาหาร ปั้ม สบโอกาสเลยได้จัดซะ มาดูกันครับว่าแต่ละค่ายผลออกมาเป็นยังไงกันบ้าง ประเด็นคือ ความเร็วอาจจะไม่ใช่คำตอบทั้งหมดก็ได้ แต่ก็เป็นสวนประกอบหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดเจนที่สุด ซึ่งในการใช้งานอาจจะเป็นอีกเรื่องก็ได้นะครับ มาดูรายละเอียดกันว่าผมไปมากี่ที่แล้ว ผลการทดสอบเป็นยังไง?
เกริ่นอีกนิดละกันครับ จริงๆ ปีที่แล้ว ที่เทสไปมีไปเหนือล่าง กราบพระ เที่ยวพิษณุโลก => https://goo.gl/qCzvs3 แต่ก็มีไปภาคตะวันออกทางฝั่งชลบุรี และมีในกรุงเทพและโซนนครปฐมและราชบุรีด้วย ติดตามที่ #Speedtest4GTH ย้อนหลังดูนะครับ ซึ่งเสียดายที่ไม่มีเวลามาสรุปให้ว่าแต่ละค่ายเป็นยังไงบ้าง แต่ว่าปีนี้มีโอกาสไปเหนือมากับทาง CP All ที่จัดทริปไปบริจาคสิ่งของให้เด็กๆ ที่โรงเรียนอรุโณทัย เชียงดาว โน่นแน่ะ โดยขาไปนั่งรถไฟอุตราวิถี ที่เพิ่งเปิดให้บริการได้ไม่นานนักล่ะครับ ลองมาติดตามกันดูก็แล้วกันว่าผลการทดสอบ และสรุปในครั้งนี้จะเป็นยังไงมั่ง
ก่อนอื่นออกตัวเลยว่ามีเงื่อนไขและขั้นตอนการทดสอบตามนี้นะครับ
– Application ใช้แอพ Speedtest จาก OOKLA ตามปกติที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้งานกัน
– Server ไม่ได้ตั้งค่า Server ให้ตัว Speedtest เลือกเอาเอง อาจจะมองว่าไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งมุมมองของผมคิดว่า หากจะให้ดีจริงๆ ทางโอเปอรเตอร์ผู้ให้บริการก็ต้องตั้งค่าอุปกรณ์และ network ตัวเองให้ดีที่สุดอยู่แล้ว ซึ่งปกติแล้วตัวแอพเองก็พยายามหา server ที่คิดว่าใกล้และดีที่สุดอยู่แล้ว และคนใช้งานอย่างเราตามปกติก็คงไม่ได้มานั่งเลือก server ในการใช้งานแน่ๆ นอกจากการเล่นเกมส์ที่อาจจะต้องระบุ server สรุปเอาเป็นว่าปล่อยให้ network กับแอพ speedtest เป็นคนคุยกันเองก็แล้วกัน เราใช้กับเทสอย่างเดียวแค่นั้นพอ
– Device ข้อจำกัดเรื่องตัวเครื่อง เนื่องจาก ใช้เอง ทำเอง ไม่มีใครอยากเป็นสปอนเซอร์ :-P และผมคงยังไม่โปรพอที่จะหาเครื่องที่มี 3CA แบรนด์และรุ่นเดียวกัน มาใช้งานตลอดเวลา เพราะเครื่องในมือที่มีในครั้งนี้ ก็เป็นเครื่องที่แบรนด์ส่งมารีวิวและใช้งานอยู่ตามปกตินั่นเอง คือเครื่องในมือมีอันไหนก็เทสอันนั้นล่ะครับ สเปคอาจจะต่างกันหน่อย แต่ก็ยังพอใกล้เคียงกันน ราคาทั้งสามรุ่นที่เอามาเทสรอบนี้ไม่เกินหมื่นนึงครับ
Mobile Operator ที่ทดสอบ
ค่าย dtac ใช้เครื่องรุ่น Xiaomi Redmi 4 สเปคและรีวิวอ่านได้ที่ => https://goo.gl/GIyM5A ราคาประมาณ 6,900 บาท
ค่าย TrueMove H ใช้เครื่องรุ่น nubia Z11 สเปคและรีวิวอ่านได้ที่ => https://goo.gl/kR3D4p ราคา 15,990 บาท
ค่าย AIS ใช้ Wiko UFEEL FAB สเปคและรีวิวอ่านได้ที่ => https://goo.gl/Z3DPgJ โดยรองรับ 4G Cat 4 DL 150 Mbps, UL 50 Mbps ราคาประมาณ 5,690 บาท
จริงๆ การเลือกใช้งานเครื่องและโอเปอเรเตอร์ ไม่มีอะไรในกอไผ่เลยครับ พอดีใส่ใช้งานตามปกติอยู่แล้ว ก็เลยไม่ได้เปลี่ยนอะไร ใช้แบบนี้ตลอดเส้นทางการทดสอบความเร็ว Speetest 4G อาจจะมี 3G บ้างอะไรบ้างนะครับ
วิธีการทดสอบ
ใช้ Galaxy Note 5 เปิดแอป Speedtest ใหม่ทุกครั้งเมื่อเปลี่ยนจุดทดสอบ และขั้นต่ำทดสอบ 3 ครั้งในระยะเวลาใกล้ๆ กัน สมมติว่า เทสจุดที่ 1 เรียบร้อยแล้ว และพอจุดที่ต่อไป จะปิดแอป speedtest และเปิดใหม่ พอเปิดใหม่ปุ๊ปตัวแอปเองก็จะเลือก server ให้ใหม่โดยอัตโนมัติด้วย จะเป็นแบบนี้ทุกครั้งครับ และอย่างที่เคยบอกไปหลายๆ ครั้ง หากได้ตามอ่านที่ผมทดสอบมาตั้งแต่ยุค 3G ใหม่ๆ ก็คือ ทดสอบอย่างไรก็ไม่ยุติธรรมสำหรับทุกค่ายอย่างแน่นอน เพราะตัวแปรแต่ละครั้งที่ทดสอบมีการเปลี่ยนตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฝั่งโอเปอเรเตอร์เอง ที่อาจจะมีเปลี่ยนการตั้งค่า การอัปเกรดอุปกรณ์ ระยะทางของเสาที่ตั้งให้บริการ ณ จุดต่างๆ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เราคนใช้งานไม่รู้แน่ๆ ส่วนตัวแต่ละพื้นที่เองในบางช่วงเวลา บางพื้นที่มีคนที่มาใช้งานในแต่ละโอเปอเรเตอร์เท่าไหร่ เราก็ไม่รู้ จะทำให้เท่ากันก็คงไม่ได้อยู่แล้ว รวมถึงระยะทางหากจากเสาส่งมาถึงตัวเครื่องที่เราทดสอบก็คงตั้งให้เท่ากัน ไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นสำหรับผมแล้วให้ทั้งฝั่ง เครื่องที่ใช้และโอเปอเรเตอร์ที่ให้บริการ ณ ขณะที่ผมทดสอบเป็นตัวตัดสินเงื่อนไขต่างๆ ทั้งหมดนะครับ ก็คงเป็นตัวอย่างให้เห็นภาพสำหรับการทดสอบครั้งนี้และครั้งถัดๆ ไปนะครับ
การตัดสินแพ้ชนะด้านความเร็ว
ขอให้ดูจากความเร็วโดยภาพรวมทั้งส่วนของ Download และ Upload ผมจะทำไฮไลท์เอาไว้ว่าด้านไหนสูงสุดบ้าง
จุดแรก สถานีรถไฟหัวลำโพง
หมายเหตุ ภาพถ่ายสถานที่ประกอบใช้ Fujifilm-XA3 และ nubia Z11 ถ่าย และมีการลดขนาดภาพเรียบร้อยแล้ว
ที่แรกก่อนออกเดินทาง ก็คือสถานีหัวลำโพง ไม่ได้มานานมากจริงๆ มีแต่ผ่านๆ ไม่ได้ขึ้นรถไฟระยะทางไกลๆ นานมากจริงๆ ว่าแล้วก็ขึ้นไปทดสอบบนรถไฟ อุตราวิถีกันเลยครับ สว่นใครอยากไปรถไฟสายนี้ก็ต้องไปจองที่กันล่วงหน้าหน่อยเห็นว่าเต็มเร็วเหมือนกัน รถไฟน่านั่ง ยังใหม่ๆ ใครยังไม่ได้ลอง ก็หาทริปได้เลย
ณ จุดนี้ ค่าย True เองได้ความเร็วแซงใคร ซึ่งในกรุงเทพนี่ก็ดูยากนะ เพราะว่าแต่ละจุดที่เราอยู่ จำนวนคนใช้งานก็ไม่เท่ากัน และในกรุงเทพก็หนาแน่นพอสมควรโดยเฉพาะที่เป็นแหล่งจุดพักการเดินทางแบบนี้ คนคงเยอะกว่าปกติทั่วๆ ไป การที่จะได้ความเร็วระดับนี้ก็คงมีการเตรียมการจากโอเปอเรเตอร์ในระดับนึง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่างที่บอกแต่ต้นคือ ผมไม่ได้ใช้งานตัว 3CA หรือตัวสุดๆ นะ ดังนั้นความเร็วเป็นแค่เพียงหนึ่งในองค์ประกอบการทดสอบ ที่เราเห็นง่ายที่สุด เพราะแค่เวลาผ่านไปชั่ววินาที ความเร็วที่ได้อาจจะเป็นอีกค่ายขึ้นมานำก็ได้ อ้อ ส่วนอัพโหลดฝั่ง AIS เอาไปกินเหมือนเคย ฝาก AIS เค้าชัดเจนเรื่องอัพโหลดมากกว่าอีก 2 ค่ายอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไร
จุดที่ 2 สถานีรถไฟบางซื่อ
ถ่ายภาพบรรยากาศภายในรถไฟมาฝากพลางๆ เพราะหลังจากนี้ก็จะเป็นการจอดในแต่ละสถานีแล้วล่ะครับ ซึ่งในช่วงกลางคืนก็ไม่มีอะไรนอกจากวิวมืดๆ ด้านนอกละครับ โดยในตัวรถไฟอุตรวิถีนี่ใหม่มากจริงๆ เบาะสีแดงที่เห็นกลางคืนคือปรับเป็นเตียงได้
ว่าแล้วรถไฟก็มาจอดที่สถานีบางซื่อก็เทสซะหน่อย ปกติจอดสักแป๊ปนึงสักสามถึง 5 นาทีได้มั้ง ว่าค่ายที่เพิ่งตกเป็นอันดับ 3 อย่าง dtac ทำได้ดีกว่าค่ายอื่นๆ ทั้งขาดาวโหลดและอัพโหลด พูดถึงบางซื่อ อีกหน่อยจะเป็นชุมทางที่เป็นศูนย์รวมหนึ่งเลยทีเดียวนะครับ ซึ่งขณะที่เทสบอกเลยว่าไม่รู้หรอกครับว่าคนบริเวณรอบๆ เยอะหรือเปล่า แต่คาดว่าน่าจะพอสมควรเนื่องจากเป็นช่วงเย็นๆ
จุดที่ 3 สถานีรถไฟบางเขน
ตัวชั้นวางแก้ว สามารถพับเก็บได้ด้วยนะครับ ด้านบนมีที่วางกระเป๋า หรือจะวางไว้ใต้ที่นั่งก็ได้ ส่วนเตียงมีทั้งเตียงล่างและเตียงบน เพราะเราเดินทางกลางคืน จะมีเจ้าหน้าที่มาจัดการให้ น้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 10 กิโลกรัม
ว่าแล้วก็มาทดสอบกันครับว่าความเร็วเป็นยังไงบ้าง คราวนี้ทาง AIS จัดเต็มมาก ทั้งดาวโหลดและอัพโหลด ลองสังเกตดูนะครับ สเปคเครื่องมีผลไหม? ดูจากสเปคดีๆ เครื่องที่ใช้ของ AIS สเปค และราคาแทบจะต่ำสุดแล้ว แต่ก็ยังทำความเร็วได้เหนือเครื่องและค่ายอื่นๆ น่าแปลกไหม? ผมว่าทั้งหมดทั้งปวงก็ขึ้นอยู่กับโอเปอเรเตอร์ล่ะครับ
จุดที่ 4 สถานีรถไฟหลักสี่
ห้องน้ำมีทั้งหนักเบา เหมือนบนเครื่องบิน ภายในก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกพอสมควรครับ เป็นสัดส่วนและสะอาด
ที่สถานีนี้ก็น่าสังเกตุอยู่ว่า ปกติแล้ว AIS จะมีฝั่งอัพโหลดสูงแต่กลายเป็นคราวนี้เหลือน้อยจริงๆ กลับกัน TrueMove H กลับทำได้ดีกว่า และถ้าดูภาพรวม (ดาวโหลด+อัพโหลด) แล้วทาง TrueMove H ดีกว่า
จุดที่ 5 สถานีรถไฟดอนเมือง
เรื่องความปลอดภัย มีกล้องวงจรปิดอยู่ทุกตู้ ดังนั้นเรื่องของหายก็สบายใจไปได้เปราะนึงล่ะ ส่วนทางด้านข้างมีเต้ารับสำหรับเสียบไฟพร้อมที่ใส่โทรศัพท์ชาร์จให้เรียบร้อย แจ่มจริงเชียว
งานนี้ AIS กลับมาทำค่าอัพโหลดได้เต็มมาก ในขณะเดียวกันฝั่งดาวโหลดยกให้ TrueMove H ส่วนค่ายเป็นอันดับ 3 ก็คือ dtac
จุดที่ 6 สถานีรถไฟรังสิต
ระหว่างทางก็มีเจ้าหน้าที่เดินมาตรวจตั๋วตามปกติ ต้องบอกว่าไม่ได้ฟีลลิ่งแบบนี้นานแล้ว ตื่นเต้นเล็กๆ
ทดสอบกันอีกสักที คราวนี้ AIS นำโด่ง ไม่ต้องพูดอะไรมาก ส่วนค่ายอื่นๆ ก็ตามที่เห็ฯล่ะครับ
จุดที่ 7 สถานีรถไฟอยุธยา
มีเจ้าหน้าที่มาปูเตียงให้ เมื่อถึงเวลาเช้าก็เก็บเตียงให้ครับ บริการดีฝุดๆ นอนด้านบนนี่สำหรับคนตัวใหญ่หรือคนสูงอาจจะลำบากหน่อย หัวติดเพดานแน่นอน
งานนี้มีของแรงครับ ผมคงไม่ได้สรุปว่าทั้งจังหวัดอยุธยา dtac จะแรงที่สุด แต่อย่างที่เห็นว่า ณ จุดนี้ dtac ดีมากจิงๆ ส่วนถ้าจะเอาเรื่องการใช้งานที่น่าใช้งานหน่อยก็คงเป็น AIS ที่ทั้งดาวโหลดและอัพโหลดใช้ได้ดีเลยล่ะ ส่วนทาง TrueMove H ช้ากว่าทุกค่าย แต่ถามว่าความเร็วระดับที่เห็นใช้งานได้ไหม ก็ยังโอเคอยู่ล่ะ แต่งานนี้แพ้อีกสองค่ายเต็มๆ
จุดที่ 8 สถานีรถไฟลพบุรี
เวลานอนไม่ได้ปิดไฟนะ แต่มีม่านบังไฟเอาไว้ ใครที่นอนเปิดไฟไม่ได้แนะนำให้หาที่ปิดตาติดไปด้วยนะครับ และนิดนึงคือ ด้านบนค่อนข้างโครงอาจจะทำให้นอนไม่หลับได้เหมือนกับผมนะ
ยังไม่ดึกเท่าไหร่ แปรงฟันแล้วก็เตรียมตัวนอน ซึ่งยังคล้ายกับที่อยุธยา แต่ที่น่าสนใจก็คือ TrueMove H แทบจะใช้ไม่ได้เลย อย่างที่บอกล่ะครับว่าถึงแม้ว่าจะมีเครื่องในมือเราจะเป็น 3CA? รุ่นเดียวกัน? หรือสเปคแรงแค่ไหน ก็ไม่เท่าโอเปอเรเตอร์จัดการ
ระหว่างทางลพบุรีไปนครสวรรค์
จากนี้ไม่มีรูปบนรถไฟแล้วล่ะครับ เอาเป็นว่าดูรูปเทสกันเลยก็แล้วกัน
ระหว่างทางลพบุรีไปนครสวรรค์ น่าจะมีเขาเยอะ ข้างนอกมืดมองอะไรไม่ค่อยเห็นแล้ว แต่ที่รู้ๆ ก็คือ สัญญาณแต่ละค่ายแกว่งมาก ทำการทดสอบไม่ได้ ไม่มีตารางนะครับ แต่คร่าวๆ ก็คือ บางค่ายคลื่นหาย บางค่ายเป็น edge ก็มี
จุดที่ 9 สถานีรถไฟนครสวรรค์
สำหรับจุดนี้ dtac แปลกดีอัพโหลดดีมากแต่ดาวโหลดนี่แทบจะไม่ไปไหน ฝาก AIS ก็ต่ำมาก ที่ใช้งานจริงจังก็ TrueMove H แต่ละครั้งนี่เหมือนสวนหมัดกันเลยนะ
จุดที่ 10 ระหว่างทางจากสถานีรถไฟนครสวรรค์
ก็ไม่น่าแปลกอะไรมั้ง? ผมก็ไม่รู้แล้วครับว่า ณ จุดนี้อยู่ตรงไหนยังไง แต่ที่รู้ๆ สัญญาแทบไม่มีทุกค่าย เล่นเน็ตไม่ได้ และค่าย AIS ถึงกับเทสไม่ได้เลยทีเดียว ผมว่าน่าจะเป็นพวกอยู่ระหว่างภูเขาสูงสองข้างแน่ๆ เลย คือความเร็วระดับนี้ การจับสัญญาณสวิงมาก แต่มีบางค่ายที่จับ E ด้วยนะ
จุดที่ 11 บ้านวังกรด อุตรดิตถ์
เทสเรื่อยๆ ครับ งานนี้พอๆ กัน สัญญาณนับแต่ช่วงนี้เป็นต้นไป ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ละค่ายแทบเล่นไม่ได้เลย
จุดที่ 12 สถานีรถไฟศิลาอาสน์ อุตรดิตถ์
ฝากนี้ AIS และ TrueMove H ใช้งานได้สบายๆ แต่ dtac ดูดาวโหลดจะช้าไป
จุดที่ 13 สถานีรถไฟอำเภอเด่นชัย
งานนี้ TrueMove H แรงแบบทิ้งขาดไปเลย
จุดที่ 14 สถานีรถไฟนครลำปาง
จริงๆ มีตู้สำหรับขายอาหารด้วย เช้าๆ แบบนี้ก็ต้องแวะไปหาอะไรอุ่นๆ ดื่มสักหน่อย
อย่างที่เห็นครับว่า ค่ายไหนแรงสุด น่าแปลกไหมที่ dtac แรงที่สุดแบบทิ้งห่าง ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เป็นเครื่องที่แรงที่สุด เครื่องระดับกลางแต่ผมก็เดาเลยว่าที่นี่ dtacเค้าแน่นจริงๆ น่าจะเป็นอุปกณ์เครือข่ายที่ใช้น่าจะแจ่มจริงๆ
จุดที่ 15 สถานีรถไฟนครลำพูน
สำหรับคนพิการก็รองรับนะครับ
ใกล้ถึงแล้ว
ความแรงกลับมาที่ AIS กันอีกครั้ง อีกสองค่ายพอๆ กันแต่ขาดอัพโหลดที่ปกติจะมาแรง โดน TrueMove H สอยไปซะ
จุดที่ 16 สถานีรถไฟนครเชียงใหม่
ถึงแล้วจ้า เช้าพอดี เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับเลย หลับๆ ตื่นๆ ทดสอบความเร็วกันเรียกว่าแทบทั้งคืน จริงๆ แล้วนอนข้างบนมันค่อนข้างโครงเครงนั่นล่ะ
ถึงจุดหมายแล้วความแรงก็ยังมีอยู่ครับ งานนี้ค่าย AIS จัดเต็ม dtac ก็ไม่น้อยหน้า สว่น TrueMove H อัพโหลดน้อยไปหน่อยนะ
จุดที่ 17 ร้านข้าวมันไก่จ้า เกียรติโอชา
ข้าวมันไก่แต่กินหมูสะแตะ ฮาา
กินข้าวมันไก่อร่อยๆ แล้วก็ทดสอบกันสักหน่อย ณ จุดนี้ความแรงด้านดาวโหลดต้องยกให้ TrueMove H แต่ถ้าภาพรวมแล้วก็ต้องให้ AIS ล่ะ
จุดที่ 18 แวะปั๊ม (น่าจะปตท.) ม่อนระมิงค์ อ.แม่แตง
หลังจากกินข้าวเรียบร้อยแล้วก็แวะรายทางเตรียมขึ้นเชียงดาว แวะปั้มเป็นระยะๆ แต่ไม่น่าเชื่อว่า AIS จะพุ่งแรงสุดๆ ขนาดนี้ ปั้มก็ถือว่ายังอยู่ระหว่างถนนใหญ่ล่ะนะ
จุดที่ 19 แวะปั๊ม (น่าจะปตท.) บ้านแม่นะ เชียงดาว
นั่งไปสักพักก็หยุดพักเข้าห้องน้ำกันเหมือนเดิม AIS นี่ยังแรงได้อีก TrueMove H ดูดีกว่าปั๊มที่แล้วล่ะนะ
จุดที่ 20 แวะปั๊ม ปตท. ไชยปราการ
อีกรอบก่อนถึงจุดหมาย TrueMove H เริ่มยังคงแรงกว่าแต่ดูแบบนี้ก็ไม่มากนัก dtac เองก็ตีขึ้นมาใช้ได้เลยล่ะ
จุดที่ 21 ร้านอาหารถิงถิง เชียงดาว
มาถึงเชียงดาวช่วงเที่ยงก็กินข้าวกันก่อนเลย ระหว่างกินข้างก็ทดสอบอีกสักหน่อย อืม บนเชียงดาวมีสัญญาณขนาดนี้ สบายใจละ ตอนแรกก็นึกว่าจะสปีดต่ำ ที่ไหนได้ แหล่งท่องเที่ยวแบบนี้แต่ละค่ายเค้าจัดเตรียมเอาไว้เพื่อรองรับการใช้งานเยอะๆ อยู่แล้วล่ะมั้ง
จุดที่ 22 ภายในห้องพัก อ่างขางวิลล่า
เดินเข้าที่พักด้านอยู่เรียกว่าบนเขาแล้วล่ะ อาจจะห่างจากเสาส่งเลยลดลงมาเยอะเลย
จุดที่ 23 ไร่สตอเบอรี่ สุดเขตแดนไทย
เสียดายที่ระหว่างวันเที่ยวตั้งหลายที่ ลืมทดสอบสัญญาณ รู้ตัวอีกทีก็ที่สุดท้ายในช่วงเย็นๆ แล้วล่ะ AIS ยังทำได้ดีนะ
วันรุ่งขึ้น จุดที่ 24 หน้าป้ายสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
ตื่นเช้ามาก็มาทดสอบกันอีกสักที เค้าแรงจริงๆ AIS เนี่ย
จุดที่ 25 แวะเข้าห้องน้ำ บ้านสินชัย ไชยปราการ
เท่าที่สังเกตดูตามรายทาง เวลาย้ายที่ตอนรถวิ่งอยู่ หรือตามถนนหนทาง TrueMove H ดูดีกว่าเยอะเลย แปลกใจที่ AIS ตกไปอยู่ดันดับบ๊วย dtac ก็จะมีขาอัพโหลดที่ไม่ค่อยโอเคสักเท่าไหร่
จุดที่ 26 หมู่บ้านของเสี่ยวฟาง แซ่หยัง เด็กชาวเขาที่จบปริญาตรี => https://goo.gl/rmxlw9
ขนมร้อนๆ ปิ้งเองเลย
ในหมู่บ้านที่นี่ ก็ถือว่าเจริญใช้ได้อยู่ ตอนแรกนึกว่าจะลำบากกว่านี้ ถ้าเทียบกับเมื่อก่อน คือพัฒนาเร็วมาก ดูจากความเร็วที่ทดสอบก็ได้
จุดที่ 27 ร้านต้าหยง บะหมี่เกี๋ยว ยูนนาน
ก๊วยเตี๋ยวอร่อย ไม่ต้องปรุงจ้า
ตรงจุดนี้แวะกินก๋วยเตี๋ยว TrueMove H ยังทำได้ดีในด้านดาวโหลดล่ะนะ แต่ dtac นี่อัพโหลดหายไปไหนหม๊ด?
จุดที่ 28 โรงเรียนอรุโณทัยวิทยาคม
ในโรงเรียนระหว่างที่ทำกิจกรรม โดยมีการแจกของ เล่นเกมส์ เลี้ยงอาหารกลางวัน ขนม ก็ทดสอบกันไป
จุดที่ 29 ปั๊มน้ำมัน ปตท. เชียงดาว
หลังจากเสร็จธุระแล้ว ก็เตรียมตัวเดินทางลงเขา แวะปั๊มครั้งนี้ AIS แรงจริงจัง
จุดที่ 30 ร้านอาหารสวนผัก
ไปกินข้าวช่วงเย็นส่งท้ายไม่ไกลจากสนามบินมากนัก AIS ยังได้อยู่
จุดที่ 31 สนามบินเชียงใหม่
แต่ที่นาแปลกใจก็คือ dtac จัดเต็มภายในสนามบินเชียงใหม่ด้วยนะ
จุดที่ 32 สนามบินดอนเมือง
และสุดท้ายถึงกรุงเทพที่สนามบินดอนเมือง ก็อย่างที่เห็นล่ะครับ
บทสรุปส่งท้าย
ผมว่ามาสรุปความรู้สึกการใช้งานและการทดสอบความเร็วของแต่ละค่าย ในทริปครั้งนี้ กันสักนิดนึงดีกว่า โดยใช้ระยะเวลาทั้งสิ้น 2 วันเต็มๆ ตอนวันแรกแทบไม่ได้นอนแน่ะ จริงๆ คือนอนไม่หลับ รถเคลื่อนที่ตลอด มันก็แกว่งๆ ตื่นตอนรถจอดที่สถานีต่างๆ ก็ถือโอกาสทดสอบความเร็วมาฝากกันนี่ล่ะครับ
ค่ายแรก dtac เพิ่งหลุดจากอันดับ 2 ไปหมาดๆ ซึ่งแน่นอนว่าการทดสอบความเร็วในครั้งนี้คือก่อนที่เค้าจะประกาศนั่นล่ะครับ โดยเฉลี่ยรวมดูแล้วหนักไปในทางที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นัก ถึงแม้ว่าในครั้งนี้จะทำสถิติทดสอบได้ความเร็วในการดาวโหลดสูงสุดก็ตามทีเถอะ ไม่น่าเชือว่าจะเจอ edge จาก dtac ด้วย แต่ก็อาจจะเป็นเรื่องรอยต่อหรือปัญหาทางเทคนิคในหุบเขา หรือพื้นที่ภูเขาเยอะๆ เพราะทุกค่ายเป็นเหมือนกันหมด ดังนั้นโฆษณาที่ว่าลื่น สำหรับผมยังลื่นไม่พอ ลื่นหัวแตกเป็นบางจุดเท่านั้นเอง เพราะก็ทำสถิติได้ความเร็วในการดาวโหลดสูงที่สุดแล้วล่ะครับ
ค่ายถัดมา TrueMove H ที่เพิ่งขึ้นเป็นอันดับสองไปหมาดๆ โดย TrueMove H เองทำได้ดีสำหรับเรื่องการเดินทางโดยเฉพาะรู้สึกว่าตามถนนหนทาง ปั้มอะไรแบบนี้ทำได้ดี แต่ก็ยังมีบางจุดที่ยังต้องปรับปรุงอีกพอสมควรเลย แต่ในภาพรวมผมว่าก็สมกับการขึ้นมาเป็นอันดับสองแล้วล่ะนะ ตอนนี้มีโฆษณา 5G แล้วด้วย แต่ยังไงซะคลื่นมากที่สุด ก็น่าจะดีที่สุดอยู่แล้ว ดังนั้นผมคิดว่าหาก TrueMove H มีการตั้งค่า Network ดีๆ โดยภาพรวมก็น่าจะดีขึ้นได้ หลังๆ นี่บางเรื่องก็ทำได้ดีเกินขาด สำหรับผมแล้วเรื่อง Online ก็เลือกใช้งาน TrueMove H เป็นอันดับหนึ่งหรือสองนี่ล่ะ
ค่ายสุดท้าย ที่ค่อยข้างชัดเจนในขาอัพโหลด ซึ่งก็น่าแปลกใจในหลายๆ พื้นที่ที่มีค่าอัพโหลดน้อยผิดปกติ แต่ว่าขาดาวโหลด และภาพรวมถือว่าแรงน่าพอใจ อาจจะมีบางจุดที่ไม่ค่อยดี แต่ก็ส่วนน้อยล่ะนะ แต่ที่น่าสนใจก็คือบนเชียงคานโดยภาพรวมแล้ว เน็ตเร็วมาก แสดงว่าทาง AIS ให้ความสำคัญกับที่อยู่ไกลๆ บนเขาอะไรประมาณนี้ แรงซะไม่แบ่งใครเลย
ตอนนี้ผมว่าทุกค่ายก็คงให้บริการครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่อยู่แล้ว ความเร็วถามว่าจำเป็นไหมก็ใช่ แต่ผมเอาแค่ความเร็วดาวโหลดเกิน 10Mbps ขึ้นไปส่วนตัวแล้วผมรับได้นะ ไม่ต้องแรงระดับ 100 Mbps ก็ได้อาจะจด้วยเทรนด์ ปัจจุบันที่มีความเร็วเฉลี่ยเพิ่มขึ้น เราก็สนุกกับการออนไลน์ได้มากขึ้นกว่าเดิม ทุกค่ายยังมีบางจุด บางพื้นที่ที่ต้องปรับปรุง และอย่างที่บอกล่ะครับว่า ผมไม่ได้เน้นเรื่องความเร็วมากนัก เพราะข้อจำกัดเรื่องเครื่องในการทดสอบที่ไม่ได้รองรับเทคโลยีแจ่มสุดๆ หรือใหม่สุด แต่ทว่าเครื่องที่เห็นๆ ในการทดสอบครั้งนี้ เป็นเครื่องที่มีราคาไม่แพงเลยก็ว่าได้ ผมถือว่าเห็นควาาเร็วในการดาวโหลดเกือบทะลุ 100Mbps ก็ถือว่าโอเคแล้วสำหรับทริปนี้ จริงๆ ต้องขอบคุณ CP All ด้วยที่พอไปทริปนี้ และได้โอกาสทดทสอบไปในตัว แล้วเพื่อนๆ ที่ใช้งานกันอยู่มีความเห็นว่ายังไงกันบ้างล่ะ ค่ายไหนเจ๋งสุด?
You must be logged in to post a comment.